เคยรู้ไหม หมา ไม่เคยเกลียดมุสลิม แต่มุสลิม...เกลียดหมา | |
จะมีอะโรที่ร้ายเท่าความเกียจชังในใจคนได้ คนมุสลิมเกียดหมา องค์กรพิทักษ์สัตว์ แฉ เรื่องจริงการจับสุนัขในมาเลเซีย
ภาพที่เห็นเป็นสุนัขตัวหนึ่งที่ถูกจับโดย MPKJ โปรดหยุดและมองไปที่เธอ นี่คือวิธีที่สุนัขได้รับความทรมานที่นี่ในประเทศมาเลเซีย เมื่อสุนัขและลูกสุนัขทั้งหลายถูกจับได้ ช่างโหดร้ายเกินไป
MIAR องค์กรพิทักษ์สัตว์มาเลเซีย (Malaysia Independent Animal Rescue) บันทึกวิดีโอนี้เพื่อแสดงให้ทุกคนจริงๆ ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ในประเทศนี้และทำแบบนี้นานหลายปีแล้ว พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่ามีสุนัขกี่ตัวถูกฆ่าด้วยไร้ความปราณี
ปล. โปรดอย่าหยุดแบ่งปันวิดีโอนี้ เราเป็นความหวังเดียวของสุนัข เราต้องการความยุติธรรมให้สุนัข เรื่องรุนแรงนี้ต้องหยุด
MPKJ เป็นทีมของเทศบาลท้องถิ่น มาเลเซีย พวกเขากล่าวว่า รัฐบาลจ่ายเงินให้พวกเขาทำเช่นนั้น หมายถึงวิธีการทรมานสุนัข พวกมันต้องทนทุกข์ทรมานด้วยท่อนเหล็กทั้งถูก ... บีบคอและลากพวกมันจนกว่าเลือดออกจากอุ้งเท้า สำลักเลือด และถูกนำไปสู่ความตาย
ถ้ามีใครมาลากลูกของคุณแบบนี้ หากไม่ไปก็โดนทุบตีอย่างรุนแรง คุณจะทำอย่างไร ?
วะอะลัยกุมุสสลามครับ ก่อนอื่นต้องเข้าใจใหม่นะครับว่า อิสลามมิได้สอนให้มุสลิมเกลียดชังสุนัข เพียงแต่ การทำความสะอาดอันเนื่องจากน้ำลายของสุนัขนั้นเกิดความยากลำบากเท่านั้นเอง อาทิเช่น หากน้ำลายของสุนัขเลียภาชนะของมุสลิม จำเป็นจะต้องล้างน้ำ 7 ครั้ง,
ฉะนั้นหากมุสลิมเลี้ยงสุนัขภายในบ้าน ก็ลองคิดดูเล่นๆ ก็ได้ครับว่าจะต้องตามล้างด้วยน้ำดินกันไม่รู้จักจับสิ้นนั่นเอง
ฉะนั้นหากจะบอกว่ามุสลิมเกลียดสุนัขก็คงไม่ถูกแล้วละครับ
อนึ่ง ท่านนบีเคยเล่าให้ฟังว่า มีสตรีโสเภณีคนหนึ่งตักน้ำให้สุนัข
ตัวหนึ่งดื่ม อันเนื่องจากสุนัขตัวนั้นหิวแต่ไม่สามารถดื่มน้ำในบ่อน้ำนั้นได้ นางจึงให้รองเท้าของนางตักน้ำให้มันดื่ม ท่านนบีจึงกล่าวว่า การกระทำข้างต้นนางได้รับสวรรค์เป็นสิ่งตอบแทน,
ฉะนั้นเราจะต้องอธิบายให้คนต่างศาสนิกฟังใหม่ว่า มุสลิมไม่ได้เกลียดสุนัข แต่มุสลิมจะทำอะไรนั้นต้องมีขอบเขตที่ศาสนากำหนดไว้เท่านั้นเอง (วัลลอฮุอะอฺลัมบิศเศาะวาบ) วัสสลาม
บุญหายเพราะเลี้ยงหมา ท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺเล่าว่า ท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวว่า " บุคคลใดที่เลี้ยงสุนัข โดยไม่ใช่สุนัข (เลี้ยงไว้เพื่อ) เฝ้าปศุสัตว์, สุนัขล่าสัตว์ หรือสุนัขเฝ้าสวน เช่นนั้นผลบุญของเขาจะถูกบั่นทอนลงทุกวันๆ ละหนึ่งกีรอน " บันทึกโดยบุคอรีย์ หะดีษที่ 3077, มุสลิม หะดีษที่ 2948 และติรมิซีย์ หะดีษที่ 1409
"บ้าน (มุสลิม) ใดที่ผูกสุนัขไว้ในบ้านของพวกเขา แน่นอนยิ่งการงาน (อะมัล) ของพวกเขาจะถูกบั่นทอนลงทุกวันๆ ละหนึ่งกีรอน ยกเว้น (มุสลิมที่เลี้ยงสุนัขไว้นอกบ้านเพื่อ) ล่าสัตว์, สุนัขเฝ้าสวน หรือสุนัขเฝ้าแกะ(แพะ) " บันทึกโดยติรมิซีย์ หะดีษที่ 1410, นะสาอีย์ หะดีษที่ 4206
ไม่เลี้ยงแล้วไปทำลายสิ่งมีชีวิต อิสลามก็ไม่อนุมัติเช่นกันในการสร้างความเสียหายบนหน้าแผ่นดิน คราวหลังเจอใครทำเช่นนี้ ลองแกล้งย้อนถามนะคะว่าศาสนาสอนเช่นไร ให้ยกหลักฐานทางศาสนามาด้วย.... เมื่อไม่เลี้ยงก็ยังส่งเสริมให้เมตตาต่อสัตว์ค่ะ "มีสตรีโสเภณีคนหนึ่งตักน้ำให้สุนัขตัวหนึ่งดื่ม อันเนื่องจากสุนัขตัวนั้นหิวแต่ไม่สามารถดื่มน้ำในบ่อน้ำนั้นได้ นางจึงให้รองเท้าของนางตักน้ำให้มันดื่ม ท่านนบี(ขอความสันติจงมีแด่ท่าน)จึงกล่าวว่า การกระทำข้างต้นนางได้รับสวรรค์เป็นสิ่งตอบแทน"
จากหะดีษข้างต้นระบุไว้นั้น แสดงให้เห็นว่าอิสลามต้องมีความเมตตาต่อสัตว์ ใครไปเบื่อยาฆ่าน้องหมาอันนี้เลว ขอประนามมัน เกลียดถึงขั้นฆ่ากันได้ แสดงถึงจิตใจภายในของเขาแล้วค่ะ ว่าน่ากลัว.....อิสลามไม่ส่งเสริมเลยสักนิด...แถมยังให้เมตตากรุณาสัตว์
อยากจะรู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด ต้องทำเช่นนี้
หมา โดนวางยาเบื่อในอียิปต์ ภาพที่บอกว่า ในประวัติศาสตร์ หมาก็อยู่ข้าง ๆ คนอียิปต์มานานแสนนาน ภาพบนภาชนะดินเผา ก็เห็นว่า มุสลิมในประวัติศาสตร์ ก็มีหมาเคียงข้างกาย ในสมัยโรมัน ก็หมาอีกนั่นแหละอยู่ข้าง ๆ กาย แม้แต่ในยุคต้นกำเนิดอิสลาม หมาก็อยู่ข้าง ๆ กายของมุสลิม แล้ววัน ทำไมมุสลิมพวกนี้ ถึงได้ทำกับหมาได้ปานนี้ แล้วอะไรกัน ที่สั่งสอนให้คนพวกนี้ ทำหมา ๆ กับ หมา (WARNING TO DOG LOVERS GRAPHIC CONTENT) IRANIAN YOUTH PUBLICLY KILLING DOG WITH STICKS AND STONES & OTHER STORIES ON TREATMENT OF DOGS IN ISLAMIC WORLD แต่หญิงมุสลิมรายนี้ เธอทำแบบที่มนุษย์ พึงปฏิบัติต่อสัตว์โลก มุสลิม ตุรกี กับหมาตัวโปรด ตำรวจสุนัขมุสลิม อาบูดาบี ฝึกสุนัขใช้งาน
Yay, more pictures of Muslims not hating dogs, not hating dogs at all. Here are Muslims who love dogs, and not just Salukis.
Okay, I don’t know what this one says. My guess is this guy rescued the dog, but I don’t know.
What's the difference between a woman and a dog in Muslim countries?
Posted on February 21, 2013
| |
http://narater2010.blogspot.com/
|
หน้าเว็บ
▼
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น