เล่ห์มุสลิม สมุนศาสดาจอมลวงโลก | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ยืนยันพันเปอร์เซ็นต์ ! ไม่มีชื่อ "ชลิต ภักดีบุตร" ในทำเนียบ ป.ธ.9 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ อ้าวแล้วพวกมุสลิมเอาไอ้เบื๊อกคนนี้มาจากไหน ? สมอ้างว่าเป็น ป.ธ. 9 วัดอนงคาราม แถมยังพูดเรื่องพระพุทธศาสนาผิดๆ ถูกๆ แหมจะลวงโลกทั้งทีก็น่าจะให้มันเนียนกว่านี้หน่อย ไม่อายพระอ้าหล่าหรือไง อับดุลลอฮฺ ภัคดีบุตร "เรียนแค่ 4 ปีจบ ! จบ ป.4 มั๊งไอ้หนู" อ้างว่าเป็นอดีตพระมหาเปรียญธรรม 9 ประโยค วัดอนงคาราม กรุงเทพฯ แต่ในทำเนียบพระเปรียญธรรม 9 ประโยคแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่ พ.ศ.2469 ถึง พ.ศ.2554 ไม่มีชื่อ "พระมหาชลิต ภัคดีบุตร" ในสารบบเลย ไม่ว่าในสำนักเรียนวัดพิชยญาติการาม สำนักเรียนวัดอนงคาราม หรือสำนักเรียนใดๆ ในประเทศไทย ไม่น่าเชื่อว่า ทางองค์กรศาสนาอิสลามจะกล้าลวงโลกถึงเพียงนี้ อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม 23 พฤษภาคม 2554 เผยโฉม อดีตมหาประโยค 9 เข้ารีตอิสลาม อ้างว่า "จบ ป.ธ.9 จากสำนักเรียนวัดอนงคาราม กรุงเทพฯ" ว่าแต่จริงหรือเปล่า เพราะไม่มีชื่อ "พระมหาชลิต ภักดีบุตร" ในสารบบประโยคเก้าเลยนี่คือรายชื่อพระเปรียญ 9 ประโยค ตั้งแต่ พ.ศ.2474 -2540 จากวัดอนงคารามและวัดพิชยญาติการาม ที่นายคนนี้อ้างว่าเคยศึกษาและเรียนจบที่นั่น
ข้อมูลจาก "ทำเนียบพระเปรียญธรรม 9 ประโยค สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พุทธศักราช 2549" จัดพิมพ์โดยธนาคารกรุงเทพ จำกัด มหาชน ดังนั้น จึงต้องขอให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติช่วยตรวจสอบและยืนยืนอีกที นายชลิต ภักดีบุตร (กดที่ภาพเพื่อชม) วานนี้(16) เวลาประมาณ 20.30 น.ณ อาคารอเนกประสงค์ มัสยิดคอยริสซุนนะห์ ลาดบัวขาว ได้มีการจัดกิจกรรมค่ายการเรียนรู้วิถีชีวิตอิสลาม เป็นวันที่ 2 โดยได้เชิญ อ.ชารีฟ วงศ์เสงี่ยม และ อ.อับดุลลอฮฺ ภัคดีบุตร ซึ่งเป็นอดีตพระมหาชลิต เคยจำวัดในสมัยนั้นอยู่ที่ภูเก็ต ก่อนพบคำสอนในไตรปิกฏ กล่าวถึงอัลลอฮฺ และท่านนบีมูฮัมหมัด โดย อ.อับดุลลอฮฺเล่าว่าพ่อของท่านเสียชีวิตตั้งแต่เล็กๆ จึงมาอาศัยอยู่ข้างกำแพงวัด ก่อนจะมาเป็นเด็กวัด ก่อนที่จะขอบวชเณรเพื่อให้มีโอกาสได้ศึกษา จนจบเปรียญธรรม 9 และได้ทุนไปเรียนต่อที่ประเทศอินเดีย ซึ่งในสมัยที่ไปเรียนนั้นศาสนาพุทธในอินเดียได้เสื่อมไปแล้ว ไม่มีคนใส่บาตร พระต้องหุงข้าวกินแอง แต่ด้วยความที่เป็นคนสนใจในการอ่าน และมีความสนใจในภาษาบาลี จึงไปอ่านไตรปิฏกของอินเดียที่เป็นภาษาดั่งเดิมและพบในคำสอนของไตยปิฏกที่กล่าวว่า "ฉันไม่ใช่ศาสดาคนแรก และคนสุดท้าย แต่จะมีศาสดาท่านสุดท้าย โดยจะเกิดในทะเลทราย ขี่อูฐ กำพร้าพ่อ-แม่" นอกจากนั้นในคำสอนของพุทธเจ้ายังได้สอนให้มนุษย์รู้จักผู้สร้าง เช่น ตอนที่ท่านอธิฐานหลังกินข้าวมธุปายาท "หากโลกนี้มีพระผู้สร้างจริง หากมีผู้ที่สร้างฉันมาจริง ขอให้ถาดนี้ลอยทวนกระแสน้ำ" นั่นคือต้นทางของประวัติศาสตร์ที่ว่า ตรัสรู้ และในการเทศนาของท่าน จะบอกกับคนว่า "ความรู้ของฉันเปรียบเหมือนใบมะขามในกำมือนี้ พร้อมเด็ดใบมะขามไว้ในกำมือ แต่ความรู้ของผู้ทรงสร้างเปรียบเหมือนใบมะขามบนต้น" ขณะที่ในคำสอนของไตยปิฏกยังระบุถึงคำกล่าวของพุทธเจ้าอีกว่า "ศาสนาของนี้จะมีอยู่ไปอีก 1,123 ปีต่อจากนั้นจะสลายไป" จากนั้นอ.อับดุลลอฮฺเล่าต่อว่า ท่านก็ยังไม่เข้าใจคำสอนดังกล่าวในตอนนั้น จนมาได้พบกับการสอนศาสนาที่มัสยิดแห่งหนึ่ง ซึ่งสอนเกี่ยวกับผู้สร้างโลก และศาสดาท่านสุดท้าย จึงคิดว่าได้ว่า ทั้งหมดนี้เราเคยเรียนมาแล้ว และศาสดาองค์สุดท้ายก็ได้เกิดขึ้นแล้ว หลังจากได้รับความรู้เพิ่มเติมในส่วนนี้จนกระจ่างชัดแล้ว จึงได้ประกาศเข้ารับอิสลามในเวลาต่อมา 23 พฤษภาคม 2554 http://www.alittlebuddha.com/ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
http://surasiha.blogspot.com |
หน้าเว็บ
▼
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น