วันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

นโยบายบิดเบือนความจริงของขบวนการ BRN


‘อิมรอน’

หากใครเล่นเฟสบุ๊ค และได้ติดตามเรื่องราวข่าวสารในพื้นที่ จชต. ในระยะนี้จะพบว่ามีการเคลื่อนไหวของ “เพจผี” ซึ่งเป็นสื่อแนวร่วมโจรใต้ฟาตอนีไม่เว้นแต่ละวัน ล่าสุดเว็บเพจ Patani Jurnal ได้เผยแพร่ข้อความการเสียชีวิตของคนไทยพุทธที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อ 6 ก.พ.58 อ้างว่า “ทหารไทยไม่สามารถปกป้องประชาชนของตนเองได้ นับตั้งแต่เกิดเหตุความไม่สงบ” มีประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมากเสียชีวิตและบาดเจ็บ สมควรหรือไม่ที่จะให้ทหารอยู่ในพื้นที่ต่อไป ปัญหาความรุนแรงในปาตานีจะไม่ยุติจนกว่าจะได้รัฐปาตานีคืนมา และการที่คนไทยมุสลิมยอมเป็นอาสาสมัครให้กับรัฐไทย อาสาสมัครดังกล่าวก็จะตกเป็นเหยื่อเหตุรุนแรง ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐไทย ที่ต้องการให้คนมุสลิมฆ่ากันเอง นี่เป็นวิธีการของรัฐไทย”

ปีนี้เป็นปีที่ 2 ที่แนวร่วมโจรใต้ฟาตอนียังคงเดินหน้านโยบาย “รัฐสยามเฟลเสต็ด (fale state)” โดยบิดเบือนข้อเท็จจริง โจมตีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ลดทอนความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่ออำนาจรัฐ และโจมตีนโยบายในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ จชต. พร้อมกับชี้นำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

Propaganda หรือ “โฆษณาชวนเชื่อ” ซึ่งเป็นภาคหนึ่งของการชิงความได้เปรียบในสงคราม เวลามีการสู้รบปรบมือกับใคร แทนที่จะสู้กันซึ่งๆ หน้าเพียงอย่างเดียว ก็ต้องมีการต่อสู้กันในเชิงข้อมูลข่าวสารเพื่อปลุกขวัญกำลังใจ ตีแผ่ความดีและความสำเร็จของฝ่ายตน ในขณะเดียวกันก็ตอกย้ำความเลวร้ายหรือความไม่ถูกต้องของฝ่ายตรงข้ามไปด้วย

การโฆษณาชวนเชื่อ ในยุคหลังๆ พัฒนาไปตามเครื่องมือสื่อสารและเทคโนโลยี ในยุคปัจจุบันอินเทอร์เน็ตและสื่อ Social Media ได้เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะ “เฟซบุ๊ค” เป็นช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลฝ่ายตน ซึ่งขยายเขตงานเข้าไปในโลกออนไลน์เพิ่มมากขึ้น สังเกตได้จากระยะหลัง มีการบิดเบือนข้อมูล

ด้วยการโยนความผิดให้กับเจ้าหน้าที่รัฐถี่ขึ้น และการปฏิบัติการเริ่มออกสู่สาธารณะ ทั้งนี้เพื่อสนองนโยบายขบวนการ BRN ในการบิดเบือนความจริงตั้งแต่ปี 47 เป็นต้นมาอย่างชัดเจน
ขอบอกว่า...การโฆษณาชวนเชื่อไม่ใช่วิธีการแย่งชิงมวลชนที่แท้จริง แต่ในการต่อสู้ด้วยความดี ความจริง (ใจ) และความถูกต้อง เคารพกฎหมาย ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนต่างหาก ที่จะครองใจประชาชนอย่างยั่งยืน!

สงครามมวลชน ( ปือรังมาซา ) ของขบวนการฯ กำลังจะเสื่อมถอย

คนนอกพื้นที่ต่างมองคนมลายูปาตานีในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าสุดโต่ง ส่งผลให้ความเชื่อมั่น ในคุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรมหมดสิ้นไปด้วยฝีมือของโจรใต้เอง กลายเป็นปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นในสังคมมลายูปาตานี ซึ่งมิใช่ปัญหาทางเศรษฐกิจแต่เพียงอย่างเดียว หากเป็นปัญหาทางด้านจิตใจและจิตวิญญาณ สังคมมลายูปาตานีกลายเป็นสังคมที่ขาดความสงบสุขไปในที่สุด

กระแสความเสื่อมทางศาสนา, เศรษฐกิจ และสังคมด่ำดิ่งลึกลงสู่ก้นเหว มีผลกระทบต่อผู้คนในระดับรากหญ้า เป็นความล่มสลายที่เกิดขึ้นจากระบบผลประโยชน์ของขบวนการฯ อันเป็นสาเหตุให้ประชาชนมลายูปาตานีมีฐานะที่จนลง และอ่อนแอจนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้

ปัจจุบันโครงสร้างองค์กรของขบวนการฯ ที่ทำการต่อสู้ในปาตานีได้เริ่มเสื่อมลง เพราะขาดมวลชนสนับสนุนไปเป็นจำนวนมาก ประชาชนมลายูปาตานีส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง จึงเริ่มมีความเสื่อมศรัทธาต่อนักรบ โดยเฉพาะโครงสร้างฝ่ายมวลชน, ฝ่ายการเมือง, ฝ่ายเศรษฐกิจ, ฝ่ายสตรี และหมู่บ้านจัดตั้งก็ไม่มีใครให้ความสำคัญ ยกเว้นฝ่ายทหารที่คงยังมีกำลังอยู่ แต่ก็ไม่ได้วิเศษวิโสและไม่ได้มีพลังตามที่เราเข้าใจกัน เพราะเจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตามจับกุมผู้กระทำผิด บ้างก็ถูกวิสามัญ และมีบางส่วนได้หลบหนีออกนอกประเทศไปกบดานยังประเทศเพื่อนบ้าน และในปัจจุบันมีผู้หลงผิดจำนวนมากที่ได้กลับตัวกลับใจเป็นคนดีในการเข้ามารายงานตัวแสดงตนต่อทางการเพื่อเข้ามาช่วยเหลือสังคม ช่วยกันพัฒนาถิ่นเกิด

ฉะนั้นแนวร่วมที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ ก็ขอให้กลับตัวกลับใจหันหน้ามาทำประโยชน์ต่อบ้านเมือง เพราะตอนนี้มวลชนมลายูปาตานีเองไม่มีใครที่จะให้ความร่วมมือต่อขบวนการฯ ร่วมมือไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร 10 ปีที่ผ่านมาไม่มีอะไรดีขึ้นเลย นอกจากได้รับความเดือดร้อนในการทำมาหากิน แต่ประชาชนมลายูปาตานีต้องการให้ผู้ที่อยู่ในขบวนการฯ สำนึกผิดกลับตัวกลับใจเป็นคนดีสู่สังคม และรอเวลานั้น ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่วิกฤติอันตรายกลายสภาพเป็น...นักรบฟาตอนีเป็นผู้ก่อการร้ายสากล (ไม่ใช่วีรบุรุษตามที่เราเข้าใจ)
ความเคลื่อนไหวล่าสุดเว็บเพจ Patani Darussalam News อ้างเหตุยิงคนไทยมุสลิมในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา และ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อ 10ก.พ.58 เป็นการกระทำของทหารที่ต้องการคงงบประมาณในพื้นที่ จชต. ปาตานีจะไม่เกิดสันติสุขหากทหารยังสามารถดำเนินการใดๆ ได้ตามอำเภอใจ
ส่วนเว็บเพจ Patani jurnal ระบุคนมุสลิมปาตานีที่ถูกยิงเป็นเหยื่อการเมืองในการสร้างสันติสุขของรัฐบาลไทย

ไม่แปลกใจหรอก!! ที่สื่อโจรใต้ฟาตอนีเหล่านี้ได้ออกมาแก้ตัวอย่างหน้าด้านๆ เมื่อโจรใต้ RKK ได้ปฏิบัติการก่อเหตุในพื้นที่ด้วยการลอบทำร้ายต่อเป้าหมายอ่อนแอ รวมทั้งการลอบยิงชาวไทยมุสลิมด้วยกันเองในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา และ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อ 10 ก.พ.58 ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้ยังมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง เพื่อสร้างความหวาดกลัว ความหวาดระแวงให้เกิดขึ้นระหว่างพี่น้องชาวไทยพุทธ-ไทยมุสลิม และต้องการให้ประชาชนเกิดความไม่ไว้วางใจต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ

ที่กล่าวมาคือเป้าหมายแรกที่ขบวนการเหล่านี้ต้องการจะสื่อ ประการต่อมาเป็นการกล่าวหาว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่เพื่อต้องการคงงบประมาณดับไฟใต้ พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงการเสียชีวิตของประชาชนเป็นเหยื่อทางการเมืองในกระบวนการสร้างสันติสุข

ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมบุคคลเหล่านี้ถึงได้กลัวนักหนากับการเดินหน้าสร้างสันติสุขของรัฐบาลไทยกับกลุ่มผู้คิดต่างจากรัฐ แน่นอนหากสันติสุขเกิดขึ้นการวางแผนที่ได้มีการตั้งธงไว้แล้วล่วงหน้าในการต่อสู้ของระดับแกนนำเป็นอันต้องพังพาบลง ก่อนหน้านั้นได้มีการใช้ปีกการเมืองอย่าง PerMAS ในการรณรงค์ ปลุกกระแสความรักชาติปาตานี ชี้นำให้มีการลงประชามติเพื่อกำหนดใจตนเอง แยกตัวเป็นอิสระนำไปสู่เอกราชจะต้องเป็นหมัน

นี่คือพฤติกรรมความชั่วร้ายของกลุ่มขบวนการ และองค์กรแนวร่วมที่ได้มีการบูรณาการในการแยกกันเดิน รุมกันตี..เพื่อทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาล มุ่งไปสู่เป้าหมายอันเดียวกัน คือ “เอกราช” เพียงอย่างเดียวเท่านั้น….โดยยังคงนโยบายในการบิดเบือนความจริง แหกตาประชาชนมลายูปาตานีต่อไป...ตราบใดที่พื้นที่แห่งนี้ยังไม่เกิดสันติสุขอย่างแท้จริง...

-------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม