วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

วางระเ้บิดทหาร รปภ.ครูที่นราธิวาส

วางระเ้บิดทหาร รปภ.ครูที่นราธิวาส


       เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 4 ก.ค.56 ร.ต.ท. ประโยธร เอียดรักษ์ ร้อยเวร สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพรานได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เหตุเกิดบริเวณหน้าโรงเรียนพิทักษ์วิทยากูมุง หมู่ 2 บ.กูมุง ต.ช้างเผือก จึงพร้อมด้วย พ.อ.ทวนทอง ทองสุภา ผบ.กรมทหารพรานที่ 46 พ.ต.ท.ศกรรจ์ จันทร์แย้ม รอง ผกก.ป.สภ.จะแนะ นายวิมุตติ อำนักมณี ปลัดอาวุโส อ.จะแนะ พ.ต.ท.กระจ่าง รักษ์ณรงค์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.นราธิวาส ร.ต.ต.แซน วรงคไพสิฐ หน.ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส กำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางเข้าตรวจสอบ


        ทั้งนี้ได้มีการตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือทุกระบบ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุคนร้ายจุดชนวนซ้ำเป็นลูกที่ 2 เพื่อสังหารเจ้าหน้าที่ขณะเข้าตรวจสอบ พบบริเวณเนินดินใกล้โคนต้นไม้ใหญ่ ตรงข้ามโรงเรียนพิทักษ์วิทยากูมุง เป็นหลุมระเบิดลึกประมาณ 60 ซม. กว้างประมาณ 80 ซม. พร้อมเศษซากของชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบไว้ในกล่องเหล็ก หนักประมาณ 5 กก.จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือตกกระจายเกลื่อน พร้อมกองเลือดจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บสังกัดกองร้อย ทพ.ที่ 4609 กรมทหารพรานที่ 46 ถูกนำส่งรักษาที่ รพ.จะแนะ และส่งต่อ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือ อส.ทพ.อภิวัฒน์ โคตรพรหม อายุ 26 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ต้นขาขวาและลำตัว, อส.ทพ.นิอายุ รายอคาลี อายุ 28 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่แขนซ้ายและขาซ้าย อาการสาหัส และ 3.อส.ทพ.เชิดพงษ์ โสมา อายุ 30 ปี


          จากการสอบสวน จ.ส.อ.สมพงษ์ ยงประดิษฐ์ หน.ชุด รปภ.ครู ซึ่งตั้งฐานปฏิบัติการห่างจากโรงเรียนพิทักษ์วิทยากูมุงประมาณ 100 เมตร ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้สั่งกำลังลูกน้องภายในฐานจำนวน 8 นาย ออกเดินเท้าจากฐานเพื่อลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยในการ รปภ.ครูของโรงเรียนพิทักษ์วิทยากูมุง แต่ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารพรานอีก 6 นายกำลังเดินเข้าไปที่โรงเรียน เพื่อ รปภ.ครูภายในโรงเรียน ส่วน อส.ทพ.อภิวัฒน์ และ อส.ทพ.นิอายุ เดินลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยอยู่ภายนอกโรงเรียน เมื่อถึงที่เกิดเหตุคนร้ายซึ่งแฝงตัวอยู่บริเวณดังกล่าวได้จุดชนวนระเบิดจนทำให้ อส.ทพ.อภิวัฒน์และ อส.ทพ.นิอายุได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการตอบโต้ หลังกลุ่มพลังมวลชนในพื้นที่ บ.กูมุง ต.ช้างเผือก ออกมาแสดงพลังปฏิเสธความรุนแรงเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ยิงถล่มนายก อบต.เนินงาม

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ได้ใช้อาวุธปืนสงครามถล่มยิงใส่รถยนต์ของ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเนินงาม และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเนินงาม อ.รามัน จ.ยะลา เหตุเกิดบริเวณหน้ามัสยิดบ้านเอาะ หมู่ 7 ต.เนินงาม อ.รามัน จ.ยะลา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 1 คน ทราบชื่อคือ นายแวตูรอ แวะเต๊ะ อายุ 45 ปี เป็น ส.อบต. เสียชีวิต ส่วนนายภักดี นีรอเฮ็ง อายุ 48 ปี นายก อบต.เนินงาม ได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกจากนี้คนร้ายยังได้โรยตะปูเรือใบบนถนนจำนวนมาก เพื่อป้องกันการติดตามของเจ้าหน้าที่ ก่อนหลบหนี



          จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้ตายและผู้บาดเจ็บเดินทางด้วยรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต สีดำ หมายเลขทะเบียน กค 8973 ยะลา เมื่อมาถึงสามแยกมัสยิดบ้านเอาะ ได้มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ใช้รถยนต์เป็นพาหนะ และคนในรถได้ใช้อาวุธปืนสงคราม ทั้งอาก้า และ M16 ยิงเข้าใส่บุคคลทั้ง สอง ทันที เป็นเหตุให้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว และในช่วงเช้า (4 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเป็นเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องการเมืองท้องถิ่น หรือการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่

           พ.ต.อ.เจริญ ธรรมขันธ์ ผกก.สภ.บันนังสตา เปิดเผยความคืบหน้าด้านคดีว่า ล่าสุดอยู่ในระหว่างการรวบรวมหลักฐานจากกล้องวงจรปิด รวมทั้งโทรศัพท์ที่คนร้ายใช้จุดชนวนระเบิด ซึ่งได้ตรวจสอบหมายเลข และทราบแล้วว่าผู้ใดเป็นเจ้าของเบอร์ดังกล่าว กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถออกหมายจับคนร้ายในคดีนี้ในเร็วๆวันนี้ ส่วนรายละเอียดยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้

        วันเดียวกันที่ห้องโถง อาคารอเนกประสงค์ ศูนย์แจงแนวปฏิบัติช่วงรอมฎอน อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วย นายวิสุทธิ์ บินลาเต๊ะ ผู้แทนสำนักจุฬาราชมนตรี นายอับดุลเราะห์มาน อับดุลสมัด ประธานสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลาม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วมประชุมชี้แจงแนวทางการปฏิบัติสำหรับส่วนราชการในเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1434 จากสำนักจุฬาราชมนตรี เพื่อให้ทุกส่วนราชการ ยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในการสนับสนุนและส่งเสริมมุสลิมทุกคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้สามารถปฏิบัติศาสนกิจอย่างครบถ้วน ถูกต้องสมบูรณ์ เพื่อสร้างสันติสุขตลอดช่วงเดือนรอมฎอน


        นายซากีย์ พิทักษ์คุมพล เลขานุการจุฬาราชมนตรี เปิดเผยถึงช่วงเดือนรอมฎอนของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ว่า รอมฎอนปีนี้อาจได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เพราะอยู่ในช่วงการเจรจาสันติภาพ ซึ่งคนในพื้นที่มีความคาดหวังว่า การก่อเหตุความรุนแรงในช่วงดังกล่าวจะลดน้อยลงและในวันที่ 4 ก.ค. ทางสำนักจุฬาราชมนตรี ได้ส่งแนวทางปฏิบัติตัวของเจ้าหน้าที่รัฐในช่วงเดือนรอมฎอน ไปให้ทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ตามที่ทำเรื่องร้องขอมาเพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน เพราะว่าบางครั้งเจ้าหน้าที่ที่ไม่ใช่มุสลิมหรือมาจากที่อื่น อาจจะยังไม่เข้าใจในวีถี หรือการดำเนินชีวิตของคนในพื้นที่ ส่วนประเด็น นายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงการให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก คุมงานด้านฝ่ายความมั่นคงนั้น ทาง นายซากีย์ มองว่า ถ้านโยบายชัด เปลี่ยนตัวบุคคลก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ที่ผ่านมา นโยบายของรัฐบาลนี้ชัดเจนมากในเรื่องการพูดคุยสันติภาพ ดังนั้น บุคคลที่เข้ามาใหม่ ก็จะเป็นคนกำกับนโยบายดังกล่าวให้ขับเคลื่อนต่อไป
http://narater2010.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม