วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558

ขดดะรี บินเซ็น กับภารกิจปกป้องโรงเรียนสอนศาสนา


‘อิมรอน’
http://pulony.blogspot.com/2015/03/blog-post_12.html

การจัดการศึกษาในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมีสถานศึกษาอยู่ 3 ระดับด้วยกัน คือ โรงเรียนตาดีกา หรือศูนย์อบรมจริยธรรมในมัสยิด มีจำนวน 2,230 แห่ง ดูแลเด็กช่วงอายุ 4-12 ปี, สถาบันปอเนาะ จำนวน 427 แห่ง จะมุ่งเน้นการเรียนการสอนด้านศาสนา เพื่อให้จบมาเป็นบุคลากรทางศาสนาในพื้นที่ และโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม จำนวน 360 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่ยกระดับมาจากสถาบันปอเนาะ สอนสายสามัญเหมือนโรงเรียนปกติของรัฐ แต่จะมีการสอนศาสนาควบคู่กันไปด้วย

นายขดดะรี บินเซ็น ประธานสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษ "ทีมข่าวอิศรา" จวกรัฐบาลว่ามองโรงเรียนสอนศาสนาในแง่ลบมาตลอด ทำไมเมื่อเกิดเหตุความไม่สงบทีไรมักจะโยนผิดให้กับโรงเรียนเหล่านี้ทุกที แต่เวลามีนักการเมืองคอรัปชั่น ทำไม? ไม่โทษสถาบันที่พวกเขาเคยเรียนบ้าง

นายขดดะรีฯ ยังชี้ต่ออีกว่าเหตุการณ์แต่ละเหตุที่เกิดขึ้นมีประเด็นคำถามซ้อนกันอยู่ 2 ประเด็น ซึ่งเป็นเงื่อนแง่ย้อนแย้งกัน และต่างฝ่ายต่างนำมาปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารตอบโต้ซึ่งกันและกัน คือ
1.ทำไมฝ่ายรัฐจึงต้องเข้าไปกระทำความรุนแรงในสถานบันปอเนาะ หรือสถาบันการศึกษาที่มีความเชื่อมโยงกับวิถีอิสลามและวิธีคนมลายูมุสลิม
2.เหตุใดสถาบันการศึกษาเหล่านี้บางแห่งจึงยังถูกใช้เป็นสถานที่หลบซ่อนตัว ซ่อนอาวุธ หรือแม้แต่บ่มเพาะแนวคิดต่อต้านรัฐโดยใช้ความรุนแรง

ทั้งสองประเด็นเป็นความจริงที่ยากจะปฏิเสธ และจะต้องหาทางออกร่วมกันของทุกฝ่าย ซึ่งการที่นายขดดะรี บินเซ็น ประธานสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกมาเคลื่อนไหวปกป้องถือได้ว่ามีความกล้าเป็นอย่างยิ่ง

แต่ถ้าจะให้ดีไปกว่านี้ในฐานะประธานสมาพันธ์ฯ จะต้องมีมาตรการในการควบคุมดูแลโรงเรียนสมาชิกในสังกัดไม่ให้โรงเรียนเหล่านั้นใช้สถาบันที่เด็กเคารพบูชาเป็นแหล่งบ่มเพาะของกลุ่มขบวนการ เพื่อให้โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาเกิดการยอมรับจากทุกฝ่าย ที่สำคัญหน่วยงานภาครัฐพร้อมให้ความร่วมมือ แต่ก่อนที่จะให้คนอื่นยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ถามตัวเองก่อนว่ากล้าพอเปิดประตูโรงเรียนเผยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่ปิดบังซ่อนเร้นเป็นแดนลึกลับสนธยาเหมือนดั่งเช่นที่ผ่านมาหรือไม่?

“โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ซึ่งมีสมาชิกมากถึง 300 กว่าโรง มีสถานศึกษาบางแห่งในพื้นที่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือเป็นแหล่งพักพิงบ่มเพาะกลุ่มก่อความไม่สงบจริง แต่ต้องเข้าใจว่าเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น” นี่คำกล่าวที่ “นายขดดะรี บินเซ็น” ยอมรับว่ามีอยู่จริง

และการยอมรับดังกล่าวข้างต้นคือหลักฐานชิ้นสำคัญที่ไม่ต้องมานั่งถกเถียงกันให้เสียเวลาต่อไปอีกแล้ว ในเมื่อประธานสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้การันตียืนยันว่าโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มขบวนการจริง

นายขดดะรี บินเซ็น ได้กล่าวถึง "เรื่องผู้ก่อการร้าย อย่าพูดลอยๆ ว่าอยู่กับโรงเรียนเอกชน ขอให้นำข้อมูลมาให้พวกผม แล้วผมจะไปเอาตัวมาส่งให้ ไม่ต้องเอากำลังมาปิดล้อม หรือบุกเข้ามา จนทำให้เด็กๆ ตกใจ บางคนแค้นใจ เพราะไปบุกรุกสถานที่ที่เขาเคารพบูชา"

เจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้เป็นผู้ที่สร้างรอยด่างให้กับสถาบันสอนศาสนาของท่านหรอกครับ ถามจริงๆ เถอะว่าการที่กลุ่มขบวนการใช้สถาบันปอเนาะ และโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามเป็นแหล่งบ่มเพาะ ใช้เป็นแหล่งหลบซ่อนตัวซุกซ่อนอาวุธ อีกทั้งบางแห่งใช้เป็นแหล่งในการผลิตวัตถุระเบิดท่านไม่มีข้อมูลรายละเอียดเลยหรือ!!



ตัวอย่างสถาบันปอเนาะที่ถูกสั่งปิดเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการสถาบันการศึกษาเอกชนสอนศาสนา เนื่องจากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่พบอุปกรณ์ผลิตวัตถุระเบิด และใช้สถาบันปอเนาะเป็นที่พักพิง มีการซ่องสุมกำลังของผู้ก่อเหตุรุนแรง จำนวน 2 โรงด้วยกัน คือ โรงเรียนญิฮาดวิทยา หรือปอเนาะญิฮาด อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี และปอเนาะสะปอม หรือโรงเรียนอิสลามบูรพาอำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส

ในเวลาต่อมา ปปง. มีมติให้ยึดทรัพย์โรงเรียนอิสลามบูรพาชั่วคราว เนื่องจากมีการใช้สถานที่ของโรงเรียนเป็นสถานที่สนับสนุนการก่อการร้าย อีกทั้งอายัดทรัพย์สินที่ดินโรงเรียนปอเนาะญิฮาดวิทยา อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 14 ไร่ มูลค่ากว่า 600,000 บาท ภายหลังตรวจสอบพบว่ามีการใช้สถานที่แห่งนี้สนับสนุนการก่อความไม่สงบของกลุ่มผู้ก่อการร้าย โดยใช้เป็นสถานที่ปลูกฝังแนวคิด ฝึกวิชาทหารและอาวุธ เพื่อเป็นกองกำลังของผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงถือเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐาน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542


9 มกราคม 2558 เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง บริเวณโรงเรียนยุวอิสลาม บ้านน้ำใส ตำบลลุโบะยิไร อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ความนุ่มนวลเลี่ยงการใช้ความรุนแรง มีการเกลี้ยกล่อมโดยเจ้าหน้าที่เอง ผู้นำศาสนาในพื้นที่ และบาบอเจ้าของโรงเรียน เวลาผ่านไป 9 ชั่วโมง มีผู้ออกมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่เพียงแค่ 3 คน แต่ที่เหลือภายในบ้านกลับประกาศกร้าวจะต่อสู้ไม่ยอมมอบตัว พร้อมได้ขว้างลูกระเบิดและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ในวินาทีต่อมาจึงเกิดการปะทะกันขึ้นทั้งๆ ที่เจ้าหน้าที่ไม่อยากจะทำ หลังสิ้นเสียงปืนเมื่อเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิตจำนวน 3 ราย คือนายมะรูดิน ตาเฮ ผกร. ระดับหัวหน้า Kompi มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 5 หมาย, นายปาตะ ลาเต๊ะ ผกร.ระดับปฏิบัติการมีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 3 หมาย และนายมาหะมะซาบรี ดอเล๊าะ ผกร. ระดับปฏิบัติการ เพื่อนของนายบัดรุดีน แจ๊ะแว ลูกชายของบาบอโรงเรียนปอเนาะยุวอิสลามวิทยามูลนิธิ แต่ยังมีผู้ก่อเหตุรุนแรงอีก 2 ราย ได้อาศัยความชุลมุนตอนเกิดเหตุปะทะสามารถหลบหนีไปได้




18 กุมภาพันธ์ 2558 หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมช่วยส่วนรวม ได้รับแจ้งจากประชาชนผู้หวังดีในพื้นที่ว่านายอับดุลเลาะ สาแม ผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี และเป็นบุคคลตามหมายจับ ป.วิอาญา ได้เข้ามาหลบซ่อนพักพิงภายในสถาบันศึกษาปอเนาะนัฮฏอตุลอุลูมิดดีนียะฮ์ (ปอเนาะประตูช้าง) ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านอาโห หมู่ 5 ตำบลสะดาวา อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี

ผลการเข้าตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตรวจยึดอาวุธปืน AK-102 ได้ จำนวน 2 กระบอก และอุปกรณ์อื่นๆ อีกหลายรายการ ได้แก่ ศูนย์ปรับระยะแบบพับได้ติดปืนยาว จำนวน 1 ชุด, กล้องช่วยเล็งติดปืน จำนวน 1 ชุด, หมวกแก๊ป เจ้าหน้าที่ EOD, สายไฟ 1 ม้วน ยาวประมาณ 800 เมตร, ดีเลย์สวิต ( คล้ายอุปกรณ์ใช้กดระเบิดแสวงเครื่อง 2 ตัว ) และปุ๋ยยูเรีย ประมาณ 0.5 กิโลกรัม

การปลูกฝังแนวความคิดบิดเบือนประวัติศาสตร์ การปลุกกระแสความรักชาติปาตานี ในลักษณะบิดเบือนภายในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม หรือโรงเรียนปอเนาะ ตาดีกา เพื่อให้เยาวชนมุสลิมมีความเกลียดชังเจ้าหน้าที่รัฐ และชาวไทยพุทธยังคงดำเนินต่อไป อย่างเช่นสถาบันศึกษาปอเนาะมะหัดดารุล มูฮายีรีน บ้านสวนซิก ม.4 (บ้านย่อยบ้านบละแต) ตำบลบาโงสะโต อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส มีการขีดเขียนข้อความด้วยปากกาที่โต๊ะภายในห้องเรียน,ห้องละหมาด ข้อความว่า “กูเป็นนักรบฟาตอนี, กูฟาตอนี, RKK, กูรักฟาตอนีไปอยู่ฟาตอนีไลปีๆ”

นอกจากนี้ยังมีบอร์ดหน้าห้องฝ่ายวิชาภาษาอังกฤษโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา มีแผ่นป้ายโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐติดอยู่ เป็นที่น่าสังเกตว่าทำไมจึงมีการติดแผ่นป้ายดังกล่าว อาจจะเป็นไปได้ว่าฝ่ายวิชาภาษาอังกฤษจะต้องรับรู้เรื่องการติดแผ่นป้ายข้อความ หรืออาจจะไม่กล้ายุ่งกับแผ่นป้ายโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐเนื่องจากผู้บริหารของโรงเรียนรู้เห็นเป็นใจ

รัฐบาลไทยไม่เคยมองสถาบันการศึกษาด้านศาสนาในแง่ลบทั้งหมด ซึ่งโรงเรียนที่ดีมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปก็มีให้เห็น ไม่ได้เหมารวมตามที่นายขดดะรี บินเซ็น กล่าวอ้าง สถาบันการศึกษาสอนศาสนามีคุณูปการมากมายต่อพี่น้องมลายูปาตานี ในแง่ของความคิด ความเชื่อ แต่กลับกลายเป็นว่ามีการยุยงปลุกปั่นให้ประชาชนในพื้นที่มองว่ารัฐใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ รวมทั้งชี้นำให้เห็นว่ามีการลบหลู่ในสิ่งที่พี่น้องมุสลิมเคารพศรัทธา

ทั้งหมดทั้งสิ้นที่นายขดดะรี บินเซ็น ประธานสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้สัมภาษณ์พิเศษ "ทีมข่าวอิศรา"(สื่อที่เอนเอียงเสนอข่าวสารสนับสนุนกลุ่มขบวนการ) ได้บ่งชี้จุดยืนของเขาผู้นี้อย่างชัดเจนในการออกมาปกป้องโรงเรียนในสังกัดสมาพันธ์ “โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาข้าใครอย่าเตะ!!!”แล้วบ้านนี้เมืองนี้จะเดินหน้าแก้ปัญหาไฟใต้กันอย่างไร นี่คือวิสัยทัศน์ของประธานสมาพันธ์ ที่คิดถึงแต่เรื่องผลประโยชน์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่ได้คิดช่วยแก้ปัญหาองค์รวมให้กับโรงเรียนสอนศาสนาส่วนใหญ่ที่เป็นโรงเรียนที่ดี....อย่างนี้ปลาตายตัวเดียวเหม็นทั้งเข่งครับ...พ่อแม่พี่น้องผู้ปกครองที่ฝากอนาคตบุตรหลานไว้กับสถาบันปอเนาะอื้อฉาว ลองคิดแยกแยะวิเคราะห์กันเอาเอง...ว่าบุตรหลานท่านมีความสุ่มเสี่ยงที่จะตกเป็นเป้าหมายในการบ่มเพาะในสถาบันสอนศาสนา..ให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงหรือไม่?.....

-----------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม