วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2555

รู้ทัน!!! ขบวนการก่อการร้ายระดับโลก ในวันที่เมืองไทยไม่ปลอดภัยอีกแล้ว

รู้ทัน!!! ขบวนการก่อการร้ายระดับโลก 
ในวันที่เมืองไทยไม่ปลอดภัยอีกแล้ว.............
นับตั้งแต่เสียง ระเบิดตูมแรกดังสนั่นขึ้นในวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา ก็เป็นสัญญาณเตือนว่า ความไม่สงบได้กลับมาประเทศไทยอีกครั้งแล้ว
      
       หลังจากการระเบิดเกิดขึ้น ทางการอิสราเอลก็ได้ออกมาแถลงว่า การระเบิดครั้งนี้และครั้งที่ผ่านๆ มามีอิหร่านและกลุ่มแนวร่วมเฮซบอลเลาะห์ ซึ่งถือเป็นองค์กรก่อการร้ายสากลอยู่เบื้องหลัง แต่หลังจากนั้นไม่นานอิหร่านก็ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ โดยกล่าวว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด แต่อิสราเอลนั้นต้องการทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างอิหร่านกับไทย พร้อมทั้งยังกล่าวว่าแท้แล้วเหตุการณ์นี้มีขบวนการยิวไซออนิตส์ (กอบกู้ฟื้นฟูชาติยิวซึ่งหมายถึงพวกของอิสราเอลนั่นเอง) เป็นผู้ก่อเหตุ
      
       ทางฮัสซาน นาสราลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ก็ออกมาปฏิเสธเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่หวังโจมตีนักการทูตอิสราเองในหลาย ประเทศ รวมถึงไทย โดยผู้นำกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ของเลบานอน แถลงทางโทรทัศน์ว่า จากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในอินเดีย จอร์เจีย และไทย กลุ่มไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมด และว่ากลุ่มจะหาทางแก้แค้นให้แก่ อิหมัด มุกห์นิเยห์ ผู้นำระดับสูงของกลุ่มที่ถูกสังหารเมื่อ เดือนกุมภาพันธ์ 2551 แต่การแก้แค้นจะไม่ไปลงกับทหาร นักการทูต หรือพลเรือนชาวยิว
      
       และถึงแม้ว่าการระเบิดครั้งนี้จะยังไม่สามรถฟันธงลงไปได้ว่าใครเป็น คนทำ แต่มันก็ทำให้คนไทยเริ่มรู้สึกว่าขบวนการก่อการร้ายสากล กลายเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวกว่าที่คิดเพราะจากที่แต่ก่อนนั้นเหตุการณ์รุนแรง ต่างๆ มักจะเกิดขึ้นในภูมิภาคที่มีความขัดแย้งเท่านั้น แต่ในปัจจุบันความขัดแย้งเหล่านั้นมันได้ข้ามน้ำข้ามทะเลมายังดินแดนขวานทอง แล้ว
      
       แล้วใครคือ ‘ผู้ก่อการร้าย’
      
       หลังจากเหตุการณ์ระเบิดผ่านไป สื่อต่างๆ ก็ได้มีการพูดถึงกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ มากขึ้น ซึ่งบางชื่อนั้นประชาชนก็คุ้นหู บางชื่อก็ไม่เคยได้ยิน แต่ก็เชื่อได้ว่า น้อยคนนักที่รู้ว่ากลุ่มก่อการร้ายเหล่านั้นมาจากไหนและทำอะไรกันบ้าง
      
       จริงๆ แล้วกลุ่มก่อการร้ายสากลที่มีอยู่ในโลกนี้ มีอยู่ถึงร้อยกว่ากลุ่ม ทว่ากลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวในระดับขาใหญ่ที่ส่งผลไปยังพื้นที่ต่างๆ ของโลกนั้นมีอยู่ไม่มาก ลองไปสำรวจกลุ่มก่อการร้าย 5 อันดับแรก ที่มีความอันตรายในการปฏิบัติการที่เลื่องลือชื่อเสียงไปทั้งโลก จนได้ยินชื่อกันบ่อยๆ
      
       กลุ่มอัลกออิดะฮ์ - Al Qaeda เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลกว้างขวางระดับโลก ก่อตั้งเมื่อปี 2531 ถือเป็นกลุ่มของชาวมุสลิมนิกายซุนนี มีอุซามะฮ์ บิน ลาดิน เป็นผู้นำ
       เป้าหมาย ดำเนินการแบบเครือข่ายโยงใยทั่วโลก เพื่อขับไล่อิทธิพลของต่างชาติออกไปจากประเทศมุสลิม
       ผลงานเด่น การก่อวินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ. 2544 โดยการจี้เครื่องบินพุ่งชนตึกเวิร์ดเทรดเซ็นเตอร์และอาคารเพนตากอนในสหรัฐ อเมริกาจนมีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ถึง 3,056 คน
       ..........
      
       กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ - Hizballah (Islamic Jihad) เป็นกลุ่มของมุสลิมชีอะห์ ชาวปาเลสไตน์ในเลบานอน ก่อตั้งขึ้นในปี 2525 ซึ่งเป็นปีที่กองทัพอิสราเอลบุกเข้ายึดเลบานอน โลกตะวันตกนั้นมองว่าเฮซบอลเลาะห์คือผู้ก่อการร้าย ดำรงฐานะของกลุ่มติดอาวุธ แต่ในเลบานอนนั้นเฮซบอลลาห์ถือเป็นพรรคการเมืองพรรคหนึ่งด้วยเช่นกัน
       เป้าหมาย เพื่อขับไล่กองทัพอิสราเอลที่เข้ามายึดครองเลบานอน จนสามารถต่อสู้และขับไล่ทัพอิสราเอลออกจากเลบานอนได้ในปี 2543
       ผลงานเด่น การระเบิดค่ายทหารนาวิกโยธินสหรัฐในกรุงเบรุต ประเทศเลาบานอน เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2526 โดยมือระเบิดพลีชีพที่ใช้รถบรรทุกระเบิด 12,000 ปอนด์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 242 คน
       ……….
      
       กลุ่มหัวรุนแรงฮามาส - Hamas (Islamic Resistance Movement) ก่อ ตั้งเมื่อปี 2530 ในประเทศอียิปต์ ก่อตั้งโดย เชคอะฮฺมัด ยาซีน ซึ่งเป็นผู้นำทางศาสนา เป็นกลุ่มชาวปาเลสไตน์ที่นิยมใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา เชี่ยวชาญด้านการใช้ระเบิด และมักใช้วิธีการแบบระเบิดพลีชีพ
       เป้าหมาย ขับไล่ทหารของอิสราเอล ออกจากเขตฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน (เขตเวสต์แบงค์) และฉนวนกาซ่า และหวังจะสร้างรัฐปาเลสไตน์
       ผลงานเด่น ระเบิดพลีชีพหลายต่อหลายครั้งในอิสราเอล
       ..........
      
       กลุ่มญะมาอะห์ อิสลามียะห์ (Jama ah Islamiyah) หรือกลุ่ม JI กลุ่มก่อการร้ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่าก่อตั้งขึ้นปี 2533 ว่ากันว่ามีศูนย์กลางอยู่ในอินโดนีเซีย เชื่อกันว่ามีความเชื่อมโยงกับอัลกออิดะฮ์

       เป้าหมาย ก่อตั้งรัฐอิสลามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยครอบคลุมพื้นที่ของมาเลเซีย อินโดนีเซีย ภาคใต้ของฟิลิปปินส์ และจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย
       ผลงานเด่น การลอบวางระเบิดโรงแรมเจ ดับเบิลยู แมริออต ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อ 5 สิงหาคม ปี 2543
       ..........
      
       กลุ่มขบวนการปลดปล่อยปาเลสไตน์ - Palestinian Liberation Organization (PLO) ตั้งขึ้นในช่วงปี 2499 ในช่วงที่อิสราเอลเข้าครอบครองฉนวนกาซา ดินแดนที่มีชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ช่วงแรกกลุ่มนี้ใช้สื่อมวลชนโจมตีอิสราเอล แต่ต่อมาได้มีการจัดตั้งกองกำลังขึ้น และใช้วิธีการรุนแรงในการดำเนินการ
       เป้าหมาย ต่อต้านอิสราเอล และจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์
       ผลงานเด่น มีหลายเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์การก่อการร้ายที่ก่อขึ้นโดยกลุ่มสมาชิกของพี แอลโอ แต่ต่อมาพีแอลโอได้ประกาศยุติความรุนแรงและการก่อการร้ายลง ทว่ามีสมาชิกหลายส่วนไม่เห็นด้วย จนแยกตัวออกมาเป็นกลุ่มก่อการร้ายย่อยๆ อีกหลายกลุ่ม
      
       นอกจากกลุ่มที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากความขัดแย้งอิสราเอลปาเลสไตน์แล้ว โลกของเรายังมีกลุ่มก่อการร้ายสำคัญอื่นๆ อาทิเช่น กลุ่มขบวนการปลดปล่อยไอร์แลนด์เหนือ หรือ (ไออาร์เอ) ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อต้องการปกครองตนเองในรัฐอิสระไอร์แลนด์ หรือจะเป็น กลุ่มกบฏชาวเคิร์ด (พีเคเค) ที่ยึดแนวทางของลัทธิมาร์กซิสต์และลัทธิเลนิน โดยมีจุดหมายเพื่อแยกตัวไปก่อตั้งสหพันธรัฐเคอร์กิสถานอีกด้วย
      
       โลกของการก่อการร้าย
      
       จะเห็นได้ว่าขบวนการก่อการร้ายที่มีบทบาทในโลกและอาจจะมีการเข้ามา เคลื่อนไหวในประเทศไทยนั้น ล้วนเป็นกลุ่มที่เกิดจากความขัดแย้งของอิสราเอลและปาเลสไตน์แทบทั้งสิ้น
      
       โดย ดร.ศราวุฒิ อารีย์ รอง ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายถึงลักษณะของกลุ่มติดอาวุธมุสลิมในโลกที่มักจะสร้างผลกระทบกับประเทศ อื่นนอกภูมิภาคว่า หลักๆ แล้วจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ โดยกลุ่มแรกคือ กลุ่มที่เคลื่อนไหวในระดับสากล โดยมีเป้าหมายในการทำสงครามกับสหรัฐอเมริกา หรือมหาอำนาจ ซึ่งรู้จักกันในชื่อของกลุ่มอัลกออิดะฮ์
      
       เพราะฉะนั้นกลุ่มแบบนี้จะเข้าไปทำลายผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกาใน ทุกๆ ที่ในโลก เพราะเขาถือว่าเป็นชาติที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ แต่มีนโยบายที่ไม่เป็นธรรมต่อโลกมุสลิม เช่น เข้าข้างอิสราเอล โดยกลุ่มนี้ถือเป็นผลผลิตจากสงครามเย็น เพราะในช่วงที่สหภาพโซเวียตเข้าไปยึดครองอัฟกานิสถาน ทางสหรัฐอเมริกา ซาอุดิอาระเบีย หรือปากีสถานก็สนับสนุนให้คนอาหรับทั้งหลายเข้าไปทำสงครามโดยปลุกกระแสศาสนา ขึ้นมา ซึ่งหลังสหภาพโซเวียตออกไป กลุ่มนักรบเหล่านั้นกลับถูกลอยแพ ทั้งจากสหรัฐอเมริกาและประเทศแม่ในโลกอาหรับ ไม่สามารถกลับประเทศได้ เนื่องจากผู้นำเกิดความระแวงหวาดกลัวเพราะเคยฝึกอาวุธมาก่อน ทำให้เกิดความเกลียดชังสหรัฐอเมริกาและรัฐบาลเผด็จการในประเทศของตัวเองขึ้น มาในที่สุด
      
       “กลุ่มอัลกออิดะฮ์นั้น เป็นกลุ่มมุสลิมที่มาจากพื้นที่หลากหลาย ทั้งโลกอาหรับ แอฟริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ก็มี จึงสามารถเชื่อมโยงโครงข่ายได้ทั่ว และบางทีมันอาจจะข้ามเรื่องนิกายต่างๆ ไปแล้วด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าสังเกตการเคลื่อนไหวของเขาจะอยู่บนพื้นฐานทางด้านการเมืองเป็นหลัก”
      
