หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

จ้อเชียวครับทำงานเหอะ!


แม่ทัพภาค 4 แถลงข่าวเหตุคนร้ายยิงถล่มฐานปฎิบัติการที่จ.นราธิวาส เร่งติดตามดำเนินคดี ระบุคนร้ายปล่อยข่าวมีหนอนบ่อนไส้ หวังสร้างความแตกแยก
http://wbns.oas.psu.ac.th/shownews.php?news_id=99798


ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี -พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาค 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงกรณีเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายเข้าโจมตีฐานปฎิบัติการพระองค์ดำ ที่หมู่ 1 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2554 ที่ผ่านมา ว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวพบว่าการเข้าปฎิบัติการของฝ่ายตรงข้าม ได้มีการเตรียมการมาค่อนข้างดี เริ่มต้นด้วยการโจมตีทางด้านหน้าฐานปฎิบัติการ และทางข้างฐาน ด้วยอาวุธนานาชนิดพร้อมกับการตัดไฟภายในฐาน เมื่อกำลังพลสาระวนกับการป้องกันทางด้านหน้า จึงเกิดช่องว่างทางด้านหลังทำให้ผู้ก่อการ ที่อยู่ด้านหลังจึงเข้าจู่โจมเข้ามาในฐานปฎิบัติการ แล้วเกิดการต่อสู้ประมาณ 30 นาที คนร้ายจึงล่าถอยไป สามารถสร้างความสูญเสียให้ฝ่ายเราโดยมีสิ่งของเสียหาย และอาวุธสูญหายไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะมีการติดตามและปฎิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป


"พวกเราได้สูญเสียทหารกล้าไป 4 นาย และบาดเจ็บ 6 นาย ขณะนี้ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากทางราชการ สำหรับการทำงานของตนหลังจากที่เข้ามารับตำแหน่งเป็นแม่ทัพภาค 4 ก็ดำเนินงานตามยุทธศาสตร์พระราชทาน จนทำให้ประชาชนที่จับปืนสู้กับเจ้าหน้าที่กลับใจเข้ามาร่วมสร้างสันติสุขกับทางราชการจำนวนมาก ส่งผลให้ฝ่ายตรงข้ามเสียมวลชนไปจำนวนมาก จึงทำให้ฝ่ายตรงข้ามจะต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อที่จะลดความเชื่อถือของรัฐต่อพี่น้องประชาชน การปฎิบัติการรุนแรงจึงเกิดขึ้นดังกล่าว " แม่ทัพภาค 4 กล่าว


พล.ท.อุดมชัย กล่าวอีกว่า ขอชี้แจงให้ประชาชนทราบว่าทางเจ้าหน้าที่จะไม่หลงกลกับดักของฝ่ายตรงข้าม ที่ปฎิบัติการทางทหารครั้งนี้ เพื่อยั่วยุให้ใช้ความรุนแรงกับพี่น้องประชาชน หวังให้หยุดนโยบายการสร้างความเจริญ สร้างความสันติสุข ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะปฎิบัติตามนโยบายต่อไป เพื่ออุดช่องว่าง ไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะเช่นนี้อีก ส่วนความคืบหน้าในการติดตามกลุ่มคนร้ายล่าสุด ก็พอจะทราบแล้วว่ามีส่วนใดที่เข้าปฎิบัติการ อยู่ในระหว่างการติดตาม ซึ่งตนเองขอยืนยันว่าจะติดตามจนกว่าจะได้ตัวผู้ที่ก่อเหตุ รวมทั้งติดตามสิ่งของคืนกลับมา ซึ่งล่าสุดเมื่อวาน( 22 มค) เจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ 1 คน และเป็นคนในพื้นที่เอาไว้ อยู่ในระหว่างการขยายผลต่อไป


โดยกลุ่มที่มาปฎิบัติการในครั้งนี้เชื่อว่าเป็นกลุ่มที่รวมตัวกันมาจากหลายพื้นที่ ซึ่งมีความกังวลกันว่าขณะนี้มีกลุ่มกำลังจำนวนมากนั้น แต่จริงๆแล้วเป็นการรวมกำลังจากสถานที่ต่างๆ ให้มาร่วมปฎิบัติการ ตนเองมีความมั่นใจว่ากลุ่มคนร้ายไม่ได้มีกองกำลังมากมายขนาดนั้น เกิดจากการรวมตัวกันจากหลายๆพื้นที่ในการปฎิบัติการ และอาศัยช่องว่างในการปฎิบัติการจู่โจม สำหรับอาวุธปืนในขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ เนื่องจากว่าในจุดเกิดเหตุที่มีเพลิงไหม้นั้น ก็มีอาวุธอยู่จำนวนหนึ่ง ที่ถูกเพลิงไหม้ไปด้วย ทางนิติวิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็ยอมรับว่ามีอาวุธส่วนหนึ่งที่ถูกคนร้ายนำไปด้วยจริง แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนได้


"สำหรับมาตรการในการดูแลพื้นที่โดยเฉพาะฐานปฎิบัติการต่างๆนั้น หลังเกิดเหตุตนเองก็ได้ประชุมหัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจทุกหน่วย และได้สั่งการในการป้องกัน ปิดช่องว่าง ซึ่งปัจจุบันทุกหน่วยก็มีความพร้อมแล้ว ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษคือพื้นที่รอบๆเทือกเขาบูโด ที่กองกำลังฝ่ายตรงข้ามสามารถลัดเลาะผ่านเข้ามาได้ ส่วนกรณีมีข่าวว่าอาจจะมีหนอนบ่อนไส้นั้น ตนเองของเรียนให้ทราบว่า ในกรณีปล้นปืนที่ค่ายปิเหล็ง เมื่อปี 47 นั้น ก็มีการปล่อยข่าวในลักษณะนี้ออกมาว่า


มีหนอนบ่อนไส้ ทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างคนไทยพุทธไทยมุสลิม


 และฝ่ายเจ้าหน้าที่ และในครั้งนี้ก็เป็นยุทธวิธีเดียวกันกับครั้งก่อน ที่ต้องการสร้างความแตกแยก แต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่มั่นใจว่ายุทธวิธีของคนร้ายในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้เกิดความแตกแยกกันในกลุ่มเจ้าหน้าที่ ซึ่งฝ่ายเราไม่หลงกลแต่อย่างใด" แม่ทัพภาค 4 กล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเวลา 10.00 น. ได้มีกลุ่มพลังมวลชน ประมาณ 200 คน ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือยะลา ปัตตานี นราธิวาส เข้าพบแม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อให้กำลังใจในการปฏิบัติงาน ประกอบด้วย กลุ่มเสื้อเขียว กลุ่มทำดีมีอาชีพ กลุ่มสภาสันติสุขตำบล สมาคมนักเรียนเก่าต่าวประเทศ สมาคมปัญญาชนมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้ สมาคมอดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง(กลุ่ม PNYS ) กลุ่มญาลันนันบารู สมาชิกเครือข่ายเสวนาสัญจร ตัวแทนสมาชิกสภา อบจงยะลา กลุ่มนักเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น