สรุปเหตุบึ้มสะเดา กู้ระเบิดภูเก็ต เชื่อมโยงไฟใต้
เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. วันที่ 22 ธ.ค. เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด 4 จุด ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา
จุดแรกหน้า สภ.ปาดังเบซาร์ จุดที่ 2 ภายใน สภ.สะเดา จุดที่ 3 หน้าโรงแรมโอลิเวอร์ จุดที่ 4 ในชอยใกล้ ร้าน mc ด่านนอก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย โดยทั้ง 3 จุด คนร้ายได้ใช้ระเบิดซุกไว้ในรถจักรยายนต์ แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เหตุคาร์บอมบ์ ข้างโรงแรมโอลิเวอร์ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. ซึ่งเป็นระเบิดลูกที่ 3 หลังจากเกิดเหตุ จยย.บอมบ์ ที่ภายในลานจอดรถของ สภ.สะเดา และที่หน้า สภ.ปะดังเบซาร์ ซึ่งทั้ง 2 จุด ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่เหตุคาร์บอมบ์ที่โรงแรมโอลิเวอร์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว จำนวน 27 คน
สรุปสถานการณ์ความไม่สงบ ทั้ง 3 จุด
เริ่มจุดแรกเมื่อเวลา 11.00 น. เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ และจักรยานยนต์บอมบ์ ในเวลาไล่เลี่ยกัน 3 จุด โดยจุดแรกเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ป้อมจุดตรวจหน้า สภ.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา คนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ และทะเบียนไปจอดไว้ข้างจุดตรวจ ก่อนจุดชนวนระเบิดรถจักรยานแหลกทั้งคัน ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ไม่ได้รับความเสียหาย
จุดที่สอง เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ลานจอดรถจักรยานยนต์ภายใน สภ.สะเดา เขตเทศบาลเมืองสะเดา โดยคนร้ายได้นำรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดงไปจอดไว้ แรงระเบิดทำให้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ข้างเคียงเสียหาย 3 คัน และรถยนต์กระบะอีก 1 คัน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
จุดที่สาม ซึ่งเป็นจุดที่หนักที่สุด ได้เกิดคาร์บอมบ์ขึ้นที่โรงแรมโอลิเวอร์ เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยว บ้านด่านนอกชายแดนไทย - มาเลเซีย โดยคนร้ายได้นำรถยนต์กระบะ เข้าไปจอดไว้ด้านข้างของโรงแรม ก่อนที่จะชุดชนวนระเบิด ส่งผลให้โรงแรมเสียหายอย่างหนัก กระจกทั้ง 8 ชั้นแตก ล๊อบบี้โรงแรมเสียหาย รวมทั้งร้านค้าสถานบริการและสถานบันเทิงที่อยู่รอบๆ โรงแรมเสียหายกว่า 20 แห่ง โดยเฉพาะสถานบันเทิงพารากอน ถูกไฟไหม้บริเวณด้านหน้าเสียหาย รวมทั้งรถยนต์อีก 9 คัน และรถจักรยานยนต์ 3 คัน รถซาเล้ง 2 คัน ซึ่งจอดอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ ถูกไฟไหม้และแรงอัดระเบิดเสียหาย เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงเข้ามาควบคุมไฟ มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งถูกแรงอัดและเศษกระจกบาดถูกนำส่งโรงพยาบาลสะเดา และโรงพยาบาลปาดังเบซาร์ ซึ่งเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นได้สร้างความแตกตื่นให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และผู้คนที่พากันวิ่งหนีตายกันอลหม่านออกจากโรงแรม และปั่นป่วนไปทั้งเมือง โดยเฉพาะการเข้าออกพรมแดนไทย - มาเลเซีย รถติดยาวเหยียด
สรุปเหตุวางระเบิดเมืองชายแดนสะเดา จ.สงขลา ระเบิด 3 จุด บาดเจ็บ 27คน พบคาร์บอมบ์เป็นรถของชาวบ้านที่ถูกฆ่าที่อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ส่วนที่ภูเก็ตเจ้าหน้าที่กู้ระเบิดในรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้ในโรงพัก พบเป็นรถของคนที่ถูกฆ่าในพื้นที่อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
23 ธ.ค. 2556 ส่วนปฏิบัติการและรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ศูนย์ปฏิบัติการร่วมทางยุทธวิธี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รายงานสรุปเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมาว่า มี 3 จุด ดังนี้
