วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558

หยุดสนับสนุน โจรกษฏ ฟาตอนี หยุดใช้สถาศึกษาเป็นเครื่องมือ


หยุดสนับสนุน โจรกษฏ ฟาตอนี หยุดใช้สถาศึกษาเป็นเครื่องมือ

            ปอเนาะนัฮฎอตุลอุลูมิดีนียะฮ์ หรือ“ปอเนาะประตูช้าง” มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการหรือไม่? ยังคงเป็นปัญหาคาใจหลังจากเจ้าหน้าที่ทหารบุกค้นถึงสองวันเต็มได้ของกลางเพียบ

         นอกจาก “อาเยาะ”ที่กลุ่มขบวนการได้ใช้เป็นแหล่งบ่มเพาะแล้ว หน่วยงานความมั่นคงยังประเมินและตกผลึกว่า กลุ่มขบวนการยังมีการใช้ “สถาบันปอเนาะ”และโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาเป็นแหล่งบ่มเพาะทางความคิดให้กับเยาวชนที่อยู่ในวัยเรียนต่อต้านอำนาจรัฐ จึงไม่น่าแปลกใจที่ยังคงมี “นักรบรุ่นใหม่”ถูกผลิตออกมาทำการเคลื่อนไหวก่อเหตุเย้ยกฎหมายรัฐบาลไทยมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา

        จาก...ข่าวครึกโครมโด่งดังครั้งแล้วครั้งเล่าที่มีการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อาศัยสถาบันปอเนาะเข้าไปหลบซ่อนตัว ซึ่งในบางครั้งได้เกิดการปะทะกันขึ้นนำไปสู่การสูญเสีย  และล่าสุดเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้น สถาบันปอเนาะนัฮฎอตุลอุลูมิดีนียะฮ์ ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 5 บ้านอาโห ตำบลสะดาวา อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 18, 19 กุมภาพันธ์ 2558

         ซึ่งการปิดล้อมปอเนาะ สืบเนื่องมาจากได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า นายอับดุลเลาะ สาแม บุคคลเป้าหมาย ป.วิอาญา ได้เข้ามาหลบซ่อนพักพิงภายในสถาบันปอเนาะ นัฮฎอตุลอุลูมิดีนียะฮ์ (ปอเนาะประตูช้าง) หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม ช่วยส่วนรวม และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 จึงได้เข้าติดตามจับกุมและบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งบุคคลเป้าหมายอาจจะไหวตัวทันได้ทำการหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการติดตามจับกุม

         ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มโจรใต้ฟาตอนีใช้สถาบันปอเนาะเป็นแหล่งซ่องสุมกำลัง ใช้เป็นที่หลบซ่อนตัว ซ่อนอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ พอเรื่องอื้อฉาวขึ้นมาถูกกระชากหน้ากากที่แท้จริงให้สังคมรับรู้ กลับมาตีโพยตีพายโดนกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้าที่รัฐ

        การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในการเข้าติดตามจับกุมโจรใต้ฟาตอนีในสถาบันปอเนาะประตูช้างไม่ได้สูญเปล่าจากการที่บุคคลเป้าหมายได้ไหวตัวหลบหนีไปเสียก่อน แต่เมื่อมีการขยายผลพิสูจน์ทราบกลับพบอาวุธปืนสงคราม และอุปกรณ์ประกอบระเบิด รวมทั้งสิ่งของต้องสงสัยจำนวนทั้งสิ้น 95 รายการด้วยกัน

        เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 8 คน หลังดำเนินการซักถามหาข้อเท็จจริงได้ปล่อยตัวไป 5 คน และได้ออกหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 3 คน เพื่อทำการขยายผลซักถามหาข้อมูลความเชื่อมโยง

        มาฟังกันชัด ๆ จากปากของผู้ต้องสงสัยที่ยอมปริปากยืนยันว่าผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ใช้สถาบันปอเนาะประตูช้างเป็นแหล่งหลบซ่อนตัว ขอให้ประชาชนร่วมเป็นผู้ตัดสินว่าปอเนาะนัฮอตุลอุลูมิดียะฮ์ หรือปอเนาะประตูช้างของท่านบาบอมะรอบีมีส่วนเกี่ยวข้องขบวนการหรือไม่!!!

        นายอับดุลเล๊าะ สตาปอ ได้ให้การว่า นายซอบือรี เจะหะ ผู้ก่อเหตุรุนแรงหัวหน้าชุดปฏิบัติการ RKK ได้มาหลบซ่อนตัวภายในห้องพักของนายมะ (ไม่ทราบชื่อ/สกุลจริง) ภายในปอเนาะประตูช้าง  

        นายอับดุลเล๊าะฯ และนายมะรอยี เจะสะมาแอ ได้ยืนยันตรงกันว่าเคยพบเห็นนายอับดุลเลาะ สาแม เดินป้วนเปี้ยนในสถาบันปอเนาะประตูช้าง พร้อมทั้งมาซื้อของใช้ส่วนตัวในร้านสหกรณ์ และได้พักอาศัยภายในปอเนาะ

       ส่วน นายสับรี บาเหะ ยอมรับสารภาพว่ากล้องเล็งปืนที่ตรวจค้นเจอในห้องพักเป็นของตนจริง แต่ได้ถูกขโมยไป มีการออกตัวว่าสิ่งของที่ค้นเจอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถาบันปอเนาะแต่อย่างใด




         บาบอมะรอบี โต๊ะครูสถาบันปอเนาะนัฮฎอตุลอุลูมิดีนียะฮ์ได้ให้สัมภาษณ์ นสพ.ผู้จัดการออนไลน์ภาคใต้ ASTV เนื้อหามีการกล่าวถึงการปิดล้อมตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ในประเด็นต่าง ๆ ซึ่งสื่อมวลชนได้นำมาเขียนข่าวทำการขยายผล และที่สำคัญสำนักข่าวอิศรา ที่ได้มีการเขียนข่าวเอนเอียงสนับสนุนกลุ่มขบวนการมาโดยตลอดได้มีการเขียนบทความในลักษณะกระแหนะกระแหน พร้อมได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่าเป็นผลงานชิ้นโบแดงสะท้อนความสำเร็จของฝ่ายความมั่นคง โดยเป็นเพียงข้อมูลด้านเดียวซึ่งเจ้าหน้าที่เป็นผู้เปิดเผย และอยากฟังความข้างโต๊ะครู

        ขอให้ประชาชนคิดอย่างมีสติ และจงเข้าใจ

         .....กรณีการตรวจค้นสถาบันปอเนาะของเจ้าหน้าที่ในวันนั้น หากไม่มีข้อมูลไม่มีใครกล้าเสี่ยงหรอกครับ และพยานหลักฐานที่ทำการตรวจยึดได้ก็ชัดเจน อีกทั้งคำสารภาพของผู้ต้องสงสัยที่ได้มีการเชิญตัวมาซักถามก็ ยืนยันว่าปอเนาะประตูช้างเป็นแหล่งพักพิงหลบซ่อนตัวของโจรใต้ฟาตอนีจริง



         “บาบอมะรอบี”ในฐานะเจ้าของปอเนาะปัดความรับผิดชอบไม่ได้หรอกครับ แต่หากดูท่าทีของท่านบาบอแล้วกลับไม่พอใจกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เหมือนต้องการจะบอกกับประชาชนว่า...เจ้าหน้าที่ได้พยายามกล่าวหา และยัดเยียดตนและสถาบันปอเนาะ

        โจรใต้ฟาตอนีที่มีหมายจับ ป.วิอาญา มีอิสระเข้าออกตามอำเภอใจในสถาบันปอเนาะของท่าน แล้วจะให้สังคมคิดอย่างไร ซึ่งกับการออกมากล่าวว่าตัวเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เลย...เหตุผลฟังไม่ขึ้น 

         วัตถุพยานหลักฐาน และคำสารภาพของผู้ต้องสงสัยคือสิ่งบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าสถาบันปอเนาะ (ของท่าน) ยังคงเป็นแหล่งบ่มเพาะของกลุ่มขบวนการ และมีความพยายามจากบุคคลบางกลุ่มได้เคลื่อนไหวไม่ให้เจ้าหน้าที่ไปเตะต้องสถาบันปอเนาะ มีความอ่อนไหวต่อความรู้สึกเพราะเกี่ยวข้องกับศาสนา 

         เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่กล้าเข้าทำการตรวจสอบกลุ่มขบวนการจะใช้เป็นที่หลบซ่อนตัว ซุกซ่อนอาวุธได้ตามอำเภอใจ ในเมื่อ..รู้อย่างนี้แล้วคิดว่าสถาบันปอเนาะนัฮฎอตุลอุลูมิดีนียะฮ์หรือสถาบันอื่นๆ อีกหลายโรงมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการฯ หรือไม่ 

ผู้เขียนคิดว่าผู้อ่านน่าจะมีคำตอบอยู่แล้วอยู่ในใจกันแล้วนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม