RKK เบื่อถูกหลอกใช้ กลับใจนำใต้สันติสุข | |
กฎหมายพิเศษ พ.ร.ก.ฯ เป็นกฎหมายทางเลือกในการเปิดช่องทางให้มีการพูดคุย เจรจาสำนึกผิด เป็นการเปิดช่องทางในการพูดคุยทำความเข้าใจแทนการใช้ ป.วิอาญา ซึ่งที่ผ่านมาทำให้บุคคลไม่ต้องรับโทษหลายราย และด้วยความจริงใจของรัฐในการอำนวยความยุติธรรม และการเอาจริงของขุนทัพภาค ๔ แบบท่านอุดมชัย ฯ ที่พร้อมเปิดให้ทุกกลุ่มออกมาพูดคุยกันด้วยสันติไม่ใช้ความรุนแรง จึงเกิดกระแสตอบรับจากทั้งชาวบ้านและโจร RKK ที่เริ่มรู้เช่นเห็นใส้ของหัวหน้าขบวนการที่ได้แต่สั่งๆ แต่ตนเองเสวยสุขอยู่ต่างประเทศ ส่งลูกหลานเรียนเมืองนอก แหล่งข่าวความมั่นคงภายในกระซิบมาว่าขณะนี้มีผู้กลับใจติดต่อ และที่กลับเข้ามาอยู่ในความดูแลของฝ่ายความมั่นคงเป็นจำนวนมาก เพราะทุกคนเบื่อแล้วที่จะทำให้พี่น้องมาลายูต้องเดือดร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ขบวนการไปแอบอิงกับกลุ่มค้ายาเสพติดที่เข้ามาทำร้ายลูกหลานมาลายูของเขานั้น แล้วอ้างเรื่องการแบ่งแยกปัตตานีดารุสลาม เขารับไม่ได้ พวกเขาไม่เชื่ออีกแล้ว ........และนี่ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ RKK กลับใจ เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 ก.พ. 55 พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.กรมทหารพรานที่ 46 พ.ต.ท.ปรีชา กิ่มเกลี้ยง สว.กลุ่มคลี่คลายปัญหาความมั่นคง จ.นราธิวาส ร.ต.ท.นัฐวิทย์ บำเพ็ญศรี รอง สว.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ร.ต.ต.ภาคภูมิ นราอวิรุทธ์ รอง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง ได้ควบคุมตัว นายอิบรอเฮง ดอนา อายุ 25 ปี หรือชื่อจัดตั้ง หัวหน้าเยาะ ซึ่งทำหน้าที่รับผิดชอบในการเก็บซุกซ่อนวัตถุระเบิดของ กองกำลังติดอาวุธ RKK ที่ได้เข้ามอบตัวกับ พ.อ.ไพศาล ผบ.กรมทหารพรานที่ 46 เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 55 ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดความเบื่อหน่ายจากการถูกหลอกใช้จากกลุ่มขบวนการ และเบื่อกับความเดือดร้อนในการหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ชีวิตของตนเอง และครอบครัวเป็นอยู่อย่างลำบาก ต้องการกลับตัวเป็นคนดีไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้กับบ้านเกิดอีกต่อไปยอมเปิดเผยข้อมูลสำคัญของเพื่อนร่วมกลุ่ม และนำพา เจ้าหน้าที่เดินทาง ไปชี้จุดที่ฝังอุปกรณ์ในการประกอบระเบิด ภายในสวนผลไม้ที่รกทึบหลังหมู่บ้าน บือแต ม.8 ต.จะแนะ อ.จะแนะ โดยจุดแรก นายอิบรอเฮง ได้นำเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดที่บริเวณโค่นตอต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกตัดแล้ว และมีหญ้าขึ้นปกคลุมเล็กน้อย และเมื่อเจ้าหน้าที่ขุดไปได้ลึกประมาณ 1 ฟุต พบกล่องเหล็กสี่เหลี่ยม ซึ่งสามารถประกอบระเบิดได้ 5 ก.ก. จำนวน1 ลูก และห่างกันประมาณ 3 ฟุต เจ้าหน้าที่สามารถขุดพบกล่องเหล็กอีก 1 ใบ ที่มีการเชื่อมเป็นกล่องสำหรับผลิตเป็นระเบิดเคโมอีก 1 ลูก ที่สามารถประกอบเป็นระเบิดเคโมได้ 3 ก.ก. รวมทั้งอุปกรณ์ที่เป็นสายไฟและแผงวงจรในการจุดชนวนระเบิดที่บรรจุใส่ไว้ในขวดน้ำอัดลมพลาสติกขนาดบรรจุ 1 ลิตรที่ฝังไว้แนบติดกัน ต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่ขุดและทำการตรวจยึดอุปกรณ์ในการประกอบระเบิดจุดที่ 1 แล้วเสร็จ นายอิบรอเฮง ได้นำเจ้าหน้าที่ไปทำการชี้จุดที่ฝังปุ๋ยยูเรียและน้ำมันเชื้อเพลิงโซล่า ที่บรรจุใส่ไว้ในแกลลอนพลาสติกขนาดบรรจุ 5 ลิตร ที่ฝังไว้ใต้กิ่งไม้ใหญ่ที่หักโค่นซึ่งห่างจากจุดแรกประมาณ 4 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดเพื่อส่งให้เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์นำไปทำการตรวจคราบลายนิ้วมือแฝงและทำการตรวจ ดี.เอ็น.เอ. เพื่อเก็บรวบรวมไว้ขยายผลไปสู่การจับกุมสมาชิกเครือข่ายของกองกำลังติดอาวุธ RKK มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ เปิดเผยว่า ของกลางที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้คนร้ายเตรียมนำระเบิดไปประกอบเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่กองกำลังเจ้าหน้าที่ และประชาชนในพื้นที่อ.จะแนะ แต่โชคดีที่นายอิบรอเฮง กลับใจได้นำเจ้าหน้าที่ไปขุดตรวจยึดได้เสียก่อนมิเช่นนั้นเจ้าหน้าที่ และประชาชนอาจเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายรายได้ จากการปิดล้อม/ตรวจค้น ปะทะของเจ้าหน้าที่ทุกครั้งทำให้กลุ่มโจร RKK./ มาลายูถูกจับและถูกยิงเสียชีวิต เพราะชาวบ้านเบื่อระอาไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่มโจร จึงแจ้งข่าวสารความเคลื่อนไหวให้กับเจ้าหน้าที่ .......และทุกวันนี้ก็มาทำร้ายพี่น้องมาลายูมุสลิมกันเองเพื่ออะไร .....ทั้งที่ไม่มีหนทางจะชนะตามที่ถูกใส่ข้อมูลให้ตั้งแต่เข้าร่วมขบวนการ .....เพื่อนบางคนก็ไปร่วมกับผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นเป็นมือปืนรับจ้าง .....บางคนก็ไปปล้นร้านทอง ....บางคนถึงกลับผันตัวเองไปร่วมพวกค้ายาเสพติด RKK.ต้องหนีการจับกุมจากเจ้าหน้าที่ ต้องห่างบ้านห่างครอบครัวอันเป็นที่รัก หรืออาจถูกเจ้าหน้าที่ยิงตาย ส่วนที่ยังไม่ตายหรือติดคุกก็หนีไปอยู่ในป่าเขา ชาวบ้านก็ไม่เอาด้วยแล้วเพราะเขาเดือดร้อน กว่า 8 ปีแล้วของการต่อสู้ มีแต่ประชาชนสาบแช่ง รายา ปัตตานี | |
http://narater2010.blogspot.com/ |
หน้าเว็บ
▼
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น