วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ปิดล้อมจับ RKK

ปิดล้อมจับ RKK 
      ศูนย์ข่าวหาดใหญ่-เจ้าหน้าที่ใต้สนธิกำลังปิดล้อมจับแกนนำ RKK มือถล่มฐานพระองค์ดำ พร้อมพวก 4 คน ด้านทหารยะลาเปิดฉากดวลปืนกับคนร้าย วิสามัญดับ 2 ศพ รวบได้อีก 1 โดยฝ่ายเจ้าหน้าที่เจ็บ 2 นาย เผยเอ็ม 79 ลึกลับ โผล่ตกใส่หลังคาโรงอาหารสถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านยะลา วิ่งหนีตายอลหม่าน โชคดีระเบิดด้าน “ประยุทธ์”ซัดโจรใต้ไร้ศาสนา เหน็บเกิดมาจากรู ฆ่าคนไม่เลือก
      
       เมื่อเวลา 11.00 น.วานนี้ (31 ต.ค.) พล.ต.ต.สุชาติ ธีรสวัสดิ์ รอง ผบช.ศชต.พร้อมด้วย พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ทพ.41 สนธิกำลังร่วมกับ พ.ท.สฐิรพงษ์ อาจหาญ ผบ.ฉก.30 นำกำลังกว่า 50 นายหลังจากรับแจ้งข่าวจากแหล่งข่าวชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่บ้านปารีว่า มีกลุ่มแกนนำสำคัญเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่บ้านปารี จากนั้นได้ใช้กฎอัยการศึกเข้าปิดล้อมพื้นที่เป้าหมายบ้านเลขที่ 283/3 ม.10 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส จึงเข้าตรวจสอบปิดล้อมสามารถจับกุมนายมะไซดี ยะกูมอ แกนนำคนสำคัญขบวนการอาร์เคเค ที่มีหมายจับ ป.วิอาญาพร้อมพวกอีก 3 ราย รวมเป็น 4 คนไว้ได้
      
       ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่านายมะไซดี มีส่วนเกี่ยวข้องเหตุการณ์คนร้ายบุกถล่มฐาน กองร้อยทหารราบที่ 15121 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 38 บ้านมะรือโบตก หมู่ที่ 1 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส หรือฐานปฏิบัติการพระองค์ดำ เมื่อค่ำวันที่ 19 ม.ค.2555 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ หรือ "ผู้กองบอย" ผู้บังคับกองร้อยทหารราบที่ 15121 ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจที่ 38 อ.ระแงะ จ.นราธิวาส (ผบ.ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38), ส.อ.เทวารัตน์ เทวา หัวหน้าชุดยิง, ส.อ.ดุลเลาะ ดะหยี และ พลฯประวิทย์ ชูกลิ่น เสียชีวิต นอกจากนี้ ยังมีทหารบาดเจ็บอีก 6 นาย เบื้องต้นได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 รายเข้าสู่ขบวนการซักถาม โดยเจ้าหน้าที่ได้นำไปตรวจสอบพิมพ์ลายนิ้วมือว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีความ มั่นคงหรือไม่ต่อไป
      
       **ทหารวิสามัญคนร้าย2รวบได้1ราย
      
       ต่อมาเวลา 13.30 น. พล.ต.ต.สุชาติ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษตำรวจจังหวัดชายแดนภาค ใต้ ตำรวจ สภ.รามัน ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 12 เจ้าหน้าที่อาสาสมัครทหารพรานที่ 41 กว่า 100 นายเข้าปิดล้อมบ้านเป้าหมายในพื้นที่หมู่ 1 ต.ยะต๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ภายหลังมีชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลว่านายมานะ มะแซจือนารง อายุ 35 ปี แกนนำก่อเหตุรุนแรง พร้อมพวกเข้ามากบดานอยู่ในพื้นที่เพื่อเตรียมก่อเหตุ
      
       ในขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมบ้านไม่มีเลขที่หลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านเป้าหมายตามที่ชาวบ้านให้ข้อมูล และได้เรียกให้เจ้าของบ้านเปิดประตู เพื่อขอเข้าตรวจค้น กลุ่มคนร้ายที่อยู่ภายในบ้าน จึงใช้อาวุธปืนยิงสวนเจ้าหน้าที่ออกมา จนเกิดการยิงปะทะกับฝ่ายเจ้าหน้าที่กันนานกว่า 1 ชม. เมื่อสิ้นเสียงปืนมี 1 ในคนร้ายที่อยู่ภายในบ้าน ออกมามอบตัวทราบชื่อคือ นายอับดุลรอเซะ เด็งสาแม อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/2 หมู่ 3 ต.บือมัง อ.รามัน จ.ยะลา เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวน ที่หน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 12

นายมานะ มะแซจือนารง, โจรใต้

      
       จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบคนร้ายเสียชีวิต 2 รายโดยรายที่ 1 เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านดังกล่าว ทราบชื่อคือนายมานะ มะแซจือนารง อายุ 35 ปี โดยข้างตัวพบอาวุธปืนเอ็ม 16 ตกอยู่ข้างตัว 1 กระบอก และปืนพกสั้นขนาด 9 มม. อีก 1 กระบอก นอกจากนั้นที่ด้านข้างตัวบ้านพบศพนายอุสมัน วารี อายุ 26 ปี ถูกยิงเสียชีวิต โดยมีอาวุธปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ข้างมือ

ยิงโจรใต้ยะลา
      
       ส่วนฝ่ายเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 2 รายคือ ส.ต.ท.เกียรติศักดิ์ ปานเพชร อายุ 27 ปี และ ส.ต.ท.วัชรินทร์ นิลสังกาด อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษ ตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยทั้งสองนายถูกยิงเข้าที่ขาได้รับบาดเจ็บ จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลรามัน ล่าสุดอาการปลอดภัยทั้งสองนาย
      
       สำหรับนายมานะ มะแซจือนารง เป็นชาว ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เป็นผู้ต้องหาคดีความมั่นคงที่มีหมายจับ ป.วิ อาญา 3 หมายและมีส่วนในการก่อเหตุร้ายในพื้นที่หลายเหตุการณ์ โดยเฉพาะเหตุการณ์ซุ่มยิงทหารพราน 41 เสียชีวิต 3 นาย และแม่บ้าน 1 รายแล้วเผา ขณะขับรถยนต์กระบะเดินทางไปซื้อเสบียงในพื้นที่ อ.เมืองยะลา เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเชื่อว่าการเข้ามากบดานของนายมานะ พร้อมพวกนั้น มีเป้าหมายที่จะก่อเหตุร้ายในพื้นที่
      
       M79 ตกใส่โรงอาหารสถานสงเคราะห์
      
       ก่อนหน้านี้ เวลา 11.05 น. ร.ต.ต.วีระยุทธ ปิ่นทองพันธ์ ร้อยเวร สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งจากสถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านยะลาว่า มีหัวระเบิดเอ็ม 79 ตกใส่หลังคาโรงอาหาร ภายในสถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านยะลา ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จึงประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เข้าตรวจสอบถึงที่เกิดเหตุพบกลุ่มครู อาจารย์ และแม่บ้าน ของสถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านยะลา ยืนจับกลุ่มอยู่หน้าโรงอาหารด้วยอาการตื่นตระหนก เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุ และกันบุคคลไม่เกี่ยวข้องอยู่ห่างจากรัศมีระเบิด ที่อยู่ภายในโรงอาหาร ก่อนจะให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด เข้าตรวจสอบ พบหัวระเบิดเอ็ม 79 จำนวน 1 หัว ตกอยู่ที่พื้น สภาพพร้อมระเบิดทันที ส่วนที่เพดานหลังคาพบรูขนาดเท่าหัวระเบิดเอ็ม 79 ที่ตกลงมา เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจึงได้ทำการเก็บกู้หัวระเบิดดังกล่าวไว้ ได้ก่อนจะนำไปทำลายทิ้ง
      
       สอบถามนางวรรณดี เกื้อเกษ แม่บ้านของสถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านยะลา ทราบว่า ขณะที่กำลังทำอาหารเพื่อจัดเตรียมอาหารเที่ยงให้กับเด็กๆ อยู่ก็ได้ยินเสียงคล้ายกับมีวัตถุกระทบบนหลังคาของโรงอาหาร จากนั้นมีหัวระเบิดเอ็ม 79 ตกลงมาจากหลังคา ทำให้ฝาเพดานทะลุเป็นรู จึงได้ตะโกนบอก เจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายในโรงอาหาร ให้มาดู ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้ามาดูก็ทราบว่าเป็นหัวระเบิดเอ็ม 79 ก็ต่างพากันวิ่งหนีออกจากโรงอาหารกันอย่างชุลมุน ก่อนจะโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ

       เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ให้ชุดพิสูจน์หลักฐาน 10 ยะลา เข้าตรวจสอบหารายละเอียดและตรวจสอบรัศมี ทิศทางของหัวระเบิดดังกล่าวว่ามาจากทิศทางใด โดยเชื่อว่าอาจจะเป็นการกระทำของกลุ่มคนร้ายที่ต้องการจะยิงไปยังกองกำกับ การตำรวจตระเวนชายแดนที่ 443 ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับ สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านยะลา แต่พลาดมาตกใส่โรงอาหารของสถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านยะลา และระเบิดด้าน จึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
      
       ผบ.ทบ.ด่าโจรใต้ไร้ศาสนา-ฆ่าไม่เลือก
      
       พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ต้องช่วยกันประณามการก่อเหตุร้ายว่า ชีวิตจิตใจคนพวกนี้ทำมาจากอะไร เกิดมาจากต้นไม้หรือจากรู เพราะคนพวกนี้ไม่มีศาสนา เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ก็ฆ่าชาวมุสลิม ชาวมุสลิมดีๆ มีถึง 99.9% ที่ออกมาต่อสู้ว่า ไม่ให้ฆ่าใคร แต่คนที่ก่อเหตุ คิดว่าไม่ใช่คนมุสลิม และไม่มีศาสนาเพราะออกมาฆ่าคนเด็ก ผู้หญิง ประชาชน ผู้บริสุทธิ์ พระ และเจ้าหน้าที่ทุกวัน โดยไม่บอกว่าจะเอาอะไร และอาจไปร่วมมือขบวนการค้ายาเสพติด ค้าของเถื่อนผิดกฎหมาย ดังนั้น ประชาชนจะต้องร่วมมือกันต่อสู้กับคนพวกนี้ที่มีไม่ถึง 1%
      
       ผบ.ทบ.กล่าวว่า อยากให้ดูสิ่งที่ดีบ้าง เพราะหลายพื้นที่ประชาชนออกมาแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการรับสถานการณ์ บางพื้นที่พร้อมจะต่อสู้และพร้อมร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ไม่มีพื้นที่ใดที่รังเกียจนอกจากคนที่ไม่เป็นกลาง คนที่มีความคิดของตนเองสูง ซึ่งตนได้เชิญคอลัมน์นิสต์มาพบ ซึ่งได้คำตอบว่า ไม่ทราบว่าทหารทำ หากรู้ว่าทหารทำจะไม่พูดหรอก ซึ่งตนไม่ทราบว่าคนที่เขียนไปอยู่ที่ไหนมา
       "สถานการณ์ภาคใต้ที่ดูรุนแรงขึ้นเพราะไปฟังคนบางกลุ่มที่เสียผล ประโยชน์ กลุ่มที่ทำอะไรไม่สะดวกมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ จะบอกว่าเจ้าหน้าที่ไม่ดี ดังนั้นกรุณาตรวจสอบข้อมูลเรื่องใต้ด้วย หากเจ้าหน้าที่ไม่ดีบอก ผมจะตรวจสอบให้ หากไม่ดีจะลงโทษและให้ติดคุกตั้งแต่วันนี้ และแจ้งให้ทราบด้วยว่า ลงโทษอะไร ผิดอะไร แต่หากพูดไม่มีหลักฐาน พยานหรือพูดลอยๆว่า ล้มเหลวสิ้นเชิง เจ้าหน้าที่ไปทำงานใช้งบประมาณเลี้ยงไข้ ผมว่ามันน่าโมโหทำไมเขาไม่เข้าใจ เพราะทุกอย่างผมไม่เคยปิดบัง ไม่มีใครเอาผลประโยชน์จากชีวิตคน แม้จะได้ประโยชน์เป็นเงินพันล้านก็ไม่คุ้มกันหากแลกแม้ชีวิตเดียว" พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
http://narater2010.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม