หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ไอ้ ขุม ขี้ นี่ ละ ไอ พิษ



             อ่านบทความจาก ไวปไซท์ http://www.deepsouthwatch.org/node/6461 เห็นพาดหัวซะโก้ว่า
แถลงการณ์ ขอประณามการใช้ความรุนแรงต่อเด็ก และเยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ฟังดูเหมือนดีนะ พาดหัวแบบนี้ มีข้อความว่า

           มูลนิธิฯขอประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบต่อเด็ก เยาวชน ผู้หญิง รวมถึงผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง โดยวิธีทารุณโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม ขัดต่อหลักกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงหลักคำสอนของทุกศาสนา 

           แล้วก็มาถึงตอนจบ สรุปข้อเรียกร้อง มูลนิธิฯมีข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ ผมเอาภาพมาให้ดู  



         สรุป ข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ไอ้มูลนิธิซังกะบ้วยนี้มันเรียกร้องหยังกะว่า รัฐบาลไปยิงเด็กซะนี่กระไร ข้อ 1 รัฐต้อง อย่างนั้น ข้อ 2 รัฐต้องอย่างนี้  ทำไมมันไม่ไปเรียกร้องเอากับไอ้คนกระทำ ไอ้โจรลูกหมาฟาตอนี ไอ้ผู้ชายที่นุ่งผ้าถุง ยิงเด็ก ยิงผู้หญิง ยิงคนแก่ แต่มันเสือกมาเรียกร้องกับรัฐ 5 ข้อ 

         อ่านมาจนจบ เห็นข้อความตรงท้ายว่า ติดต่อ อังคณา  นีละไพจิตร  ก็ถึงบางอ้อ  ท่านครับ ผมลืมแปลให้ท่านเข้าใจ   มูล =  แปลว่า ขี้     นิธิ = แปลว่า ขุม แห่งรวม ชุมนุม  

         มูลนิธิ มันแปลว่า ขุมขี้  ขุมขี้ของ ป้า อังคณา นี่ละไอพิษ ........มันถึงได้ทำอย่างกับว่า รัฐบาลเป็นโจรใต้ซะเอง

สันดานผู้ชายนุ่งผ้าถุง


           โจรฟาตอนีทิ้งเพื่อนตายข้างถนน! หลังโดนทหารพรานสวนขณะก่อเหตุยิงพ่อตาเสียชีวิต พบประวัติโจรใต้ที่ตายเคยถูกจับกุมต้องสงสัยปล้นธนาคารกสิกรไทยสาขาปาลัส เมื่อปี 56 และถูกปล่อยตัวในเวลาต่อมา และสามารถจับกุมเพื่อนร่วมก่อเหตุได้อีก 1 คน...

          ความคืบหน้ายิงนายมะมือลี วามะ ชาวไทยมุสลิมเสียชีวิต เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 57 ที่ผ่านมา โดยกลุ่มโจรใต้เป็นวัยรุ่นจำนวน 4 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน จอดหน้าบ้าน นาย มะมือลี วามะ ก่อนกราดยิง นาย มะมือลื หลายนัดกระสุนถูกบริเวณศรีษะ และลำตัวจนเสียชีวิต

          ขณะเกิดเหตุ ส.อ. อัครพงษ์ สะอะ เจ้าหน้าทีทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 ซึ่งเป็นลูกเขยของนายมะมือลี อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุจึงได้ใช้อาวุธปืนประจำกาย 9 มม. ยิงตอบทำให้โจรใต้ทั้ง 4 หลบหนีไป  ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนคนร้ายตกอยู่ข้างกำแพงและรองเท้าฟองน้ำเปื้อนโคลน 1 คู่และคราบเลือดคนร้าย ข้างกำแพงบ้านจึงรู้ว่าคนร้ายได้รับบาดเจ็บแล้วพากันหลบหนี

           ต่อมาวันที่ 28 พ.ย. พบศบผู้ชายนุ่งผ้าถุง นายอับดุลการีม มะลา อายุ 22 ปี บริเวณถนนบ้านโตะบาลา-กะพ้อ หมู่ 5 ต.กะดุงนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี นอนตายเหมือนหมาโดนรถชน ตรวจสอบประวัติผู้ตายเคยถูกจับกุมต้องสงสัยเป็นผู้ก่อการร้าย ร่วมกันปล้นธนาคารกสิกรไทย สาขาปาลัส อ.มายอ และถูกปล่อยตัวเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 56

       โจรนุ่งผ้าถุง อับดุลการีม มะลา เป็นลูกชายของโต๊ะอิหม่ามในพื้นที่ ต.สุวารี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เคยเรียนที่โรงเรียนปอเนาะแห่งหนึ่งในอำเภอทุ่งยางแดง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามชันสูตรศพ แต่ญาติของโจรใต้ไม่ยินยอมให้ทำการชันสูตรแต่อย่างใด

        ต่อมา นาย นิอัลวีย์ ดือราแม ผู้ชายนุ่งผ้าถุงที่ร่วมก่อเหตุ และได้ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ให้การซัดทอดว่า นาย อับดุลการีม มะลา เป็นผู้ร่วมลงมือยิงนายมมือลื  วามะ แต่ถูกยิงสวนกลับ ได้รับบชาดเจ็บเลือดไหลออกไม่หยุด จึงใช้ผ้าสี่แดงมัดเอวใว้เพื่อห้ามเลือด แต่นายนิอัลวีย์ฯ ทนพิษบาดแผไม่ไหวจึงได้ไปเฝ้าโอลันล้าในนรกซะก่อน และเพื่อนก็ได้นำซากศพไปทิ้งใว้ข้างทางเหมือนหมาโดนรถชน จนรุ่งเช้าชาวบ้านมาพบศพ ส่วนโจรผู้ชายนุ่งผ้าถุงอีก 2 ตัวหลบหนีไปได้ แต่เจ้าหน้าที่รู้ตัวหมดแล้วว่ามีหมาตัวไหนมั่ง


ผู้ชายนุ่งผ้าถุง ยิงข้าราชการมุสลิม ที่นราธิวาส



            เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2557 เวลา 18.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอบาเจาะ ได้รับแจ้งเหตุฆ่าผู้อื่น เหตุเกิดที่ หมู่ 6 บ้านยะลูตงดูวอ ตำบลกาเยาะมาตี อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส โดยคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด และขนาด ยิงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านกูวิงทราบชื่อต่อมาชื่อ นาย อับดุลเลาะ อาแซ อายุ 51 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ หมู่ 3 ตำบลไทรทอง อำเภอไม้แก่น ขณะเหตุเกิด นาย อับดุลเลาะ อาแซ เดินทางกลับจากไปร่วมงานมงคลสมรสของผู้คุ้นเคย คนร้ายก่อเหตุก่อนหลบหนี ได้นำอาวุธปืนขนาด .38 มม. ของผู้เสียชีวิต ไปด้วย



ไอ้ลูกหมาฟาตอนี เปิดศึกสงครามตอแหล บนโซเชี่ยลมีเดีย



            เพจ: Patani jurnal เพจแน่วร่วมโจรใต้ฟาตอนี ยังคงเดินหน้าบิดเบือนข่าวสาร กล่าวหาว่ารัฐบาลไทยพยายามสกัดกั้นการศึกษาของคนมลายูมุสลิมใน จชต.

           เรามาดูเนื้อหาการสร้างความแตกแยกของเพจ: Patani jurnal กัน ซึ่งได้มีการระบุว่า ในอดีตศูนย์การสอนและให้ความรู้เกี่ยวกับหลักคำสอนอัลกุรอาน และภาษามลายู จะตั้งขึ้นที่บ้านพักของครูสอนศาสนา ซึ่งมีอยู่ทุกหมู่บ้าน แต่ด้วยรัฐบาลไทยบังคับให้คนมลายูต้องศึกษาในระบบโรงเรียนของรัฐด้วยการใช้ภาษาไทย เป็นภาษาหลักในการเรียนการสอน รวมทั้งห้ามใช้ภาษามลายูในการสนทนาในโรงเรียนของรัฐ ดังนั้นโอกาสที่บุตรหลานชาวมลายูจะศึกษาเกี่ยวกับศาสนาและภาษามลายูก็ลดลง

          หากท่านที่เคยเดินทางมาในพื้นที่ จชต.หากนั่งรถผ่านหมู่บ้าน ชุมชน จะเห็นได้ว่าโรงเรียนปอเนาะ โรงเรียนตาดีกา (โรงเรียนสอนศาสนา) มีเยอะมาก อีกทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองนิยมให้บุตรหลานของตัวเองเข้าเรียนในโรงเรียนสอนศาสนาเหล่านี้ มีการเปิดโรงเรียนผุดขึ้นมาเหมือนดอกเห็ด เนื่องจากในปัจจุบันโรงเรียนเอกชนได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลจ่ายให้นักเรียนต่อหัว ต่อคน ต่อปี

          ส่วนในเรื่องการกีดกันไม่ให้มีการเรียนการสอนเป็นการบิดเบือนอย่างหน้าด้านๆ และไม่มีการห้ามการใช้ภาษามลายูในการสนทนาในโรงเรียนของรัฐแต่อย่างใดเลย

         ความหลากหลายในการใช้ภาษา สามารถพูด อ่าน เขียนได้หลายภาษาเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากปีหน้าประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน มีการแข่งขันทางเศรษฐกิจ มีการติดต่อกับนานาประเทศในกลุ่ม หากนักเรียนยังคงยึดติดอยู่กับการใช้ภาษาเดียวก็ไม่สามารถไปแข่งขันกับประเทศใดได้เลยในเชิงธุรกิจ การติดต่อทำมาค้าขาย เพราะฉะนั้นทุกคนจะต้องมีการปรับเปลี่ยน เรียนรู้ กับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

วิธีต้อนรับปีใหม่ของมุสลิมชีอะฮ์




          นี่คือวิธีต้อนรับปีใหม่ของพวกชีอะฮ์อิหร่าน โดยการฆ่าแขวนคอชายมุสลิมซุนนะฮคนหนึ่งในที่สาธารณะ ในเขตปกครอง Ahwaz แสดงให้เห็นถึงความไร้ซึ่งมนุษยธรรมและความละอายใดฯทั้งสิ้น ในหมู่ชีอะฮ์เหล่านั้น

        เขตปกครอง Ahwaz มีชาประชน 95% เป็นมุสลิมซุนนะฮ แต่ปัจจุบันประชากรมุสลิมซุนนะฮลดลง เนื่องจาก ลัทธิชีอะ จะจัดการสังหารอย่างเหี้ยมโหดเช่นนี้ เมื่อมีผู้ใดต่อต้านชีอะฮ

        เขตปกครอง Ahwaz เป็นเขตปกครองที่เต็มไปด้วยทรัพยากรน้ำมัน แต่ปัจจุบัน Ahwaz ได้ถูกยึดครองโดย ชีอะฮ อีห่ราน ซึ่งยึดทรัพยากรน้ำมันทั้งหมด โดยปล่อยให้เจ้าของแผ่นดินที่มีสิทธในทรัพยากร อดอยาก ปากแห้ง และทุกทรมานมากกว่า ชาวปาเลสไตน์อีก แต่เนื่องจากความเป็นไปของชาวซุนนะฮ ที่ Ahwaz ถูกปิดบัง จึงทำให้ชาวโลกไม่ค่อยได้รับรู้เรื่องราวของพวกเขามากพอ และนี่เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวความชั่วร้ายของลัทธินี้


ควายไหมนั่น อิหม่าม ฟันเด็ก 4 ขวบ เรียกสวยหรู๋ว่า ทำมุตอะห์

http://korid2000.blogspot.com/2013/07/4-5.html


ถอดความภาษาอาหรับ : khalil Sorbir

          เด็กน้อยร้องไห้ขอความช่วยเหลือ "อย่าทำกับหนูเลยท่านอิหม่าม...พี่สาวของหนูก็มีให้เลือก....ทำไมจึงเลือกหนู....หนูแค่อายุ 4-5 ขวบเท่านั้น" 

          เพราะศาสนาของท่านหรืออารมณ์ตัณหาของท่าน อิหม่ามโคไมนีเอง...ที่กระทำกับหนูได้เช่นนี้..!!!
/span>

คือเรื่องของเรื่อง...........
          ในช่วงโคไมนีพักอาศัยที่อิรัก เราได้มาหาสู่กับโคไมนีเป็นประจำ และเราก็ได้เรียนรู้จากเขา จนความสัมพันธ์ระหว่างเรากับเขาเน้นแฟ้นยิ่งขึ้น 
         
          …ต่อมาโคไมนีได้รับการเรียกร้องให้เขาเผยแพร่ชิอะห์ที่เมืองหนึ่ง ซึ่งเมืองนี้อยู่ทางตะวันตกของเมืองโมเซล ระยะการเดินทางใช้เวลา 1 ชม. ครึ่ง โดยรถยนต์ และเขาก็ชวนฉันเดินทางไปกับเขาด้วย…ฉันก็ตกลงเดินทางไปกับเขาด้วย.

         เมื่อไปถึงที่เมืองนั้น มีครอบรคัวหนึ่งที่นั้น ออกมาตอนรับอย่างสุดเกียรติ ให้กับคณะโคไมนี และใช้เวลาระยะหนึ่งในการเผยแพร่ชิอะห์ในเขตนั้น.....

          เมื่อเสร็จสิ้นในทำภารกิจนั้น...พวกเราก็เดินทางกลับ ในระหว่างการเดินทางกลับเราได้ผ่านเมืองแบกแดดและอิหม่ามโคไมนีต้องการที่จะแวะพักผ่อนที่เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง โดยเขาสั่งให้ไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง...ซึ่งที่นั้นมีชายอีหร่านคนหนึ่งพักอาศัยอยู่ มีนามว่า ซัยยิด ซอเฮบ ซึ่งทั้ง 2 มีความรู้จักกันอย่างเน้นแฟ้น...

         พอไปถึงที่นั้นเวลาซุฮรี ซัยยิด ซอเฮบ จึงจัดทำอาหารเที่ยงอย่างสมเกียรติ.ให้กับคณะพวกเรา.
และเจ้าของบ้านได้ประสานกับญาติพี่น้องของเขาให้มาร่วมพบปะสร้างสรรค์กับคณะของเรา จนทำให้บ้านของเขาเต็มไปด้วยผู้คนที่มาในวันนั้นและซัยยิด ซอเฮบได้ขอจากอิหม่ามโคไมนีให้ค้างคืนที่บ้านเขา คืนนั้น , 

          โคไมนีก็ตอบรับ....เมื่อถึงเวลา อาซาอฺ พวกเราก็ได้รับประทานอาหารร่วมกัน...ผู้คนที่มานั้นต่างก็เข้ามาจูบมือโคไมนี และมีการถามตอบระหว่างโคไมนีกับพวกเขา...พอถึงเวลานอนแขกๆที่มานั้นต่างก็แยกย้ายกลับบ้าน...นอกจากครอบครับเจ้าของบ้าน ...ในขณะนั้น อิหม่ามโคไมนีได้เห็นเด็กหญิงน้อยอายุราว ๆ 4-5 ขวบและสวยด้วย จึงขอทำมุตอะห์กับเด็กคนนี้จากพ่อของเขานี้ ( ซัยยิด ซอเฮบ ) โดยพ่อของเด็กน้อยคนนี้...ได้อนุญาตทันที่...เต็มใจและมีความรู้สึกปลื้ม ปิติเป็นอย่างยิ่ง .

          และในค่ำคืนนั้นพวกเราก็ได้ยินเสียงร้องไห้และเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากเด็กน้อย ( อายุ 4-5 ขวบ)  

         ในยามเช้า....ที่บริสุทธิ์พวกเรารับประทานอาหารเช้าร่วมกันแต่สีหน้าของฉันกลับเคร่งเครียดและไม่สบายใจเลยกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กน้อยเมื่อคืน.....

       ทำไมต้องทำมุตอะห์กับเด็กน้อยนี้ด้วย ( อายุ 4-5 ขวบ ) ทั้ง ๆ ในบ้านนั้นมีหญิงสาวที่บรรลุนิติภาวะหลายคน....ที่อิหม่ามโคไมนี สามารถจะเลือกในจำนวนนั้นซักคนหนึ่งเพื่อทำมุตอะห์.....แต่เขากลับไม่ทำ ??

        มีคนหนึ่งได้ถามฉันว่า "ท่านซัยยิด ฮูเซ็น ท่านคิดอย่างไรกับการทำมุตอะห์ ?"
        ฉันจึงตอบเขาว่า "ท่านซัยยิด คำพูดและการกระทำของท่าน ฉันไม่อาจจะคัดค้านได้ เพราะท่านคือ อิหม่ามมุญตาฮิด"
        ฉันไม่สามารถจะแสดงความคิดเห็นได้นอกจากดูและฟังอย่างเดียว

         เวลานั้น..เขาก็กล่าวว่า " ท่าน ซัยยิด ฮุเซ็น , แท้จริงการทำมุตอะห์กับเด็กน้อย...เป็นที่อนุมัติ...บนเงื่อนไขด้วยการหยอกหล้อกัน , การจูบ , เล่นกันข้างนอกระหว่าง 2 ขาเท่านั้น แต่สำหรับการร่วมประเวณีกับเด็กน้อยนั้น..เขาไม่แข็งแรงพอ "

          แต่สำหรับทัศนะของอิหม่ามโคไมนี...คือ เป็นที่อนุมัติมุตอะห์กับเด็กน้อยแม้แต่เด็กที่อย่างกินนมอยู่ก็ทำมุตอะห์ได้. กล่าวคือ ( การทำมุตอะห์นั้นกับเด็กน้อยนั้นแม้แต่เด็กที่อย่างกินนมอยู่-โดยการ จูบ และประเวณี เป็นสิ่งที่กระทำได้ ) 

แปลจาก..หนังสือ لله..ثم للتاريخ ..ผู้เขียน : السيد حسين الموسوي (หน้า 35-37)

         ชาวชิอะห์เอ๋ย.....พวกท่านจะยอมไหมให้ทำมุตอะห์กับลูกหลานของท่านอายุ 4-5 ขวบหรือน้อยกว่านั้นตามที่อิหม่ามโคไมนีกระทำ...ผู้นำแห่งจิตวิญญาณของชาวชิอะห์...!!!!




มุตอะฮฺ หมายถึงอะไร ?

           มุตอะฮฺ เป็นคำศัพท์ภาษาอาหรับ มีความหมายว่า “ความสุขสำราญ” แต่มุสลิมโลกสวย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มุสลิมชีอะห์ ที่ได้ประโยชน์ จากการเล่นเสียวในเรื่องนี้ ก็จะอธิบายว่า  มุตอะฮฺนิซาอฺ หรือการแต่งงานที่มีกำหนดเวลา ( ฟาดกัน ชั่วคราว ) หมายถึง หญิงหรือตัวแทนของฝ่ายหญิงได้ตกลงแต่งงานกับฝ่ายชาย ตามกำหนดเวลา และมะฮัรฺ(สินสอด) ที่กำหนดแน่นอน ซึ่งต้องไม่มีอุปสรรคทางหลักชัรอีย์ (ข้อบังคับศาสนบัญญัติ) เป็นตัวขวางกั้น เช่นการเป็นเครือญาติทางสายเลือด หรือโดยสาเหตุ (สะบับบี) หรืออิดดะฮฺ (ช่วงระยะเวลาที่หย่าร้างกับสามีเดิม) หรือหญิงมีสามี หรือหญิงไม่ได้เป็นมุสลิม กรณีที่เคยร่วมหลับนอนเมื่อแยกทางกับสามีต้องรอให้รอบเดือนหมดถึงสองครั้ง ถ้าหญิงเป็นผู้ไม่มีกำหนดเวลาในการมีรอบเดือนแน่นอน และอายุไม่ถึงกำหนดเวลาที่รอบเดือนจะหมดต้องรอเวลาจนกว่าจะถึง ๔๕ วัน
         บุตรที่เกิดจากการแต่งงานที่มีกำหนดเวลา มีสิทธิทุกอย่างเหมือนกับบุตรที่เกิดจากการนิกาห์ และตามความเป็นจริงเรื่องนี้มีอยู่ในอิสลามหรือไม่?  แน่นอนเรื่องนี้มีอยู่ในอิสลามจริงตามหลักฐานของอัลกุรอานที่กล่าวว่า..

             فَمَا اسْتَمْتَعْتُم بِهِ مِنْهُنَّ فَآتُوهُنَّ أُجُورَهُنَّ فَرِيضَةً وَلاَ جُنَاحَ عَلَيْكُمْ فِيمَا تَرَاضَيْتُم بِهِ مِن بَعْدِ الْفَرِيضَةِ إِنَّ اللّهَ كَانَ عَلِيمًا حَكِيمً

         “ดังนั้นหญิงใดที่พวกเจ้าเสพสุขด้วย จากบรรดาหญิงเหล่านั้นก็จงให้แก่พวกนาง ซึ่งสินตอบแทนแก่พวกนางตามที่มีกำหนดไว้ และไม่เป็นบาปใด ๆ แก่พวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าต่างยินยอมกันในสิ่งนั้นหลังจากที่มีกำหนดนั้นขึ้นแท้จริง อัลลอฮฺเป็นผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ (บทอันนิซาอฺ / ๒๔)

           แปลความหมายกันตามสติปัญญานะครับ ส่วนใครจะเชื่อ โคมัยนี่ และทำตามนั้น ก็เชิญตามสะดวกละครับ เพียงแต่ว่าคงต้องตอบปัญหาทางสังคมมุสลิมด้วยกันเองว่า ควายไหมนั่น 


หลักฐานความระยำ ของการค้ากาม ที่เรียกกันว่า มุตอะฮฺ


            เพื่อนผม เรียนหนังสือห้องเตียวกัน เป็นมุสลิม หนองจอก มันอธิบายว่า มุตอะห์ หรือเรียกอีกอย่างว่าการแต่งงานชั่วคราว ซึ่งเรื่องนี้ มุสลิมสายซุน นี่มักจะบอกว่า เนี้ยมันเป็นความเชื่อของพวกชีอะห์ มันไม่ใช่อิสลาม !!!

               ผมก็งง ทำไหมเวลาอวดอ้างว่าตัวเองมีผู้นับถือเยอะ เสือกนับรวมทุกนิกาย แต่ทำไหมพอมีเรื่องเหี้ย ๆ ของนิกายอื่น ๆ เสือกบอกว่านิกายนั้นไม่ใช่อิสลาม

อิหม่ามเกย์แอบแต่งงานให้คู่รักเพศเดียวกัน


          แม้จะมีกฎหมายรับรองการแต่งงานระหว่างเพศเดียว แต่บางชุมชนโดยเฉพาะในสังคมมุสลิมไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ อิหม่ามอัฟริกัน อเมริกัน Daayiee Abdullah ดายิอี อับดุลเลาะฮฺ ซึ่งเข้ารับอิสลามและมีพฤติกรรมเป็นเกย์อย่างเปิดเผย ได้ช่วยทำพิธีแต่งงานให้คู่รักเพศเดียวกันคู่หนึ่ง และยังปิดบังไม่ให้ครอบครัวของพวกเขารู้เรื่องนี้

          อิหม่ามดายิอี จะได้รับการสรรเสริญยกย่องในหมู่มุสลิมที่มีรสนิยมไม้ป่าเดียวกัน แต่เขาก็ถูกเหยียดหยาม ทั้งยังมีการเปิดบล๊อกในอินเตอร์เน็ตที่มีข้อความแสดงความโกรธ

         ก่อนหน้านี้ ดายีอี เคยนำละหมาดญานาซะฮฺให้กับชายมุสลิมที่เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ ซึ่งอิหม่ามดายีอีกล่าวว่า "ชาวเกย์ถูกปฏิบัติต่ออย่างโหดและทารุณเมื่อเขามีชีวิต และต้องมีคนทำพิธีให้เมื่อเขาตาย และถึงแม้คนเหล่านี้จะละทิ้งศรัทธาไปแล้ว แต่ก็ยังคงมีความจำเป็นที่เขาจะต้องช่วยทำพิธีให้ เพราะไม่มีอิหม่ามคนไหนยอมทำ" - www.muslimthaipost.com


อิหม่ามหญิงในประเทศจีน ถูกปลดจากพันธนาการ

อิหม่ามหญิงในประเทศจีน




           สตรีสลิมในประเทศจีนเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปอย่างเงียบๆ ในประเทศจีน เพราะพวกเธอเป็นอิหม่ามได้ด้วยนะสิ!  ผู้คนในประเทศมุสลิมทั้งหลายคงจะนึกไม่ออกหรอกว่า มีเรื่องแบบนี้ในโลกด้วย!

         อู๋จง เป็นเมืองที่มีอิหม่ามหญิงมากที่สุดในประเทศจีน คือมากกว่า 20 คน พวกเธอนำละหมาดและให้คำปรึกษาแก่ผู้หญิงเรื่องของศาสนาอิสลามในอู๋จง ซึ่งเป็นเมืองที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม

         หวัง ซาน เคยเป็นพยาบาลมาก่อน และจนกระทั่งปีค.ศ.1985 นั่นแหละที่เธอเริ่มกระหายจะศึกษาอัล-กุรอานมากขึ้นและศึกษาเรื่องการปฏิบัติตัวตามหลักศาสนา เธอบอกว่า "ฉันไม่ได้วางแผนจะเป็นอิหม่ามหรอก ฉันต้องการแค่ศึกษาเพิ่มเติมและพัฒนาภาษาอารบิกของฉันให้ดีขึ้น แต่ต่อมาฉันก็พบว่า มีผู้หญิงมุสลิมจำนวนมากอ่านอัล-กุรอานไม่ออกและต้องการคำแนะนำในเรื่องศาสนา" หวัง ซาน สอบผ่านการเป็นอิหม่ามแล้ว และรับตำแหน่งอิหม่ามที่มัสยิดหญิงล้วนแห่งหนึ่งในอู๋จงใน ปี ค.ศ.2002

           อย่างไรก็ตาม ในประเทศอื่นๆ โอกาสแบบนี้ของผู้หญิงมุสลิมมีไม่มากนัก เพราะอิสลาม จำกัดสิทธิ์ของผู้หญิงในการเข้าอึงอัลกุรอาน เช่นในโมรอคโค เมื่อต้นเดือน มิ.ย.2006 ที่ผ่านมานี่เอง มีฟัตวาจากผู้นำศาสนาที่นั่นห้ามผู้หญิงดำรงตำแหน่งสูง ๆ และก่อนหน้านี้ที่บาห์เรน ในปีค.ศ.2004 มีรายงานว่า สตรีวัย 40 ผู้หนึ่งถูกจับกุมในข้อหาพยายามจะกล่าวคุตบะฮ์ในการละหมาดวันศุกร์ช่างต่างกันจริง ๆ กับที่ประเทศจีน ทั้ง หวัง ซาน และอิหม่ามหญิงคนอื่นๆ เช่น จิ้น เหมยฮัว ไม่พบการต่อ
ต้านจากบรรดาผู้ชายหรือผู้นำศาสนาเลย (ให้มันรู้ซ้า!!!!)" สามีฉันสนับสนุนฉันในเรื่องนี้อย่างมาก" หวัง ซาน กล่าว

         จริงๆ แล้วในเมืองจีนมีระบบอิหม่ามสตรีมาตั้งแต่ยุคทศวรรษ 1950 แล้ว เมื่อผู้หญิงคนแรกรับตำแหน่งอิหม่ามในปีค.ศ.1951 หวัง ซาน กล่าวว่า "แต่ช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม (1966-1976) มีการกดขี่ทางศาสนา ทุกศาสนาโดนกันหมดแหละ อิหม่ามหญิงเลยไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไหร่ จนเมื่อหลังจีนเปิดประเทศ เสรีภาพด้านศาสนาถึงดีขึ้น ที่อู๋จงนี่มีอิหม่ามหญิงมานานกว่า 10 ปีแล้ว"

         นอกจากนี้ แถบตะวันตกของจีนก็ยังเกิดมัสยิดหญิงล้วนขึ้นมามากมาย มัสยิดเหล่านี้แยกต่างหากจากอาคารละหมาดของผู้ชาย ซึ่งไปๆ มาๆ อาคารมัสยิดหญิงล้วนบางแห่งใหญ่พอ ๆ กับหรือบางแห่งก็ใหญ่กว่ามัสยิดชายล้วนซะอีกนี่คือข้อแตกต่างของประเพณีที่เป็นคู่ขนานกันแพร่หลายในหลายๆ ส่วนของโลก 

         บางทีในบางมัสยิดก็ไม่ยอมให้ผู้หญิงเข้าไปละหมาด หรือไม่บางมัสยิดก็มีม่านกั้นระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง"   ในสังคมมุสลิมเนี่ย บางทีก็มีการกีดกันสิทธิของผู้หญิง ซึ่งทำให้ผู้หญิงทำผิดได้ง่าย เช่น ไม่ยอมละหมาดหลังคลอดลูก บางทีผู้หญิงก็มีความรับผิดชอบมากมายอยู่ที่บ้าน นี่คือเหตุผลที่ทำไมผู้หญิงต้องการความสนใจ และต้องการคำแนะนำในด้านศาสนา 

         อิหม่ามหญิงมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยเหลือในเรื่องเหล่านี้ได้" หวัง ซาน กล่าว เธอยังสำทับในตอนท้ายอีกว่า "ฉันอยากเห็นอิหม่ามผู้หญิงในโลกนี้มากกว่านี้""ฉันดีใจที่เห็นแนวโน้มของอิหม่ามผู้หญิง เพราะผู้หญิงรับผิดชอบครึ่งหนึ่งของผืนฟ้าบนหน้าแผ่นดินนี้ และพวกเธอควรมีผู้นำผู้หญิงของพวกเธอเอง" หยาง หวัน เป่า กล่าว เธอเป็นอิหม่ามหญิงอีกคนหนึ่ง มัสยิดหญิงล้วนที่เธอนำละหมาดอยู่ก็ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับมัสยิดที่นำโดย หวัง ซาน นั่นแหละ 

        นี่ในประเทศจีนนะครับ ถ้าเป็นสามจังหวัดชายแดนใต้ของเรา  แบบนี้ สงสัยจะโดนทำสงครามจีหอย แทน จีฮัด แหง๋ ๆ 

ที่มา: Women lead prayers, revolution in China. Times of India. 26 June 2006.

ซาตานจากนรกขุมไหน ?






          ข้าพเจ้าฯในฐานะคนไทยพุทธที่ยึดพุทธธรรมเป็นที่พึง และ ยึดพรหมวิหารสี่เป็นแนวทางปฏิบัติเพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์

           ข้าพเจ้า ขอประณามไอ้พวกไซตอนจากนรกพวกนี้ .....พวกมันมองการฆ่าคนเป็นความสนุก ฆ่าเด็กเพื่อความบันทึก

           นอกจากนั้น......... พวกมันยังสรรเสริญศาสดาของมันขณะที่จะปฏิบัติการฆาตรกรรมบันเทิง.......   อัลเลาะห์อักบัรรรรร อีกด้วย !

วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

กรรมตามทัน ไอ้ลูกหมา ฟาตอนี อันกูละเบื่อ



                จากเหตุการยิง นาย มะมือลี วามะ  เมื่อวันที่ 27 พ.ย.57 เวลา 19.40 น.  ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่ม จำนวน 4 คนใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน ยีห้อฮอนด้า เวป 100 สีดำ 1 คัน สีแดง 1 คัน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับมาจอดหน้าบ้านของ นาย มะมือลี วามะ และได้ปีนรั่วเขาไปในบริเวณบ้าน หลังจากนั้นได้ใช้ปืนสั้น ขนาด .38 มม. ยิง นาย มะมือลื วามะ กระสุนถูกบริเวณศรีษะและลำตัวหลายแห่ง ทำให้ นาย มะมือลี  วามะ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 


           ระหว่างเกิดเหตุ  ส.อ.อัครพงษ์ สะอะ เจ้าหน้าทีทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 ซึ่งเป็นลูกเขยของ นาย มะมือลีฯ  อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ได้ใช้อาวุธปืนประจำกายขนาด 9 มม. ยิงตอบโต้คนร้ายไปหลายนัด ทำให้คนร้ายหลบหนีไป  หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนคนร้ายตกอยู่ข้างกำแพง และรองเท้าฟองน้ำเปื้อนโคลน 1 คู่ และพบคราบเลือดคนร้ายข้างกำแพงบ้าน จึงรู้ว่าคนร้ายได้รับบาดเจ็บแล้วพากันหลบหนีไป แต่คนร้ายอีกคนเลือดไหลไม่หยุดจึงใช้ผ้าสี่แดงมัดเอวใว้เพื่อห้ามเลือด 




          แต่สุดท้ายทนพิษบาดแผไม่ไหว จึงได้เสียชีวิตและเพื่อนผู้ร่วมขบวนการชั่ว ก็ได้นำศพไปทิ้งใว้ข้างทาง จนกระทั่งรุ่งเช้า ชาวบ้านมาพบศพ ส่วนคนร้ายอีก 3 คนก็พากันหลบหนี ล่าสุดเจ้าหน้าตำรวจ สามารถติดตามจับกุมตัวมาได้ 1 คน





         และอีก 2 คน อยู่ระหว่างหลบหนีหัวซุกหัวซุน คาดว่า ถ้าไม่โดนพวกเดียวกันยิงทิ้ง ก็น่าจะได้ตัวภายในสองสามวันนี้ ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบชื่อผู้ก่อเหตุหมดแล้ว 

อัลเลาะ ทรงสร้างทุกสิ่ง....


โจรชั่วก็คือ โจรชั่ว
ไม่ถูกจับเป็นก็ ถูกจับตาย 

ทีมสังหารทหารเจ้าหน้าที่ทหาร 4 นาย ที่มายอ ได้พบกับสัจธรรม เกือบครบทุกตัวแล้ว !



           โฉมหน้าไอ้ลูกหมาฟาตอนี ที่ลงมือสังหารเจ้าหน้าที่ทหาร  4 นาย บาดเจ็บ 2 ขณะลาดตระเวนเส้นทางด้วยรถจักรยานยนต์ 3 คันในพื้นที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี เมื่อปี 2555

           วันเวลาผ่านไป 2 ปี นับตั้งแต่เหตุการณ์อุกอาจที่กลุ่มโจรไอ้ลูกหมาฟาตอนี  16 ตัว คนลอบสังหาร และปล้นอาวุธปืนไปจาก 4 ทหารหาญ และได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ไม่นานนัก ไอ้ลูกสมุนโอลันล้า อันกูละเบื่อที่ปรากฏภาพ เป็นผุ้ก่อเหตุก็ถูกจับได้ทีละตัวสองตัว พอจับได้ตัวหนึ่ง ก็จะสาวไส้ไปถึงอีกหลาย ๆ ตัว  พอจับไอ้ลูกหมาเหล่านี้ได้หลาย ๆ ตัว ก็เริ่มมองเห็นโครงสร้างของกลุ่มขบวนการ ขณะนี้ ไอ้ลูกหมาฟาตอนีบางตัวยังคงหลบหนี บ้างตัวก็โดนวิสามัญ และบ้างตัวศาลตัดสินประหารชีวิต

           2 ปี กับการค้นหาความจริงจากไอ้โจรอันกูละเบื่อเหล่านี้ ใช้เวลานานพอสมควร แต่การหาความจริงจากไอ้ลูกหมาฟาตอนีเหล่านี้ ไม่ยากเย็นเท่ากับการเขียนสำนวนส่งฟ้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการด้วยความรัดกุม มีน้ำหนักมากที่สุด ถ้าไม่รัดกุม ไอ้พวกลูกหมาฟาตอนีเหล่านี้ ก็จะออกมาลอยลอยหน้าลอยตานอกคุกได้อีก พอสบโอกาสมันก็ลงมือทำความชั่วอีก คร่าว ๆ ก็คือ 1 ปี กับการเฟ้นหาความจริงบวกกับอีก 1 ปี ที่ศาลตัดสินโทษประหารมันก็คุ้มกันแล้ว....

สรุปยอด ณ ปัจจุบัน กรรมตามสนองไอ้ลูกหมาฟาตอนี้ ดังนี้ 

ประหารชีวิต  5 ตัว

นายอิสมาแอ ดาโอง อายุ 33 ปี ที่อยู่ 31/2 ม.5 ต.ลุโบะยิไร อ.มายอ จ.ปัตตานี จับกุม 28 ก.ค.55

นายกอเดร์ เจะแต อายุ 31 ปี ที่อยู่ 17/6 ม.1 ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา จับกุม 6 ส.ค.55 (จัดเก็บอาวุธปืน)

นายมะซาฮาฟี มีทอ อายุ 28 ปี ที่อยู่ 69/1 ม.9 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จับกุม 10 ก.ย.55 (มือปืน ชุดที่ 3)

นายอิสบุเลาะ บือซา อายุ 36 ปี ที่อยู่ 155/3 ม.1 ต.บางเก่า อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จับกุม 13 ก.ย.55 (มือปืน ชุดที่ 2)

นายนิมูหัมมัด นิเซ็ง อายุ 32 ปี ที่อยู่ 30/2 ม.5 ต.ลางา อ.มายอ จ.ปัตตานี จับกุม 14 ก.ย.55 (ขับรถยนต์ คันที่ 1)


ถูกสอยไปแล้ว 2 ตัว

นายอาหาหมัด ดือราแม อายุ 24 ปี ที่อยู่ 58 ม. 5 ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เหตุปะทะ กับเจ้าหน้าที่ เมื่อ 28 ก.ย. 57

นาย มะตอเห มุสลีมีน อยู่บ้านเลขที่ 3 ม.5 ต.กะดุนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เหตุปล้นรถขนเงิน ธ.กสิกรไทย เมื่อ 30 พ.ค. 56

กำลังพิจารณาในชั้นศาลอีก  1 ตัว

  1. นาย มือเสาะ หรือ มะยา กาเสง ที่อยู่ 20/1 ม.4 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส จับกุม 16 ก.ย. 57

ศาลยกฟ้อง จำนวน 1 ตัว


           นายมุสรอ ยาลา อายุ 29 ปี ที่อยู่ 65/4 ม.6 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จับกุม 25 ต.ค. 55 ไอ้ตัวที่ยกฟ้องนี้ไม่ต้องกลัวครับท่าน เดี๋ยวพวกมันกันเองก็มาตามเก็บอันเองแหละ มันไม่ปล่อยเอาไว้ทซากหรอกครับ

หลบหนีหัวซุกหัวซุนอีก  5 ตัว
นาย อับดุลฮาดี ดาหาเล็ง อายุ 35 ปี ที่อยู่ 136 ม.3 ต.บาโลย อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี


นาย ปาตะ ลาเต๊ะ อายุ 25 ปี ที่อยู่ 2044 ม.1 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

นาย มะรูดิน ตาเฮ อายุ 30 ปี ที่อยู่ 115/1 ม.2 ต.ปะนาเระ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี
นาย สุไลมัน สุหลง อายุ 28 ปี ที่อยู่18 ม.2 ต.ท่านน้ำ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี
นาย อาซิ ดาโอง อายุ 27 ปี ที่อยู่ 50/2 ม.1 ต.ลิดล อ.เมืองยะลา จ.ยะลา

             ไอ้พวกสารเลวพวกนี้ ได้รับกรรม ไอ้พวกที่ยังหลบหนี ล้วนเป็นผลงานของพระเจ้าที่สร้างพวกมันมา ให้มันมาทำความเลวระยำ โดยอ้างพระเจ้า แล้วพระเจ้าก็สร้างคุก มาขังพวกมัน แล้วพระเจ้าก็สร้างเจ้าหน้าที่มาสอยมัน  ......  

    เหยดแหม่ม กู่รู้แล้ว ..ฮัั้วดอ .....ใครกันแม่งจะแบ่งแยกดินแดน...  ไอ้เหี้ยนี่เอง

ยิงมุสลิม พ่อตาเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25



เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๗ เวลา ๑๙.๔๐ น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่ม จำนวน ๔ คน ใช้รถจักรยายนยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ ๑๐๐ จำนวน ๒ คัน สีแดงและสีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับมาจอดหน้าบ้าน ของ นายมะมือลี วามะ และได้ปีนข้ามรั้วบ้านเข้าไปในบริเวณบ้าน ใช้อาวุธปืนพกสั้น ไม่ทราบชนิด ขนาด .๓๘ มิลลิเมตร ยิง นายมะมือลี วามะ บริเวณศีรษะและลำตัวจำนวนหลายนัด เป็นเหตุให้นายมะมือลีฯ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุอายุ 

 นายมะมือลี วามะ อายุ ๕๗ ปี เลขประจำตัวประชาชน ๓๙๔๑๑๐๐๐๖๔๙๔๖ มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ ๑๒๖ หมู่ ๕ ตำบลปากู อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานะ ระหว่างเกิดเหตุ ส.อ.อัครพงษ์ สะอะ เจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ๒๕ ซึ่งเป็นลูกเขยของ นายมะมือลี ฯ อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้ยิงต่อสู้คนร้ายด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด ๙ มม. หลายนัด ทำให้คนร้ายวิ่งหลบหนีไป จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบวัตถุพยานเครื่องกระสุนขนาด .๓๘ มม. ของคนร้ายตกอยู่ข้างกำแพง ๑ นัด รองเท้าฟองน้ำเปื้อนโคลน ๑ ข้าง และคราบเลือดของคนร้ายข้างกำแพงรั้วบ้าน




หลังเกิดเหตุ นายเศวต เพชรนุ้ย นายอำเภอทุ่งยางแดง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการอำเภอทุ่งยางแดง ได้สั่งการให้กำลัง ๓ ฝ่าย จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าพิสูจน์ทราบ และติดตามจับกุม ผู้ต้องสงสัย ๑ ราย พร้อมรถจักรยานยนต์ ทราบชื่อ นายนิอัลวีย์ ดือราแม อายุ ๒๗ ปี เลขบัตรประจำตัวประชาชน ๑๙๕๙๙๐๐๑๓๐๕๔๕ มีภูมิลำเนาอยุ่บ้านเลขที่ ๔๗ หมู่ ๑ ตำบลยี่งอ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส ได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอทุ่งยางแดง และสั่งการให้ ชุดคุ้มครองตำบลตะโละแมะนา ชุ้ดคุ้มครองตำบลพิเทน และ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านตั้งจุดตรวจ จุดสกัด พร้อมทั้งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯ ในพื้นที่ ช่วยสืบสวนหาข่าวอย่างต่อเนื่อง เหตุการสืบเนื่อง

  • จากเหตุการเมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลา ๒๑.๓๐ น. เจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตามจับกุมบุคคลเป้าหมาย นายเจะอุเซ็ง กูโน อายุ ๔๕ ปี เลขประจำตัวประชาชน ๓๙๔๐๖๐๐๐๓๔๘๒๔ มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ ๖๓/๑ หมู่ ๕ ตำบลปากู อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี
  • เหตุการณ์เมื่อ วันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๔.๓๐ น. เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ ๖๕/๑ หมุ่ ๕ ตำบลปากู อำเภอทุ่งยางแดง ฯ ตรวจพบถุงภาชนะบรรจุตะปูเรือใบ บริเวณสวนผลไม้หลังบ้านเป้าหมายประมาณ ๑๕๐ เมตร 
จึงคาดว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายในพื้นที่ำบลปากู อำเภอทุ่งยางแดง มุ่งปฏิบัติการทำการสร้างสถานการณ์เพื่อเป็นการตอบโต้การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเป็นการข่มขู่ไม่ให้ราษฎรในพื้นที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ และจากการที่ นายมะมือลี วามะ ผู้เสียชีวิตมีลูกเขยเป็นเจ้าหน้าที่ทหารในหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ๒๕ คือ ส.อ.อัครพงษ์ สะอะ คาดว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายในพื้นที่ ตำบลปากู อำเภอทุ่งยางแดง ฯ ต้องการที่จะก่อเหตุเพื่อมุ่งหวังต่อชีวิตของครอบครัว นายมะมือลี ฯ 

