วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เหตุผลใด? เจ้าหน้าที่ถึงเข้าโรงเรียนปอเนาะ ตาดีกา...



             เว็บเพจ: Suara Patani เป็น 1 ในหลายๆ เพจที่มีการโพสต์ภาพและข้อความที่สร้างความแตกแยกในสังคม พยายามยั่วยุแบ่งเค้าแบ่งเรานำความต่างทางศาสนามาแบ่งกั้น ไม่เฉพาะแค่ประเด็นศาสนายังนำเรื่องเชื้อชาติ มาตุภูมิใช้คำว่าคนปาตานี คนสยาม ทั้งที่ในความเป็นจริงไม่มีประเทศไหนในโลกใบนี้ที่คนในชาตินับถือศาสนาแค่ศาสนาเดียว และมีเชื้อชาติเดียว

          ทุกวันเว็บเพจ: Suara Patani จะทำการโพสต์ในลักษณะยั่วยุ บิดเบือนข้อเท็จจริง โยนผิดให้เจ้าหน้าที่ ตั้งแง่ ตั้งข้อรังเกียจเจ้าหน้าที่ ลามปามไปยังเรื่องประวัติศาสตร์ ความไม่เท่าเทียมในสังคม ในเรื่องกระบวนการยุติธรรม

         แต่มีอยู่ประเด็นหนึ่งที่แอดมินอยากจะทำความเข้าใจต่อการเผยแพร่ภาพและข้อความของเว็บเพจเจ้าปัญหาคือเรื่องเจ้าหน้าที่เข้าไปในสถาบันปอเนาะ โรงเรียนสอนศาสนาเอกชน และตาดีกา ซึ่งเจตนาต้องการปลุกเร้าให้นักเรียนเกิดความเกลียดชังเจ้าหน้าที่รัฐและไม่ให้ความร่วมมือ ลองอ่านข้อความดังกล่าวกันค่ะ มาถาม ถามว่าเป็นไงบ้าง…มากวน กวนฉันเวลาเรียน…มาชวน ชวนฉันทำโน่นนี่…มาถ่าย ถ่ายรูปแล้วก็กลับ…เคยถาม ถามบ้างไหมว่าเราคิดอย่างไร…เคยถาม ถามบ้างไหมว่าเราชอบท่านไหม…เคยถาม ถามตัวเองบ้างไหม ที่ทำไป ได้อะไร?...โรงเรียนของฉันไม่น่าอยู่
ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีเหตุและผล สถาบันปอเนาะ โรงเรียนสอนศาสนาเอกชน และตาดีกา เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นต้องเข้าไปเพื่ออะไร?...

          ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เมื่อ 19 พฤษภาคม 2549 มีการปิดโรงเรียนญิฮาดวิทยา หรือปอเนาะญิฮาด ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี และเมื่อ 5 กรกฎาคม 2550 ปิด “ปอเนาะสะปอม” หรือ “โรงเรียนอิสลามบูรพา” หมู่ที่ 5 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส จากการตรวจค้นโรงเรียนทั้งสองเป็นแหล่งซ่องสุมกำลังและแหล่งกบดานของกลุ่ม ผกร.

           ถัดมาอีกโรงเรียนเป็นข่าวโด่งดัง โรงเรียนยุวอิสลาม บ้านน้ำใส ต.ลุโบะยิไร อ.มายอ จ.ปัตตานี ผู้ก่อเหตุรุนแรงใช้เป็นแหล่งหลบซ่อนตัว เหตุการณ์ครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการปิดล้อมประกาศให้มีการยอมมอบตัวแต่มีการต่อสู้เกิดปะทะ มีผู้เสียชีวิต 3 ราย หลบหนีรอดไปได้ 2 ราย จับกุมผู้ต้องสงสัย 3 ราย
นั่นคือเหตุผลที่เจ้าหน้าที่จะต้องเข้าไปเพื่อดูแลไม่ให้กลุ่มขบวนการโจรใต้ฟาตอนีใช้โรงเรียนเหล่านี้เป็นแหล่งเก็บรวบรวมอาวุธ วัตถุระเบิด หลบซ่อนตัว และที่สำคัญไม่ให้มาทำการปลุกระดมชักนำเยาวชนให้เข้าร่วมขบวนการ

           เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาตัวแทนจุฬาราชมนตรี ได้เข้ายื่นหนังสือเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีตรวจสอบสื่อออนไลน์ที่เผยแพร่ข้อมูลทำให้เกิดความแตกแยกทางศาสนา แต่เมื่อมีการตรวจสอบสื่อออนไลน์ที่ทำการเคลื่อนไหวไม่เฉพาะการสร้างความแตกแยกทางศาสนาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น สื่อแนวร่วมโจรใต้ฟอตานี ยังปลุกระดม ปลุกปั่นคิดการณ์ไกลทำการแบ่งแยกดินแดนเลยล่ะ....
       แอดมินขอยกตัวอย่างสัก 10 เว็บเพจ แค่นี้ก็หนาวแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลองเข้าไปตรวจสอบเนื้อหาดูกันดีกว่าว่าจริงมั๊ย ซึ่งได้แก่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม