วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554

เรื่องเล่าของช่างยุทธ

ผมมีโอกาสได้คุยเรื่องไฟใต้ กับช่างตัดผมที่แถว ๆ ถนนนครสวรรค์ ที่ตลาดนางเลิ้ง
ที่แกเป็นช่างตัดผมขาประจำของผมมาตั้งแต่วัยรุ่น จนกระทั่งปัจจุบันนี้
ก็ยังวนเวียนไปใช้บริการของลุงยุทธอยู่ประจำ โดยไม่คิดจะเปลี่ยนไปไหน
ลุงยุทธแกมีลูกชายเป็นทหาร ที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่จังหวัดยะลา

แกก็เล่าให้ฟังว่า ลูกชายได้กลับมาพักที่บ้าน 10 วัน เพิ่งจะกลับลงใต้
ไปเมื่อวานนี้เอง แกก็บ่นถึงเรื่องลูกชายด้วยความเป็นห่วง เพราะว่า
แกเหลือลูกชายคนนี้คนเดียว ลูกชายคนโตของแกประสพอุบัติเหตุ
เสียชีวิตไปแล้ว แกตัดผมไปก็บ่นไป ตามภาษาช่างตัดผมที่ต้องคุยแก่ง
แกบรรยายสถานการณ์ไฟใต้ให้ผมฟัง เหมือนกับว่าแกเป็นเสนาธิการ
ที่จบมากจากโรงเรียนเสนาธิการ

โอ้ยเจ้านายครับ ทหารไทยนะเหรอ พวกเค้าไม่กล้าเรียกพวกมันว่าผู้ก่อการร้าย
เพราะเค้าบอกว่า ถ้าเรียกมันว่าผู้ก่อการร้ายเมื่อไหร่ละก็ ประเทศไทยจะโดน
สหประชาชาติจะเข้ามาแทรกแทรงทันที ทหารไทยก็เลยทำอะไรไม่ได้เลย
ต้องไปเดินลอยชายให้มันยิงทิ้งเล่น เป็นตุ๊กตางานวัด ไอ้ลูกชายผมมันเป็น
รองหัวหน้าชุด มันก็บอกว่าพ่อ ไม่แน่นา ผมอาจได้เป็นพันเอก แบบมีธงชาติคลุม
แล้วเอาไปเผาวัดโสม....

ทหารไทยไม่กล้าจัดการกับมัน นังอะไรที่.....ละไพจิตร์อะไรเนี่ย กะไอ้พวก NGO
มันจะอ้างเรื่องความขัดแย้งทางศาสนา เรื่ององค์กรมุสลิม เรื่องฮิวแมนไรท์ อะไรนี่แหละ
เพราะทหารกลัวว่าองค์กรมุสลิมโลกจะเข้ามาแทรกแซง ก็เลยได้แต่นั่งดู
เลยปล่อยให้พระสงฆ์องค์เจ้าถูกฟันกระบาลมรณภาพ เป็นข่าวให้เห็นกันอยู่ทุกวัน
แม้แต่ทหารเอง ที่บอกว่าชุดคุ้มครองพระนั่นนะ แต่ละคน ๆ แขวนพระคุ้มครองกัน
คนนึงไม่ต่ำกว่าสิบองค์  ชุดคุมครองพระก็โดนมันยิง  คุ้มครองตัวเองให้รอดตาย
ยังไม่ได้เลยเลย จะไปคุ้มครองพระ คุ้มครองครู คุ้มครองไทยพุทธได้ยังงัยกัน

หน่วยงานอื่น ๆ เกี่ยงกันไปเกี่ยงกันมา มีเยอะแยะ ทั้ง ศอบต. ทั้งทหาร
เพราะกลัวจะไปขัดนโยบาย เข้าใจ เข้าถึง ปรีชา ทำให้ทหารไทย
ไม่สามารถดำเนินกลยุทธได้ตามที่ได้ร่ำได้เรียน หรือได้ฝึกฝนมา
ได้แต่ทำสงคราม ปจว. ไปยืนเกาะโพเดี้ยมบรรยายตามโรงเรียนปอเนาะ

รัฐบาลก็เลยต้องอัดงบประมาณลงไปเยอะ ๆ มันอยากจะได้อะไร
ก็ทูลหัวให้มันให้มาก ๆ  เพราะคิดว่าถ้ามันจะได้เงินแล้วมันจะหยุดฆ่า
ทีนี้ก็เลยคล้ายการขู่กรรโชกแล้วก็มาฆ่าคนไทยมาก ๆ
เค้าว่า ทหารธรรมดา ค่าหัวไม่แพง แต่ถ้าเป็นทหารหมวกแดง
เหมือนลูกชายผมเนี่ย จะได้หลายสตางค์

นายกรัฐมนโทของไทย ผู้เชึ่ยวชาญเรื่องการกำหนดมาตรการ
ขายไข่แบบชั่งกิโล ก็กลัวว่าจะไม่เท่ห์ เลยต้องเล่นบทบาท
นักเรียนนอก หัวสมัยใหม่ เอาใจนักสิทธิ์มนุษย์ยชน ตบตาชาวโลก
แล้วก็ลืมนึกถึงสิทธิของพุทธชนชาวไทย โดนย่ำยีอยู่ทุกวี่ทุกวัน
แถมตอนรับตำแหน่ง ท่านเอาธงชาติไทย ติดกรวยสีเขียวสัญญลักษณ์
มุสลิม ปักมันรอบทำเนียบ แล้วเอามุสลิมเ้ข้าไปละหมาดอายัด
ขอพรกันถึงในตึกไทยคู่ฟ้า

ข่าวลึก ๆ แจ้งมาว่า ผู้ยิ่งหย่ายเชื้อสายเวียตนามท่านหนึ่ง
เพราะท่านไปกระดื๊บ ๆ กับสาวมุสลิม จนกลายเป็นคู่เขย
กับ ผบ.ท (บัง) เข้าแล้ว ข่าวว่า นามสกุลลงท้ายด้วย
ภาษาบาลีสันสกฤตว่า "....อารยะ" พณฯ เลยต้องเอาใจมุสลิม
เป็นการใหญ่

เรื่องมันเป็นเรื่องก็คือ ที่มีข่าวแว่วมาว่า ภรรยาท่านผู้ยิ่งหย่ายผูกคอตายนั้น
มิใช่กรณีราชบุตรเขยเจงกีสข่านแบบที่สุรชัย แซ่ด่าน เอามาพูดหรอก
แต่เป็นกรณีท่านผู้ยิ่งหย่าย เข้ารีดอิสลามไปเรียบร้อยแล้วตามกฏ
ชารีอะหฺ สถานของท่านก็เป็นเขยเล็กเขยใหญ่กับอดีต ผบ.ท(บัง)

สถานะภาพของท่านตอนกำเนิด คือ คริสต์ แต่ตอนท่านไปเข้า
ไปเป็นอาจารย์โรงเรียนตะหานแห่งหนึ่ง ท่านบันทึกไว้ว่าท่านเป็นพุทธ
ท่านแสดงออกให้ใครต่อใครเข้าใจว่าท่านเป็นพุทธศาสนิกชน
ท่านไปออกงาน ใส่บาตรที่นู่นที่นี่ ไปไหว้พระ แล้วจู่ ๆ ท่านก็ฟันแขก
ทำให้สถานภาพของท่าน กลายเป็นมุสลิมไปเรียบร้อยตามกฏ
ของอัลกุรอาน

หลังจากนั้นท่านก็ไปเป็นพระเอกหนังจีน กลายเป็นราชบุตรเขยเจงกีสข่าน
ตามคำบอกของสุชัย แซ่ด่าน  ถ้าเรื่องนี้เป็นจริง จะยิ่งวุ่นกันใหญ่พันกัน
อีลุงตุงนัง เพราะกว่า การที่ พณฯ ท่านเป็นมุสลิม จะมีผลทำให้ องค์หญิงหย่าย
ของเจงกีสข่าน ก็จะพลอยกลายเป็น มุสลิมไปอีกคนหนึ่งโดยปริยาย
มั่วดีแท้ ๆ เจ้าโมฆะบุรุษ

สส. ในสภาก็ต้องผ่านกฏหมายชารีอะหฺให้พวกมัน
ผู้หลักผู้ใหญ่ในสภา ก็ทรยศพระพทุธศาสนากันอย่งหน้าไม่อาย
ลงทุนเอาไอ้พวกนั้น ไปจัดงานเลี้ยงฉลองกันถึงในรัฐสภา
ซึ่งไม่เคยมีบรรพบุรุษไทยที่ไหนเขาทำกัน เหตุเพียงเพราะว่า
เพราะกลัวมันไม่ลงคะแนนเลือกตั้งให้ เลยกลายเป็นว่า
ประเทศไทยจะเป็น หนึ่งประเทศ สองการปกครอง
สองกฏหมาย ต่อไป รัฐธรรมนูญ จะต่ำกว่าอัลกุรอ่าน

ทั้งหมดนี้ผมจะไม่บ่นจะไม่ว่าเลยนะเจ้านาย
ถ้าผมมสามารถลาออกจากความเป็นคนไทยได้
แล้วไปอยู่ประเทศอื่นมันเสียให้รู้แล้วรู้รอดไป

หูของพวกผู้บังคับบัญชา มันได้ยินแต่เสียงมุสลิมละครับเจ้านาย
แต่ไม่เคยได้ยินเสียงร้องของคนไทยพุทธ

ไม่รู้ว่าพ่อแม่ท่านพวกมันนับถือศาสนาอะไร
ผมเคยได้ยินข่าวมานะครับเจ้านาย ตอนที่ ผบ.ท(บัง) ท่านมีอำนาจอยู่
ทำสั่งให้โรงเรียนทหารทุกโรงเรียนของกองทัพ รับนักเรียนในโควต้าภาคใต้ที่ได้สิทธิพิเศษ
เข้าเรียนในโรงเรียนตะหานที่นครนายก ที่เป็นไส้ศึกอยุ่ทุกวันนี้

ท่านปฏิญานตนต่อธงไชยเฉลิมพลไว้ว่าอย่างไร

ท่านลองไปทบทวนเนื้องร้องเพลงมาร์ชกองทัพบกดูหน่อยเป็นไร
ว่าวันนี้ พวกท่านเป็นแบบที่เพลงร้องหรือไม่

เสียผู้กอง เสียผู้หมวด เสียผู้พัน เสียพลทหาร เสียทหารพราน ไปเท่าไหร่แล้ว

หรือว่าหนังหนา ไม่มีความรู้สึก ต้องรอให้ลูกแม่ทัพภาค หรือลูกเสนาธิการ
หรือลูกหลาน คนใหญ่คนโตมันตาย ซักคนถึงจะออกมาเต้นด๊อกแด็ก ๆ กันที

ผมไม่รู้ว่า อีกเดือนนึง
ลูกผมมันจะได้กลับมาพักบ้านหรือปล่าว

ช่างยุทธ.....ทิ้งท้ายบทสนทนา
พร้อมกับส่งสตางค์ทอนค่าตัดผมให้
ผมไม่กล้าพูดอะไรเลยซักคำ ได้แต่เดินก้มหน้ากลับบ้าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม