หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556

คำเตือนสำหรับผู้ที่นินทาใส่ร้ายอุละมาอฺและนักดาอีย์

คำเตือนสำหรับผู้ที่นินทาใส่ร้ายอุละมาอฺและนักดาอีย์

คำเตือนสำหรับผู้ที่นินทาใส่ร้ายอุละมาอฺและนักดาอีย์

จาก อัลหะรีสีย์ อัลฟาตอนีย์

           อิสลามให้ความสำคัญกับความรู้ พร้อมกับให้เกียรติผู้รู้และผู้เรียนรู้ด้วยฐานะอันสูงส่ง โดยเฉพาะผู้รู้ที่นบีมูฮัมมัด ได้ยกฐานะให้เป็นทายาทผู้สืบทอดภารกิจของบรรดานบี เลยทีเดียว อิมามอัลบุคอรีย์ เราะฮิมะฮุลลอฮ ได้รายงานหะดีษที่ท่านนบี ได้กล่าวความว่า
"ผู้ใดก็ตามที่อัลลอฮทรงประสงค์ให้เกิดความดีแก่เขา พระองค์จะให้เขาเข้าใจในศาสนา"  

         ชัยค์อิบนุหะญัร เราะฮิมะฮุลลอฮฺ ได้อธิบายความหมายหะดีษนี้ได้อย่างลุ่มลึกว่า ผู้ใดที่ไม่เข้าใจศาสนา แสดงว่าอัลลอฮฺไม่ประสงค์ให้เขาประสบกับความดี  อิสลามจึงกำชับให้มุสลิมทุกคนรู้จักให้เกียรติอุละมาอฺ เพราะนอกจากเป็นการให้เกียรติผู้รู้แล้ว ยังเป็นการให้เกียรติความรู้ของอัลลอฮฺที่พระองค์ได้ประทานให้ผู้รู้ด้วย ในขณะเดียวกัน การดูถูกผู้รู้ก็เป็นการดูถูกความรู้หรือลดความน่าเชื่อถือขององค์ความรู้ที่ผู้รู้มีอยู่โดยปริยาย เป็นการดูแคลนซุนนะฮฺนบี  ในภาพรวม ซึ่งถือเป็นสิ่งอันตรายและในบางครั้งอาจบานปลายไปถึงการดูถูกคำสอนของอิสลามที่ถ่ายทอดโดยผู้รู้โดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้

         อิบนุอะสากิรได้กล่าวว่า "พึงรู้เถิด โอ้พี่น้องของฉัน เนื้อของผู้รู้ถูกอาบด้วยยาพิษ (เพราะในทัศนะอิสลามถือว่าการนินทาคนอื่นเปรียบเสมือนกินศพของพี่น้องด้วยกัน แต่การนินทาอุละมาอฺมีผลร้ายยิ่งกว่า เพราะเนื้อของอุละมาอฺคล้ายกับถูกอาบด้วยยาพิษ ใครที่นินทาอุละมาอฺ ก็เหมือนกับคนที่กินเนื้อที่อาบยาพิษ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และการตายที่อันตรายที่สุด คือ จิตใจตายด้าน) "


          อิบนุอะสากิรยังได้กล่าวอีกว่า " เป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้ใดที่ดูถูกอุละมาอฺ อัลลอฮฺได้เปิดโปงความชั่วร้ายของเขาเช่นไรบ้าง ใครที่จาบจ้วงใส่ไคล้อุละมาอฺ อัลลอฮฺจะลงโทษเขาด้วยการทำให้จิตใจของเขาตายด้าน ก่อนที่เขาจะสิ้นชีวิตด้วยซ้ำ ขออัลลอฮฺทรงคุ้มครองจากสิ่งเลวร้ายนี้ด้วย

          ชัยค์อับดุรเราะฮฺมาน บินสะอฺดี กล่าวว่า ส่วนหนึ่งของหลักศรัทธาของชาวอะฮฺลุสสุนะฮวัลญะมาอะฮฺคือพวกเขาจะทำตัวให้ใกล้ชิดอัลลอฮฺด้วยการให้เกียรติและยกย่องอุละมาอฺ

          อัลเอาซาอีย์ เราะฮิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า มนุษย์ที่แท้จริงคือผู้รู้เท่านั้น นอกจากผู้รู้แล้ว ผู้คนไม่มีคุณค่าใดๆเลย

         สุฟยาน เซารีย์ เราะฮิมะฮุลลอฮฺ กล่าว่า หากผู้ที่เข้าใจศาสนา (ฟะกีฮฺ) อาศัยอยู่บนยอดเขาคนเดียว เขาก็ยังถือว่าอยู่ในญะมาอะฮฺ


อิมามอัลบุคอรีย์ ได้รายงานหะดีษอัลกุดซีย์ ซึ่งท่านนบี ได้กล่าวว่า :

"อัลลอฮฺได้ตรัสว่าผู้ได้ที่เป็นศัตรูกับวะลี(ผู้เป็นที่รัก)ของฉัน ฉันจะประกาศสงครามกับเขาผู้นั้นอย่างแน่นอน"

         อิมามอะบูหะนีฟะฮฺและอิมาชาฟิอีย์ เราะฮิมะฮุมัลลอฮฺ ได้กล่าวว่า หากบรรดาผู้เข้าใจศาสนา ( ฟุเกาะฮาอฺ) ไม่ได้เป็นวะลีย์ของอัลลอฮฺ  แล้ว ในโลกนี้อัลลอฮฺคงไม่มีวะลีอย่างแน่นอน

          ท่านอิบนุอับบาส เราะฮิมะฮุมัลลอฮฺ ได้กล่าวว่า ผู้ใดที่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้เข้าใจศาสนา (ฟะกีฮฺ) แสดงว่า เขากำลังสร้างความเดือดร้อนแก่นบี  และใครที่สร้างความเดือดร้อนแก่นบี  แสดงว่าเขากำลังสร้างความเดือดร้อนแก่อัลลอฮฺ นั่นเอง

          อิมามอิบนุก็อยยิม เราะฮิมะฮุลลอฮฺ ได้กล่าวประโยคหนึ่งที่มุุสลิมทุกคนควรจดจำไว้ว่า " หลายคนที่ดูอย่างผิวเผินแล้ว เป็นคนที่เรียบร้อย สุขุมและยึดมั่นในศาสนา แต่เสียดายที่อีกด้านหนึ่งในชีวิตเขาเต็มไปด้วยการจาบจ้วงบุคคลต่างๆ ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่หรือแม้กระทั่งผู้ที่ล่วงลับไปแล้วก็ยังไม่มีการละเว้น เขาไม่สนใจในคำพูดของเขาเลย ทั้งๆ ที่มนุษย์โดยส่วนใหญ่แล้วเข้านรก เพราะสาเหตุมาจากคำพูดนี่แหละ "


 สาเหตุหลักๆ ที่ผู้คนชอบนินทาใส่ร้ายอุละมาอฺ
     1. ไม่รู้ผลร้ายที่จะตามมาจากการใส่ร้ายอุละมาอฺ หรือหากรู้แล้ว ความรู้ของเขาไม่สามารถยับยั้งการกระทำอันชั่วช้านี้ได้

     2. อิจฉาริษยา เห็นคนอื่นโดดเด่นไม่ได้ ทั้งๆ ที่อุละมาอฺที่ถูกใส่ร้ายนั้นไม่เสียหายใดๆ  และผู้ใดที่อัลลอฮฺยกย่อง บุคคลใดในโลกนี้ ก็ไม่มีทางที่จะลดเกียรติเขาได้ แม้คนทั่วโลกใช้ความพยายามลดเกียรติเขาแค่ไหนก็ตาม

     3. คล้อยตามอารมณ์ใฝ่ต่ำตนเอง ชนิดห้ามไม่อยู่ กู่ไม่กลับ

     4. เลียนแบบผู้อื่นอย่างไม่ลืมหูลืมตา ประเภทไม่เคยใช้นิอฺมัตปัญญาของตนเอง ได้ยินเขาเล่ามายังไง ก็ว่าไปตามนั้น ไม่ฉุกคิดเป็นเรื่องอื่นเลย

     5. ทำตนเป็นเสมือนผู้เรียนรู้ แต่ในความเป็นจริงเป็นผู้ที่ดูถูกและทำตนเป็นศัตรูกับอุละมาอฺ เขาไม่มีสิทธิ์เรียกตัวเองเป็นผู้เรียนรู้ได้เลย

http://narater2010.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น