ก่อนก่อเหตุคนร้ายน่าจะมีการวางแผนมาอย่างดี แต่คาดว่าน่าจะไม่ทราบว่า ส.อ.อัครพงษ์ ฯ อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ จึงได้ถูก ส.อ.อัครพงษ์ ฯ ยิงตอบโต้ ทำให้คนร้ายได้รับบาดเจ็บ และหลบหนีไป 

การก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะเป็นการกระทำเพื่อมุ่งหวังให้ราษฎรในพื้นที่ ที่มีญาติเป็นเจ้าหน้าที่ เกิดความหวาดกลัว และพยายามกดดันให้ เจ้าหน้าที่ออกนอกพื้นที่ เพื่อเป็นการง่ายต่อเสรีการปฏิบัติ และการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู่้ก่อการร้าย

ปิดล้อมตรวจค้น มัสยิด แหล่งฟูมฟักโจรฟาตอนี



            วันที่  ๒๘ พฤศจิกายน  ๒๕๕๗  เวลา ๐๐.๐๙ น. เจ้าพนักงานตำรวจ นำโดย พ.ต.ท. สมศักดิ์ นิเต็ม รองผู้กำกับการสืบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอปะนาเระ , พ.ต.ท.สมชาย จันยัง รองผู้กำกับการปราบปรามสถานีตำรวจภูธรอำเภอปะนาเระ ,พ.ต.ต. พิริยา เจตวรานนท์ สารวัตรสืบสวนสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอปะนาเระ , ร.ต.ท. ธีระศักดิ์ เกิดสิน รองสารวัตรสืบสวนสอบสวนสถานีตำรวจภูธร อำเ ภอปะนาเระ, ร.ต.ท. พศวีร์ ยกประสพรัตน์ ,ด.ต. อภิชัย ดำมณี,จ.ส.ต. ประเนิน เพชรจำรัส ,จ.ส.ต. วรรณกร จงรักษ์ ,ส.ต.ต. สรายุทธ โพธิ์ศรีนาค ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ ๔๓ ,หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ ๔๒,ชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๔๔,ชุดปฏิบัติการสลาตัน ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นแหล่งหลบซ่อนตัวของกลุ่มผู้ก่อการร้าย บริเวณ มัสยิดท่าสู หมู่ ๓ ตำบลบ้านน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี 


          ผลการดำเนินการปรากฏพบ ผู้ต้องสงสัยจำนวน ๒ คน 

  • (๑.) นาย อักมาล หะยีอุเซ็ง อายุ ๒๕ปี หมายเลขบัตร ๑๙๔๙๘๐๐๐๖๖๘๙๖ อยู่บ้านเลขที่๑๗๐ หมู่ ๓ ตำบลตะบิ้ง อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี จบชั้น ๑๐ ปอเนาะพ่อมิ่ง (จากการตรวจค้นได้พร้อมสมุดพกเขียนสอนการใช้/การเล็งศูนย์อาวุธปืน M๑๖) 
  • (๒.) นาย มูฮัมมัดอามีน สะมาแฮ อายุ ๒๕ ปี หมายเลขบัตร ๑๙๕๐๖๐๐๐๙๐๑๗๕ อยู่บ้านเลขที่ ๖/๖ หมู่ ๑ ตำนบจะกว๊ะ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา (จบชั้น๑๐ ปอเนาะพ่อมิ่ง) 
           เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวบุคคลทั้ง ๒ คน ตาม พระราชบัญญัติกฏอัยการศึกไปทำการซักถามที่ หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่  ๔๓ ค่ายอิงคยุทธบริหาร ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี และได้ทำการเชิญตัว นาย สะบรี กลามอ อายุ๒๐ ปี หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน  ๑๙๔๐๔๐๐๐๘๖๗๕๑ อยู่บ้านเลขที่ ๑๖/๑ หมู่  ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส และ นาย บักรี มามะ อายุ ๒๔ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๒๑/๗ หมู่ ๓ ตำบลบ้านน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี มาทำจัดทำประวัติการและเก็บตัวอย่าง DNAไว้แล้วให้ทางผู้ใหญ่บ้านและโต๊ะอิหม่ามมารับตัวกลับภูมิลำเนา

วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

โจรมุดสโีร่ง ไม่รู้จะทำง้ัยดี หันมายิงมุสลิมพวกเดียวกันเสียชีวิตอีก 1 ราย



            วันที่ 27 พ.ย.2557 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรอำเภอทุ่งยางแดง ได้รับแจ้งเหตุฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย เหตุเกิด ที่บ้านเลขที่ 126  หมู่ 5 ตำบลปากู อำเภอทุ่งยางแดง จังหว้ัดปัตตานี


           เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บ ชื่อนายมะมือลี วามะ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 หมู่ 5 ตำบลปากู อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทุ่งยางแดง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยในวันเวลาเกิดเหตุ ขณะที่ นาย มะมือลี วามะ ทำงานอยู่หน้าบ้านตนเอง ได้มีคนร้าย 3 คน ใช้ จักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ขับมาจอดหน้าที่บ้านแล้วใช้อาวุธปืนสั้นยิงใส่ผู้ตายหลายนัดจนเสียชีวิตแล้ว หลบหนีไป

โจรฟาตอนี ไล่ยิงเด็กนักเรียน ไทยพุทธ


               วันที่ 27 พ.ย.57 เวลา 17.10 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุ เกิดเหตุ  เหตุเกิดบนถนนสาย 42 บ้านตันหยงดาลอ เยื้อง อบต.ตันหยงดาล อ.ยะหริ่ง จว.ปัตตานี คนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวน ได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ลอบยิงนักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนเดชะปัตนยานุกูล ปัตตานี ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย ทราบชื่อ
  • 1.นาย ปรีชาพัฒน์ แววจันทร์ชยากร
  • 2.นาย สุทธิพงษ์ โพธิ์สุวรรณ (อาการสาหัส)




            ขณะที่นักเรียนทั้ง 2 ราย ขับขี่รถจยย.กลับจากโรงเรียนเพื่อเดินทางกลับบ้านพักที่ ต.ปาลัส นำส่ง รพ.ยะหริ่ง ส่งต่อ รพ.ปัตตานี ล่าสุดได้รับรายงานว่า เสียชีวิตแล้ว