หน้าเว็บ

วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

เพราะโรงเรียนสอนให้คนฉลาด


ตอบหนูที เค้าเผาโรงเรียนหนูทำไม


NGO หายหัวไปไหนหมด 





จากเด็กนักเรียนถึงผู้ก่อเหตุรุนแรง "เผาโรงเรียนหนูทำไม"


        ขณะที่โรงเรียนแทบทุกแห่ง ทั่วประเทศ  เปิดภาคเรียนใหม่กันไปแล้ว ซึ่งบรรยากาศอบอวลไปด้วย กลิ่นอายเสื้อผ้าใหม่ ... หนังสือใหม่... เพื่อนใหม่ .... 

        เด็กหลายคนตื่นเต้นกับการได้ย้ายโรงเรียนพ่อแม่ ผู้ปกครอง ก็พลอยยินดี ไปกับลูกหลานที่ได้เลื่อนชั้นเรียนที่สูงขึ้น แต่สำหรับเด็กๆ  ที่โรงเรียนบ้านต้นมะขาม   อ.ยะรัง จังหวัดปัตตานีในวันนี้กลับไม่มีอาคารเรียน  เนื่องจากถูกผู้ก่อการร้ายเผาจนวอดวายหมดสิ้นไปเมื่อคืนวันที่ 3 มิ.ย.55 ที่ผ่านมา   

          แม้ความรู้สึกของเด็กที่น่าสงสารที่นี่ในวันนี้ จะต่างกันยิ่งนักกับเด็กนักเรียนในภูมิภาคอื่นๆ แต่ก็คงไม่ต่างจากเด็กในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวนมากที่ต้องประสบเคราะห์กรรมที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ที่ไหนในโลกนี้   จึงมีคำถามจากเด็กๆว่า "เผาโรงเรียนหนูทำไม"  

            เผาโรงเรียน ฆ่าครู เพื่อให้เด็กไม่มีการศึกษา หรือย้ายไปเข้าโรงเรียนปอเนาะ  ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าโจรเหล่านี้ใช้สมองส่วนไหนคิด
               ตั้งแต่ปี 2547  จนถึงปัจจุบัน โรงเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถูกเผาไปไม่ต่ำกว่า 100 แห่ง พอๆกับชีวิตครูที่ถูกปลิดชีวิตไปเป็นร้อย สำหรับคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปกติ  แต่สำหรับคนในพื้นที่อื่น รวมถึงในเวทีโลก  เรื่องนี้ได้ถูกนำมาประณามอย่างรุนแรงถึงการกระทำเยี่ยงสัตว์ป่าที่ไม่มีผู้ก่อการร้ายกลุ่มใดในโลกก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้
การกระทำดังกล่าวนอกจากต้องการท้าทายอำนาจรัฐและทำลาย    องคาพยศด้านการศึกษาของรัฐไทยแล้ว  อีกส่วนหนึ่งเกิดจากความมุ่งหวังที่จะปิดกั้นเยาวชนไม่ให้ได้รับการศึกษา  เพราะพวกเค้าเชื่อว่าระบบการศึกษาไทยมอมเมาประชาชนให้ศรัทธาในวัตถุนิยม จึงต้องเผาทำลายเพื่อจะให้เด็กเหล่านั้นหันมาเรียนใน  "โรงเรียนปอเนาะ"  หรือโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา   ซึ่งรัฐบาลต้องให้การสนับสนุน กับสถานศึกษารายละ 10,000 บาท  ซึ่งในปีหนึ่งๆ นั้นแต่ละแห่งได้รับจำนวนไม่น้อย  เป็นเหตุให้โรงเรียนปอเนาะลักษณะนี้ผุดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ราวดอกเห็ด  การช่วงชิงเด็กมาเรียนได้มากเท่าไหร่นั้นหมายถึงรายรับจะมากขึ้นเป็นเงาตามตัว  

ในขณะที่คุณภาพการศึกษา  อุปกรณ์การเรียนการสอนของสถานศึกษาเหล่านี้ส่วนใหญ่อาจกล่าวได้เลยว่าแย่มาก  และเป็นเหตุให้เด็กในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่สามารถสอบแข่งขันกับเด็กในภูมิภาคอื่นๆ ได้  หรือจบการศึกษามาแล้วไม่มีงานทำเนื่องจากคุณวุฒิไม่ตรงกับตลาดแรงงาน 
นี่จึงเป็นผลพ่วงจากการกระทำของคนกลุ่มหนึ่งที่แอบอ้างพระเจ้าทำเลวเพื่อศาสนาที่ส่งผลร้ายแรงไปสู่สังคมในหลายด้าน
ส่วนครูซึ่งเป็นบุคลากรทางการศึกษานั้นก็น่าสงสารอย่างที่สุด  จะไปโรงเรียนแต่ละวันต้องรอไปพร้อม ๆ กันหลังเลิกเรียนต้องรีบกลับบ้าน ทั้งที่ครูหลายคนยังอยากอุทิศตนสอนเสริมให้ลูกศิษย์ หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ แต่ไม่สามารถทำได้ดั่งใจคิด เพราะติดตรงที่โจรใจอำมหิตมันคอยจ้องฆ่า การศึกษาที่ปลายด้ามขวานจึงไปไม่ถึงไหน
น่าสงสารอนาคตของเด็กไทยที่ยืนมองซากโรงเรียนของเขาทั้งน้ำตา  อยากให้ชาวสามจังหวัดภาคใต้    ที่รักชาติรักลูกหลานลุกขึ้นมาสู้พร้อม ๆ กัน ฟาดฟันคนใจบาปให้มันพ้นจากแผ่นดินไทย อยากจะว่ารู้ชาติไหนจะกล้ารับคุ้มกะลาหัวคนทำลายแผ่นดินเกิด 
NGO ท่านอยู่ที่ไหน  เหตุใดจึงทำนิ่งเฉย  เชิญออกมาแสดงบทบาทเพื่อสร้างสรรค์สังคมตามอุดมการณ์ของท่านเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ เหล่านี้ด้วย  อย่ามัวแต่หลงทางหวังเพียงทำเพื่อผลประโยชน์อยู่เลย
การกระทำที่ไม่มีจิตสำนึกของผู้ก่อเหตุรุนแรงแบบนี้ไม่มีใครสามารถรับได้  ทุกคนทั้งชาวบ้าน ครู นักเรียน และผู้คนในสังคมวิงวอนร้องขอ และตั้งคำถามกับผู้ก่อเหตุว่าทำไม   โรงเรียนนับเป็นสาธารณสมบัติที่มีคุณค่ายิ่งของชุมชนและสังคม เป็นแหล่งอบรมให้ความรู้แก่เยาวชน เพื่อสร้างอนาคตของชาติ การทำงานของครูที่เสียสละ ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ และความรู้ โดยไม่ย่อท้อต่อความเหน็ดเหนื่อย จึงเป็นการยืนยันความจริงใจของภาครัฐที่มีต่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง และคำวิงวอนจากผู้สูญเสียเหล่านี้ จึงน่าจะเป็นเสียงสะท้อนไปถึงผู้ไม่หวังดีได้ว่า ประชาชนผู้บริสุทธิ์ไม่ต้องการเห็นภาพเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความสะเทือนใจ ต่อความสูญเสียที่เหลือให้เห็นเพียงเศษเถ้าถ่าน และคราบน้ำตาของเด็กๆเหล่านี้ที่ขอร้องว่าให้เป็นการกระทำครั้งสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นกับโรงเรียน หรือสถานที่อื่นๆ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ซอเก๊าะ  นิรนาม
http://narater2010.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น