ความรุนแรง 30 พฤจิกายน 47 | |
นาย นัฐพล ไชยกิจ อายุ 32 ปี นายช่าง โยธา อบต.บาราโหม สำคัญรอดตายมาได้ | |
เลือดของนาย ช่างองค์การบริหารส่วนตำบล ที่กองอยู่ข้างรถกระบะ | |
นาย ประเสริฐ เกาอินทร์ อายุ 53 ปี อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) จังหวัด ปัตตานี ปฏิบัติหน้าที่เวรยามหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัด ปัตตานี | |
นาย ประเสริฐ เกาอินทร์ ถูกยิง แต่โดนเพียงแค่เล็กน้อย ปลอดภัย ทราบมาว่า คุณ ลุง ท่านนี้ ยิงสู้ด้วย ไม่เบาไม่เบา ฝีมือเหมือนกัน | |
สวนยางของ ด.ต สมคิด ทับทิมสี ตำรวจ สภ.อ รามัน เสียไป 250 ต้น กว่าเขาจะปลูก ฟูมฟัก จนต้นยางจนกรีดได้มันนานแค่ไหน พวกมึง มาตัดของเขาภายในคืนเดียว พวกมึงนี่มันเลวเข้ากระดูกจริง ๆ เฮ้ยๆๆ | |
ทหารเต็มบ้านเต็มเมือง ระดับนโยบาย ไม่ให้รุกอย่าง เต็มตัว มัวรอหลักฐานก่อนจึงรุก เห็นมันมายิงกับเรา ก่อนจึงรุก มันไม่ได้โง่ เราจึงปกป้องใครไม่ได้ตามเคย | |
คนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ถูกยิง | |
นาย อาดือนัน สะแลเม็ง อายุ 25 ปี ครูสอนศาสนาธรรมวิทยายะลา ถูกยิงเสียชีวิต ครูสอนศาสนาท่านนี้คงไม่เอาด้วยกับพวกชั่วเลยต้อง มาจบชีวิตลง คนที่นับถือศาสนาอิสลามดีๆก็มี ไม่ใช่ไม่มี |
เฉพาะกิจ : ความจริงอย่างที่สุด ดูจาก เจ้าของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
ออกรายการเมืองไทยรายวันในวัน ศุกร์ ที่ 5 พฤษจิกายน 47 บอกว่า
ผู้ก่อการร้ายไปฝึกโดยเดินทางในเส้นทางใต้ - เชียงใหม่
เชียงราย - พม่า - บังคลาเทศ ( ที่นี่มีค่ายฝึกก่อการร้าย )
ข้อมูลเหล่านี้ เราไม่ทราบ แต่ที่รู้จริงๆ และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็รู้
แต่ทำอะไรไม่ได้ คือ พวกมันไปฝึกที่รัฐกลันตัน
ในมาเลเซียนี่เอง ความปราถณา และ แรงจูงใจของพวกมัน
คือ ฝึกแล้วมาฆ่าคนในภาคใต้ได้ เมื่อฆ่าได้จำนวนตามเกณฑ์
มันจะได้ตั๋วเครื่องบินให้ไปรบในตะวันออกกลาง นี่ของจริงเลย
คือ ฝึกแล้วมาฆ่าคนในภาคใต้ได้ เมื่อฆ่าได้จำนวนตามเกณฑ์
มันจะได้ตั๋วเครื่องบินให้ไปรบในตะวันออกกลาง นี่ของจริงเลย
ขอระบาย ความอึดอัดใจ ความคับแค้นใจ และ ความรันทดใจ
ต่อสิ่งที่ถ่วงความเจริญของประเทศชาติจากหัวใจสักครั้ง
ต่อสิ่งที่ถ่วงความเจริญของประเทศชาติจากหัวใจสักครั้ง
๑. เหตุกาลที่เกิดขึ้นกับภาคใต้ของเรา มันเป็นเรื่องของคนที่เป็นตัวถ่วงความเจริญของประเทศ เป็นขยะของชาติ ที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เลย ความพยายามให้โอกาศ ความพยายามสร้างโอกาศ จนแล้วจนเล่า ก็ยัง คนเหล่านั้นหาได้รู้ถึงบุญคุณที่หลั่งไหล ถ่ายเทไปให้ นับเป็นผู้ที่เนรคุณต่อสยามประเทศอย่างแท้จริง เลี้ยงไม่เชื่อง หาได้รู้รสข้าวแดงแกงร้อน หาได้รู้บุญคุณของธรณีที่อาศัยพักพิงตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ขุนไม่ขึ้นจริงพวกนี้ ๒. ความมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกันในประเทศ พวกมุสลิมมีมามากกว่าคนอื่นทั้งสิ้น ๒.๑ การเข้ารับราชการทหารตำรวจ การเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร มีสิทธิพิเศษสำหรับชาวมุสลิมไม่ต้องสอบแข่งกับคนอื่นที่นับถือศาสนาอื่น ทั้งที่คนอื่นต้องตั้งหน้าตั้งตา อ่านหนังสือหามรุ่งหามค่ำเพื่อแข่งขันอย่างเป็นธรรม แต่พวกมุสลิมเข้าง่ายๆด้วยเพราะนับถือศาสนาอิสลาม มันเท่าเทียมกันที่ไหนกัน สิทธิตามกฏ - หมายรัฐธรรมมนูญที่พวกชอบอ้าง ชอบเรียกร้องไม่เห็นพวกนักเรียกร้องออกมาประท้วง ทวงสิทธิบางเลย เงียบเป็นเป่าสาก ส่วนเรื่องอื่นเห็นแหกปากเรียกร้อง มันเท่าเทียมกันที่ไหน มันไม่เป็นธรรม ๒.๒ ไอ้พวกนักเรียกร้องสิทธิมนุษยชนหายหัวไปไหน พวกมุสลิมสามารถมีเมียที่ถูกต้องตามกฏหมายได้ 4 คน ในทุกคนได้ชื่อว่าเป็นเมียที่ชอบด้วยกฏหมายทั้งสิ้น เพียงเพราะเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม คนอื่นครอบครัวอื่นที่นับถือศาสนาอื่น ที่มีเมียมาก เมียของครอบครัวเหล่านั้น เป็นเพียงแค่เมียโดยพฤตินัย ถูกตราหน้าว่า เป็นเมียน้อย ไม่มีหน้ามีตา ที่สังคม กฏหมาย ยอมรับให้เกียรติในฐานะเมียที่ถูกต้อง มันไม่เป็นธรรม ๒.๓ สถานีรถไฟหัวลำโพง มีห้องทำละมาด ของพวกมุสลิม มีห้องหับ มีห้องล้างมือล้างเท้าไว้พรั่งพร้อม เอาไว้ ให้พวกมุสลิมทำพิธี ส่วนคนที่นับถือศาสนาอื่นได้ห้องทำพิธีเหมือนมุสลิมใหม ที่หัวลำโพง ศาสนาพุทธมี แค่พระพุทธชินราชตั้งองค์เดียว ห้องนั่งกราบนั่งไหว้ก็ไม่มี มันเท่าเทียมกันที่ไหน มันไม่เป็นธรรม ๒.๔ การไปประกอบศาสนกิจของพวกมุลลิมที่ ซาอุดิสอาระเบีย มันต้องนักเครื่องบินไป มันเดินไปไม่ได้ พวกนี้ได้เงินช่วยเหลือค่าตั๋วเครื่องบินจากรัฐบาล รัฐบาลไปเช่าอาคารสถานที่รอรับ อำนวยความสะดวกถึงที่นั้น ในกรณีเดียวกัน ชาวพุทธจะไปอินเดียเพื่อไปนมัสการสังเวชนียสถานได้ค่าส่วนลดค่าเครื่องบินใหม ? ไม่ มี ชาวคริตส์จะไป นครเยซูสาเลม รัฐช่วยค่าเครื่องบินใหม ? ไม่มี มันเท่าเทียมกันที่ไหน มันไม่เป็นธรรม ๒.๕ พวกมุสลิมห้ามคุมกำเนิด เพราะเป็นข้อห้ามทางศาสนา มีลูกออกมาเยอะแยะมันก็ยากจน เป็นปัญหาสังคม ในพวกที่ฐานะดี อบรมกันดี ไม่มีปัญหา แต่พวกที่ฐานะไม่ดีดันมีกันมากมันจะไม่จนอย่างไร เอาอะไรเลี้ยงกัน ละหมาดวันละ 5 ครั้งต่อวัน หน่วยงานราชการ และ เอกชนจะอ้างการบกพร่องของการละทิ้งหน้าที่ เพราะต้องไปละหมาดในพวกที่เคร่งๆ ศาสนา ก็อ้างไม่ได้ คนที่นับถือศาสนาอื่น ขอไปสวดมนต์วันละ 5 ครั้ง มีหวังโดนไล่ออกไปนานแล้ว มันเท่าเทียมกันที่ไหน มันไม่เป็นธรรม ๒.๕ กรณีไอ้อันธพาล ไปซ่อนตัวที่มัสยิด กรือเซะ มีอาวุธ ต่อสู้ ฆ่าเจ้าหน้าที่ พวกมันต้องล้มตายไป พวกมันทำตัวเลวเป็นกบฏต่อแผ่นดินเห็นๆแบบไม่ต้องมานั่งวิเคราะห์ เมื่อมันตายครอบครัวพวกมันได้เงินช่วยเหลือเพราะพวกมันทำชั่ว เหมือนกับผู้ทำความดี ทหารสงครามพิเศษที่ถูกพวกมันยิงที่หน้าผากก็ได้รับเงินช่วยเหลือในมูลค่ามากกว่าครอบครัวพวกมันเพียงเล็กน้อย พวกมันทำเป็นวีรกรรมที่เป็นคุณต่อประเทศชาติเพียงใด ครอบครัวมันจึงได้บำเหน็จรางวัลถึงเพียงนั้น คนทำดีล้มตายก็ได้รางวัล ทำชั่วตายก็ได้ รางวัล แบบนี้คนดีก็เหนื่อยยากน่าดู เมื่ออยู่ในประเทศนี้ มันไม่เป็นธรรม ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ๒.๖ กรณี ตากใบ พวกมันรวมตัวกันมาหาเรื่องชวนตีชัดๆ เจ้าหน้าที่เจรจา 6 ชั่วโมง ยอมแล้วยอมเล่าจะเอาเรื่องเอาเลือดกันให้ได้ อยากรู้ อยากทราบ จริงๆ ไอ้ เด่น โต๊ะมีนา ผู้หลังน้ำตา แต่คนไทยในใต้รู้ดี ว่าเอ็งสายเลือดเอ็ง มันคิดการใหญ่ แต่เอ็งก็ได้ดิบได้ดีไปนั่งใหญ่โตในสภา ทั้งที่ใจเอ็งสายเลือดเอ็ง คิดคดทรยศชาติมาตลอด ไอ้พวก กลุ่มวาดะ รักชาติจริงไม่มาช่วยเจรจาห้ามปราม ไอ้วันนอร์ ก็ไม่เบาไปทำงานที่ไหนกระทรวงใด สัญญาลักษณ์ศาสนาอื่น เช่น พระพุทธรูป ของเก่าแก่ เป็นได้ต้องกระเจิดกระเจิง อยากทราบว่าพระพุทธรูปมันไปทิ่มตาเอ็งหรืออย่างไร มันขวางหูขวางตาเอ็งมากนักหรือ พวกเอ็งไม่เคยจริงใจ กับใครเท่าคนมุสลิมหรอก คำพูดตอนหนึ่งในที่แจ้งของกลุ่ม วาดะ "พวกเราจะได้อะไรมาเราต้องต่อรอง" คำว่าพี่น้องชาวไทย มันสำคัญน้อยกว่า คำว่าพี่น้องมุสลิมเสมอหรือ ? ทำไมหัวใจพวกเอ็งจึงคับแคบเช่นนี้ ๓. การเสนอข่าวของสื่อมวลชนของไทยทั้งโทรทัศท์และหนังสือพิมพ์ พยายามเหลือเกินที่จะชี้จี้ไปที่การตายของไอ้พวกปุ๋ยใส่ใต้ต้นยาง ว่าพวกมันตายกันยังไง ใครผิด ใครเป็นคนสั่งการ อยากรู้อยากเห็น เหมือนคล้าย ๆ ว่าจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้มัน ที่พวกมันทำสร้างความวุ่นวายให้ประเทศชาติเสียหายไปเท่าใด นึกบ้างหรือไม่ ความยุติธรรมมีไว้เพื่อปกป้องคนที่มีใจคุณธรรมเท่านั้น แต่ต้องลงโทษลงทัณฑ์คนชั่วช้า ทีชาวบ้านตายรายวัน เจ้าหน้าที่ตายทุกวัน มีใหมที่จะลงข่าวเพื่อเรียกร้อง สงสัย เพื่อให้ได้มาซึ่งไอ้ชั่วที่ทำ ก็เห็นแค่ลงภาพว่า มีคนตาย เนื่องมาจากสาเหตุความไม่สงบทั้งปีแล้วก็จบทีแบบนี้ติดตามเกาะติด คนทำงานมันก็ลำบากใจ โดยเฉพาะกลุ่มเนชั่น เอาภาพทหารกำลังยิง แล้วทำเป็นเน้นที่ปอกกระสุนลอยอยู่ เองทำเพื่ออะไร เน้นให้ได้ ให้ได้อะไรขึ้นมา ตั้งแต่ข่าวตบแต่งภาพแล้วเอามาลงจนเขาจับได้ทีหนึ่งแล้ว เมื่อมือไม่พายอย่าเอาเท้าลาน้ำ ดีกว่าแสวงหาโอกาศทางธุรกิจ แสวงหาโอกาศจับผิดทหารเพื่ออะไร อยากรู้จริงๆ เอ็งมุ่งมันทำแบบนี้เพื่ออะไร ๔ . ในมาเลเซียใช่ว่าประเทศมันจะไม่มีกบฏ แต่มาเลปราบปรามอย่างหนักเอาจริง เอาถึงตายสื่อมวลชนของมาเล ก็ไม่เป็นอิสระก็รู้ๆกันอยู่ แต่สื่อต่างชาติที่อยู่ในมาเลก็ไม่กล้าเพราะถ้ารายงานข่าวอะไรไม่ชอบ ไม่เข้าตา รัฐบาลจะถูกขับไล่ออกนอกประเทศทันที คราวหนึ่งพวกกบฏหัวรุนแรงหนีเข้ามาในไทย หนีไ ปจนถึงเชียงใหม่ มันยัง ตามไปฆ่าทิ้งเสียที่นั้น ไอ้พวกจับเป็นพี่ไทยก็ให้มันเอาตัวไป แบบไม่เป็นข่าว เราจริงใจกับกับมัน แต่มันไม่จริงใจกับเราหรอก มาเล เล่ห์เหลี่ยมมาก รัฐธรรมมนูญของมัน เขียนไว้ชัดเจนว่า รัฐบาลจะสนับสนุน อุดหนุนแต่ในศาสนาอิสลาม ศาสนาอื่นในมาเลไม่ได้รับการสนับสนุนเด็ดขาด ไอ้เวรทำความผิดในไทยก็ไปกบดานในมาเล มาเล มันเคยส่งผู้ร้ายข้ามแดนมาไทยบ้างไหม ในเรื่องความไม่สงบภาคใต้ ยกเว้น ลูกพี่เหลิมคนเดียว ๕. ผู้นับถือศาสนา พุทธ ซิกร์ คริตส์ ขงจื้อ เล่าจื้อ พรหมณ์ และ อื่นๆ มันน่าน้อยอกน้อยใจ รัฐบาลอะไรๆก็เอาใจ ผู้นับศาสนาอิสลาม 9 เดือน เงินลง 10,000 ล้านบาท เพียงแค่ 3 จังหวัด มุ่งตรงไปที่ผู้นับถือศาสนาอิสลาม ที่ก่อปัญหาบางคน เราต้องแยกผู้นับถือศาสนาอิสลามที่ดีก็มีอยู่จริง โครงการต่างๆ ก็มุ่งไปยังผู้นับถือศาสนาอิสลาม คนอื่นศาสนาอื่นน้อยใจแล้ว รัฐบาลคือพ่อแม่ ไอ้พวกวายร้ายนี่เหมือนลูก ลูกบางคนต้องการของเล่น แทนที่จะทำความดีให้พ่อแม่ชื่นชมเพื่อได้ของเล่นมา แต่ลูกบางคนทำตัวเกเร ทำชั่ว ก่อกวน โดยมีเงื่อนไขว่าถ้าเอาอกเอาใจแล้วจะเป็นคนดี เมื่อทำครั้งที่ 1 พ่อแม่ก็ให้ ทำครั้งที่ 2 พ่อแม่ก็ให้ ไอ้ลูกเลวนี้ก็ได้ใจ เมื่อต้องการอะไรก็ทำตัวเลวเมื่อนั้น แล้วมันก็ได้จริงๆ มันจึงลูกที่เสียนิสัย ส่วนพ่อแม่ก็เป็นพ่อแม่ที่ลำเอียง ไอ้พวกชั่วที่ทำก็เปรียบดังลูกเกเรนี่เอง ไอ้พวกเนรคุณ ๖. ท่านนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ลำเอียงแก่พวกอิสลามหรอก แต่ท่านรัฐมนตรีลำเอียงกับผู้นับถือศาสนาอื่น เพราะมีปัญหาขึ้นมาก็มุ่งช่วยเหลืออิสลามไว้ก่อน มีปัญหาก็สนับสนุนไปก่อน ถ้าไม่มุ่งไปที่ผู้นับถือศาสนาอิสลาม จะมุ่งไปที่ใคร เพราะตอนมีปัญหาก็ช่วยเหลือกิจกรรมอิสลามทุกที ส่วนคนใต้ 3 จังหวัดที่นับถือศาสนาอื่นได้รับการสนับสนุนที่ไหนกัน เราอยู่ เราใช้ชีวิตที่นี่เรารู้ดี ท่านมาวันเดียวรีบเผ่นหนี จะไปรู้อะไรมากมาย ๗ . ....... กฏหมายมีไว้คุ้มครองคนดี มีไว้กำจัดคนชั่ว มันไม่ได้โง่ทิ้งหลักฐานให้สาวไปถึงตัวมัน เพราะมันรู้ว่าท่านเล่นตามเกมส์ ตามกฏ แบบซื่อๆ มันก็รู้ทาง เอากฏหมายมาป้องกันตัวมัน มันก็ลอยหน้าลอยตาได้อย่างสบายใจ ท่านนายกรัฐมนตรีมัวรอหลักฐานพร้อมมูล ช่วงหาหลักฐาน มันก็ฆ่าไปเรื่อยๆ สร้างความเดือดเนื้อร้อนใจ กับผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวต่อไป ความพาซื่อของท่านนี่มันแสนแพงจริง ๆ แต่ในเมื่อมันไม่ใช่ลูกท่าน พี่น้องท่าน ท่านก็ต้องรอหลักฐานลูกท่านซื้อรถใหม่เอี่ยมราคา 20 ล้านบาทขับขี่ใน กทม มันจะไปเดือดร้อนอะไร ไม่ได้ไปขับที่ปักใต้ กฏหมายมันไม่มีความยุติธรรมในตัวมันเอง แต่มันอยู่ที่ใจของผู้ใช้ที่มีใจเป็นธรรมต่างหาก เพื่อปกป้องประเทศชาติ และ ไม่รุกรายใครออกกฏหมายข้อใดมามันก็ถูกทั้งนั้น ๘. พวกท่านทั้งหลายที่อยู่ภาคอื่น อยากรู้ความรู้สึกของคนดีๆที่นี่ใหม ไม่ว่าเป็นประชาชน พุทธ คริตส์ อิสลามที่เป็นคนที่ลูกหลานมีความคิดดีๆ ลูกหลานเขาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับไอ้พวกขยะประเทศ ทั้งครอบครัวจะไม่ค่อยออกจากบ้านไปไหน ปัตตานี 20.00 น. บ้านเรือนต่างปิดบ้านหมด ตามถนนหนทางไม่มีรถลาวิ่งเลย ก็มีแต่รถหุ้มเกราะวิ่งนานๆ ครั้ง ผ่านมา คนเดินยังไม่มีเลย แม้ไม่ห่างตัวเมืองมากนัก มีชีวิตอยู่ด้วยความเสี่ยงไม่อยากออกไปซื้อกับข้าวเลย กลัวตาย ออกไปคราวใด กลัวอย่างเดียววันนั้นไม่ได้กลับบ้านเท่านั้น ระวังภัยตลอดเลยเพื่อนบ้านบางคนมีอาการเครียด อาการทางประสาทเล็กๆแสดงให้เห็นทีเดียว ญาติพี่น้องอยู่ห่างกัน 300 เมตร ยังต้องคุยกันผ่านโทรศัพท์ เพราะออกจากบ้านมันอันตรายมาก ความรู้สึกแบบนี้แย่มากที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมาไม่เหมือนอยู่เมืองไทยเลย ชีวิตที่เคยสงบสุขมันหายไปแล้ว ไม่รู้ความสงบสุขมันจะกลับมาเมื่อไหร่หนอ ๙. ช่องทางเดียวที่ระบายความรู้สึกในอกในใจออกมาได้ดังๆ คือ อินเตอร์เน็ต นี่เอง เว็บนี้มันเป็นเพียงความจริงประสบจริง ระทมจริง ป่าวประกาศไปให้ใครรู้ใครทราบแบบตัวต่อตัว ไว้ใจใครไม่ได้เลย พวกมันมีมาก มีทุกที่การเคลื่อนไหวของทหาร ตำรวจ พวกมันรู้ความเคลื่อนไหวหมด มันมีเทคโนโลยี่เชี่ยวชาญดูจากระเบิดที่มันวางจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือก็รู้ว่ามันไม่ใช่เพียง บ้าบิ่นเท่านั้น แต่มันยังได้รับการฝึกฝนมาอย่างเชี่ยวชาญไอ้พวกไปเรียนศาสนาจากตะวันออกกลางกลับมาแล้วทำตัวลึกลับ ปกปิด และ มีพวกตะวันออกกลางแวะเวียนมาหาบ่อยครั้ง พูดภาษาอาหรับกันเต็มร้านกาแฟ จนเสียงดัง เพราะมันรู้ดีว่าไม่มีใครรู้ในสิ่งที่มันพูดกันอยู่ ๑๐. ไอ้พวกนี้มันไม่เรียนหนังสือ เมื่อโตได้หน่อย ผู้หลักผู้ใหญ่ ( โต๊ะครู ) จะเข้าไปหาครอบครัวถึงที่บ้าน ชักชวนไปเรียนที่ ปอเนาะ เรียนแต่ศาสนาอย่างอื่นไม่เรียน อ้างศาสนาคำเดียว พ่อแม่พี่น้อง ยิ่งผู้หญิงในครอบครัวจะมามีสิทธิมีเสียงไม่ได้ ผู้หญิงต้องทำงานหนักมาก และ ไม่ค่อยนิยมให้เรียนหนังสือด้วย ไอ้พวกผู้ชายมันไม่มีงานทำแต่ มันมีรายได้จากไหนไม่ทราบมีรายได้เลี้ยงตัวเองได้ เลี้ยงลูกเป็นกระบุงๆ วันๆกินแต่น้ำชา คุยกันและไปละหมาด เท่านั้น ดูจากความขนขวาย กับ รายได้ไม่น่าจะยังครอบครัวอยู่ได้เลย ๑๑ . เดี๋ยวนี้นายกรับมนตรี จะพูดที่ไหน พูดเมื่อไหร่ ทุกลมหายใจ เป็นเอาใจมุสลิมทั้งนั้น ไม่เคยพูดถึงพุทธศาสนาเลย อะไร อะไร ก็ มุสลิม มุสลิม พวกมิสลิมที่ดี แต่มันดีไม่เต็มตัว เพราะอะไร ก็เพราะ ไอ้พวกมุสลิมเลวก่อความวุ่นวาย นายกรัฐมนตรี จะออกมาซื้อใจพวกมุสลิมทันที โดยให้การสนับสนุนมุสลิม ทุกอย่าง มุสลิมที่ดี แต่มันดีไม่เต็มตัว จะไม่ลงมาทำความวุ่นวายแต่จะอยู่เงียบๆ รอรับประโยชน์ของมุสลิมจากรัฐบาลที่จะให้มา เมื่อรัฐบาลถามถึงการกระทำของมุสลิมเลว ก็จะพูดเพื่อให้ได้ประโยชย์ของมุสลิมว่า "พวกนั้นไม่มีศาสนา" ไม่ใช่มุสลิม แต่เมื่อไอ้พวกเลวเกิดตายลงเพราะการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ มันจะออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้ไอ้พวกเลวทันที ในขณะที่พวกนี้ทำเลวแต่ยังไม่ตายมันจะพูดว่าไม่ใช่ มุสลิม แต่เมื่อตายสายใยของ ความเป็นมุสลิมที่ไม่เลิกดีชั่ว ขอเป็นมุสลิม มันถือเป็นญาติกันทั้งนั้น ถึงแม้มันก็มาประณามกันก็พอเป็นพิธี ๑๒ . ไอ้เลว ไอ้หนังสือพิมพ์ไร้จิตสำนึก คือ หนังสือพิมพ์ Bangkokpost เขียนอะไรลงไป ประเทศชาติย่ำแย่ป่านนี้มึงเขียนในสิ่งที่ทำลายประเทศ ซ้ำเติม คิดใหมว่า คนทั่วไปที่ล้มตายไป เขาก็ต้องการความเป็นธรรมเช่นกัน ขอเอาเนื้อความบางส่วนที่แปลมา : มุสลิมใต้จะถวายฏีกาขอพระราชทาน รัฐบาลพระราชทาน เป็นต้น ๑๓. จุฬาราชมนตรี พูดไม่จริง " ในกรณี กรือเซะ ที่ตาย มีทั้งคนพุทธ คนอิสลาม " ของจริงดูจากรายชื่อ อิสลามศาสนาอื่น ในที่โล่งแจ้งใครก็ไม่กล้าย้อนคนระดับจุฬาราชมนตรี กลัวเสียหน้า แต่เราต้องมาดูความจริง ดูรายชื่อกันเลย คลิกเพื่ออ่านรายชื่อ จุฬาราชมนตรี พูดไม่เข้าท่า พูดอะไรชมกล ในประมาณวันที่ 3 - 5 พฤษจิกายน 2547 วันไหนไม่แม่นต้องขออภัย แต่จำได้ออกอากาศที่ช่อง 11 เวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 5 พฤษจิกายน 2547 คำพูดตอนหนึ่งว่า " รัฐธรรมมนูญของไทย บังคับให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต้องนับถือพระพุทธศาสนาเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น นอกนั้นสามารถนับถือศาสนาใด ความเชื่อใด ได้อย่างอิสระ " พูดแบบนี้หมายความว่าไง ไม่ควรไปนำเบื้องสูงเข้ามาเกี่ยวข้อง นี่เป็นเรื่องส่วนพระองค์ แล้วก็พูดในวันนั้นมีใจความว่า มุสลิม ไม่ได้รับความเป็นธรรมเหมือนเดิม อยากพูด ภาษามาลายู อยากพูด ภาษาอาหรับ ถ้าเอ็งอยากพูดก็พูดไป ถ้าไม่ก่อความวุ่นวาย ถ้าไม่ให้ท้ายมุสลิมชั่วบางคนที่สร้างความวุ่นวายในภาคใต้ อย่างทุกวันนี้ ๑๔ . พี่น้องชาวใต้ ทำสวนยางพารา สวนลองกอง ต้องถูกไอ้พวกสารเลวเข้าไปขอร้อยชัก 30 ถ้าใครไม่ให้พวกมันจะขู่ด้วยการโค่นต้นยางทิ้ง โค่นต้นลองกองทิ้ง เจ็บใจแค่ไหนได้ยินเสียงมันฟันที่ท้ายสวน เจ้าของยังต้องนอนฟังเสียงอย่างเดียวในบ้าน ใครออกมาก็ตายมันมากันอย่างน้อย 5 - 6 คน ชาวบ้านก็ต้องยอมดีกว่าปล่อยเอาไว้ที่ต้นมันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ดูมันหากินกัน ดูมันทำ ดูมันทำ ทหารเต็มเมืองช่วยอะไรไม่ได้เท่าไหร่เลย ๑๕ . คนจีนในตลาด พวกเจ้าของกิจการโรงน้ำแข็ง โรงอบยาง เจ้าของเรือ มีฐานะหน่อย หนีไปขึ้น กทม ใต้ตอนบนโดยเฉพาะ ภูเก็ต ไปอยู่ที่นั้นกันมาก กิจการให้ลูกน้องดูแลกันไป ไอ้คนมีหน้าที่ ยังจนจะไปไหนยกครอบครัวมันติดขัดไปหมด ทั้งที่บ้านเกิดเมืองนอนหลายชั่วคนก็เกิดกันมาที่นี่ วันนี้รุ่นเราต้องหนี ต้องจาก ก็คราวนี้เอง ข่าวไม่กรอง ฟังฟังมา ระวังได้เป็นดี แต่ก็พอรู้ ระวังภูเก็ต และ กทม ให้ดี มันจะเรียนแบบเมืองนอกเพียงแต่มันหาคนไทยมุสลิมใจถึงขนาดระเบิดพลีชีพยังไม่ได้ จึงต้องปลุกความกล้าแบบหลายๆคนได้ผลเร็วกว่า แต่เท่าที่ดู พวกเข้าๆออกๆ มัสยิดกลาง หน้าตามันอาหรับชัดๆ ขอบลูกตามัน ดำยังกับใช้ดินสอเขียนตาเขียนไว้บางครั้งก็มีพวกมุสลิมคล้ายฝรั่งนิดๆ น่าจะมาจากแถวๆ ขอบๆประเทศ รัสเซีย แถวๆนั้น ไม่รู้มันมาทำไมกัน ๑๕ . ไอ้คนหนักแผ่นดินไทย หะยีสุหลง บิน อับดุลกาเดร์ มันเป็นพ่อของ ไอ้เด่น โต๊ะมีนา มันขอสิ่งเหล่านี้จากไทยก็ลองอ่านกันดูว่ามันสมควรต้องตาย สมควรโดนกำจัดใหม แค่ถีบตกทะเลในน่านน้ำอ่าวไทยก็เป็นเสนียดมากลูกหลานบางคนมันต้องผูกใจเจ็บ การคิดการใหญ่มันตกทอดไป ทั้งญาติพี่น้องมันใน รัฐกลันตัน และ ไอ้เด่นที่อยู่ในไทย อีกทั้งลูกหลานของลูกน้องคนสนิท ไอ้หะยีสุหลง บางคนก็เป็นตัวเจ๋งๆ ก่อความวุ่นวายภาคใต้ 1. ขอให้แต่งตั้งบุคคลคนหนึ่งซึ่งมีอำนาจเต็มมาปกครองใน 4 จังหวัด คือ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส แล สตูลให้มีอำนาจที่จะปลด ระงับ หรือโยกย้ายข้าราชการได้ บุคคลผู้นี้จักต้องถือกำเนิดในจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งของ 4 จังหวัด และจักต้องได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชนใน 4 จังหวัดนั้น 2. ข้าราชการใน 4 จังหวัดจักต้องเป็นมุสลิมจำนวน 80 % 3. ให้ใช้ภาษามลายูและภาษาไทยเป็นภาษาราชการของ 4 จังหวัด 4. ให้ภาษามลายูเป็นภาษากลางของการสอนในโรงเรียนชั้นประถมศึกษา 5. ให้ใช้กฎหมายมุสลิมในศาลศาสนา แยกออกไปจากศาลจังหวัดซึ่งเคยมีผู้พิพากษามุสลิม (KATH) นั่งพิจารณา ร่วมด้วย 6. ภาษีเงินได้และภาษีทั้งปวงที่เก็บจากประชาชนใน 4 จังหวัดจักต้องใช้จ่ายเฉพาะใน 4 จังหวัดนั้น 7. ให้จัดตั้งคณะกรรมการมุสลิมมีอำนาจเต็มในการดำเนินการเกี่ยวกับคนมุสลิมทุกเรื่อง โดยให้อยู่ในอำนาจสูงสุด ของผู้นำตามข้อ 1. ๑๖ . ไอ้กรรมการกลางอิสลามคนหนึ่ง ให้สัมภาษณ์ กับหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 31 ตุลาคม 47 เนื้อหาว่า " อินทผลัม ช่วยไม่ได้ เพราะเขาไม่ต้องการ อินทผลัม การศึกษาก็ไม่ได้ต้องการให้มาเปลี่ยนของเขา เพราะ ฉะนั้นแทนที่จะเป็นผลดี มันกลับกลายเป็นผลเสีย เหมือนกับไปบังคับเขาอย่างจะจัดแก่บวช เอาอาหารไป เลี้ยง ผมถามว่าคนมุสลิมอดที่ไหน นี่ก็ยังเหลือ เพราะฉะนั้น สิ่งที่กำลังธรรมไม่ใช่ความต้องการของเขา " ลองไปอ่านเนื้อหาแบบเต็ม ( การอ่านให้จบ เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความอดทนมากทีเดียว ) เชิญคลิก สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาทของเรา ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเมตตา พระราชทาน อินทผลัม ไปให้อีกทั้ง รัฐบาลก็ให้ อาจารณ์ โภคิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง มหาดไทย เอา อินทผลัม ไปให้อีกรอบ อีกทั้งรัฐบาลยังให้เงินไป อีก 8 ล้านจ่ายเป็นค่าอาหารในโอกาศเลิกถือศีลอดอีกแห่งละ 5,000 บาท ฝาก วันนอร์ ไปพวกมึงปฏิเสธความหวังดีที่ต้องการสานไมตรีของรัฐบาลยังพอไหว แต่อย่ามาเหิมเกริม กับ อินทผลัม ของทรงพระราชทาน มันดูจะหยามหน้าคนไทยรักประเทศชาติมากไป พวกมึงพูดออกมาได้ไงอย่างนี้ เมื่อมึงไม่ต้องการ มึงก็เอาของมาคืนทั้งหมดซ่ะ ๑๗. เมื่อวันที่ 3 พฤษจิกายน 2547 ท่านนายกรัฐมนตรี เชิญผู้นำทางศาสนาอิสลามไปเลี้ยงอาหาร ในโอกาศลาศีลอด ( เลิกเทศกาล ไม่กินข้าวตอนมีพระอาทิตย์ส่อง ) โดยเปิดทำเนียบรัฐบาลต้อนรับ จัดอาหารอย่างมากมาย ปราณีต นายก ก็เอาใจมุสลิมเหมือนเดิม พยายามเหลือเกินที่จะเอาพระคุณชนะใจมุสลิม มันตอบแทนน้ำใจ ท่านนายกรัฐมนตรีด้วย การเรียกร้องให้ย้าย ตำรวจ ทหาร และ ข้าราชการ ทางภาคใต้ออกนอกพื้นที่ ให้มีเจ้าหน้าแค่เล็กน้อย ปกติเท่าจังหวัดอื่น มันมีอะไรในใจมุสลิมมากกว่าที่เราคิด ทั้งที่มันก็รู้ว่าใต้ไม่ปกติ แต่มันอยากให้มีตำรวจ และทหารเหลือน้อยๆเพื่ออะไร โดยให้เหตุผลแบบหมา ๆ ( ขออภัย สุนัข ๆ ) เจ้าหน้าที่ ที่มีอยู่มันไม่เข้าใจวิถีชีวิต มุสลิม กูรู้สึกว่า วิถีชีวิตพวกมึงนี่มันชั่งเรื่องมากจริงๆ พ่อคุณเอ๊ย จะเอาท่าโน้นท่านี้ ตอนที่ไอ้ชาติสุนัข พวกมึงฆ่าคนบริสุทธิ์ตาย พวกมึงไม่เคยออกมาช่วยอะไรบ้านเมืองเลย พวกมึงจะออกมาก็ตอนไอ้สุนัขพวกนี่ตาย เจ็บพวกมึงจะมาปกป้อง เรียกร้องความเป็นธรรม แล้วที่ตายเพราะน้ำมือพวกมุสลิมเลว เขาเหล่าก็ต้องการความเป็นธรรมเฉกเช่นกัน พวกมึงรักความเป็นมุสลิม มากกว่า คำว่าประเทศไทย ท่านนายก ลืมหูลืมตาได้แล้ว ไม่ใช่มาตรการเด็ดขาดคนก็ตายไปเรื่อยๆ ต้องตายไปเท่าไหร่ ท่านจะมีความรู้สึก คนรักท่านไม่เสี่ยง ไม่ตาย ท่านรู้สึกยากจัง เคยมีใหม ออกพรรษา เข้าพรรษา หรือ บ้านเมืองวิกฤต ยังไม่เห็น นายกรัฐมนตรี เปิดทำเนียบเลี้ยงพระสักวัน . . . . ( ข่าวล่าสุด : รายการนายกทักษิณ นิมนต์พระมาทำเนียบเพื่อทำบุญเลี้ยงพระ และ ท่าน นายกรัฐมนตรี ยังพูดอีกว่าที่ ที่นิมนต์มาก็มาทำบุญกันตามปกติ ไม่ได้นิมนต์มาทำบุญอุทิศให้ผู้เสียชีวิตในความรุนแรง 3 จังหวัด ดูนายกพูด ! ส่วนงานละศีลอดของมุสลิม นายกรัฐมนตรี ทั้งขอร้อง อ้อนวอน ให้ พวกครูสอนศาสนา โต๊ะครู องค์กรมุสลิม ช่วยกัน ตอนท้ายของงาน พวกผู้ใหญ่ขององค์กรมุสลิมขึ้นพูด พวกมัน ด่า ตำหนิ นายกรัฐมนตรี ตลอดทั้งงาน พามาเลี้ยง ข้าวแล้ว ยังมาด่าตำหนิเจ้าภาพอีก เป็นมนุษย์พันธุ์ เนรคุณ ไม่มีความเป็นธรรมในจิตใจ แยกถุกผิดไม่ได้เลย . . . ) ความไม่เท่าเทียมนี้ มันก็มากพอแล้ว ขอเพียงพวกเอ็งอย่าทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาบ้างจะได้ใหม |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น