หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557



          ศาลจังหวัดปัตตานี พิพากษาจำคุก รองสารวัตร สภ.ปัตตานี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา หลังเปิดทางให้ เสี่ยโจ้ ผู้ต้องหารายรายสำคัญ หลบหนีไปจากศาล

          เจ้าหน้าที่ตำรวจปัตตานีประสานไปยังตำรวจชายแดนมาเลเซีย และด่านตรวจชายแดนทั่วประเทศให้สกัดจับ นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือ เสี่ยโจ้ นักธุรกิจค้าน้ำมันในทะเล และนำเข้าไม้จากต่างประเทศ หลังจากวานนี้ (9 ต.ค.) นายสหชัย ได้หลบหนีไป หลังจากเข้าฟังคำพิพากษาคดีปลอมแปลงเอกสารตราประทับของทางราชการ ที่ศาลจังหวัดปัตตานี โดยศาลพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 1 ปี 9 เดือน โดยไม่รอลงอาญา แต่ระหว่างคุมตัวมาเข้าห้องขัง ซึ่งมี ร.ต.ต.อรุณ ศรีสุขมาก รองสารวัตรปราบปรามสถานีตำรวจภูธรปัตตานี เป็นผู้ควบคุมตัว ผู้ต้องหาได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังติดตามค้นหา โดยเชื่อว่ายังอยู่ในพื้นที่เมืองนราธิวาส โดยใช้รถ เก๋งโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน กค-7599 สงขลา หลบหนี


         หลังเกิดเหตุ ศาลได้สั่งดำเนินการจับกุม ร.ต.ต.อรุณ ทันที พร้อมลงโทษจำคุก 6 เดือน ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้ผู้ถูกคุมขังหลุดพ้นจากการคุมขัง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 204 และ 157ลงโทษจำคุก 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา เบื้องต้นมีรายงานว่าเจ้าตัวยอมรับสารภาพ โดยอ้างว่า "นายสั่ง"

         สำหรับนายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) สหทรัพย์ทวีค้าไม้ ถูกเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามภัยแทรกซ้อนต่อความมั่นคง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เข้าควบคุมตัว เมื่อ 17 มิ.ย.57 เพราะต้องสงสัยว่าเกี่ยวพันกับขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ของภาคใต้ พร้อมนำกำลังเข้าตรวจค้น หจก.สหทรัพย์ทวีฯ เลขที่ 103/49 ต.บานา อ.เมืองปัตตานี พบหลักฐานแผ่นตรวจลงตราเข้าเมืองปลอมเป็นจำนวนมาก คาดว่าอาจเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายไม้





ต่อมาวันที่ 5 ส.ค.57 เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามภัยแทรกซ้อนฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพากร และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ได้เข้าตรวจค้นและยึดอายัดทรัพย์สินที่เชื่อว่าเป็นของนายสหชัย ที่ หจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้ อีกครั้ง และได้เปิดตู้นิรภัย พบทรัพย์สินและทองแท่งมูลค่านับร้อยล้านบาท











การเข้าตรวจยึดอายัดทรัพย์สินดังกล่าว เป็นการบังคับคดีจากคดีล้มละลาย คดีแดงเลขที่ 3488/2555 อันสืบเนื่องจากพฤติการณ์เลี่ยงภาษีจำนวน 414 ล้านบาท ซึ่งกรมสรรพากรต้องตามยึดทรัพย์ของนายสหชัย ส่วนการควบคุมตัวนายสหชัยนั้น มีรายงานในเวลาต่อมาว่าเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวเป็นอิสระ แต่ภายหลังเขาถูกดำเนินคดีปลอมแปลงแผ่นตรวจลงตราเข้าเมือง จนถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกโดยไม่รอลง
อาญาดังกล่าว ทว่าเขาก็หลบหนีไปอีกจากการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น