วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ความเลวของสมีธัมมชโย


ความเลวของสมีธัมมชโย

สมีธัมมชโยที่ผมกล่าวถึงนี้ก็คือ เจ้าอาวาสของวัดพระธรรมกายในปัจจุบัน  ซึ่งต่อไปผมจะเรียกว่า “วัดไชยบูลย์” เพื่อไม่ให้ความเสนียดจังไรของบุคคลผู้นี้ ติดไปกับชื่อของวิชา

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ได้กล่าวถึงประวัติของสมีธัมมชโยไว้ ดังนี้

พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) เป็นพระสงฆ์ในพุทธศาสนา ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และประธานมูลนิธิธรรมกายเป็นพระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ มีนามตามสัญญาบัตรประกอบพัดยศสมณศักดิ์ว่า พระราชภาวนาวิสุทธิ์ อธิมุตธรรมวรากร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี

พระราชภาวนาวิสุทธิ์ เกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2487 ณ คุ้งน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลบ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีโยมบิดาชื่อ จรรยงค์ สุทธิผล โยมมารดาชื่อ จุรี สุทธิผล  บรรพชาอุปสมบทเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2512 ณ พัทธสีมาวัดปากน้ำภาษีเจริญ โดยมีพระเทพวรเวที (ปัจจุบันคือสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ) เป็นพระอุปัชฌาย์

ตรงนี้ หลวงพ่อวัดปากน้ำ (ซึ่งควบคุมการทำงานของพวกเรา) พูดไว้เสมอๆ ว่า “ถ้าหลวงพ่อยังไม่มรณภาพ หลวงพ่อไม่บวชให้แน่ๆ”  เพราะ รู้ว่าเป็นมารภาคมนุษย์ มารส่งมาเกิดเพื่อทำลายวิชาธรรมกาย

วิกิพิเดีย สารานุกรมเสรีได้กล่าวในหัวข้อคดีความและข้อครหาย่อๆ ได้ดังนี้

ในช่วง พ.ศ.  2540-2541 สื่อมวลชนได้จุดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ถึงความน่าสงสัยต่อพฤติกรรมและการดำเนินการหลายอย่างเกี่ยวกับพระราชภาวนาวิสุทธิ์ และทีมงาน รวมถึงมีการเผยแพร่ข่าวเชิงลบอย่างต่อเนื่อง เช่นประเด็นการยักยอกทรัพย์ และการบริหารเงินบริจาค และมีความพยายามเปลี่ยนการเรียกนามของพระราชภาวนาวิสุทธิ์เป็น "นายไชยบูลย์ สุทธิผล" โดยอ้างเอาพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชว่าได้ตัดสินให้พระราชภาวนาวิสุทธิ์หลุดพ้นจากความเป็นบรรพชิตแล้ว ด้วยความผิดทางพระธรรมวินัยขั้นปาราชิก ในข้อหายักยอกทรัพย์
ประวัติตรงนี้ของธัมมชโยไม่กล่าวถึงเหตุการณ์สำคัญที่ว่า ตำรวจโรงพักชนะสงครามจะจับสึกให้ใส่เสื้อผ้าของคฤหัสอยู่แล้ว 

คนของวัดพาสาวกมารตัวนี้ ไปล้อมโรงพักไว้ ทำให้รอดจากการสึกมาได้ครั้งหนึ่งอย่างหวุดหวิด แน่จากเจ้าหน้าที่ตำรวจกลัวเรื่องราวจะไปกันใหญ่ จึงส่งผลเสียต่อศาสนามาอย่างหนักจนถึงปัจจุบัน

ในระหว่างที่คดียังคงอยู่ในกระบวนพิจารณาในชั้นศาลพระราชภาวนาวิสุทธิ์และคณะวัดพระธรรมกาย ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ในระหว่างการพิจารณาคดีดังกล่าว สื่อมวลชนบางสำนักได้นำเสนอข่าวแพร่สะพัดออกไปในทางเสื่อมเสีย จึงได้มีการฟ้องกลับสื่อมวลชนต่อขบวนการยุติธรรม ซึ่งต่อมาศาลอาญาได้พิพากษา ว่าการกระทำดังกล่าวของสื่อมวลชนเป็นความผิด และได้ลงโทษให้ประกาศข้อความขอขมาวัดพระธรรมกายและพระราชภาวนาวิสุทธิ์ทางหนังสือพิมพ์ หลายฉบับ ทั้งมติชน กรุงเทพธุรกิจ สยามรัฐ

การที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวเกินกว่าเหตุเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่า สมีธัมมชโยเป็นผู้บริสุทธ์ เป็นคนละเรื่องกัน

กระทั่งในปี พ.ศ. 2549 สำนักงานอัยการสูงสุดได้ถอนฟ้องคดีทั้งหมดของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ""พระธัมมชโยได้คืนเงินให้แก่ทางวัดพระธรรมกายครบถ้วนทุกบาททุกสตังค์แล้ว ถือว่าได้ปฏิบัติตามพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จึงไม่มีเหตุผลที่จะฟ้องร้องเอาผิดอีกต่อไป"

นี่คือหลักฐานที่มัดแน่นสันดารมารธัมมชโยว่า “ปราชิก” แล้ว  ศีล 227 ไม่ใช่กฎหมายของประเทศ กฎหมายของประเทศหลุดก็เพราะ อดีตนายกรัฐมนตรี ดร. ทักษิณ ชิณวัตรใช้อำนาจในการทางเมืองช่วยมารสมีไชยบูลย์  จึงทำให้มารตัวนี้ ทำความเลวให้แก่ประเทศชาติอย่างเหลือคณานับ

กรณีความเลวของมารธัมมชโยนั้น ธาตุธรรมเอาเข้าเซฟ ดังนั้น คุณทักษิณก็ไม่น่าจะรอดเซฟเหมือนกัน

การลวงโลกของสมีธัมมชโยนั้นมีมากมายหลายประการ  ในช่วงแรกๆ นี้ผมรวบรวมมาอยู่ในบล็อกต่าง ดังนี้


สำหรับรายละเอียดต่างๆ จะเพิ่มเติมภายหลัง เนื่องตอนนี้ ผมกำลังปรับเปลี่ยนโครงสร้างของเว็บอยู่...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม