หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์อื้อฉาว Innocent of Muslim


ข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์อื้อฉาว Innocent of Muslim

        อัลจาซีร่ารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์อื้อฉาว Innocent of Muslim และตัวตนปริศนาของผู้ที่อ้างชื่อแซม บาไซล์ 


 



       จากกรณีกลุ่มติดอาวุธชาวลิเบียบุกเข้าโจมตีสถานทูตสหรัฐฯ ในลิเบียจนเป็นเหตุให้เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เสียชีวิต เนื่องจากไม่พอใจภาพยนตร์อเมริกันเรื่อง "Innocence of Muslim" ที่ดูหมิ่นศาสดาของศาสนาอิสลาม ทางสำนักข่าวอัลจาซีร่านำเสนอเกร็ดที่มาของภาพยนตร์ล้อเลียน ที่กลายเป็นเหตุให้เกิดการต่อต้านจากในลิเบีย และการประท้วงในอียิปต์

        อัลจาซีร่ารายงานว่า ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่า ตัวตนของคนที่ชื่อ แซม บาไซล์ ที่เป็นผู้ผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ มีข้อมูลระบุเพียงว่า เขาเป็นชายชาวอิสราเอล-อเมริกัน อายุ 52 ปี มีอาชีพเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์

       จากการให้สัมภาษณ์ต่อเอพีและ วอลล์ สตรีท เจอนัล ชายที่เรียกตัวเองว่า 'แซม บาไซล์' บอกว่า เขาหาเงินทุนได้ 5 ล้านดอลลาร์นำมาสร้างภาพยนตร์ ในรายงานข่าวยังได้อ้างคำพูดของเขาที่บอกว่า ศาสนาอิสลามเป็นเหมือน 'มะเร็ง' และอ้างว่าเขาสะสมเงินทุนในการทำภาพยนตร์นี้จากชาวยิว 100 คนบริจาคให้

      แต่ผู้ให้สัมภาษณ์ก็บอกตัวเลขอายุไม่ตรงกันในทั้งสองบท สัมภาษณ์ โดยในเอพี เขาบอกว่าอายุ 56 ปี เขาบอกอีกว่าภาพยนตร์มือสมัครเล่นที่มีความยาว 2 ชั่วโมง ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2011 ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีนักแสดงหลายสิบคน แต่รายงานข่าวระบุว่า ไม่มีข้อมูลของภาพยนตร์เรื่องนี้ในสื่อโซเชียลมีเดียก่อนหน้านี้ และไม่มีหน้าเพจของภาพยนตร์ในเรื่องนี้ในเว็บไซต์ของฐานข้อมูลภาพยนตร์ทาง อินเตอร์เน็ต (IMDB) เลย

     ทางคณะกรรมการภาพยนตร์รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีหน้าที่ให้อนุญาตการถ่ายทำภาพยนตร์ในพื้นที่รัฐกล่าวต่อสื่อฮัฟ ฟิงตันโพสท์ว่า พวกเขาไม่เคยให้ใบอนุญาตแก่คนที่ใช้ชื่อว่า 'แซม บาไซล์' เลย