       ส่วนอีกกลุ่มเป็นขบวนการปลดปล่อยตนเองจากการยึดครองของอิสราเอล เช่น กลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์ กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ในเลบานอน กลุ่มเหล่านี้มีวัตถุประสงค์จำกัดอยู่ในเฉพาะพื้นที่เพื่อต่อสู้กับอิสราเอล ในการยึดครองดินแดน เพราะหลังจากอิสราเอลยึดครองพื้นที่ของปาเลนไตน์ ในปี 2510 และภาคใต้ของเลบานอนในปี 2531 ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อคนพื้นเมืองซึ่งเป็นชาวมุสลิมอย่างมาก
      
       “กลุ่มฮามาสและเฮซบอลเลาะห์ ในโลกมุสลิมส่วนใหญ่ไม่ถือเป็นกลุ่มก่อการร้าย แต่ถือเป็นกลุ่มที่ต่อต้านการยึดครอง และมีวัตถุประสงค์เพื่อเอาดินแดนคืน คือเราต้องเข้าใจก่อนว่าประชาคมโลกมุสลิมไม่ได้เกลียดชังชาวยิว แต่ปัญหาก็คือการเกิดขบวนการไซออนิสต์ หรือการกอบกู้ฟื้นฟูชาติยิวขึ้นมา และได้ดำเนินกระบวนการทางเมืองในศตวรรษที่ 18 - 19 จนสามารถเข้ามาอยู่ในปาเลสไตน์ได้โดยการเอายิวจากประเทศต่างๆ ทั้งยุโรปตะวันออกและตะวันตกมาอยู่ที่นี่ และท้ายสุดก็นำไปสู่การตั้งรัฐยิวหรืออิสราเอลขึ้นมา แล้วก็มีการกดขี่ทำร้ายชาวท้องถิ่น”
      
       ตรงนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่นำมาสู่ความขัดแย้งระหว่างชาวยิวและชาว อาหรับ ซึ่งในความเห็นส่วนตัวของของศราวุฒิ เขามองว่ากลุ่มก่อการร้ายในแบบที่ 2 นั้น ไม่น่าจะออกมาปฏิบัติการนอกพื้นที่
      
       “กลุ่มเฮซบอลเลาะห์นั้นเป็นมุสลิมสาย ซีอะห์ แต่มุสลิมเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นมุสลิมสายซุนนี เพราะฉะนั้นการเคลื่อนไหวการติดต่อระหว่างกัน ถ้ามองในอุดมการณ์ในเชิงศาสนาแล้วถือว่า ‘ต่อกันไม่ติด’ เพราะฉะนั้นการเคลื่อนไหวกดดันในลักษณะการก่อการร้ายก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะมันไม่ส่งผลต่อเป้าหมายในเชิงพื้นที่ของเขา”
      
       ดังนั้นเรื่องที่เฮซบอลเลาะห์จะอยู่เบื้องหลังการระเบิดครั้งล่าสุดในไทย ก็ไม่น่าที่จะเป็นไปได้
      
       “เฮซบอลเลาะห์ไม่ใช่มือปืนรับจ้างของใคร ยิ่งอิหร่านยิ่งไม่ใช่ใหญ่เลย เพราะชาติพันธุ์ที่ต่างกัน อย่างเฮซบอลเลาะห์นั้นเป็นชาวอาหรับ ขณะที่อิหร่านนั้นเป็นเปอร์เซีย มีอุดมการณ์ศาสนาที่ต่างกัน แม้จะเป็นซีอะห์เหมือนกัน แต่เราถือว่าทั้งสองกลุ่มเป็นพันธมิตรกัน โดยเฉพาะการต่อสู้กับอิสราเอล
      
       “ที่สำคัญ การที่ไทยรับรองปาเลสไตน์เป็นรัฐ มันก็คำถามหนึ่งที่ต้องคิดต่อก็คือ อิสราเอลกับสหรัฐอเมริกาจะคิดยังไงกับเรา เพราะไทยเองเป็นพันธมิตรที่ชัดเจนของสหรัฐฯ แต่กลับไปขัดใจสหรัฐฯ ในเรื่องที่ใหญ่มาก ตรงนี้ความไม่พอใจคงมีแน่ แต่เขาคงไม่มาพูดกับเราตรงๆ ว่าจะมีมาตรการลงโทษอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เขาคงจะมีวิธีที่จะกดดันเรา บางทีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือกระแสก่อการร้ายก็อาจจะเป็นการกดดันจากประเทศ มหาอำนาจต่อหลายชาติก็เป็นได้”
      
       ..........
      
