วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ลูกหัวหน้า BRN เรียนอยู่ในกรุงเทพฯ ลูกหลานฟอตอนนี เรียนปอเนาะ และเป็นขี้ข้า BRN



“นักรบยูแว” คือโจรใต้ที่ BRN หลอกใช้

       “นักรบยูแว” ที่ได้มีการกระทำพิธีซุมเปาะห์ หลายต่อหลายคนไม่รู้ศาสนา ถูกกลุ่มขบวนการหลอกให้เข้าร่วมทำการก่อเหตุ และมีความเชื่อว่าเมื่อมีการซุมเปาะห์ หรือสาบานตนแล้วไม่อาจลบล้างหรือคืนคำได้ เนื่องจากคนที่ซุมเปาะห์ได้ปฏิญาณต่อหน้าคัมภีร์ที่หมายถึงตัวแทนพระเจ้า การละทิ้งหรือถอนคำสาบานถือว่าเป็นบาปใหญ่ยิ่ง

      จากการไม่รู้ศาสนา และมีความเข้าใจที่ผิด ๆ ถูก ๆ กลับกลายเป็นช่องว่างให้กลุ่มขบวนการแสวงประโยชน์ ด้วยการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนาขึ้นมา โดยใช้อุสตาดที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นที่เคารพนับถือ ทำการบรรยายชักนำให้มีการเข้าร่วมขบวนการ และนำไปสู่การกระทำพิธีซุมเปาะห์ หลังกระทำพิธีเสร็จสรรพ อุสตาดได้สร้างความฮึกเหิมแก่นักรบยูแวรุ่นใหม่ 'คนมลายูใช่ว่าจะได้ร่วมยูแวกันได้ทุกคน'

      พิธีซุมเปาะห์ โดยอุสตาดให้ผู้ที่จะเข้าร่วมพิธีสาบานตนทำการกรีดเลือดตนเองหยดลงในขันน้ำ ขณะที่อุสตาดผู้กระทำพิธีกล่าวคาถาด้วยภาษาที่ฟังไม่เข้าใจ ผู้เข้าร่วมพิธีจับมือขวากันวางไว้บนคัมภีร์กลางวงล้อม และกล่าวตาม หลังจากนั้นให้ทุกคนร่วมกันดื่มน้ำในขันใบนั้น เมื่อดื่มน้ำเสร็จพิธีกรรมอันเป็นเสร็จสิ้นสมบูรณ์

        เป็นอันว่าสมาชิกเหล่านี้ได้เข้าร่วมขบวนการอย่างเต็มตัว หลังจากนั้นมีการฝึกฝนทั้งทางร่างกายและจิตใจ มีการสร้างกำลังใจต่อผู้ที่ผ่านการซุมเปาะห์แล้วว่าไม่ต้องเกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น แม้กระทั่งอาวุธของศัตรูก็ไม่สามารถทำร้ายร่างกายได้

       แต่ในทางกลับกันหากผู้ใดไม่รักษาซุมเปาะห์ กระสุนปืนที่อยู่ก้นขันที่กระทำพิธีจะกลับเข้าหาตัวเอง นักรบยูแวจะได้รับการฝึกด้วยอาวุธตามยุทธวิธีทั้งการรบแบบหน่วยทหารขนาดเล็ก และการรวมกันเป็นกองกำลังขนาดใหญ่เข้าตีเป้าหมายสำคัญ รอออกปฏิบัติการตามสั่งการของระดับแกนนำต่อไป
การซุมเปาะห์ไม่มีในศาสนาอิสลาม จะมีก็แต่การเนี๊ยต หรือการตั้งเจตนาก่อนที่จะกระทำใดๆ ตามที่อัลลอฮ์สั่ง ซึ่งถ้าหากไม่สามารถที่จะทำตามที่ตั้งเจตนานั้นได้ สามารถที่จะชดเชยความบกพร่องเหล่านั้นด้วยการบริจาคซะกาต หรือการถือศีลอด 

      ส่วนการซุมเปาห์ที่มีลักษณะสาบานไม่ว่าต่อหน้าสิ่งใด ๆ ก็ตาม ซึ่งเป็นลักษณะที่จะให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นใดนอกจากอัลลอฮ์บันดาลให้เกิดความเป็นไปต่างๆ นั้นเป็น “ซีริก” ผิดหลักศาสนา เพราะศาสนาอิสลามไม่มีสิ่งอื่นใดที่ยิ่งใหญ่ และบันดาลสิ่งต่างๆ นอกจากอัลลอฮ์เพียงองค์เดียว และอีกประการหนึ่ง การซุมเปาะห์ หรือสัญญาที่จะร่วมกันทำในสิ่งที่อัลลอฮ์ห้าม มันย่อมโมฆะด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว

      การถอนซุมเปะห์ของบรรดาเหล่านักรบยูแวที่มีการกล่าวถึงนั้น แท้จริงแล้วเป็นการกระทำเพื่อความสบายใจ ซึ่งขั้นตอนนั้นบาบอได้กล่าวนำวลีเจตนาในการปฏิบัติเพื่อชดเชยความผิดพลาดในสิ่งที่ผ่านมา เมื่อมีการกล่าวจบ บาบอยกมือทั้งสองข้างหงายฝ่ามือเข้าหาใบหน้ากล่าวดุอาร์ด้วยภาษาคัมภีร์ ทั้งผู้ที่เข้าถอนซุมเปาะห์และผู้เข้าร่วมพิธีที่อยู่ ณ ตรงนั้นจะทำตาม จนกระทั่งบาบอเอาฝ่ามือแตะที่ใบหน้า และยื่นมือทั้งสองให้ผู้เข้ารับการถอนซุมเปาะห์จับอีกครั้งหนึ่ง เป็นอันเสร็จพิธี หลังจากนั้นเข้ารับการถอนซุมเปาะห์จะต้องบริจาคทาน และถือศีลอดเป็นเวลาสามวันเป็นอันสิ้นสุด

      ตำราญิฮาด ที่กลุ่มขบวนการใช้ปลุกระดมสมาชิกแนวร่วม จะกล่าวไว้ว่าในสงครามญิฮาดคนจะถูกแบ่งออกเป็นสามพวก คือ
  • คนฝ่ายเรา “ยูแว” 
  • ส่วนอีกพวกหนึ่งคือ “กาเฟร” หรือ คนต่างศาสนาที่เป็นศรัตรู และ
  • พวก “มูนาฟิก” คือคนมลายูที่เข้าข้างกาเฟร 
     มูนาฟิก และกาเฟร สามารถที่จะทำการเข่นฆ่าได้

     การญิฮาด หรือการต่อสู้เพื่อศาสนาที่แท้จริงนั้น จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีผู้นำฟัตวา หรือประกาศสงครามอย่างเป็นทางการ อีกทั้งการญิฮาดนั้น มีหลักการและข้อห้ามหลายประการ สิ่งที่สำคัญคือต้องไม่ทำลายชีวิตและสิ่งสาธารณะทั้งหลาย แม้กระทั่งต้นไม้ มิใช่การมุ่งร้ายทำลายชีวิตคนอื่นอย่างที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมันขัดแย้งและผิดหลักการโดยสิ้นเชิง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม