ไมเคิล ซีฮาฟ-บิบู (Michael Zehaf-Bibeau) มือปืนควิเบก วัย 32 ปี ได้ใช้ปืนไรเฟิลสังหารสิบโท นาธาน ซิริลโล (Corporal Nathan Cirillo) ที่บริเวณอนุสาวรีย์สงคราม เนชันแนล วาร์ เมโมเรียล (National War Memorial) ในออตตาวา ก่อนเปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในรัฐสภาแคนาดาที่ยังมี สตีเฟน ฮาร์เปอร์ นายกรัฐมนตรีแคนาดาติดอยู่ข้างใน และเป็นผลทำให้เมืองหลวงของประเทศต้องถูกปิดตายเพื่อความปลอดภัยในขณะที่ซีฮาฟ-บิบูถูกยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
เดลีเมล์ สื่ออังกฤษรายงานว่า เมื่อเช้าวานนี้ (22 ต.ค.) ส.ท.นาธาน ซิริลโล (Corporal Nathan Cirillo) วัย 24 นายทหารที่เฝ้ายามประจำเนชันแนล วาร์ เมโมเรียล (National War Memorial) ในออตตาวา ถูกไมเคิล ซีฮาฟ-บิบู (Michael Zehaf-Bibeau) ชาวควิเบก วัย 32 ปี ใช้ปืนไรเฟิลสังหารจนเสียชีวิต
และหลังจากนั้นมือปืนควิเบกวัย 32 ปี ได้ถือไรเฟิลผ่านการรักษาความปลอดภัยเข้าไปในรัฐสภาแคนาดา และเปิดฉากยิงก่อนที่จะถูกหน่วยรักษาความปลอดภัยประจำรัฐสภาที่ติดอาวุธ (House of Commons Sergeant-at-Arms) ยิงตอบโต้และสังหารมือกราดยิงเสียชีวิตคาที่
ในขณะเกิดเหตุการบุกเข้ารัฐสภาแคนาดา สตีเฟน ฮาร์เปอร์ นายกรัฐมนตรีแคนาดายังประชุมอยู่ภายใน โดยปิแอร์-ฮิวส์ บออิสเวนู วุฒิสภาชิกที่อยู่ภายในห้องประชุมหนึ่งร่วมกับฮาร์เปอร์และสมาชิกพรรคคอนเซอร์เวทีฟคนอื่นๆ ในตอนเกิดเหตุ เล่าว่า “มีความตื่นตระหนกเกิดขึ้นช่วงสั้นๆ แต่ก็เป็นเวลาหลายนาที เราโชคดีมากที่ในห้องประชุมมีอดีตนายตำรวจอยู่ด้วยหลายคน และอดีตนายตำรวจเหล่านี้เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างรวดเร็ว”
ก่อนหน้านี้ทางโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยว่า ผู้นำแคนาดาได้รับการอารักขาไปยังสถานที่ปลอดภัย และจะมีการแถลงในภายหลัง ส่วนเหล่าสมาชิกสภา เจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวต่างถูกอพยพเช่นกัน โดยระหว่างนั้นตำรวจก็เร่งมือปิดกั้นพื้นที่โดยรอบอาคารรัฐสภา
สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า มีภาพล่าสุดของซีฮาฟ-บิบูในขณะถือปืนและมีเคฟฟิเญห์ (ผ้าโพกหัวชาวอาหรับ) ปกปิดใบหน้า
จากรายงานพบว่า ไมเคิล โยเซฟ ฮอล (Michael Joseph Hall) เกิดในควิเบก และไปเติบโตที่ลาวาล (Laval) ทางเหนือของมอนทรีออล และภายหลังได้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามโดยใช้ชื่อ ไมเคิล ซีฮาฟ-บิบู ไม่เกิน 10 ปีมานี้ ซึ่งยังไม่มีรายงานทราบถึงเหตุจูงใจในการเปลี่ยนศาสนาของเขา
นอกจากนี้ยังพบว่า ซูซาน บิบู (Susan Bibeau) มารดาของซีฮาฟ-บิบู ทำงานอยู่ในบอร์ดบริหารคนเข้าเมืองและผู้อพยพ (IRB) ในมอนทรีออลเป็นเวลาถึง 24 ปี โดยเธอมีตำแหน่งเป็นรองประธานของบอร์ดบริหารแห่งนี้ และบูลกาเซม ซีฮาฟ (Bulgasem Zehaf) พ่อเลี้ยงของมือกราดยิง และสามีของซูซาน บิบู นักธุรกิจชาวลิเบียที่เคยเปิดคาเฟ ตริโปลี (Cafe Tripoli) ร้านอาหารของตนเอง
นอกจากนี้ มีรายงานบันทึกของศาลมอนทริออลการพบการกระทำผิดของซีฮาฟ-บิบูถึง 13 ครั้งย้อนหลังไปตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2001 จนถึงล่าสุด 2011 ซึ่งมีทั้งข้อหาครอบครองยาเสพติดไปจนถึงปล้น และการครอบครองอาวุธ แต่ทั้งนี้ทางสหรัฐฯยังไม่พบว่าซีฮาฟ-บิบูนั้นมีส่วนเกี่ยวพันกับชาวอเมริกันและกลุ่มก่อการร้ายที่อยู่ในการจับตาของสหรัฐฯ ซึ่งทางแคนาดาได้ติดต่อขอให้ทาง FBI สอบสวนซีฮาฟ-บิบูอย่างละเอียดจากความกังวลที่ว่าอาจมีการแก้แค้นจาก IS เนื่องจากในสัปดาห์นี้นักข่าวสหรัฐฯ NBC News รายงานว่า ทางการแคนาดาได้ออกเตือนว่า อาจมีความน่าจะเป็นที่แคนาดาจะตกเป็นเป้าก่อการร้ายจากอาวุธ เช่น มีด หรือ ปืน จากการที่แคนาดาได้ข้าร่วมการโจมตีทางอากาศ IS ในตะวันออกกลาง
ทั้งนี้ ความผิดที่มือกราดยิงเคยกระทำได้แก่ มือกราดยิงถูกตั้งข้อหาในเดือนกุมภาพันธ์ 2004 ข้อหามีกัญชาและยาเสพติด PCP ไว้ในความครอบครอง ซึ่งเซฮาฟ-บิบูยอมรับผิดทั้งสองข้อกล่าวหาในเดือนธันวาคม 2004 ต้องถูกขังในเรือนจำ 1 วันในข้อหาครอบครองกัญชาและ 60 วันสำหรับครอบครอง PCP ซึ่งมีคุณสมบัติหลายประการ อาทิ เป็นยาหลอนประสาท ยาบรรเทาปวด และทำให้เกิดการชาเพื่อบรรเทาปวด
ล่าสุดในปี 2011 ซีฮาฟ-บิบูถูกจับกุมในข้อหาปล้นที่แวนคูเวอร์ แต่ถูกตัดสินรับโทษจำคุกเพียง 1 วันในเรือนจำหลังจากยอมรับผิดต่อข้อกล่าวหาเพื่อขอลดหย่อนโทษต่อข้อหาข่มขู่คุกคาม และถูกสั่งให้อยู่ในเรือนจำเป็นเวลา 66 วันก่อนขึ้นศาลครั้งต่อไป แต่ซีฮาฟ-บิบูสามารถใช้ 66 วันนี้ในการหักลบโทษจำคุกภายหลังได้หากถูกพิพากษาจำคุกในที่สุด ซึ่งในคดีนี้เขาได้เข้ารับการบำบัดทางจิตก่อนที่จะถูกลงโทษ
นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังเปิดเผยกับ Globe and Mail ว่ามือปืนวัย 32 ปีได้ถูกขึ้นบัญชีบุคคลอันตรายต่อการเดินทางของแคนาดาเพราะเกรงว่าเขาจะเดินทางไปต่างแดนเพื่อก่อการร้าย และรัฐบาลแคนาดาได้ยึดหนังสือเดินทางของเขา แต่สื่ออังกฤษรายงานว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าหนังสือเดินทางของซีฮาฟ-บิบูถูกยึดจริงหรือไม่
ล่าสุดยังไม่มีรายงานทราบถึงเหตุจูงใจในการลงมือของการก่อเหตุครั้งนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น