หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

ทหารไทยได้แค่นี้

http://wbns.oas.psu.ac.th/shownews.php?news_id=100095
เหตุคนร้ายยกกำลังจำนวนหลายสิบคนเข้าปล้นฐานปฏิบัติการของทหารในจังหวัดนราธิวาส โดยสังหารเจ้าหน้าที่ไป 4 ราย ได้รับบาดเจ็บอีกหลายราย รวมทั้งปล้นอาวุธปืนไปได้อีกกว่า 50 กระบอก กระสุนอีกกว่า 5,000 นัดนั้น

เมื่อ พ้นจากการดำเนินการเฉพาะหน้าหรือ ระยะสั้น อันได้แก่ การติดตามจับกุมตัวผู้กระทำ ความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย ตามกระบวนการยุติธรรมที่เปิดเผยและโปร่งใสแล้ว

สิ่งที่จะต้องดำเนินการทบทวนโดยทันทีก็คือสถานการณ์โดยรวมของ 3 จังหวัดชายแดนภาค ใต้

เพราะ 'การข่าวที่ล้มเหลว' ในกรณีปล้นค่ายทหารครั้งล่าสุดนั้น สะท้อนให้เห็นว่า

รัฐยังล้มเหลวในงานมวลชนอย่างชัด เจน



หาก สามารถครองใจมวลชนได้ การเคลื่อน ไหวอย่างเอิกเกริกเพราะมีคนจำนวนมาก เข้าร่วมปฏิบัติการของฝ่ายก่อการร้าย ทั้งก่อนและหลังจากลงมือแล้วย่อมจะต้องแว่วเข้าหู เจ้าหน้าที่บ้าง

ความ เงียบงันจากประชาชนในพื้นที่ อาจเกิดขึ้นได้ทั้งเพราะความกลัวภัยของชาวบ้านเอง หรือเพราะชาวบ้านยังมีความหวาดระแวงในเจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่

ซึ่งไม่ ว่าจะเป็นกรณีใดก็แสดงให้เห็นว่า แนว ทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมายังไม่ประสบ ผลสำเร็จตามที่มุ่งหวัง

แม้จะทุ่มสรรพกำลังเจ้าหน้าที่จำนวน นับหมื่นคน หรืองบประมาณรวมกันแล้วเกือบ 1.5 แสนล้านบาท



เมื่อวิธีการที่ดำเนินอยู่ไม่บรรลุเป้าหมาย ก็จะต้องตรวจสอบข้อผิดพลาดบกพร่อง และปรับปรุงแนวทางหรือวิธีการในการแก้ไขปัญหาใหม่

เมื่อ แนวทางการทหารนำการเมืองยังไม่สามารถ ระงับปัญหาที่ต้นเหตุหรือต้นตอได้ ก็ต้องพิจารณา ว่าแนวทาง 'การเมืองนำการทหาร' ที่นายกรัฐ มนตรีเพิ่งไปประกาศในภาคใต้นั้นมีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติเพียงใด

ข้อ ผลการศึกษาและข้อเสนอว่าด้วยการดับไฟใต้โดยสันติวิธีมีอยู่มากมาย ตั้งแต่คณะกรรมการชุดของ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐ มนตรี และนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯ ไปจนกระทั่งจากนักวิชาการและผู้รู้อื่นๆ ในพื้นที่

ปัญหาอยู่ที่จะนำมาปฏิบัติจริงหรือไม่เท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น