หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

จอมกะล่อน


แม้แต่คริสต์ก็ไม่เว้น เป็นหนี้บุญคุณอัลเลาะห์จนได้

พระเจ้าอะไร สาบเช่งมนุษย์ด้วย
อัลเลาะห์เป็นจอมวางแผนด้วย
อัลเลาะทำให้อีซาบริสุทธิ์ด้วย
นี่แหละ ที่เรียกว่า พระเจ้าช่วยกล้วยทอด

*******************************


พระเจ้าทรงสาปแช่งชาวยิว ในการสังหารนบีอีซา(พระเยซู)

และสังหารศาสนทูตของพระเจ้ายุคก่อนๆ 

และวาระสุดท้ายของนบีอีซา(พระเยซู)

ที่ไม่ได้ถูกตรึงกางเขนจาก คัมภีร์อัลกุรอานของอิสลาม






-“และพวกเขา(ยิว)ได้วางแผน(ที่จะฆ่าท่านนบีซา(พระเยซู))และอัลเลาะฮ์ก็ทรงวางแผน(ในการปกป้องท่านนบีอีซา)ด้วย และอัลเลาะฮ์นั้นทรงเป็นผู้วางแผนที่ดีเยี่ยม”-

-“ จงรำลึกถึงขณะที่อัลเลาะฮ์ตรัสว่า โอ้อีซา(พระเยซู)  ข้าจะเป็นผู้รับเจ้าไป(โดยยังมีชีวิตยู่)และจะเป็นผู้ที่ยกเจ้าขึ้นไปยังข้า และจะเป็นผู้ที่ทำให้เจ้าบริสุทธิ์ พ้นจากบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา และจะทำให้ผู้ปฏิบัติตามเจ้าเหนือผู้ปฏิเสธทั้งหลาย         จนกระทั่งถึงวันกิยามะฮ์(วันสิ้นโลก)  และข้านั้นคือการกลับไปของพวกเจ้า แล้วข้าจะตัดสินระหว่างพวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าขัดแย้งกัน”-

(อัลกุรอาน3/54-55)

-“แล้วเราก็ได้สาปแช่งพวกเขา(ยิว)  อันเนื่องด้วยการที่พวกเขาทำลายสัญญาของพวกเขา(ว่าจะยึดมั่นในบทบัญญัติของศาสนาตามข้อบัญญัติของคัมภีร์เตารอต(โตราห์)ที่ได้ประทานให้ท่านนบีมูซา(โมเสส)) และปฏิเสธบรรดาโองการของอัลเลาะฮ์ และฆ่าบรรดานบี(ศาสนทูตของพระองค์)(เช่น นบีซะการียา(ศาคาริยาห์) และยะห์ยา(ยอห์นบัพติศ)เป็นต้นและอีกหลายคนในอดีต) โดยปราศจากความเป็นธรรมและพวกเขากล่าวว่า  หัวใจเรามีเปลือกหุ้มอยู่(เป็นการกล่าวแบบเย้ยหยัน)  หามิได้ อัลเลาะฮ์ได้ทรงประทับตราบนหัวใจของพวกเขาต่างหาก  เนื่องจากการปฏิเสธศรัทธาของพวกเขา  ดังนั้นเขาจึงไม่ศรัทธา นอกจากเพียงจำนวนน้อยเท่านั้น”-

-“และเนื่องจากการที่พวกเขาปฏิเสธศรัทธา(ต่อท่านนบีอีซา(พระเยซู))และกล่าวให้ร้ายแก่มัรยัม(มารีย์)(เป็นการกล่าวหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแก่หญิงที่บริสุทธิ์) ซึ่งเป็นความเท็จอันใหญ่หลวง”-

-“และการที่พวกเขากล่าวว่าแท้จริงพวกเราได้ฆ่า อัล-มะซีฮ์ อีซา(พระเยซู)บุตรของมัรยัม(มารีย์) ร่อซูล(ศาสนทูตศาสนา)ของอัลเลาะฮ์ และพวกเขาหาได้ฆ่าอีซาและหาได้ตรึงเขาบนไม้กางเขนไม่ แต่ทว่าเขาถูกทำให้เหมือนแก่พวกเขา และแท้จริงบรรดาผู้ที่ขัดแย้งในตัวเขานั้น แน่นอนอยู่ในความสงสัยเกี่ยวกับเขา พวกเขาหาได้มีความรู้ใดๆต่อเขาไม่ นอกจากคล้อยตามความนึกคิดเท่านั้น พวกเขามิได้ฆ่าเขา(นบีอีซา(พระเยซู))อย่างแน่นอน”-

นักอธิบายกุรอาน ให้คำอธิบายโองการนี้ดังนี้  พวกเขามิได้ฆ่าท่านนบีอีซา(พระเยซู)แต่อย่างใด และไม่ได้ตรึงท่านบนไม้กางเขนอย่างที่พวกเขากล่าวอ้าง  แต่ ยะฮูซา(ยูดาส อิทคาริโอท) ซึ่งเป็นสาวกที่ทรยศต่อท่านต่างหากที่ถูกตรึงบนไม้กางเขน ทั้งนี้เนื่องจากอัลเลาะฮ์ ทรงให้เขามีลักษณะเหมือนกับท่านนบีอีซา  และพวกยิวต่างก็มีความคิดเห็นขัดแย้งกันในตัวของท่านนบีอีซาว่าเป็นผู้ที่ถูกตรึงจริงหรือไม่ และไม่สามารถขจัดข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อนี้ได้ว่า  ใครคือผู้ที่ถูกจับไปตรึงกันแน่ 

ไม่มีใครรู้จริงเกี่ยวกับตัวท่านได้  นอกจากใครคิดอย่างไรก็เชื่ออย่างนั้น ด้วยเหตุนี้จึงมีความคิดขัดแย้งกัน   พวกเขาไม่ได้ฆ่าท่านนบีอีซา(พระเยซู)ด้วยความแน่ใจว่าเป็นตัวท่านจริง  เพราะขณะที่กำลังตรึง ยะฮูซาบนกางเขนนั้น ก็ยังถกเถียงกันอยู่ว่าใช่ท่านนบีอีซาหรือไม่  และยะฮูซา(ยูดาส)ก็ปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่ท่านนบีอีซา  แต่ในที่สุดพวกเขาก็ฆ่า ยะฮูซา ด้วยการตรึงบนไม้กางเขนโดยเข้าใจว่าเป็นท่าน นบีอีซา

-“หามิได้  อัลเลาะฮ์ได้ทรงยกเขา(อีซา)ขึ้นไปยังพระองค์ต่างหาก  และปรากฏว่าอัลเลาะฮ์นั้นเป็นผู้ทรงเดชานุภาพ  ผู้ทรงปรีชาญาณ”-

         (อัลกุรอาน4/155-159)

ข้อมูลที่อ้างอิงของนักวิชาการอิสลามกับโองการของคัมภีร์อัลกุรอานที่ยกมาใน จดหมายถึงน้อง

ชีวิตการยืนหยัดต่อหลักการศาสนากับการเมืองของท่านนบีอีซา(พระเยซู) และวาระสุดท้ายของท่านในความเชื่อแบบอิสลาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น