หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2555

หมู่บ้านกระสุนตก ที่ปัตตานี !!

หมู่บ้านกระสุนตก ที่ปัตตานี !!

.. หมู่บ้านกระสุนตก ที่ปัตตานี !! โน ลีโอนิคส์ ....



... ไม่มีฝนดาวตกที่นี่ มีแต่"กระสุนตก" บ้านตุปะ ปัตตานี โนลีโอนิคส์....


         .เหนื่อยครับ!!! แทบหมดแรง กว่าจะได้ออกจากสมรภูมิรบย่อยชายแดนใต้ บ้านตุปะ ต.ควนโนรี อ.
โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อวานนี้ ก็ปาเข้าไปเกือบ5โมงเย็น ต้องกลิ้งไป กลิ้งมา เหมือนลูกขนุน!!! ไหนจะเป็นห่วงอาวุธประจำกาย หมายถึงกล้องถ่ายรูปน่ะครับ ไม่ใช่ปืน และที่สำคัญไหนจะคอยหลบวิถีกระสุน "ลูกหลง" ที่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา มองไม่เห็น ได้ยินแต่เสียงดังลั่นสนั่นทุ่ง ประมาณครึ่งชั่วโมงได้กว่าสงบ กลัวพลาดน่ะครับเดี๊ยวจะถูกสมน้ำหน้า ก็พี่ทหาร พี่ตำรวจ เขาอุตส่าห์ ขอร้องแกมบังคับ ให้ไปหาที่กำบังไปอยู่ในที่ปลอดภัยก็แล้วยังแอบๆ ไปหลบซุ่มอยู่ริมขอบบ่อน้ำ ใต้ต้นไม้ขนาดสองคนโอบ โดยคาดว่าแม้ลูก M79 ก็คงไม่ทะลุผ่าน ...



... ก็จะให้ทำอย่างไรได้ ช่วงเวลานั้น วิญญานช่างภาพข่าว กำลังเข้าสิงพอดี !!! แต่ขอบอกตรงๆว่าไม่ได้ประมาท นะครับ สติ สัมปชัญญะ ยังอยู่ครบ...


... เมื่อวันที่ 17พย.เวลาประมาณ 11.00 น.จากการเข้าพิสูจน์ทราบของเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ภ.จว.ปัตตานี นำทีมโดย พ.ต.อ.จีระวัฒน์ อุดมสุต รอง.ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ว่ามีแนวร่วมกลุ่มก่อนความไม่สงบเคลื่อนไหวในพื้นที่ และเข้าไปหลบซ่อนตัวเตรียมวางแผนก่อเหตุ อยู่ภายในบ้านเลขที่ 192/3 หมู่ที่ 5 บ้านตุปะ ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี กำลังเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวประมาณ 10 นาย จึงได้เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว  พร้อมตะโกนเรียกให้คนอยู่ภายในบ้านออกมามอบตัว ประกฎว่าเงียบไม่มีเสียงตอบรับ จึงผลักประตูบ้านเข้าไป ผลคือคนร้ายที่คาดว่าอยู่ภายในบ้านประมาณ 4-6คน ได้กราดกระสุนออกมา เฉี่ยวเสื้อเกราะตำรวจผู้เป็นหัวหน้าชุด โดนโทรศัพท์มือถือแตกกระจาย เจ้าหน้าที่จึงรีบถอยร่นเข้าหน้าที่กำบัง ปิดล้อมพร้อม วิทยุขอกำลังช่วยเหลือ เพิ่มเติม ...

... จากนั้นไม่นานกำลังเจ้าหน้าที่ ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจปัตตานีที่ 24 ตำรวจ ภ.จว.ปัตตานี และหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ได้เสริมกำลังเข้ามาปิดล้อมเพิ่มเติม และได้ประกาศทางเครื่องขยายเสียงภายในรถหุ้มเกราะ  ให้คนร้ายออกมามามอบตัว พร้อมรับรองความปลอดภัย แต่ไม่เป็นผล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดแรกที่เข้าไปปิดล้อม และอยู่ใกล้กับบ้านหลังดังกล่าวมากที่สุดในขณะนั้น เล่าให้ฟังว่า คนร้ายทั้งหมดได้ประกอบพิธีละหมาด พร้อมประกาศสู้ตาย !! เสียงดังลั่นไปทั่วบริเวณ ....


... แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ละความพยายาม ได้เชิญ ผู้นำศาสนา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มาเจรจา อีกแต่สุดท้ายยังได้รับคำตอบเดิมคือ ทุกคนพร้อมสุ้ตาย ไม่ยอมให้จับเป็นเด็ดขาด ขณะที่เสียงปืนของคนร้ายก็ยังดังออกมาจากบ้านหลังดังกล่าวเป็นระยะๆ เพื่อสกัดไม่ให้กำลังเจ้าหน้าที่คืบคลานเข้าไปถึง...


... จนกระทั่วเวลาประมาณ 15.00 น. เมื่อเห็นว่าการเจรจาไม่สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ประชุมวางแผนประเมินท่าทีกันใหม่ สุดท้าย พ.ท.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ฉก.ปัตตานี ที่ 24 ได้ขอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาระดับสูง และ ประสานกำลังไปทาง กองพันจู่โจม หน่วยรบพิเศษ  เตรียมเข้าชาร์ต เพราะหากมืดค่ำจะไม่เป็นผลดีต่อการปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งคนร้ายก็ได้ประกาศตัวเป็นนักรบประเจ้า !!! ชัดเจนแล้ว ไม่มีใครสามารถไปโน้มน้าวเปลี่ยนแปลง แนวความคิด ความเชื่อ และอุดมการณ์ที่ได้รับการปลูกฝังมาของเขาได้ ...


... 16 นาฬิกาเศษ !!! ดีเดย์ ปฏิบัติการณ์จู่โจมแบบสายฟ้าแลบ ของทหารกองพันจู่โจม  จึงเริ่มขึ้น  และแล้ว !!! เสียงปืนยิงแก๊สน้ำตา นัดแรกถูกยิงเข้าไปภายในบ้านที่คนร้ายซุ่มอยู่ และนัดต่อๆไปก็ติดตามมา ขณะที่คนร้ายก็ยิงตอบโต้ใส่เจ้าหน้าที่ เสียงปืนดังลั่นเป็นประทัดแตก ไม่รู้ของฝ่ายไหนเพราะเสียงดังเหมือนกันหมด ขณะที่ ช่างภาพและนักข่าว รวมทั้ง"เณรรูน"ด้วย ต้องหัวซุกหัวซุนเข้าหาที่กำบัง กลัว"ลูกหลง" อย่างเดียวจากฝ่ายคนร้ายที่ยิงสวนออกมาจากภายในบ้าน แต่อีกใจหนึ่ง ก็อยากได้ภาพเด็ดๆ เพราะมาอยู่ท่ามกลางควันปืนแล้ว อย่างไรเสียต้องมีผลงานติดมือออกไป คิดอย่างนั้นจริงๆในช่วงเวลานั้น เพราะมันถือเป็น"หน้าที่" ของเรา ในฐานะ"สื่อ" ที่ต้องนำเสนอความจริง ...


... ซึ่งระหว่างการยิงปะทะ เจ้าหน้าที่ทหารถูกกระสุนปืนจากฝ่ายคนร้ายได้รับบาดเจ็บสองนายคือ ส.อ.ศรชัย บัวชมภู และ ส.อ.เฉลิมพล โพธิ์ศรี สังกัดกองพันจู่โจม หน่วยรบพิเศษ เพื่อนทหารต้องรีบนำทั้งสองขึ้นเปลสนามฝ่าดงกระสุน ไปขึ้นรถพยาบาลที่จัดเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ ส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ...



... ประมาณ 30 นาที เสียงปืนจึงสงบลง!! เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ชั้นผู้ใหญ่ และคณะได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านไม้ยกพื้นหลังใหญ่ มีห้องครัวแยกออกมาจากตัวบ้าน พบคนร้ายถูกยิงระหว่างปะทะเสียชีวิตจำนวน 6 คน ทราบชื่อภายหลังคือ 1.นายมะดือราแม นะซิมะ ชื่อจัดตั้ง"ปะดอ" แกนนำฝ่ายปฏิบัติการณ์ หัวโจทย์ใหญ่  RKK ที่ก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่หลายคดี มีรายชื่อตามหมายจับ ป.วิอาญาฯจำนวนมาก 2.นายสะการียา บาแม 3.นายอับดุลเลาะ โต๊ะลาเล๊ะ 4.นายันติ มะแอ 5.นายอาซิอาลี อาเล็ง 6.นายนารูดิง ดอมะ ซึ่งทั้งหมดเป็นแนวร่วม ฯ ที่ผ่านการซุมเปาะ(สาบานตน)เป็น นักรบของพระเจ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...


