หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558

UNHCR ชี้ กรีซใกล้กระอักเลือด หลังเจอคลื่นผู้อพยพมุสลิมแห่เข้าประเทศ วอน EU เร่งแก้ปัญหา




          สหประชาชาติเผยในวันอังคาร( 18 ส.ค.) ระบุ เฉพาะสัปดาห์ที่แล้วเพียงสัปดาห์เดียว มีผู้อพยพและผู้ลี้ภัยเกือบ 21,000 ชีวิตเดินทางเข้ามาในกรีซ ประเทศสมาชิกยูโรโซนซึ่งกำลังถูกรุมเร้าด้วยวิกฤตหนี้สินและปัญหาทางเศรษฐกิจนานัปการรายงานข่าวซึ่งอ้าง วิลเลียม สปินด์เลอร์ โฆษกของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR ) ที่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่นครเจนีวาของ สวิตเซอร์แลนด์ระบุว่า เฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมาเพียงสัปดาห์เดียว มีผู้อพยพและผู้ลี้ภัยซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวซีเรียและอัฟกานิสถานเดินทางเข้ามายังกรีซเกือบ 21,000 ราย หรือคิดเป็นจำนวน “เกือบครึ่งหนึ่ง” ของยอดผู้อพยพทั้งหมด ที่เดินทางเข้ากรีซตลอดทั้งปี 2014โฆษกของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติระบุด้วยว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา มีผู้อพยพและผู้ลี้ภัยสงคราม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมจากซีเรียและอัฟกานิสถาน เดินทางเข้ามายังแผ่นดินของกรีซรวมแล้วมากกว่า 160,000 คน

        ข้อมูลล่าสุดของยูเอ็นเอชซีอาร์ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนถึงวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา มีผู้อพยพจำนวน 158,456 รายที่เดินทางข้าม “ทะเลอีเจียน” จากตุรกีมายังหมู่เกาะต่าง ๆ ของกรีซ ขณะที่อีก 1,716 รายเดินทางมาถึงกรีซ ด้วยการ “เดินเท้า”ทั้งนี้ มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้อพยพที่เดินทางมุ่งหน้ามายังกรีซนั้น จะเป็นชาวซีเรียที่อพยพหนีภัย “สงครามกลางเมือง”ในประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตนขณะที่ผู้อพยพส่วนเหลือจะเป็นชาวอัฟกันและชาวอิรักเสียเป็นส่วนใหญ่การไหลบ่าของคลื่นผู้อพยพทั้งทางเรือและทางบกเข้าสู่ยุโรป กำลังกลายเป็นภาระอันหนักอึ้งกับหลายประเทศโดยเฉพาะอิตาลีและกรีซ ซึ่งต้องแบกรับภาระในการดูแลผู้อพยพที่ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมเหล่านี้เอาไว้มากที่สุดทั้งนี้ โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่ทางสหภาพยุโรป (อียู) จะต้องเร่งหาทางรับมือและแก้ไขวิกฤตผู้อพยพนี้อย่างจริงจัง แทนการปล่อยให้ประเทศที่เป็นหน้าด่านอย่างกรีซและอิตาลีแบกรับภาระนี้เพียงลำพัง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น