       สุดท้ายเรื่องของขบวนการก่อการร้ายข้ามชาติที่เมืองไทยกำลังกังวล อยู่นั้น แท้แล้ว มันอาจเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อนและมีการเมืองระดับโลกเข้ามาเกี่ยวข้อง มากกว่าที่คิด ดังนั้นในสถานการณ์ที่ยังไม่รู้ว่า อะไรเป็นอะไร วิธีการรับมือที่ดีที่สุด ก็คือการพยายามวางตัวเป็นกลาง และคอยเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นเท่านั้นเอง
      
       หรือถ้ามันจะเกิดก็ควรจะหาหนทางที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตคนไทยน้อยที่สุดเถิด...
      
            ……….
      
       เหตุการณ์ที่เกี่ยวกับกลุ่มก่อการร้ายสากลในไทย
       
       28 ธันวาคม 2515 โดยกลุ่มก่อการร้ายปาเลสไตน์ บุกเข้ายึดสถานทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย
      
       7 เมษายน 2519 ผู้ก่อการร้ายชาวมุสลิม 3 คน จากขบวนการปลดปล่อยแห่งชาติโมโรแห่งมินดาเนา (Moro National Liberation Front of Mindanao) ได้ปล้นยึดเครื่องบินโดยสารของมาลงดอนเมืองเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2519 และนำเครื่องบินต่อเดินทางไปลิเบียเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2519
      
       28 มีนาคม 2524 ผู้ ก่อการร้ายกลุ่มคอมมานโดญิฮาด (Commando Jihad Movement) จำนวน 5 คน ได้ปล้นยึดเครื่องบินการูด้าสายการบินภายในประเทศของอินโดนีเซีย และเดินทางต่อมายังประเทศไทยและมีการใช้กำลังแย่งชิงตัวประกัน เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2524 โดยผู้ก่อการร้ายตาย 4 คน บาดเจ็บ 1 คน หน่วยจู่โจมตาย 1 คน นักบินที่ 1 ตาย ผู้โดยสาร 43 คนปลอดภัย
      
       2 ธันวาคม 2525 พบ กระเป๋าเอกสารซึ่งบรรจุระเบิดชนิด C4 น้ำหนักประมาณ 10 ปอนด์ ที่สำนักงานบริษัท เอ.อี.นานา จำกัด ซึ่งเคยเป็นที่ทำการของสถานกงสุลกิตติมศักดิ์อิรัก/กรุงเทพฯ และได้เกิดระเบิดขึ้น มีผู้เสียชีวิต 1 คนโดยผู้ก่อการร้ายขบวนการปฏิบัติการอิสลามแห่งอิรัก (Iraqi Islamic Action Organization) ได้ อ้างความรับผิดชอบต่อกรณีระเบิดดังกล่าว
      
       11สิงหาคม 2546 ริดวน อิซามุดดิน (ฮัมบาลี) หนึ่งในแกนนำขบวนการก่อการร้ายเจมาห์ อิสลามมิยาห์ (เจไอ) ถูกจับกุมได้ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาโดยความร่วมมือระหว่างตำรวจไทยกับซีไอ เอ
      
       31 ธันวาคม พ.ศ. 2549 และ 1 มกราคม พ.ศ. 2550 มีระเบิดสี่ลูกได้เกิดระเบิดขึ้นเกือบพร้อมกันในหลายส่วนของกทม. ในช่วงเย็นและตามมาด้วยระเบิดอีกหลายลูกภายในระยะเวลา 90 นาทีต่อมา และหลังเที่ยงคืนอีก 2 ลูก พบอักษรย่อ IRK (หน่วยกองโจรก่อการร้ายในเมืองซึ่งได้รับการฝึกในอัฟกานิสถาน) ในสถานที่สี่แห่งจากเหตุระเบิดสามจุด
http://narater2010.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม