ความเลวของสมีธัมมชโย
สมีธัมมชโยที่ผมกล่าวถึงนี้ก็คือ เจ้าอาวาสของวัดพระธรรมกายในปัจจุบัน ซึ่งต่อไปผมจะเรียกว่า “วัดไชยบูลย์” เพื่อไม่ให้ความเสนียดจังไรของบุคคลผู้นี้ ติดไปกับชื่อของวิชา
พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) เป็นพระสงฆ์ในพุทธศาสนา ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และประธานมูลนิธิธรรมกายเป็นพระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ มีนามตามสัญญาบัตรประกอบพัดยศสมณศักดิ์ว่า พระราชภาวนาวิสุทธิ์ อธิมุตธรรมวรากร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
พระราชภาวนาวิสุทธิ์ เกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2487 ณ คุ้งน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลบ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีโยมบิดาชื่อ จรรยงค์ สุทธิผล โยมมารดาชื่อ จุรี สุทธิผล บรรพชาอุปสมบทเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2512 ณ พัทธสีมาวัดปากน้ำภาษีเจริญ โดยมีพระเทพวรเวที (ปัจจุบันคือสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ) เป็นพระอุปัชฌาย์
ตรงนี้ หลวงพ่อวัดปากน้ำ (ซึ่งควบคุมการทำงานของพวกเรา) พูดไว้เสมอๆ ว่า “ถ้าหลวงพ่อยังไม่มรณภาพ หลวงพ่อไม่บวชให้แน่ๆ” เพราะ รู้ว่าเป็นมารภาคมนุษย์ มารส่งมาเกิดเพื่อทำลายวิชาธรรมกาย
วิกิพิเดีย สารานุกรมเสรีได้กล่าวในหัวข้อคดีความและข้อครหาย่อๆ ได้ดังนี้
ในช่วง พ.ศ. สื่อมวลชนได้จุดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ถึงความน่าสงสัยต่อพฤติกรรมและการดำเนินการหลายอย่างเกี่ยวกับพระราชภาวนาวิสุทธิ์ และทีมงาน รวมถึงมีการเผยแพร่ข่าวเชิงลบอย่างต่อเนื่อง เช่นประเด็นการยักยอกทรัพย์ และการบริหารเงินบริจาค และมีความพยายามเปลี่ยนการเรียกนามของพระราชภาวนาวิสุทธิ์เป็น "นายไชยบูลย์ สุทธิผล" โดยอ้างเอาพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชว่าได้ตัดสินให้พระราชภาวนาวิสุทธิ์หลุดพ้นจากความเป็นบรรพชิตแล้ว ด้วยความผิดทางพระธรรมวินัยขั้นปาราชิก ในข้อหายักยอกทรัพย์
ประวัติตรงนี้ของธัมมชโยไม่กล่าวถึงเหตุการณ์สำคัญที่ว่า ตำรวจโรงพักชนะสงครามจะจับสึกให้ใส่เสื้อผ้าของคฤหัสอยู่แล้ว
คนของวัดพาสาวกมารตัวนี้ ไปล้อมโรงพักไว้ ทำให้รอดจากการสึกมาได้ครั้งหนึ่งอย่างหวุดหวิด แน่จากเจ้าหน้าที่ตำรวจกลัวเรื่องราวจะไปกันใหญ่ จึงส่งผลเสียต่อศาสนามาอย่างหนักจนถึงปัจจุบัน
ในระหว่างที่คดียังคงอยู่ในกระบวนพิจารณาในชั้นศาลพระราชภาวนาวิสุทธิ์และคณะวัดพระธรรมกาย ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ในระหว่างการพิจารณาคดีดังกล่าว สื่อมวลชนบางสำนักได้นำเสนอข่าวแพร่สะพัดออกไปในทางเสื่อมเสีย จึงได้มีการฟ้องกลับสื่อมวลชนต่อขบวนการยุติธรรม ซึ่งต่อมาศาลอาญาได้พิพากษา ว่าการกระทำดังกล่าวของสื่อมวลชนเป็นความผิด และได้ลงโทษให้ประกาศข้อความขอขมาวัดพระธรรมกายและพระราชภาวนาวิสุทธิ์ทางหนังสือพิมพ์ หลายฉบับ ทั้งมติชน กรุงเทพธุรกิจ สยามรัฐ
การที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวเกินกว่าเหตุเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่า สมีธัมมชโยเป็นผู้บริสุทธ์ เป็นคนละเรื่องกัน
กระทั่งในปี พ.ศ. 2549 สำนักงานอัยการสูงสุดได้ถอนฟ้องคดีทั้งหมดของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ""พระธัมมชโยได้คืนเงินให้แก่ทางวัดพระธรรมกายครบถ้วนทุกบาททุกสตังค์แล้ว ถือว่าได้ปฏิบัติตามพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จึงไม่มีเหตุผลที่จะฟ้องร้องเอาผิดอีกต่อไป"
นี่คือหลักฐานที่มัดแน่นสันดารมารธัมมชโยว่า “ปราชิก” แล้ว ศีล 227 ไม่ใช่กฎหมายของประเทศ กฎหมายของประเทศหลุดก็เพราะ อดีตนายกรัฐมนตรี ดร. ทักษิณ ชิณวัตรใช้อำนาจในการทางเมืองช่วยมารสมีไชยบูลย์ จึงทำให้มารตัวนี้ ทำความเลวให้แก่ประเทศชาติอย่างเหลือคณานับ
กรณีความเลวของมารธัมมชโยนั้น ธาตุธรรมเอาเข้าเซฟ ดังนั้น คุณทักษิณก็ไม่น่าจะรอดเซฟเหมือนกัน
การลวงโลกของสมีธัมมชโยนั้นมีมากมายหลายประการ ในช่วงแรกๆ นี้ผมรวบรวมมาอยู่ในบล็อกต่าง ดังนี้
- แทงกันสาหัสในวัดไชยบูลย์
- ทัตตชีโวไม่รู้วิชาธรรมกาย
- บุญ..บ้าๆ บอๆ ของสมีไชยบูลย์
- มารไชยบูลย์ทำลายวิชาธรรมกาย
- วิชาธรรมกายไม่ได้มาจากวัดไชยบูลย์
- สาวกโง่สุดตัว ธัมมชโยโง่สุดตีน
- “น้าจี้” ผีอบายภูมิ
- ธัมมชโยสอนวิชาธรรมกายไม่ถูก
- คำแก้ตัวของพระโง่ๆ
- แก้วยายจันท์
- ประสบการณ์ในวัดไชยบูลย์
- สัมภาษณ์พระอดิศักดิ์
- สวรรค์งี่เง่าของธัมมชโย
สำหรับรายละเอียดต่างๆ จะเพิ่มเติมภายหลัง เนื่องตอนนี้ ผมกำลังปรับเปลี่ยนโครงสร้างของเว็บอยู่...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น