หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เสี้ยมขัดแย้งศาสนา


http://www.naewna.com/news.asp?ID=247719
โจรใต้เสี้ยมขัดแย้ง2ศาสนา ฆ่าหมู่5ศพ บุกชุมชนไทยพุทธยิงไม่ยั้ง
ขรก.-ครู-นักเรียนเหยื่อ มาร์คเต้นเรียกแม่ทัพ4
จี้ขันน็อตจุดตรวจสกัด ตั้งค่าหัว5หมื่นตามล่า แม่พิมพ์ผวารปภ.เหลว

 โจรใต้หันมาสังหารหมู่ประชาชนผู้บริสุทธิ์อีกครั้ง แม้เจ้าหน้าที่ภาครัฐจะพยายามสกัดกั้นหาทางป้องกันอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม 
 ทั้งนี้ เมื่อเวลา 06.30น.วันที่ 3กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.วัลลภ จำนงอาษา ผกก.สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันตายหลายศพและเจ็บหลายคน ในหมู่บ้านริมถนนสาย ต.ท่าข้าม- ต.น้ำบ่อ ม.1 บ้านใหญ่ ต.คอกกระบือ อ.ปะนาเระ จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ 

 โจรใต้ยิงไทยพุทธดับ5สาหัส4 
 หลังไปถึงบนถนนพบปลอกกระสุนปืนอาก้า เอ็ม16 เอชเคและ11มม.ตกเกลื่อนพื้น ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายพงษ์ศักดิ์ เพ็ชร อายุ 53ปี ศึกษานิเทศ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา1 ปัตตานี,นายนิพนธ์ เสริมกลิ่น อายุ 61ปี ข้าราชการบำนาญชลประทาน, นางพิกุล เสนหนู อายุ 43ปี อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.),นายนุ่ม บุญมาก อายุ 76ปีและนางลดาวัลย์ ยอดแก้ว อายุ 60ปี ครูบำนาญ ทั้งหมดมีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนสงครามเข้าลำตัวและศรีษะ ส่วนผู้บาดเจ็บ ประกอบด้วย ด.ช.ภูริกรณ์ คอร์ อายุ 12ปี นักเรียนโรงเรียนปะนาเระ, นายสมเพียร รัตน์ศรีจันทร์ อายุ 54ปี ครูโรงเรียนบ้านท่าข้าม อ.ปะนาเระ, นางซิ้ม ตัณฑพงษ์ อายุ 79ปี เป็นแม่นายก อบต.คอกกระบือและนายพงษ์ศักดิ์ ยอดแก้ว อายุ 60ปี ทั้งหมดถูกยิงบริเวณแขนและลำตัว ก่อนนำส่ง รพ.ปะนาเระ ยกเว้น นายพงษ์ศักดิ์และดช.ภูริกรณ์ อาการสาหัส ต้องนำตัวส่งต่อ รพ.ปัตตานี เป็นการด่วน 

 อาศัยช่องโหว่ชรบ.ออกเวร 
 จากการสอบสวนทราบว่า ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนหมู่บ้านไทยพุทธ หลังชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เฝ้าหมู่บ้านทั้งคืนก็แยกย้ายกันกลับ โดยไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ารับช่วงดูแลต่อทำให้เกิดช่วงว่าง โดยช่วงเกิดเหตุประชาชนชนในหมู่บ้าน ทั้งข้าราชการ เด็กนักเรียน ชาวบ้าน รวมทั้งชาวบ้านที่ถือปิ่นโตจะไปวัด ต่างกำลังจับจ่ายซื้ออาหารกันเป็นจำนวนมาก มีคนร้าย 6คน นั่งรถปิกอัพอีซูซุ สีขาวไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับมาจอดบนถนน จากนั้นคนร้าย 2คน ลงจากรถ แล้วใช้อาวุธสงครามกราดยิง เป็นชุดๆ ขณะที่คนร้ายที่อยู่บนรถใช้ปืนยิงถล่มเช่นกัน ทำให้ชาวบ้านประมาณ 50คน ต่างวิ่งหนีตายไปคนละทิศละทาง ส่งผลให้ชาวบ้านเสียชีวิต 5ศพและบาดเจ็บอีก 4 คน จากนั้นคนร้ายกระโดดขึ้นรถขับหนีไปอย่างรวดเร็ว 

 เผารถ-ตู้โทรศัพท์ปัตตานี7จุด 
 อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เวลา 23.00น.วันที่ 2กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต ผกก.สภ.เมืองปัตตานี รับแจ้งเหตุคนร้ายเผาตู้โทรศัพท์หลายจุดและเผายางรถยนต์ บนเส้นทางสาย42 จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ ปรากฏว่ามีทั้งเผารถยนต์และเผาตู้โทรศัพท์ บริเวณใกล้วัดบ้านดี ต.บาราโหม ใกล้โรงเรียนศาสนูปถัมภ์ ต.บานา, หน้าสถานีอนามัย ต.ตะลูโบ๊ะ,ริมถนนสายปัตตานี-ยะลา บ้านสะนิง, บริเวณปากทางเข้าเมือง ต.ดอนรัก,หน้าหมู่บ้านเจริญนคร ถนนนาเกลือและหน้าสุสานจะบังติกอ ต.จะบังติกอ รวม 7จุด แต่ละแห่งเสียหายเล็กน้อย เชื่อว่ามุ่งสร้างสถานการณ์ป่วนบ้านเมือง 

 นอภ.ชี้เสี้ยมแตกแยกศาสนา 
 นายธรรมรงค์ คงวัดใหม่ นายอำเภอปะนาเระ เปิดเผยว่า พฤติกรรมคนร้ายกราดยิงชาวไทยเสียชีวิต 5รายและบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง นับเป็นเหตุการณ์เศร้าสลดและสะเทือนใจมากที่สุดอีกครั้ง ที่สำคัญพื้นที่เกิดเหตุเป็นชุมชนไทยพุทธ 100เปอร์เซ็นต์ จึงคาดว่าต้องการสร้างเหตุการณ์เพื่อปลุกปั่นและตอกย้ำให้เกิดความระแวงระหว่างชุมชน ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องความรู้สึกจนนำไปสู่สถานการณ์บานปลาย ที่สำคัญป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการกระทบกระทั่งในเรื่องความรู้สึกของประชาชนต่างศาสนาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ เพราะอาจจะเข้าทางฝ่ายตรงข้ามได้ เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายต้องการเอาเงื่อนไขเรื่องของความรู้สึกมาเป็นประเด็นในการเพิ่มอุณหภูมิความร้อนแรงของสถานการณ์ในพื้นที่เวลานี้ 

 เผยแม่ศึกษานิเทศก์เดินไม่ได้ 
 นายสุรศักดิ์ หนูจันทร์ อดีตครูข้าราชการบำนาญ เผยว่า สลดใจมาก ไม่ทราบสาเหตุ คนร้ายมากราดยิงในหมู่บ้าน เพราะที่นี่ไม่เคยเกิดขึ้นมานานแล้ว น่าเห็นใจ ครูพงษ์ศักดิ์ ที่เป็นศึกษานิเทศน์ เพราะมีแม่ที่ชราภาพ เดินไม่ได้ต้องดูแล เมื่อขาดท่านไป แม่ของเขาคงลำบากก็น่าเห็นใจ อยากให้มีป้อมยามหัว-ท้ายหมู่บ้าน เพราะปกติไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแล เพื่อจะได้คอยดูแลการเข้าออกหมู่บ้าน ชาวบ้านจะได้มั่นใจในความปลอดภัย 

 รู้ตัวคนร้ายแล้ว-รอขอหมายจับ 
 ทางด้าน พ.ต.อ.วัลลพ จำนงอาสา ผกก.สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่ายนำกำลังตรวจค้นปิดล้อม โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่บ้านป่าทุ่ง เขตรอยต่อระหว่าง อ.ปะนาเระกับ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี แต่ไม่พบหลักฐาน ขณะที่มีการสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์หลายคนและทำการประมวลแล้วปรากฏว่า เห็นรูปพรรณของคนร้ายที่ก่อเหตุ จึงทำการสะเก็ตภาพคนร้ายแล้ว เมื่อนำภาพมาตรวจในสาระบบคนร้ายปรากฏว่า อยู่ในกลุ่มอาร์เคเคป่าทุ่ง เจ้าหน้าที่รู้ตัวแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานละเตรียมออกหมายจับภายใน1-2 วันนี้ 

 ล้อมคอกตั้งป้อมหัว-ท้ายหมู่บ้าน 
 สำหรับเหตุการณ์เกิดขึ้นครั้งนี้ ทุกฝ่ายพยายามป้องกันแล้ว แต่คนร้ายฉวยโอกาสที่เปลี่ยนเวรช่วง 6โมงเช้า ทำให้ไม่มีใครดูแล ประกอบกับหมู่บ้านเป็นชุมชนที่เข้มแข็งและไม่เคยเกิดเรื่องรุนแรง เบื้องต้นต้องป้อมบริเวณทางเข้าออกหมู่บ้าน คงต้องมีคนดูแล หัวและท้ายหมู่บ้าน เพื่อป้องกันเหตุร้าย ช่วงเกิดเหตุทั้งทหารพราน ตำรวจและทุกฝ่ายก็ออกมา แต่คนร้ายวางตะปูเรือใบทำให้การติดตามมีอุปสรรค ซึ่งเส้นทางหลบหนีคนร้ายก็ใช้เส้นทางปะนาเระ-สายบุรี หลบหนีไป ขอเวลา 1-2วัน ต้องจับคนร้ายให้ได้ เพราะเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม 

 ครูใต้ฉุนจี้รบ.ปรับระบบรปภ. 
 ด้าน นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยถึงเหตุการณ์คนร้ายกราดยิงไทยพุทธปัตตานี เสียชีวิต 5คน ว่า เป็นการตอกย้ำพุ่งเป้าทำร้ายคนต่างศาสนา ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่จะทนรับสภาพความเจ็บปวดกระทบกระเทือนจิตใจอย่างเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุเป็นชุมชนชาวไทยพุทธ 100เปอร์เซ็นต์ ชาวบ้านไทยพุทธเสียใจ หวาดกลัวและมีบ้างที่โกรธแค้น เพราะผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ เป็นผู้บริสุทธิ์ มีทั้งคนแก่ เด็กและครู ซึ่งอยู่ในจุดที่มั่นใจว่า ปลอดภัยแล้ว เหตุดังกล่าวยังสะท้อนถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยของรัฐล้มเหลว หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องพิจารณาและทบทวนตัวเองอย่างเร่งด่วน เนื่องจาก1เดือนที่ผ่านมา เกิดเหตุร้ายแรงติดต่อกัน ทั้งปล้นปืนค่ายทหาร ร.15121 อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ลอบวางระเบิดพรานป่าที่ อ.ยะหา จ.ยะลา ตาย 9ศพและฆ่ายกครัวชาวไทยพุทธ 4 ศพ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส 

 ตั้ง5หมื่นเบาะแสฆ่าไทยพุทธ 
 นายภาณุ อุทัยรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ ศอ.บต.เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายกราดยิงชาวบ้านเสียชีวิต 5รายที่ จ.ปัตตานี ล่าสุดได้แจ้งขอความร่วมมือเครือข่ายวิทยุในชายแดนภาคใต้ประมาณ 30สถานี ให้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนในการแจ้งเบาะแสของกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ เนื่องจากคนร้ายใช้รถกระบะสีขาว ยี่ห้ออีซูซุ เป็นยานพาหนะหลบหนี เชื่อว่าอาจมีผู้พบเห็นรถต้องสงสัยและให้แจ้งเบาะแสโดยมีรางวัลให้ 5หมื่นบาท เพื่อจูงใจให้ทุกฝ่ายร่วมกันแกะรอยและติดตามกลุ่มคนร้าย ซึ่งพฤติกรรมที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นความพยายามยั่วยุและสร้างความแตกแยกของชาวบ้านในพื้น 

 กอ.รมน.ออกแถลงการณ์เสียใจ 
 พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค4 ส่วนหน้า( กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า) เปิดเผยว่า เหตุสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เบื้องต้น กอ.รมน.ภาค4 ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บทุกราย โดยเบื้องต้นเชื่อว่า เป็นความพยายามสร้างกระแสความรุนแรงช่วงวันตรุษจีน โดยเลือกพื้นที่เป้าหมายซึ่งมีผลต่อความรู้สึกและจิตวิทยามวลชนในระดับพื้นที่ เพื่อโหมความรุนแรงและนำมาสู่ประเด็นความหวาดระแวงและขัดแย้งของชาวบ้านที่นับถือศาสนาที่ต่างกัน หรือเรียกว่าแผน "ก่อเหตุด้านการทหาร หวังผลการเมือง"โดยพยายามจุดชนวนเรื่องศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อกระตุ้น หรือเร่งความรู้สึกให้เกิดความเกลียด กลัวและระแวงกันเอง เพื่อทำลายฐานมวลชนที่เป็นของรัฐ ซึ่งจะมีคนไทยพุทธและมุสลิม ซึ่งหากสามารถบ่อนทำลายความสามัคคีได้ จะได้กลับเข้ามีอิทธิพลอีกครั้ง 
 โฆษก กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าการติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายนั้น ขณะนี้ได้สนธิกำลัง3ฝ่าย เพื่อปิดล้อมและตรวจค้นพื้นที่ในรัศมี 2กิโลเมตร เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายน่าจะยังกบดานในพื้นที่ จ.ปัตตานี โดยเฉพาะบริเวณเชิงเขาท่าน้ำที่อยู่ใกล้กับพื้นที่เกิดเหตุเพื่อกดดันกลุ่มคนร้ายแล้ว 

 สุเทพไม่เคยได้ยินข้อเสนอRKK 
 ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อเสนอของกลุ่มขบวนการอาร์เคเค 3ข้อ โดยให้รัฐบาลแก้ไข พรบ.อิสลาม พ.ศ.2540 และให้ตรวจสอบพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ว่า ตนยังไม่ได้ยินข้อเสนอดังกล่าว แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้เป็นคนสร้างปัญหา เพราะช่วงรัฐบาลนี้กวดขันดูแลมาก รวมทั้งมีกฎหมายว่าด้วยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ออกมาใหม่ หากเจ้าหน้าที่คนใดที่มีปัญหาเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) มีอำนาจโยกย้ายได้ทันที 

 มาร์คอัดด่านหละหลวม-โจรเหิม 
 ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุไม่สงบในชายแดนภาคใต้ที่สุดยิงถล่มชาวไทยพุทธปัตตานี เสียชีวิต 5คน ว่า ได้รับรายงานแล้วและจะกำชับเรื่องตั้งด่าน ซึ่งได้พูดคุยกับ นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ต้อไปเข้มงวดตรงนั้นและระมัดระวังเป็นพิเศษ 
 เมื่อถามว่า ประชาชนชายแดนภาคใต้ไม่มั่นใจการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่แล้ว นายกฯ กล่าวว่า จะมีการทบทวนกลไกการดูแลคุ้มครองอยู่แล้ว เพราะต้องปรับตามสถานการณ์ ซึ่ง วันที่ 3กุมภาพันธ์นี้ ตนจะพูดคุยกับงแม่ทัพภาคที่4 เรื่องปรับปรุงด่านตรวจต่างๆ มีบางกรณีพบว่า ปล่อยหลุดเข้ามา ซึ่งต้องเพิ่มความเข้มแข็งมากขึ้น ส่วนเรื่องคุ้มครองครูมีการทบทวนเป็นระยะๆ อยู่แล้ว ถ้าทางสมาพันธ์ครูเห็นว่า ต้องการเปลี่ยนแปลงวิธีการอะไรเพิ่มเติมขอให้แจ้งมา เราพร้อมที่จะปรับอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของกำลังคงมีการปรับได้ แต่คงไม่ต้องบอกรายละเอียด
วันที่ 4/2/2011

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น