http://korid2000.blogspot.com/2013/07/4-5.html
ถอดความภาษาอาหรับ : khalil Sorbir
เด็กน้อยร้องไห้ขอความช่วยเหลือ
"อย่าทำกับหนูเลยท่านอิหม่าม...พี่สาวของหนูก็มีให้เลือก....ทำไมจึงเลือกหนู....หนูแค่อายุ 4-5 ขวบเท่านั้น"
เพราะศาสนาของท่านหรืออารมณ์ตัณหาของท่าน อิหม่ามโคไมนีเอง...ที่กระทำกับหนูได้เช่นนี้..!!!
/span>
คือเรื่องของเรื่อง...........
ในช่วงโคไมนีพักอาศัยที่อิรัก เราได้มาหาสู่กับโคไมนีเป็นประจำ และเราก็ได้เรียนรู้จากเขา จนความสัมพันธ์ระหว่างเรากับเขาเน้นแฟ้นยิ่งขึ้น
…ต่อมาโคไมนีได้รับการเรียกร้องให้เขาเผยแพร่ชิอะห์ที่เมืองหนึ่ง ซึ่งเมืองนี้อยู่ทางตะวันตกของเมืองโมเซล ระยะการเดินทางใช้เวลา 1 ชม. ครึ่ง โดยรถยนต์ และเขาก็ชวนฉันเดินทางไปกับเขาด้วย…ฉันก็ตกลงเดินทางไปกับเขาด้วย.
เมื่อไปถึงที่เมืองนั้น มีครอบรคัวหนึ่งที่นั้น ออกมาตอนรับอย่างสุดเกียรติ ให้กับคณะโคไมนี และใช้เวลาระยะหนึ่งในการเผยแพร่ชิอะห์ในเขตนั้น.....
เมื่อเสร็จสิ้นในทำภารกิจนั้น...พวกเราก็เดินทางกลับ ในระหว่างการเดินทางกลับเราได้ผ่านเมืองแบกแดดและอิหม่ามโคไมนีต้องการที่จะแวะพักผ่อนที่เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง โดยเขาสั่งให้ไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง...ซึ่งที่นั้นมีชายอีหร่านคนหนึ่งพักอาศัยอยู่ มีนามว่า ซัยยิด ซอเฮบ ซึ่งทั้ง 2 มีความรู้จักกันอย่างเน้นแฟ้น...
พอไปถึงที่นั้นเวลาซุฮรี ซัยยิด ซอเฮบ จึงจัดทำอาหารเที่ยงอย่างสมเกียรติ.ให้กับคณะพวกเรา.
และเจ้าของบ้านได้ประสานกับญาติพี่น้องของเขาให้มาร่วมพบปะสร้างสรรค์กับคณะของเรา จนทำให้บ้านของเขาเต็มไปด้วยผู้คนที่มาในวันนั้นและซัยยิด ซอเฮบได้ขอจากอิหม่ามโคไมนีให้ค้างคืนที่บ้านเขา คืนนั้น ,
โคไมนีก็ตอบรับ....เมื่อถึงเวลา อาซาอฺ พวกเราก็ได้รับประทานอาหารร่วมกัน...ผู้คนที่มานั้นต่างก็เข้ามาจูบมือโคไมนี และมีการถามตอบระหว่างโคไมนีกับพวกเขา...พอถึงเวลานอนแขกๆที่มานั้นต่างก็แยกย้ายกลับบ้าน...นอกจากครอบครับเจ้าของบ้าน ...ในขณะนั้น อิหม่ามโคไมนีได้เห็นเด็กหญิงน้อยอายุราว ๆ 4-5 ขวบและสวยด้วย จึงขอทำมุตอะห์กับเด็กคนนี้จากพ่อของเขานี้ ( ซัยยิด ซอเฮบ ) โดยพ่อของเด็กน้อยคนนี้...ได้อนุญาตทันที่...เต็มใจและมีความรู้สึกปลื้ม ปิติเป็นอย่างยิ่ง .
และในค่ำคืนนั้นพวกเราก็ได้ยินเสียงร้องไห้และเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากเด็กน้อย ( อายุ 4-5 ขวบ)
ในยามเช้า....ที่บริสุทธิ์พวกเรารับประทานอาหารเช้าร่วมกันแต่สีหน้าของฉันกลับเคร่งเครียดและไม่สบายใจเลยกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กน้อยเมื่อคืน.....
ทำไมต้องทำมุตอะห์กับเด็กน้อยนี้ด้วย ( อายุ 4-5 ขวบ ) ทั้ง ๆ ในบ้านนั้นมีหญิงสาวที่บรรลุนิติภาวะหลายคน....ที่อิหม่ามโคไมนี สามารถจะเลือกในจำนวนนั้นซักคนหนึ่งเพื่อทำมุตอะห์.....แต่เขากลับไม่ทำ ??
มีคนหนึ่งได้ถามฉันว่า "ท่านซัยยิด ฮูเซ็น ท่านคิดอย่างไรกับการทำมุตอะห์ ?"
