วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2556

โลก 'อาหรับ' กลัว 'ระบอบประชาธิปไตย ระบอบอิสลาม'

โลก 'อาหรับ' กลัว 'ระบอบประชาธิปไตย ระบอบอิสลาม'

รายงานพิเศษ: โลก 'อาหรับ' กลัว 'ระบอบประชาธิปไตย ระบอบอิสลาม'

           วานนี้ (23 ก.ย.56) ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดพัทลุง เทศบาล ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ได้จัดเวทีสัมมนาพิเศษ "วิเคราะห์สถานการณ์ ซีเรีย-อียิปต์ เพราะเราคือเรือนร่างเดียวกัน" มี นายซาฟารี ไหมหมาด ประธานศูนย์ประสานงานพัทลุง สถาบันอิสลาม มหาวิทยาลัยยะลา นายวิสูตร ออสันตินุตสกุล ฝ่ายวิชาการสำนักงานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดพัทลุง และ ดร.วิสุทธิ์ บิลลาเตะ ผอ.ศูนย์ประสานงานจุฬาราชมนตรีภาคใต้ และมีระดับผู้นำอิสลามภายในจังหวัดพัทลุง และต่างจังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมกว่า 200 คน

         นายวิสูตร ออสันตินุตสกุล กล่าวถึงเหตุการณ์ในประเทศซีเรียและอียิปต์ โดยย่อๆ ว่า เป็นเหตุการณ์สดๆ ร้อนๆ ของโลกมุสลิมในขณะนี้ แต่ขณะที่ผ่านมาสำหรับโลกประเทศอาหรับแล้ว เกิดขึ้นเกือบทุกประเทศกับเหตุการณ์ไม่แตกต่างไปจากนี้ จนมีฆ่ากันตาย โดยในระยะ 2 ปีที่ผ่าน มีคนมุสลิมตายไปแล้วประมาณ 300,000 คน

         "จึงเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาทบทวน ทำความเข้าใจ ว่ามาจากสาเหตุใด และเป็นมุสลิมที่ถูกกระทำ โดยทั้งภายนอกประเทศและจากภายในประเทศมุสลิมเอง อย่างที่ใกล้บ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อาเจ๊ะ เป็นต้น จนมาถึงจังหวัดชายแดนภาคใต้ เหตุการณ์รายวันทั้งหมดล้วนแต่กระทบถึงมุสลิมทั้งสิ้น จนเราต้องตอบคำถามกับคนต่างศาสนาไม่ถูกเหมือนกันว่า มันมาจากสาเหตุใด คนในประเทศซีเรียเอง ก็ไม่สามารถสรุปได้เช่นกันในเหตุที่ต้องฆ่ากัน เช่นเดียวกับปัตตานี คนปัตตานีก็ไม่ทราบสาเหตุเหมือนกัน"

           นายวิสูตร ยังได้มองถึงประเด็นสำคัญที่สุดที่กลุ่มประเทศอาหรับต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ คือแต่ละประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย มีแต่ชื่อว่าประชาธิปไตยเท่านั้น และก็ยังไม่มีการปกครองในระบอบอิสลามแม้สักประเทศเดียวเช่นกัน มีกันแต่ชื่อเท่านั้น

"แต่มีแต่คนคิดจะปฏิรูป แต่ผู้ปกครอง ผู้มีอำนาจกลับต่อต้านคัดค้านการปฏิรูป"

       นายวิสูตร ได้กล่าวถึงการปกครองในระบอบอิสลามที่ประสบความสำเร็จ คือประเทศอิหร่าน สามารถเปลี่ยนแปลงสำเร็จที่ได้เอาระบอบอิสลามมาปกครอง แล้วถัดมาอิหร่านก็ได้ส่งออกความคิดการปกครองระบอบอิสลามไปทั่วโลก ทั่วกลุ่มโลกอาหรับ แต่แล้วแนวคิดไปกระทบกระเทือนถึงรัฐบาลที่ปกครองอยู่ รัฐบาลก็หวั่น และขลาดกลัวการปกครองระบอบอิสลามกันทั่ว เช่นเดียวกันกับ ขบวนการภราดรภาพมุสลิม ที่จะได้นำเอาการปกครองระบอบอิสลามที่มีอยู่ทั่วโลก ก็ถูกขลาดกลัวเช่นเดียวกัน
"โลกอาหรับกลัวการปกครองระบอบประชาธิปไตย กลัวการปกครองระบอบอิสลาม โดยเฉพาะขบวนการภราดรภาพมุสลิม ในกลุ่มประเทศอาหรับ"

         นายวิสูตร กล่าวอีกว่า อย่างในเหตุที่เกิดขึ้นในประเทศซีเรีย ประเทศอียิปต์ ซาอุดีอาระเบีย และอีกหลายประเทศ ต่างลงขันส่งเงินไปสนับสนุน ที่อียิปต์คณะปฏิวัติ ที่ซีเรียก็ส่งนักโทษไปรบร่วม นอกจากกลุ่มประเทศอาหรับแล้ว ก็มีทหารกลุ่มประเทศตะวันตกผสมโรง ทั้งเป็นการบ่งบอกให้เห็นว่า รัฐบาลประเทศมุสลิมเข้าไปเกี่ยวข้อง และประเทศตะวันตกเป็นผู้ชักใย

        ทางด้าน นายซาฟารี ไหมหมาด อีกท่านหนึ่งก็กล่าวว่า ภาพรวมทั้งโลกแล้ว ที่เดือดร้อนกันตรงไหนก็ต้องเป็นมุสลิม เพราะทุกขั้นตอนมีการวางหมากกันไว้หมดแล้ว ต่างเดินตามหมาก เราไม่ต้องประณามใคร เราต้องเห็นใจอิสลาม ว่าขณะนี้ประชาชาติอิสลามถูกรุมกินโต๊ะ และมุสลิมด้วยกันกลับลงกินตัวเองด้วย

          "ตอนนี้มุสลิมโลกมีประมาณ 2,000 ล้านคน และอีกไม่นานก็เป็นอันดับ 1 ของโลก แต่ว่าในความมากของมุสลิมนั้น มันไม่ต่างกับเศษขยะ และเหมือนฟองน้ำในสายน้ำ ไม่มีน้ำหนัก"

        นายซาฟารี ยังบอกว่า โลกประเทศอาหรับนั้น ไม่มีประ ชาธิปไตย ไม่เหมือนกับประเทศไทยที่มีประชาธิปไตย แล้วหากกลุ่มประเทศอาหรับมีประชาธิปไตยเหมือนกับประเทศไทย ก็จะรุ่งเรืองเจริญอย่างยิ่ง แล้วจะไม่ใช่อยู่กันอย่างนั้น

         "โลกอาหรับกลัวอิสลาม บอกตรงๆ ประเทศไทยดีที่สุด สำหรับในโลกชาวมุสลิม อย่างในประเทศอียิปต์ ไว้เคราก็ไม่ได้ ก็หาว่าผู้ก่อการร้าย มัสยิดถูกล็อกประตู แล้วที่ถูกปฏิวัติเพราะเขากลัวอิสลาม เป้าหมายชัดเจน มีที่ไหนเขาต่อต้านการปฏิวัติกัน แต่ที่อียิปต์ไม่มีใครว่าอะไร"

        ทางด้าน ดร.วิสุทธิ์ บิลาเตะ กล่าวว่า สถานการณ์โลกอาหรับ ซีเรีย อียิปต์ เป็นไปในท่วงทำนองเดียวกัน เป็นการรุมกินโต๊ะประชาชาติอิสลาม จนมุสลิมต้องฆ่ากันเอง อย่างในประเทศอียิปต์ ประชาชนมีส่วนเลือกนายมูร์ซี เป็นประธานาธิบดี ซึ่งเป็นเสียงส่วนมาก และมีอำนาจถูกต้องเป็นธรรม มีแต่เพียงประเทศตุรกีที่ออกมาแสดงความเห็นเข้าข้างประชาชนและรัฐบาลนายมูร์ซี และประณามกลุ่มปฏิวัติ โดยได้แสดงจุดยืนมาตั้งแต่ต้นถึงขณะนี้

        "หากกล่าวถึงประเทศตุรกี จะเอาเป็นแบบอย่างได้แล้ว ซึ่งมีการปกครองบริหารประเทศจนถึงขณะนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด น่าศึกษามากที่สุดที่กลับฟื้นและผงาดขึ้นมา ประเทศของเขาได้เปลี่ยนแปลงเป็นอิสลามโดยสันติวิธี ซึ่งขณะนี้ตุรกีกำลังถูกจับตามอง เพราะกำลังขยายตัวเติบโตรุ่งเรืองโดดเด่นขึ้นอันดับ 7 ของโลก ในอีก 7 ปีข้างหน้า ในขณะที่ประเทศยุโรปกำลังจะล่มสลายลง และจะเป็นหลักให้กับกลุ่มประเทศยุโรปได้"

       นายวิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ประเทศตุรกีเป็นที่พึ่งของโลกมุสลิมได้ เรามุสลิมจำเป็นต้องเคลื่อนไหว หาไม่แล้วจะต้องสูญเสียพื้นที่มุสลิมไป

        ในขณะเดียวกัน ทางสมาพันธ์นักเรียนเก่าอียิปต์จำนวนหนึ่ง จะไปยื่นหนังสือถึงสถานทูตอียิปต์ประจำประเทศไทยที่กรุงเทพฯ จำนวน 2 ฉบับ เป็นข้อความทั้งภาษาไทยและภาษาอาหรับ หัวข้อคือ แถลงการณ์ประณามการปฏิวัติ ล้มล้างระบอบประชาธิปไตย และการเข่นฆ่าคนอียิปต์ ในวันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2556 นี้ ในนาม "เราต้องขอดุอาอ์จากเอกองค์อัลเลาะห์ ให้คุ้มครองประชาชนชาวอียิปต์"


โดย อัสวิน ภักฆวรรณ
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
http://narater2010.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม