วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

โจรใต้ตัวจริง


เป็นข่าว จาก นสพ.บ้านเมือง  ท่านผู้อ่าน ลองเรียบเรียงเรื่องทั้งหมด
แล้วจะมองเห็นภาพตัวละครในข่าวนี้ ได้อย่างชัดเจน ว่าใครเป็นใคร
ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- พฤหัสบดีที่ 12 ตุลาคม 2549 09:01:00 น.

โจรใต้ต่อรองหยุดยิงและส่งมอบอาวุธให้ไทยแลกกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ขณะที่ สุรยุทธ์ ปัดยังไม่ทราบผลการเจรจาของ จนท.ไทยกับแกนนำโจรใต้ที่แล้วมา ด้านองค์กรครูวอนอย่ายกเลิกเบี้ยเสี่ยงภัย เพื่อขวัญกำลังใจ ขณะที่ข่าวกรองเตือนพบแผนโจรใต้เตรียมใช้คาร์บอมบ์ขอให้ทุกหน่วยระวังให้ดี
โจรใต้ต่อรองหยุดป่วนแลกนิรโทษกรรม

สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทุกฝ่ายต่างหวังให้กลับคืนสู่ความสงบสุข โดยเมื่อเร็วๆ นี้ แกนนำพูโลส่งสัญญาณพร้อมเจรจากับทางการไทยเพื่อสงบศึก และเมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานว่า นายมุคริซ มหาเธร์ ผอ.บริหารองค์กรสันติภาพโลกเปอร์ดานา หรือพีจีพีโอ ได้เปิดเผยว่า อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด แกนนำของกลุ่มพีจีพีโอได้เป็นตัวกลางในการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ของไทยกับกลุ่มโจรใน 3 จว.ใต้ หลังจากที่อดีตนายกฯ มาเลย์ได้เดินทางมากรุงเทพฯ เมื่อปลายปีที่ผ่านมานี้เอง โดยนายมุคริซ กล่าวว่า สาระสำคัญของร่างข้อตกลงคือการนิรโทษกรรมให้กลุ่มป่วนใต้ การพัฒนาเศรษฐกิจที่ดีขึ้น การใช้ภาษามาเลย์ในโรงเรียน ขณะที่ฝ่ายไทยต้องการให้มีการหยุดยิงและส่งมอบอาวุธให้กับทางการไทย ซึ่งร่างข้อตกลงดังกล่าว ได้รับการยอมรับจากทั้งสองฝ่ายระหว่างการเจรจา แต่เห็นว่าทางรัฐบาลไทยยังไม่มีการตอบสนอง ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายในประเทศไทย ทั้งๆ ที่กลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนในไทยพร้อมที่จะลงนามในข้อตกลงดังกล่าว เพียงแต่รอรัฐบาลไทยเพื่อเดินหน้าต่อไปเท่านั้น

เผย 2 นายพลไทยเป็นตัวแทนเจรจา
สำหรับทางการไทยได้ส่งตัวแทนไปเจรจาในขณะนั้น คือ พล.ท.ไวพจน์ ศรีนวล ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ กองบัญชาการทหารสูงสุด และ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้น นายมุคริซ กล่าวว่า กลุ่มโจรใต้ 4-5 กลุ่มจะขอลงนามในข้อตกลงที่เสนอนั้นในฐานะประชากรของมาเลเซีย (ชัดเจนหรือยังครับ ว่าโจรใต้คือใคร)และยื่นเงื่อนไขขอนิรโทษกรรมแลกกับข้อเรียกร้องของทางการไทยทั้งการส่งมอบอาวุธและการหยุดยิง

สุรยุทธ์ ยันยังไม่รู้ผลการเจรจา
ด้าน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี << ตาคนนี้งัยครับ ที่กราบส้นตีนโจรใต้ (มาเลย์)  ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานฝ่ายฆราวาส โครงการทอดกฐินปลอดเหล้า ตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ถึงปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กรณีที่นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ระบุว่าเป็นตัวกลางในการเจรจา ระหว่างแกนนำกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใน 3 จว.ใต้ กับฝ่ายไทย ว่า ตนยังไม่ได้ศึกษาในรายละเอียด แต่ทราบว่า พล.อ.ไวพจน์ ศรีนวล ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ เป็นผู้ที่ร่วมในการเจรจาด้วย แต่ยังไม่ได้เชิญ พล.อ.ไวพจน์ มาชี้แจงในรายละเอียด แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เร่งด่วนมากนัก แต่ก็คิดว่าเป็นสัญญาณที่ดี ที่ได้มีการพบปะพูดจากัน อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ทราบว่า พล.อ.ไวพจน์ พบกับใครบ้าง ต่อข้อถามว่า จะลงพื้นที่ภาคใต้เมื่อใด นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอเวลาอีกระยะหนึ่ง ตนจะดูเรื่องการปรับแนวทางการจัดองค์กรใหม่ เมื่อลงไปก็จะไปพบปะกับบุคคลสำคัญในพื้นที่ คงเป็นช่วงหลังของการศึกษา และปรับแนวทางการจัดองค์กรแล้ว ตอนนี้ยังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่จะต้องลงไปในพื้นที่ขณะนี้ เพราะถ้าลงไปก็คงไม่สามารถทำอะไรให้กระจ่างชัดได้ในขณะนี้

แนะเพื่อนสนิท ดร.วันการ์เด ช่วยเจรจา
ด้าน ดร.นิรันทร์ พันธรกิจ อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล อดีต ผอ.สำนักจุฬาราชมนตรี เปิดเผยถึงกรณี ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) ยายาซาน เพอร์ดานา หรือมูลนิธิเพอร์ดานาโกลบอล พีซ ออร์แกไนเซซั่น (พีจีพีโอ) จะอาสาเป็นตัวกลางในการจัดการเจรจาระหว่างขบวนการก่อความไม่สงบทางภาคใต้ กับรัฐบาลไทยราวต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่ประเทศสิงคโปร์ สำหรับบุคคลที่รัฐหรือผู้เกี่ยวข้องในการหารือกับฝ่ายตรงข้ามควรจะพิจารณาถึงชื่อเสียงและการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ เกี่ยวกับศาสนาคือส่วนผู้ที่สมควรได้เข้าร่วมเจรจากับแกนนำกลุ่มโจรใต้ ก็คือ ดาโต๊ะนิเดร์ วาบา นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงแล้ว ยังเป็นเพื่อนสนิทกับ ดร.วันการ์เด เจ๊ะมัน แกนนำกลุ่มเบอร์ซาตูอีกด้วย ซึ่งจะทำให้การเจรจาได้ผลดียิ่งขึ้น

ข่าวกรองเตือนระวังคาร์บอมบ์
หน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้สกัดจับรถยนต์ปิกอัพ ยี่ห้อโตโยต้า สีแดง หมายเลขทะเบียน กข-4104 ปัตตานี ซึ่งคนร้ายได้นำมาประกอบบรรจุระเบิดเพื่อทำเป็นระเบิดคาร์บอมบ์ เพื่อเตรียมการก่อเหตุร้ายในพื้นที่ 3 จว.ใต้ หลังได้รับแจ้งจากหน่วยข่าวกรองเจ้าหน้าที่ได้นำหมายเลขทะเบียนรถยนต์ คันดังกล่าวไปทำการตรวจสอบที่สำนักงานขนส่ง ตามที่ได้ระบุไว้ในแผ่นป้ายทะเบียน ปรากฏว่า ผลจากการตรวจสอบข้อมูลของเจ้าหน้าที่ไปยังสำนักงานขนส่งจังหวัดปัตตานีนั้น ทราบว่า หมายเลขทะเบียนดังกล่าวไม่มีข้อมูลในระบบขนส่งจังหวัด จึงเชื่อได้ว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอมที่คนร้ายทำขึ้นมา จึงน่าเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่กลุ่มคนร้ายเตรียมนำรถยนต์คันดังกล่าวที่ประกอบระเบิดเสร็จแล้ว เตรียมก่อเหตุในพื้นที่ใด พื้นที่หนึ่ง ใน 3 จว.ใต้ อย่างแน่นอน

มท.1 หนุนเจรจาแกนนำป่วนใต้
นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลมีแนวคิดที่จะเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเพื่อยุติปัญหา 3 จว.ใต้ ว่า คิดว่าอะไรก็ตามที่จะสร้างความสงบเรียบร้อยให้กับบ้านเมือง ถ้าทำได้แล้วเกิดความสงบก็ต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเจรจาหรือการดำเนินการตามโครงการใดก็ตาม ถ้าทำแล้วจะทำให้เกิดความสงบสุขและสมานฉันท์เราต้องทำ

สำหรับเรื่องอดีตนายกมาเลย์ช่วยเป็นคนกลางในการเจรจานั้น ไม่ขอก้าวล่วงไปถึงเรื่องความมั่นคง เพราะเป็นเรื่องของฝ่ายทหารและสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สำหรับกระทรวงมหาดไทยเป็นเพียงฝ่ายปฏิบัติ ซึ่งเรื่องปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ ตนอยากจะพูดเป็น 5 จังหวัด คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา และสตูล ไม่ใช่เพียง 3 จังหวัด เพราะมีขอบเขตของสถานการณ์ที่กระทบไปใน 2 จังหวัดด้วย

หนุนฟื้นคืนชีพ ศอ.บต.
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ค่อนข้างชัดเจนว่าจะมีการฟื้นศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) บทบาทของกระทรวงมหาดไทยจะอยู่ตรงไหน เพราะอำนาจเต็มในการแก้ปัญหาอยู่ที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก นายอารีย์ กล่าวว่า ตรงนี้ต้องมีการหารือกัน เพราะฝ่ายพลเรือนจะต้องเป็นผู้ปฏิบัติงานในการสร้างเสริมสันติสุข โดยเฉพาะด้านการพัฒนาพื้นที่ ส่วนความสงบเรียบร้อยเป็นหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและทหาร ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยถึงด้านการประสานงาน โดยให้ผลประโยชน์ตกอยู่ที่ประชาชนมากที่สุด ศอ.บต.ที่เคยปฏิบัติงานมา สิ่งใดที่เป็นเรื่องดี เราอาจนำมาปรับให้ดียิ่งขึ้น
(อันนี้ พ่อตาชงให้ลูกเขย อิอิ)

องค์กรครูวอนรัฐเร่งสร้างขวัญกำลังใจ
ขณะที่ นายบุญสม ทองศรีพลาย ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดปัตตานี กล่าวแสดงความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่าขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ให้ความสำคัญต่อบุคลากรและครูในพื้นที่ชายแดนภาคใต้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะด้านสวัสดิการและมาตรการสร้างขวัญกำลังใจให้ครูในพื้นที่อย่างต่อเนื่องและจริงจัง โดยให้เปิดบรรจุครูอัตราจ้างที่มีอยู่หลายพันคนใน 3 จว.ใต้ เพื่อให้มีขวัญกำลังใจและความรู้สึกมั่นคงในการทำงาน พร้อมกันนี้ขอให้รัฐบาลจ่ายเบี้ยเสี่ยงภัยแก่ครูต่อไป เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงานแก่ครูจนกว่าเหตุการณ์ใน 3 จว.ใต้สงบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม