วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2559

เปิดข้อมูล “ลับ” กลุ่ม ผกร. ต่อสู้แบบไร้อุดมการณ์




โดย : ‘Ibrahim’


        เหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นับตั้งต้นปี 2547 จุดเริ่มของการจุดไฟใต้มาจนถึงปัจจุบันได้ผ่านมาร่วมสิบกว่าปีไม่มีทีท่าว่าจะดับมอด มีการคอยเติมเชื้อไฟให้ลุกโหมอยู่เป็นระยะๆ ถึงแม้ว่าหลายฝ่ายพยายามได้ร่วมกันดับ


        การก่อเหตุความรุนแรงได้ก่อความสูญเสียทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสังคมไทยในภาพรวม การดำเนินนโยบายดับไฟใต้มีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ ผู้นำรัฐบาลแต่ละยุคแต่ละสมัยย่อมมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังมีความเชื่อมโยงกับปัจจัยภัยแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ รวมถึงปัจจัยที่เกิดขึ้นจากแรงกดดันจากภายนอกประเทศ


        การก่อเหตุของกลุ่ม ผกร.ในปัจจุบันนี้ที่ยังคงเดินหน้าสร้างสถานการณ์ไม่เว้นวัน หลายเหตุการณ์ หลายพื้นที่ยังคงวนเวียนคอยทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในการติดตามจับกุมสมาชิก ผกร.ทำการขยายผลตรวจพบฐานปฏิบัติการ แหล่งผลิตวัตถุระเบิด รวมไปถึงอาวุธยุทโธปกรณ์เป็นจำนวนมาก


         ผู้เขียนมีความสงสัยใคร่รู้ว่าสมาชิก ผกร.ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมมีแรงจูงใจอะไรในการเข้าร่วมขบวนการ และเมื่อเข้าไปแล้วอยากทราบสมาชิกเหล่านั้นมีทัศนคติ ความคิดเห็นอย่างไร? ต่อแนวทางการต่อสู้ของขบวนการในปัจจุบัน และประการสุดท้ายที่ใคร่รู้คืออุดมการณ์ของกลุ่มขบวนการยังคงมีอยู่หรือไม่? อย่างไร เพราะจากพฤติกรรมในการก่อเหตุได้เปลี่ยนไป


          คำถามหากไร้คำตอบก็เหมือนตะโกนไปในป่าใหญ่แต่ไม่มีใครได้ยิน เช่นเดียวกันเมื่อความอยากรู้กลุ่ม ผกร.จำนวนมากที่มีการจับกุมเนื่องจากมีการซักถามเคยมีการเก็บข้อมูลเหล่านี้หรือไม่ เพื่อตอบปัญหาคาใจของใครอีกหลายคน


         ผู้เขียนได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวท่านหนึ่งได้เล่าให้ฟังว่าสาเหตุอันดับต้นๆ ของการเข้าร่วมขบวนการของผู้หลงผิดเหล่านั้นคือเกิดจากการถูกชักชวนให้เข้าร่วมอุดมการณ์ในการต่อสู้ โดยอ้างต่อสู้เพื่อพี่น้องชาวมุสลิมที่ไม่ได้รับความยุติธรรม มีส่วนน้อยที่คิดแก้แค้นเจ้าหน้าที่ด้วยความรุนแรง และส่วนมากไร้อุดมการณ์ในการต่อสู้ มีส่วนน้อยมากที่ต่อสู้ด้วยอุดมการณ์เพื่อปลดปล่อยรัฐฟาตอนี


         ผู้ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ในปัจจุบันพบว่ามีกลุ่มเยาวชนเป็นจำนวนมาก ที่เข้าเป็นแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และเมื่อผ่านกระบวนการดื่มน้ำสาบาน และทำพิธีซูมเปาะแล้วไม่สามารถถอนตัวออกจากองค์กรได้ เมื่อหลงผิดและเข้าร่วมขบวนการแล้วแทบหมดโอกาสกลับมาสู่สังคมปกติได้ ทั้งๆ ที่ไม่อยากจะร่วมทำการก่อเหตุแต่เมื่อไม่ร่วมมือกลับถูกแกนนำข่มขู่ หากจะหนีไปก็ไม่รอดเพราะทุกพื้นที่ที่มีพี่น้องมุสลิมอาศัยอยู่นั้น ย่อมหมายถึงทุกแห่งจะมีคนของขบวนการแฝงตัวอยู่ และจะมีคนคอยติดตามหมายปองเอาชีวิตเพื่อปิดปากในที่สุด


สาเหตุและแรงจูงใจให้ผู้หลงผิดตัดสินใจเข้าร่วมขบวนการ

        สาเหตุและแรงจูงใจให้ผู้หลงผิดตัดสินใจเข้าร่วมขบวนการ สาเหตุใหญ่เกิดจากบ่มเพาะโดยการบิดเบือนความเชื่อทางด้านศาสนา มีการปลูกฝังแนวความคิด การปลุกระดมการทำสงครามญิฮาด ผูกมัดด้วยการสาบานตน (ซูมเปาะ) และเหตุผลที่ใช้ได้ตลอดคือการถูกสยามรุกรานศาสนา และแผ่นดินเกิด ในเมื่อผู้ที่ถูกปลุกระดมไม่ทราบถึงหลักการที่แท้จริง จึงหลงผิดเข้าร่วมกับขบวนการในที่สุด เนื่องจากกลัวเกรงถ้าไม่ปฏิบัติตามพระเจ้าจะลงโทษ เมื่อเข้าร่วมแล้วจะได้รับผลบุญ และสามารถสร้างบารมีให้กับตนเองด้วยการลงมือทำการเข่นฆ่าคนต่างศาสนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อชาวไทยพุทธ


        การปลุกจิตสำนึกสร้างความเป็นอัตลักษณ์ชาวมลายู กลุ่ม ผกร.ใช้ความรู้สึกที่แตกต่าง สร้างความแปลกแยกของคนในพื้นที่ อ้างชนชาติพันธุ์มลายูปาตานี กระตุ้นให้มีความรู้สึกอันแรงกล้าในการลุกขึ้นมาปกป้องอัตลักษณ์ทางเชื้อชาติ และศาสนาของคนในพื้นที่ร่วมกัน


        การกล่าวอ้างไม่ได้รับความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ ถูกครอบงำทางการเมือง ถูกเลือกปฏิบัติทางสังคม ถูกกดขี่ข่มแหงรังแกจากเจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ในฐานะผู้ปกครอง และคนมลายูคือผู้อยู่ภายใต้การปกครอง


         การคอยตอกย้ำบาดแผลในอดีตโดยการสร้างวาทะกรรม รัฐปัตตานี มีการส่งต่อไปยังลูกหลานจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยการบ่มเพาะบิดเบือนประวัติศาสตร์ นับแต่สยามได้ปัตตานีเป็นเมืองขึ้นได้มีการรวมชาติให้เป็นหนึ่งเดียว คือชาติไทย ที่มีความแตกต่างกับมลายูในเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรมและจารีตประเพณี ความคิดความเชื่อต่างๆ


       สร้างความเชื่อมั่นว่ากลุ่มขบวนการสามารถแบ่งแยกดินแดนได้จริง จากการต่อสู้จะนำไปสู่การแบ่งแยกดินแดนปัตตานีออกจาการปกครองของรัฐไทย เมื่อสำเร็จจะได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน และสิทธิต่างๆ เพิ่มมากขึ้นและดีกว่าอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐไทย


          เกิดจากภาวะจำยอม สภาพแวดล้อม เมื่อเครือญาติสามีภรรยาเป็นสมาชิก ผกร.รวมทั้งหากอาศัยอยู่ในหมู่บ้านจัดตั้ง สภาพความเป็นอยู่ได้บังคับให้ต้องเข้าร่วมหรือสนับสนุนขบวนการโดยปริยาย


          เกิดจากความเกรงกลัวจากการข่มขู่ของสมาชิกระดับแกนนำในหมู่บ้าน เมื่อสมาชิกถูกจับกุมตัวมีการซักถาม เมื่อให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐจะไม่มีการรับรองความปลอดภัยใดๆ ต่อตนเองและครอบครัว เพราะกลุ่มขบวนการกลัวผู้ที่ถูกจับกุมจะเปิดเผยความลับ สุดท้ายเมื่อถูกกดดันจะกลับเข้าร่วมขบวนการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


แรงจูงใจให้สมาชิก ผกร.ทำการก่อเหตุ


            การกลัวเกรงต่อโทษที่ได้รับซึ่งมีหัวหน้าชุดปฏิบัติการเป็นผู้กำหนดเป้าหมายในการก่อเหตุ เมื่อมีการสั่งการหากไม่มีการปฏิบัติใดๆ หัวหน้าชุดจะเป็นผู้รับผิดชอบในการถูกลงโทษด้วยการถือศีลอด การถูกตำหนิอย่างรุนแรง หรือการสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่งจากแกนนำระดับสูง รวมทั้งได้มีการปลุกระดมเพิ่มขวัญกำลังใจ โดยใช้การบิดเบือนหลักศาสนาเกี่ยวกับ “ชะอีด” คือความตายที่เกิดจากการต่อสู้ มีการให้สมาชิกบริจาคเงินให้กับขบวนการวันละ 1 บาทต่อคน เพื่อต้องการให้สมาชิกระลึกอยู่ตลอดเวลา พร้อมที่จะเสียสละทุกอย่างแม้กระทั่งชีวิต เพื่อแนวทางการต่อสู้และความสำเร็จของขบวนการ


        ปัญหาภัยแทรกซ้อนในพื้นที่จากการค้ายาเสพติด น้ำมันเถื่อน สินค้าลักลอบหนีภาษี สมาชิก ผกร.จะเข้าไปมีบทบาทหรือผู้ที่เกี่ยวข้องสำคัญ และจะนำเงินบางส่วนจากรายได้เหล่านี้ส่งสนับสนุนกลุ่มขบวนการเพื่อใช้ในการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่


         ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าจากการก่อเหตุของกลุ่ม ผกร.ไม่ว่าจะเป็นกรณีบุกยึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง แล้วทำการก่อเหตุกราดยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน จะเห็นได้ว่าจากพฤติกรรมดังกล่าวของกลุ่ม ผกร.มีการละเมิดและขัดต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ขัดกับหลักการอิสลาม เพราะหลักสิทธิมนุษยชนในอิสลาม แม้ในช่วงสงคราม สถานพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ก็ต้องได้รับการคุ้มครอง


        ในวันเดียวกันกับการบุกยึดโรงพยาลเจาะไอร้องของกลุ่ม ผกร. ยังมีการแต่งกายเลียนแบบสตรีมุสลิม เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ในการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ด้วยการใช้ปืนกลเบาอูซี่ยิงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสถานีรถไฟ ซึ่งเป็นความผิดตามหลักศาสนาอิสลาม


         นั่นคือเหตุการณ์ตัวอย่างที่ กลุ่ม ผกร.ทำการเคลื่อนไหวอย่างที่ ผิดทั้งหลักศาสนาและกติกาสากล นอกจากที่ยกตัวอย่างมายังมีหลายๆ เหตุการณ์ที่ไม่ได้กล่าวถึง แต่สิ่งที่ยืนยันจากผู้ที่ถูกจับกุมเมื่อมีการซักถามได้ให้ข้อมูลว่า แนวทางในการต่อสู้ของกลุ่มขบวนการยังไร้ทิศทาง และไร้อุดมการณ์ในการต่อสู้ แต่ละครั้งในการก่อเหตุยังมีการถามตัวเอง
  • ทำไปเพื่ออะไร? 
  • และเพื่อใคร? 
นั่นคือคำสารภาพที่ออกจากปากของสมาชิก ผกร.ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว....

------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม