ยุทธวิธีการก่อเหตุรุนแรงของ BRN
| |
แบมะ ฟาตอนี ไม่น่าเชื่อว่าความรุนแรงจังหวัดชายแดนภาคใต้จะมีความยืดเยื้อยาวนานมาเป็นเวลากว่าสิบปีเศษ รัฐได้ใช้เงินภาษีประชาชนในการแก้ไขปัญหาอย่างมหาศาล ตลอดเวลาที่ผ่านมาเรามักได้ยินชื่อกลุ่มองค์กร BRN แต่เราก็ยังไม่ทราบว่าองค์กรเหล่านี้ โครงสร้างมีจุดยืนแนวคิดวิธีการต่อสู้อย่างไร? การต่อสู้ของกลุ่ม BRN จะใช้ศาสนาเป็นทางนำสร้างความชอบธรรมในการสร้างความรุนแรง การดึงวิถีทางการเมืองของอิสลามมาเป็นการแนวทางต่อสู้ BRN จึงใช้แนวคิด มุสลิมศึกษา รวมตัวกัน เพื่อต่อสู้ให้ได้มาในสิ่งที่เคยสูญเสียไป กระบวนการกู้ชาติปาตานี กระบวนการแบ่งแยกดินแดน ญิฮาด นั้น ถูกจัดฉากปั้นแต่งมาจากฐานความคิดเดียวกัน คือ อิสลามการเมือง ยึดหลัก อัลกุรอาน อัลหะดีษ และหลักชารัอะห์ เป็นทางนำในการต่อสู้ ยุทธวิธีรูปแบบการก่อเหตุของ BRN การจัดกำลังของกระบวนการกู้ชาติปาตานีได้มีการจัดตั้งในรูปแบบองค์กร ผู้ที่มีความเห็นต่างจากรัฐซึ่งมีหลายกลุ่มด้วยกัน แต่ที่คุ้นหูเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ได้แก่ ขบวนการ BRN - CORDINATE คือกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ อาณาเขตเคลื่อนไหว 3 จังหวัดชายแดน ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ อีก 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา คือ อ.สะบ้าย้อย อ.จะนะ อ.เทพา และ อ.นาทวี ดำเนินการใต้ดิน จัดตั้งขบวนการมาเป็นเวลาหลายสิบปี จุดประสงค์เพื่อปลดปล่อยปาตานีเป็นรัฐอิสระ จากรัฐไทย สถาปนาตนเองเป็นรัฐอิสลามบริสุทธิ์ รัฐปาตานี (ฟอตานี) แผนบันไดเจ็ดขั้นสู่ความสำเร็จ (ปลดปล่อยรัฐปาตานี)
วงรอบยุทธวิธีของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง
การก่อเหตุฆ่าตัดตอน ฆ่าพี่น้องมุสลิมปาตานี จุดเริ่มสร้างเหตุวงรอบยุทธวิธีของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ด้วยการฆ่าตัดตอนผู้ที่เอาใจออกห่างจากกระบวนการ เนื่องจากคนเหล่านี้ไม่อยากทนอยู่กับแนวทางและและวิธีการชั่วๆ ขบวนการสุดโต่ง การตกอยู่ในวังวนของความขัดแย้ง หรือบางคนโดนหลอกให้เข้าร่วมขบวนการด้วยความไม่เต็มใจ อีกส่วนหนึ่งที่ตกเป็นเป้าหมาย คือผู้ที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ที่มีหมาย พ.ร.ก. หมาย ป.วิ.อาญา หรือบุคคลที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากคำสั่งของศาล ในส่วนของการสร้างเหตุแล้วบิดเบือนให้เป็นปัญหาความมั่นคง มาจากความขัดแย้งในเรื่องส่วนตัว การทำธุรกิจเถื่อน นักการเมือง มีการเรียกหา RKK ลงมือก่อเหตุทั้งๆ ที่บุคคลเหล่านี้เป็นพี่น้องชาวมุสลิมปาตานี นับถือศาสนาเดียวกันกับกลุ่มขบวนการ การปล่อยข่าวบิดเบือน โยนความผิดให้กับเจ้าหน้าที่ ขั้นตอนนี้การปล่อยข่าวลือตามร้านน้ำชา มัสยิด จึงเริ่มต้นขึ้น จากการที่ประชาชนมุสลิมปาตานีมีการปลุกระดมให้มีความจงเกลียดจงชังรัฐไทย และซีแยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แค่มาสะกิดต่อมความรู้สึกใส่ความโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่รัฐ เปรียบเสมือนโยนก้านไม้ขีดไฟลงบนเชื้อเพลิงพร้อมที่จะติดทุกเมื่อ อีกทั้งผู้ที่เสียชีวิตเป็นประชาชนมุสลิมปาตานี ผู้ที่เคยเข้าร่วมขบวนการ ผู้ที่มีหมายจับของศาล ครูตาดีกา ผู้นำศาสนา แค่ไม่กี่ชั่วโมงกระแสข่าวดังกล่าวได้ลามไปไกลเหมือนไฟลามทุ่งยากที่จะดับ สร้างความสมจริงด้วยการโปรยใบปลิวกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้กระทำต่อประชาชนมุสลิมในพื้นที่เกิดเหตุอีกทางหนึ่ง ผสมโรงด้วยการบิดเบือนความจริงในเครือข่ายสังคมออนไลน์ เว็บไซต์ข่าวสารออนไลน์แนวร่วม BRN ได้สร้างกระแสการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนในพื้นที่ นอกพื้นที่ และประชาชนในต่างประเทศ ให้คล้อยตามมีผลกระทบต่อความรู้สึก เรียกร้องความยุติธรรมเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการโฆษณาชวนเชื่อของขบวนการBRN ที่ได้มีการวางแผนไว้แต่เริ่มแรก การปลุกระดมเรียกร้องความเป็นธรรม องค์กรภาคประชาสังคม (NGOs) นักเคลื่อนไหวมวลชน นักวิชาการอิสระ สหพันธ์นิสิตนักศึกษา นักเรียน และเยาวชนปาตานี (PerMAS) รีบออกมาปลุกระดมมวลชนในพื้นที่เกิดเหตุโดยใช้องค์กรดังกล่าวบังหน้าทำการเคลื่อนไหว เรียกร้องความเป็นธรรม ชูประเด็นการไม่ได้รับความเป็นธรรม กล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่เป็นคนกระทำต่อประชาชนชาวมลายูปาตานี เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และร่วมกันปลดแอกจากการถูกกดดันภายใต้การปกครองของรัฐไทย ที่ไม่มีความเสมอภาคเท่าเทียม เอนเอียงและขาดความยุติธรรม การสร้างความหวาดระแวง แตกความสามัคคี การสร้างความหวาดระแวง แตกความสามัคคี อยู่ในแผนบันไดเจ็ดขั้นสู่ความสำเร็จ (ปลดปล่อยรัฐปาตานี) จากการที่ประชาชนทุกเชื้อชาติ ศาสนา ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างพหุสังคมในอดีต จนกระทั้งต้นปี47 จุดเริ่มต้นของไฟใต้จนมาถึงปัจจุบัน การอยู่ร่วมกันแบบพี่แบบน้อง การไปมาหาสู่ซึ่งกันและกันของพี่น้องต่างศาสนาไม่มีหลงเหลือให้เห็น เป็นเพราะความพยายามของกลุ่มขบวนการ BRN กลุ่ม PerMAS และบริวารแนวร่วม ได้ทำลายลงจนหมดสิ้น ประชาชนต่างตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มขบวนการ เพราะความไม่รู้เท่าทัน เล่ห์เหลี่ยมเพอุบาย เกิดความหวาดระแวง แตกความสามัคคีขึ้นระหว่างชาวไทยมุสลิมด้วยกันเอง ชาวไทยมุสลิมกับชาวไทยพุทธ และที่สำคัญคือประชาชนทั่วไปเกิดความหวาดระแวงต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อทำการแยกประชาชนมลายูปาตานีออกจากชาวไทยพุทธ และการไม่ให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่รัฐในการแก้ปัญหาดับไฟใต้ การอ้างเหตุ ทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ การอ้างเหตุทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ คือการสร้างความชอบธรรมในการเข่นฆ่าผู้คนของโจรใต้BRN เป็นยุทธวิธีเดิมๆ รุมกินโต๊ะที่หมุนเวียนเปลี่ยนสถานที่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอ ของ จ.สงขลา มีบ้างประปราย โดยเฉพาะในห้วงที่ผ่านมามีหลายเหตุการณ์ด้วยกันที่โจรใต้ BRN ได้ฆ่าประชาชนที่เป็นเป้าหมายอ่อนแอ เด็ก สตรี คนชรา และพระภิกษุสงฆ์ ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของโจรชั่ว ส่วนใหญ่จะเป็นประชาชนชาวไทยพุทธ ถูกกระทำอย่างป่าเถื่อน ไร้ความปราณี ฆ่าแล้วเผา ฆ่าแล้วตัดคอ อย่างชนิดที่ไม่สามารถยอมรับได้ ศาสนาอิสลาม ปฏิเสธแนวความคิดพฤติกรรมสุดโต่ง ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาที่เรียกร้องความยุติธรรม สันติภาพ และยึดมั่นในหลักการแห่งความรักความเข้าใจที่เอื้ออาทรระหว่างมนุษย์ อิสลามปฏิเสธแนวความคิดพฤติกรรม สุดโต่ง และความรุนแรง โดยสิ้นเชิง ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาที่ปฏิเสธความรุนแรง การละเมิด การคร่าชีวิตมนุษย์ และการรุกราน ทุกรูปแบบ อิสลามเป็นศาสนาที่กำชับให้เกิดความยุติธรรมเพื่อนำไปสู่เส้นทางแห่งสันติภาพ การกระทำแต่ความดี ห้ามกระทำชั่ว อิสลามไม่อนุญาตให้ทำร้ายนักบวช ทำลายศาสนสถาน และไม่อนุญาตให้ฆ่าเด็ก สตรี และผู้ที่อ่อนแอ ปัญหาที่เกิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐไทย เกิดจากการปลูกฝังแนวความคิดแบบผิดๆ บิดเบือนประวัติศาสตร์ สร้างความเกลียดชังรัฐไทย บิดเบือนหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม ปลุกกระแสความรักชาติปาตานี ปัญหาได้สั่งสมมายาวนาน ขบวนการ BRN พยายามดึงวิถีทางการเมืองตามแนวทางอิสลามมาเป็นแนวทางการต่อสู้ เพื่อปลดปล่อยปาตานีเป็นรัฐอิสระ จากรัฐไทย สถาปนาตนเองเป็นรัฐอิสลามบริสุทธิ์ รัฐปาตานี (ฟอตานี) มีความพยายามดึงต่างชาติเข้ามาตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน กล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อเดินไปสู่เป้าหมายการกำหนดใจตนเอง ในการเรียกร้องเอกราชกลับคืนมา |
|
http://narater2010.blogspot.com/
|
หน้าเว็บ
▼
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น