รายชื่อผู้ได้บาดเจ็บ นำส่ง รพ.สะเดา ได้แก่ นายสุทิน จำเริญศรี อายุ 42 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (รพ.มอ.) นางสุภาภรณ์ ดำขำ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่งต่อ รพ.หาดใหญ่ น.ส.ทิพย์ พม่า (ชาวไทยใหญ่) ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่งต่อ รพ.มอ. นางกัลยา ถาวรรักษ์ อายุ 31 ปี รักษาตัวที่ รพ.สะเดา นางพนิดา เสนาวงศ์ อายุ 43 ปี รักษาตัวที่ รพ.สะเดา น.ส. นันทยา นามทิพย์ อายุ 25 ปี รอดูอาการที่ รพ.สะเดา น.ส.ไสว สีสันงาม กลับบ้านแล้ว นายพิรุณ บึงชัยภูมิ ชาวจังหวัดชัยภูมิ บาดเจ็บที่ศีรษะกลับบ้านแล้ว รายชื่อผู้บาดเจ็บ นำส่ง รพ.ปาดังเบซาร์ ได้แก่ นายอำพล เลาลี่ อายุ 30 ปี ที่อยู่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ นาย NAN WAN WAN อายุ 37 ปี ชาวมาเลเชีย น.ส.บัวดำ ชิตติวงศ์ อายุ 21 ปี หญิงไม่ทราบชื่อ ชาวมาเลเซีย อายุ 25 ปี นางสุมาลี จันเลน อายุ 46 ปี นายศุภกร มั่งมีถาวร อายุ 62 ปี นายปองพน ไชยสาร นายโฟซา กิตติศักดิ์ดำรง อายุ 60 ปี ที่อยู่ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย น.ส. พิศสมัย อินทวงศ์ อายุ 23 ปี น.ส.วรรณภา เฮงชวน อายุ 24 ปี นายธวัชชัย ศรีสงฆ์ทอง อายุ 35 ปี ด.ญ.ซ่าอิ ไม่ทราบนามสกุล อายุ 6 ปี นายอาเฉิน ไม่ทราบนามสกุล อายุ 29 ปี น.ส.สุวิณี ศรีพาลอ้าย อายุ 26 ปี นายวงศ์ตะขัน งามแป้น อายุ 30 ปี นางดวงใจ ศรีคำคง อายุ 25 ปี นายสมศักดิ์ ปราบจิต อายุ 46 ปี นางเนาวรัตน์ เกิดนิยม อายุ 46 ปี ส่งต่อ รพ.มอ. นาง CHACI CAMLY อายุ 25 ปี ชาวเวียดนาม ส่งต่อ รพ.มอ. ส่วนความเสียหายที่เกิดจากเหตุระเบิดที่ตรวจสอบได้ในขั้นต้น ได้แก่ รถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง 6 คัน โดย เสียหายทั้งคัน 2 คัน รถจักรยานยนต์ 4 คัน โดยเสียหายทั้งคัน 2 คัน รถยนต์ 7 คัน โดยเสียหายทั้งคัน 1 คัน บริเวณโรงแรมโอลิเวอร์ เสียหายบริเวณกระจกด้านหน้าของโรงแรม กระจกด้านข้างโรงแรม ประตูเหล็กด้านหลังโรงแรม อาคารพารากอน KPK ผนัง และหลังคา ได้รับความเสียหาย อาคารพาณิชย์ด้านหน้าโรงแรม กระจก, ประตู ได้รับความเสียหาย จำนวน 10 คูหา อาคารพาณิชย์ด้านหลังโรงแรม กระจก, ประตู ได้รับความเสียหาย 10 คูหา จากการตรวจสอบรถที่คนร้ายนำมาก่อเหตุ ทราบว่าเป็นรถของราษฎรที่ถูกยิงเสียชีวิต พื้นที่บ้านแคนา ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อ 3 ธันวาคม 2556 แล้วถูกคนร้ายนำรถคันดังกล่าวไปด้วย โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์หลักฐานความเชื่อมโยง หาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เก็บกู้วัตถุระเบิด พื้นที่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ในวันเดียวกัน เวลา 12.05 น.ได้รับแจ้งว่าพื้นที่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตรวจพบรถยนต์กระบะประกอบวัตถุระเบิด ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่น ดีแมค ตอนครึ่ง หมายเลขทะเบียน บท 4840 นนทบุรี จอดอยู่บริเวณถนนหลัง สภ.เมืองภูเก็ต หลังได้รับแจ้ง ทางศูนย์ฯ ได้ประสานไปยัง สภ.เมืองภูเก็ต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2556 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมระดมกำลังปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมช่วงเทศกาลคริสต์มาสและส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ลานจอดรถ เมื่อเจ้าหน้าที่เคลียร์ถนน จนกระทั่งเหลือรถยนต์กระบะอยู่เพียงคันเดียว ซึ่งไม่มีผู้ใดเข้ามาแสดงตนเป็นเจ้าของ ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบว่าได้ขับมาจอดตั้งแต่ วันที่ 8 ธันวาคม 2556 จึงตรวจสอบจากหมายเลขทะเบียน (ป้ายทะเบียนปลอม) จากการตรวจสอบในสาระบบ เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเทา สภาพปกติ ซึ่งมีนางสุนันทา กฤษณเสนีย์ ชาว อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เป็นผู้ครอบครอง ซึ่งไม่ตรงกับตัวรถ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบจากหมายเลขตัวถัง พบว่าเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ รุ่น ดีแม็ค ตอนครึ่งสีเทา หมายเลขทะเบียน ผฉ 708 สงขลา ซึ่งเป็นของ นายวิธาน ยาชำนาญ อายุ 34 ปี ชาว ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2556 และถูกคนร้ายนำรถคันดังกล่าวไปด้วย ต่อมาเมื่อช่วงสายวันที่ 22 ธันวาคม 2556 พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต สั่งการให้ลากรถคันดังกล่าวไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย และประสานมายัง ศชต.จัดเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด เดินทางมาตรวจสอบ ผลการตรวจสอบ พบเป็นวัตถุระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สหุงต้ม ขนาดบรรจุ 15 กก. ไม่ทราบการจุดชนวน ต่อพ่วงกัน จำนวน 2 ถัง ซุกซ่อนไว้ใต้ที่นั่งแค๊ป หลังเบาะคนขับ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่สพฐ.10 ตรวจพิสูจน์หลักฐานความเชื่อมโยงหาผู้กระทำ ความผิดต่อไป |
หน้าเว็บ
▼
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น