อ้างหลอกถ่ายหนัง "นักรบแห่งทะเลทราย"
       เทรลเลอร์ ของภาพยนตร์ซึ่งไม่ได้ปรากฏแก่สายตาประชาชนนานมาก แสดงให้เห็นภาพของศาสดามูฮัมหมัดเป็นคนหลอกลวงและเสื่อผู้หญิง รวมถึงมีฉากการมีเพศสัมพันธ์ ภาพยนตร์ทั้งเรื่องเคยนำมาฉายต่อหน้าสาธารณชนเพียงครั้งเดียวในโรงภาพยนตร์ ของฮอลลิวูด โดยผู้ที่เรียกตัวเองว่า 'บาไซล์'
      ผู้อ้างชื่อบาไซล์บอกว่า เขาสร้างภาพยนตร์ชุดนี้ขึ้นเพราะว่า "หลังจากเหตุการณ์ 9/11 แล้ว ทุกคนควรอยู่ต่อหน้าผู้พิพากษา..." "...ไม่ว่าจะเป็นพระเยซูหรือมูฮัมหมัด"
      แต่นักแสดงที่ร่วมแสดงบอกว่า เขาไม่รู้มาก่อนเลยว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับศาสดามูฮัมหมัดหรืออิสลาม ในตอนแรกพวกเขาถูกเรียกมาคัดเลือกนักแสดงในภาพยนตร์ที่ชื่อ "นักรบแห่งทะเลทราย" โดย ผู้กำกับ อลัน โรเบิร์ท
        และการกล่าวอ้างอิงถึงศาสนาในภาพยนตร์เพิ่งมีการนำมาอัดเสียงพากษ์ใส่ทีหลัง มีรายงานว่าบาไซล์ตอนนี้กำลังหลบซ่อนตัวอยู่ บ้างก็คาดเดาว่า ชื่อของบาไซล์เป็นเพียงชื่อแอบอ้างของกลุ่มคนบางกลุ่ม หรือเป็นชื่อปลอมของคนๆ หนึ่งที่ไม่ใช่ทั้งคนอิสราเอลหรือชาวยิวเลยก็ได้ แต่ที่เขาบอกตัวเองว่า เป็นชาวยิว เพื่อใส่ไฟให้เกิดความรู้สึกขัดแย้งเท่านั้น
      นักแสดงหญิงคนหนึ่งที่ถูกหลอกให้มาแสดงภาพยนตร์บอกว่า คนที่ชื่อบาไซล์บอกว่า ตัวเองเป็นชาวอียิปต์และพูดภาษาอาหรับกับคนอื่นๆ ที่อยู่ด้วย
      สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กลุ่มชาวคริสต์นิกายคอปต์ในอียิปต์ออกแถลงการณ์ประนามคริสเตียนชาวอียิปต์ นอกประเทศที่ให้การสนับสนุนทางการเงินในการสร้างภาพยนตร์ที่หมิ่นต่อศาสดามู ฮัมหมัด
การแพร่กระจายในโซเชียลมีเดีย
       มีคำถามว่า เทรลเลอร์ของภาพยนตร์ลึกลับเรื่องนี้ออกมาสู่สายนานาชาติได้อย่างไร มันถูกโพสท์ลงในยูทูบโดยผู้ใช้ที่ชื่อ 'sam bacile' ในเดือนก.ค. 2012 เทรลเลอร์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับความสนใจมากขึ้นในเดือน ก.ย. และในวันที่ 4 ก.ย. ผู้ใช้คนเดียวกันก็โพสต์วีดิโอนี้ในอีกเวอร์ชั่นที่มีการพากษ์เสียงภาษา อาหรับทับลงไป ทำให้มีผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นหลายหมื่นคน
      มอร์ริส ซาเด็ค ชาวคริสเตียนนิกายคอปต์ที่เกิดในอียิปต์และมาอาศัยในสหรัฐฯบอกว่า เขาได้โปรโมทภาพยนตร์เรื่องนี้ลงในเว็บไซต์ของเขา เขาได้ทวิตลิงค์ของเทรลเลอร์ภาพยนตร์นี้ในวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมาด้วย
       ซาเด็ค เป็นประธานของกลุ่มสมัชชานิกายคอปต์แห่งชาติอเมริกัน เขาเป็นที่รู้จักดีในฐานะของคนที่มีแนวคิดต่อต้านอิสลาม เขาได้บอกกับสำนักข่าววอลล์ สตรีท เจอนัล อีกว่า เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในอียิปต์เป็นหลักฐานบ่งชี้ว่า ศาสนานี้และกลุ่มคนที่นับถือมีความรุนแรงขนาดไหน
        บาทหลวง เทอร์รี่ โจน ในรัฐฟลอริด้า ผู้เคยเผาคัมภีร์อัลกุรอานในปี 2011 จนทำให้เกิดการจลาจลในประเทศมุสลิมและมีคนเสียชีวิตจำนวนมาก ก็เป็นคนหนึ่งที่ช่วยโปรโมทภาพยนตร์เรื่องนี้
       เทรลเลอร์ ของภาพยนตร์ในภาษาอาหรับได้รับการนำเสนอในสื่ออียิปต์จำนวนมากเมื่อสัปดาห์ ที่ผ่านมา รวมถึงผู้สื่อข่าวโทรทัศน์หัวแข็งคาเล็ด อับดัลลา ที่รายงานถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ในวันที่ 8 ก.ย. โดยที่คลิปนี้ถูกนำเสนอในยูทูบเมื่อวันที่ 9 ก.ย.
        แม็กซ์ บลูเมนธาล ผู้สื่อข่าวอัลจาซีร่ากล่าวว่า "การกระทำเบื้องหลังภาพยนตร์นี้แสดงให้เห็นว่า เป็นฝีมือของกลุ่มชาวอียิปต์นิกายคอปต์สุดโต่งที่ต้องการดิสเครดิตรัฐบาล มอร์ซี และยุยงให้แตกแยก"
      "พวกเขาต่อต้านการปฏิวัติและเป็นพวกเดียวกับกลุ่มคริสเตียนฝ่ายขวาผู้ที่มีแรง จูงใจทางศาสนาในการยุยงให้เกิดการต่อต้านชาวมุสลิม-อเมริกัน" บลูเมนธาลกล่าว "พวกเขาทำให้ชาวมุสลิมในสหรัฐฯ ตกอยู่ในอันตราย พวกเขาทำให้นิกายคอปต์ในอียิปต์ตกอยู่ในอันตราย และพวกเขาก็ทำให้ทูตสหรัฐฯทั้งหมดตกอยู่ในอันตราย"
บล็อกคลิปในยุทูบ
      รัฐบาลอัฟกานิสถานได้บล็อกคลิปในยูทูบชั่วคราวเมื่อวันที่ 13 ก.ย. เพื่อพยายามกันให้คนไม่ดูคลิปดังกล่าว มีรายงานด้วยว่ายูทูบบล็อกไม่ให้อียิปต์และลิเบียเข้าถึงวีดิโอได้
      ทางยูทูบได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 13 ก.ย. บอกว่า "พวกเราทำงานหนักเพื่อสร้างชุมชนที่ทุกคนจะมีความสุขด้วยกัน และให้ทุกคนสามารถแสดงความเห็นต่างกันได้"
     "ซึ่งนี่ถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งด้วย เพราะสิ่งที่โอเคสำหรับประเทศหนึ่ง กลายเป็นสิ่งที่ล่วงละเมิดในที่อื่นได้"
      "วีดิโอนี้ ซึ่งแพร่หลายไปทั่วเว็บ อยู่ภายใต้แนวนโยบายของเราอย่างชัดเจน และจะยังคงอยู่บนยูทูบ อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ที่ยากลำบากในลิเบียและอียิปต์ พวกเราได้ปิดกั้นไม่ให้ทั้งสองประเทศเข้าถึงวีดิโอได้เป้นการชั่วคราว"
      "พวกเราขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของคนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์โจมตีในลิเบีย"
     จากการถูกวิพากษ์วิจารณ์ทำให้ปัจจุบันยุทูบพยายามปิดกั้นและเซนเซอร์น้อยลง แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยูทูบก็ใช้เทคโนโลยีที่คัดกรองวีดิโอบางอย่างออกในบางประเทศเพื่อให้ตรงตาม กฏหมายของประเทศนั้นๆ
ที่มา
Anti-Islam film: What we know, Aljazeera, 13-09-2012
http://narater2010.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น