ฉันจึงตอบเขาว่า "ท่านซัยยิด คำพูดและการกระทำของท่าน ฉันไม่อาจจะคัดค้านได้ เพราะท่านคือ อิหม่ามมุญตาฮิด"
ฉันไม่สามารถจะแสดงความคิดเห็นได้นอกจากดูและฟังอย่างเดียว
เวลานั้น..เขาก็กล่าวว่า " ท่าน ซัยยิด ฮุเซ็น , แท้จริงการทำมุตอะห์กับเด็กน้อย...เป็นที่อนุมัติ...บนเงื่อนไขด้วยการหยอกหล้อกัน , การจูบ , เล่นกันข้างนอกระหว่าง 2 ขาเท่านั้น แต่สำหรับการร่วมประเวณีกับเด็กน้อยนั้น..เขาไม่แข็งแรงพอ "
แต่สำหรับทัศนะของอิหม่ามโคไมนี...คือ เป็นที่อนุมัติมุตอะห์กับเด็กน้อยแม้แต่เด็กที่อย่างกินนมอยู่ก็ทำมุตอะห์ได้. กล่าวคือ ( การทำมุตอะห์นั้นกับเด็กน้อยนั้นแม้แต่เด็กที่อย่างกินนมอยู่-โดยการ จูบ และประเวณี เป็นสิ่งที่กระทำได้ )
แปลจาก..หนังสือ لله..ثم للتاريخ ..ผู้เขียน : السيد حسين الموسوي (หน้า 35-37)
ชาวชิอะห์เอ๋ย.....พวกท่านจะยอมไหมให้ทำมุตอะห์กับลูกหลานของท่านอายุ 4-5 ขวบหรือน้อยกว่านั้นตามที่อิหม่ามโคไมนีกระทำ...ผู้นำแห่งจิตวิญญาณของชาวชิอะห์...!!!!
มุตอะฮฺ หมายถึงอะไร ?
มุตอะฮฺ เป็นคำศัพท์ภาษาอาหรับ มีความหมายว่า “ความสุขสำราญ” แต่มุสลิมโลกสวย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มุสลิมชีอะห์ ที่ได้ประโยชน์ จากการเล่นเสียวในเรื่องนี้ ก็จะอธิบายว่า
มุตอะฮฺนิซาอฺ หรือการแต่งงานที่มีกำหนดเวลา ( ฟาดกัน ชั่วคราว ) หมายถึง
หญิงหรือตัวแทนของฝ่ายหญิงได้ตกลงแต่งงานกับฝ่ายชาย ตามกำหนดเวลา และมะฮัรฺ(สินสอด) ที่กำหนดแน่นอน ซึ่งต้องไม่มีอุปสรรคทางหลักชัรอีย์ (ข้อบังคับศาสนบัญญัติ) เป็นตัวขวางกั้น เช่นการเป็นเครือญาติทางสายเลือด หรือโดยสาเหตุ (สะบับบี) หรืออิดดะฮฺ (ช่วงระยะเวลาที่หย่าร้างกับสามีเดิม) หรือหญิงมีสามี หรือหญิงไม่ได้เป็นมุสลิม กรณีที่เคยร่วมหลับนอนเมื่อแยกทางกับสามีต้องรอให้รอบเดือนหมดถึงสองครั้ง ถ้าหญิงเป็นผู้ไม่มีกำหนดเวลาในการมีรอบเดือนแน่นอน และอายุไม่ถึงกำหนดเวลาที่รอบเดือนจะหมดต้องรอเวลาจนกว่าจะถึง ๔๕ วัน
บุตรที่เกิดจากการแต่งงานที่มีกำหนดเวลา มีสิทธิทุกอย่างเหมือนกับบุตรที่เกิดจากการนิกาห์ และตามความเป็นจริงเรื่องนี้มีอยู่ในอิสลามหรือไม่? แน่นอนเรื่องนี้มีอยู่ในอิสลามจริงตามหลักฐานของอัลกุรอานที่กล่าวว่า..
فَمَا اسْتَمْتَعْتُم بِهِ مِنْهُنَّ فَآتُوهُنَّ أُجُورَهُنَّ فَرِيضَةً وَلاَ جُنَاحَ عَلَيْكُمْ فِيمَا تَرَاضَيْتُم بِهِ مِن بَعْدِ الْفَرِيضَةِ إِنَّ اللّهَ كَانَ عَلِيمًا حَكِيمً
“ดังนั้นหญิงใดที่พวกเจ้าเสพสุขด้วย จากบรรดาหญิงเหล่านั้นก็จงให้แก่พวกนาง ซึ่งสินตอบแทนแก่พวกนางตามที่มีกำหนดไว้
และไม่เป็นบาปใด ๆ แก่พวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าต่างยินยอมกันในสิ่งนั้นหลังจากที่มีกำหนดนั้นขึ้นแท้จริง
อัลลอฮฺเป็นผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ (บทอันนิซาอฺ / ๒๔)
แปลความหมายกันตามสติปัญญานะครับ ส่วนใครจะเชื่อ โคมัยนี่ และทำตามนั้น ก็เชิญตามสะดวกละครับ เพียงแต่ว่าคงต้องตอบปัญหาทางสังคมมุสลิมด้วยกันเองว่า
ควายไหมนั่น
หลักฐานความระยำ ของการค้ากาม ที่เรียกกันว่า มุตอะฮฺ
เพื่อนผม เรียนหนังสือห้องเตียวกัน เป็นมุสลิม หนองจอก มันอธิบายว่า มุตอะห์ หรือเรียกอีกอย่างว่าการแต่งงานชั่วคราว ซึ่งเรื่องนี้ มุสลิมสายซุน นี่มักจะบอกว่า เนี้ยมันเป็นความเชื่อของพวกชีอะห์ มันไม่ใช่อิสลาม !!!
ผมก็งง ทำไหมเวลาอวดอ้างว่าตัวเองมีผู้นับถือเยอะ เสือกนับรวมทุกนิกาย แต่ทำไหมพอมีเรื่องเหี้ย ๆ ของนิกายอื่น ๆ เสือกบอกว่านิกายนั้นไม่ใช่อิสลาม