รอมฏอน ภัยรายวันจากสมุนโอลันล้า | ||||||||
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ต.อ.จีรเศรษฐ ดาวเงินตระกูล ผกก.ภ.สายบุรี จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันบนถนนสาย 42 ปัตตานี-นราธิวาส ม.5 บ้านปะลุกายามู ต.ละหาร นำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบกองเลือดจำนวนมาก และพบจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ ทะเบียน ขทม 897 นราธิวาส ตกข้างทาง ส่วนคนเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี ทราบชื่อ อาสาสมัครทหารพราน ฟาดือรี อารง อายุ 23 ปี สังกัด ร้อย ทพ.4808 กรมทหารพรานที่ 48 มีบาดแผลถูกยิงเข้าท้ายทอย 1 นัดอาการสาหัส แพทย์ได้ส่งต่อมายังโรงพยาบาลปัตตานี
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ อส.ทพ.ฟาดือรีขี่จักรยานยนต์มาจากซื้อกับข้าวเพื่อเตรียมละศีลอดที่ตลาดนัดต้นไทร โดยมีนางพาตีเม๊าะ เจาะเลาะ ภรรยานั่งซ้อนท้ายมาด้วย มาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้าย 2 คนขี่จักรยานยนต์ตามประกบยิงหลายนัดแล้วหลบหนีไป หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ไล่สกัดจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ คาดฝีมือแนวร่วมในพื้นที่สร้างสถานการณ์
ยิงผัวเมียดับ 2 ศพที่ระแงะ
ในเวลาต่อมา พ.ต.อ.จิระเดช พระสว่าง ผกก.สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต 2 ราย บนถนนในหมู่บ้านฮูลูปาเระ หมู่ 1 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จึงพร้อมด้วย พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 พ.ต.อ.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารและฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตทั้งสองรายอยู่ในท่านั่งคุกเข่าคว่ำหน้าจมกองเลือดในลักษณะคล้ายร้องขอชีวิต ศพแรกทราบชื่อคือ
นราธิวาส - เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง 2 ผัวเมียชาวไทยพุทธเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม แม้ทั้ง 2 คนจะก้มกราบร้องขอชีวิต เหตุเกิดขณะที่ทั้ง 2 คนกำลังขับรถ จยย.กลับจากตลาดตันหยงมัส เมื่อเวลา 14.50 น. วันนี้ (21 ก.ค.) พ.ต.อ.จิระเดช พระสว่าง ผกก.สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต 2 คน บนถนนในหมู่บ้านฮูลูปาเระ หมู่ 1 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จึงพร้อมด้วย พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 พ.ต.อ.จันที แจ่มจันทร์ หัวหน้ากองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน อยู่ในท่านั่งคุกเข่าคว่ำหน้าจมกองเลือดในลักษณะคล้ายร้องขอชีวิต ศพแรกทราบชื่อคือ นายทรงชัย พรหมจันทร์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 209/3 หมู่ 1 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส มีบาดแผลถูกกระสุนปืนพกขนาด 9 มม.ที่ศีรษะ และใบหน้าจนพรุน และศพถัดมาทราบชื่อคือ นางนิตยา ฝ่ายนารีผล อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 209/3 หมู่ 1 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นภรรยาของนายทรงชัย มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนชนิดเดียวกันที่บริเวณศีรษะ และใบหน้าจนพรุนเช่นกัน และใกล้กันเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนพกขนาด 9 มม.ตกอยู่บนถนนจำนวน 10 ปลอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายทั้ง 2 ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักเพื่อนำผักไปขายที่ตลาดตันหยงมัส แล้วเสร็จได้ขี่รถจักรยายยนต์เพื่อเดินทางกลับบ้านพัก ถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนดักซุ่มอยู่ข้างทาง วิ่งออกมาขวางหน้ารถ ก่อนจะใช้ปืนขู่บังคับให้ผู้ตายทั้งสองจอดรถ และลงจากรถ ผู้ตายทั้งสองจึงก้มคุกเข่ายกมือไหว้เพื่ออ้อนวอนขอชีวิต แต่คนร้ายไม่สนใช้อาวุธปืนจ่อยิงศีรษะ และใบหน้าของผู้ตายทั้งสองอย่างโหดเหี้ยม และก่อนหลบหนีคนร้ายยังได้ขโมยรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นสปาร์ค สีเทาแดง ทะเบียน ขธฉ 499 นราธิวาส ของผู้ตายหลบหนีไปด้วย ส่วนสาเหตุเบื้องต้นสันนิษฐานเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบ แต่ไม่ตัดทิ้งประเด็นอื่นๆ ลากตัวโจรรอมฏอนได้อย่างทันควัน
รองโฆษก ทบ.ยันทหารไม่ใช่ความรุนแรงตรวจชายแดนใต้ช่วงรอมฎอน แจงเหตุปะทะ ผู้ต้องหายิงครู จนท.ลาดตระเวนเจอ แล้วถูกยิงก่อน เป็นเหตุให้ตอบโต้ เทียบผู้ต้องหาวางบึ้ม ยอมมอบตัว ไร้รุนแรง และปล่อยตัวร่วมศาสนกิจกับครอบครัว ส่วนเหตุปะทะบนเขานราธิวาส ยึดอาวุธได้ แม้วืดจับกุม ชี้โจรใต้หวังป่วน แถมมีชุด จนท.หวังโยนบาป ตรงกับกระแสข่าว รับ นายกฯ-ผบ.ทบ.ชม
วันนี้ (22 ก.ค.) พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ทหารใช้ความรุนแรงในการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงเดือนรอมฎอนว่า ยืนยันว่าในช่วงรอมฎอน เจ้าหน้าที่ได้เน้นอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนได้ทำบุญ พร้อมกับการลาดตระเวนเพื่อรักษาความปลอดภัยให้พื้นที่มีความเรียบร้อย สำหรับกรณีเหตุปะทะที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เป็นเหตุการณ์ที่น่าเสียใจเนื่องจากขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการลาดตระเวนระวังป้องกันและรักษาความปลอดภัยอยู่ภายในพื้นที่ บังเอิญเกิดเหตุเผชิญหน้ากันกับนายมะสุเพียน มามะ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดียิงครู และผู้ต้องสงสัยเหตุวางระเบิดในหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา โดยนายมะสุเพียนได้ใช้อาวุธต่อสู้เจ้าหน้าที่ก่อน จึงทำให้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องดำเนินตามขั้นตอนของการใช้กฎหมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้มีการสูญเสียเกิดขึ้น พ.อ.วินธัยกล่าวต่อว่า ไม่เหมือนกับอีกเหตุการณ์ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน กรณีนายอัมลี เจ๊ะโซ๊ะ เป็นผู้ต้องหา ซึ่งมีหลักฐานว่าเป็นผู้ประกอบระเบิดและผู้วางระเบิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนไปพบเหมือนกัน แต่นายอัมลี เจ๊ะโซ๊ะไม่ได้มีลักษณะที่จะต่อสู้ขัดขืน และมีท่าทีที่จะขอเข้าแสดงตัวกับ จนท. ผ่านนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้อำนวยความสะดวกให้ตามขั้นตอน มีการให้ประกันตัวกลับไปอยู่บ้าน ซึ่งนายอัมลี เจ๊ะโซ๊ะยังคงสามารถไปประกอบศาสนกิจร่วมกับครอบครัวได้ปกติ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่ต้องการที่จะใช้ความรุนแรงและมีเจตนาที่จะสนับสนุนให้ประชาชนมีความสุขในเดือนแห่งการทำบุญ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ส่วนอีกเหตุเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่มีการปะทะกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงประมาณ 5-6 คน นอกเมืองบนเขาเขตรอยต่อ ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส กับ ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส แม้กลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดจะหลบหนีไปได้ แต่เราสามารถยึดอาวุธ กระสุน และสิ่งอุปกรณ์ได้หลายรายการ เช่น กระสุนเอ็ม 16 ข้าวสารอาหารแห้ง ถังแก๊ส และเสื้อผ้าชุดทหารพราน 5 ชุด, ชุดลายพราง 2 ชุด, ชุด ชรบ.2 ชุด แสดงให้เห็นว่าผู้ก่อเหตุยังมีความพยายามที่จะก่อเหตุ ที่สำคัญคือมีเครื่องแบบเจ้าหน้าที่อยู่ด้วยจำนวนมาก ซึ่งสอดคล้องกับกระแสข่าวว่าผู้ไม่หวังดีบางกลุ่มที่พยายามบิดเบือนด้วยการชี้นำสังคมว่าเหตุที่เกิดในช่วงนี้จะเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจากการดำเนินการของเจ้าหน้าที่นั้น ทาง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.รมน. และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความชื่นชมกำลังพลในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย | ||||||||
http://narater2010.blogspot.com/
|
หน้าเว็บ
▼
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น