หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2560

พระพุทธรูปโบราณในอัฟกานิสถาน รอดสงคราม ฝังซ่อนใต้ดิน เกือบ 2 พันปี




            พระพุทธรูปโบราณในอัฟกานิสถาน ถูกนำมาประดิษฐานที่พิพิธภัณฑ์ในกรุงคาบูล หลังขุดพบถูกฝังใต้ดิน นักโบราณคดีคาดถูกซ่อนไว้ใต้ดินป้องกันหัวขโมย มาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 3-5 ซ้ำยังสามารถรอดพ้นจากภัยสู้รบในพื้นที่สุดอันตรายมาได้




           เมื่อ 19 มี.ค.60 สื่อต่างประเทศรายงานข่าวฮือฮา พระพุทธรูปโบราณในอัฟกานิสถาน ซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนาน และถูกฝังซ่อนไว้ใต้ดินเพื่อป้องกันหัวขโมย รวมทั้งยังรอดปลอดภัยขณะอยู่ในพื้นที่สู้รบที่อันตรายที่สุดในประเทศอัฟกานิสถาน ในที่สุดได้รับการบูรณะและนำมาประดิษฐานไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ในกรุงคาบูล เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสได้ชมพระพุทธรูปองค์นี้กันแล้ว ขณะที่บรรดานักโบราณคดีคาดว่า มีอายุเก่าแก่และถูกซ่อนไว้ใต้ดินตั้งแต่ช่วงราวศตวรรษที่ 3-5


            ข่าวแจ้งว่า พระพุทธรูปโบราณองค์นี้ถูกซ่อนไว้ในชั้นดิน ที่เมืองเมส อัยนัค ห่างจากกรุงคาบูล เมืองหลวงอัฟกานิสถาน ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 40 กิโลเมตร โดยได้ถูกค้นพบเมื่อปี 2555 ขณะที่บริษัทชาวจีนได้เข้ามาทำเหมืองแร่ทองแดงในบริเวณดังกล่าว และได้ขุดพบพระพุทธรูปโบราณใต้ผืนดินอย่างไม่คาดฝัน โดยบริเวณที่พบพระพุทธรูปองค์นี้อยู่ในกลุ่มวิหารโบราณบนพื้นที่กว้างขวาง 4 ตารางกิโลเมตร ในเขตจังหวัดโลการ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นเขตฐานที่มั่นของกลุ่มตาลีบัน



          นายเออร์มาโน คาร์โบนารา ผู้เชี่ยวชาญด้านการบูรณะโบราณวัตถุ ชาวอิตาลี กล่าวว่า พระพุทธรูปโบราณองค์นี้ยังอยู่ครบเกือบหมดทั้งองค์ และเศียรของพระก็ยังอยู่ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก โดยพระพุทธรูปโบราณองค์นี้อยู่บริเวณช่องโพรงในดิน ซึ่งโดยรอบมีการวาดประดับตกแต่งเป็นลวดลายดอกไม้ และเป็นศูนย์กลางของการประกอบพิธีสวดมนต์


          นายคาร์โบนารา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีกว่าในการย้ายพระพุทธรูปขึ้นมาจากโพรงดิน โดยพระพุทธรูปองค์นี้ทำจากดินเหนียว ซึ่งนำมาจากแม่น้ำเมส อัยนัค อีกทั้งนายคาร์โบนารายังกล่าวด้วยความทึ่งว่า การลงสีพระพุทธรูป โดยมีมวยผมสีดำ พระปรางค์สีชมพู และดวงตาสีฟ้า ถือเป็นเทคนิคที่ซับซ้อนอย่างแท้จริงของช่างฝีมือโบราณที่ปั้นพระพุทธรูปองค์นี้.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น