... หลังเข้าเคลียร์ที่เกิดเหตุภายในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่สามารถยึดอาวุธปืนของคนร้ายได้ ปืน M16 จำนวน 1 กระบอก ปืนอาก้า(ak47) จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนเฒแม้กกาซีน ปืนพกสั้นขนาด 11มม. 1กระบอก พร้อมกระสุน 35 นัด และ ลูกระเบิด M79 จำนวน 1ลุก ขณะนี้กำลังกระจายกำลังค้นหาเครื่องยิงอยู่ ...

 ... ครับ เหตุการณ์ความสูญเสียทั้งหมดที่เกิดขึ้น ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ผ่านเลยมากว่าครึ่งค่อนทศวรรษได้สร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวง ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชีวิตแล้วชีวิตเล่า ที่ต้องมาสังเวยไฟใต้ มีทั้งพร้อม และไม่พร้อมที่จะตาย ต่างมุมมองความคิด พื้นฐานทางด้านจิตใจของแต่ละคน และสังคม ...

... บางคนตายไป คนกลุ่มหนึ่งเคียดแค้นชิงชัง สาปแช่งให้ตกนรกไม่ให้ผุดให้เกิด แต่คนอีกกลุ่ม ในมุมมองสถานการณ์เดียวกับ กลับยกย่องเขาผู้ตายเป็นดั่งวีรบุรุษ ต่างคน ต่างมอง ต่างความคิดและที่มา  ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ตาม สุดท้าย"เลือดไทย"ทั้งนั้นที่ไหลนองกลบผืนแผ่นดินใต้ ...
...โอ้...ปลายด้ามขวานเมื่อไหร่จะยุติการนองเลือด ...


...จาก เหตุการณ์ดังกล่าว สุดท้ายขอส่งกำลังใจ ไปให้แก่น้องทหารทั้ง 2นาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะในครั้งนี้ ให้หายเป็นปกติในเร็ววัน และ ขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่บ้านเมือง ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ที่"ตั้งใจจริง" ในการที่จะร่วมมือกันแก้ใขปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่ในขณะนี้ แม้จะยังมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ก็ตาม...

... และนักรบพระเจ้าทั้ง 6 ที่ต้องจบชีวิต ไปพร้อมกัน ป่านนี้คงสัมฤทธิ์ผลทางด้านจิตใจที่ทุกคนตั้งไว้แต่เดิม ซึ่งหากมองในอีกแง่มุม พวกเขาก็ตายสมชายชาตินักรบเหมือนกัน "ขอคารวะด้วยใจจริง" ทั้งๆที่รู้่ว่าไม่มี ทางสู้ได้กับฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองในเวลานั้น ...

... ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง  นักสิทธิมนุษยชน หลายคนกำลังเพ่งมองมาที่นี่ และหลายๆคำถามต้องตามมาโดยเฉพาะประเด็น โลกแตก เป็นการกระทำ " กระทำเกินกว่าเหตุ " ไปหรือไม่ ซึ่งในฐานะเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ บอกได้คำเดียวว่า "เห็นใจ" ทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมือง และ กลุ่มก่อความไม่สงบ ในเมื่อไม่สามารถแสวงหาจุดร่วม ที่ลงตัว โดยที่ไม่ต้องเสียเลือดเนื้อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง  สุดท้ายผลที่ออกมาก็เป็นอย่างที่เห็น ...

... และอีกครั้งกับนักฉวยโอกาส ไม่ว่าจะมาในรูปแบบ หรือ องค์กรใดก็ตาม ที่จะเข้ามาอาศัยสถานการณ์
เช่นนี้ มาสร้างผลงานหรือหาผลประโยชน์เข้ากระเป๋าคนไม่กี่คน ให้มองมุมกลับ ควรระวัง หันมาทบทวนบทบาทตนเองด้วยเพราะ หลายครั้งเขาเหล่านั้นก็เป็นตัวเร่งปฏิกริยา เพิ่มรอยร้าวสร้างความแตกแยกเพิ่มมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว .. 

.... สวัสดีครับ.....
http://narater2010.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น