วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2555
เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
ไทยนี้่รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
| |
ข่าวโจรใต้ขู่หยุดวันศุกร์ ใบปลิวขู่ห้ามขายของวันศุกร์ ปิดร้านวันศุกร์ ห้ามขายของวันศุกร์ หวาดคำขู่ห้ามขายของวันศุกร์ ชาว3จังหวัดชายแดนใต้ ยอมปิดร้าน บรรยากาศที่ตลาดยะลาเงียบเหงา พ่อค้าแม่ค้ามุสลิมหยุดขายของ มีเพียงพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นคนไทยพุทธเท่านั้น หลังหวั่นโดนลอบวางระเบิดในวันศุกร์... เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 28 ก.ย.55 ที่บริเวณตลาดสดรถไฟยะลา เขตเทศบาลนครยะลา พ.อ.นพพร เรือนจันทร์ รอง ผบ.ฉก.ยะลา พร้อมด้วย พ.อ.รุ่งโรจน์ ถุงเป้า รอง ผบ.ฉก.ยะลา และเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลา กว่า 50 นาย ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ที่ยังเปิดร้านจำหน่ายสิ่งของอยู่ภายในตลาดสด หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีกระแสข่าวลือว่า หากใครเปิดร้านขายของในวันศุกร์ ก็จะถูกทำร้ายและตัดใบหู และก็บังเอิญว่าเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ก็ได้เกิดเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดย่านไทยพุทธในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ในวันศุกร์ที่ 28 ก.ย.55 มีบรรยากาศที่เงียบเหงา เพราะพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นมุสลิมต่างหยุดขายของ มีเพียงพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นคนไทยพุทธเท่านั้น ที่ยังคงเปิดร้านขายของอยู่ แต่ก็มีพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นคนไทยพุทธที่เกรงกลัวได้หยุดขายของไปด้วย พ.อ.รุ่งโรจน์ ถุงเป้า รอง ผบ.ฉก.ยะลา กล่าวว่า ในการเดินทางมาตลาดสดรถไฟยะลา ก็เพื่อมาเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจประชาชนและพ่อค้าแม่ค้า ที่ออกมาขายสิ่งของ เพราะก่อนหน้านี้ก็ได้มีกระแสข่าวลือให้ พ่อค้าแม่ค้าหยุดขายของในวันศุกร์ หากไม่เชื่อก็จะไม่รับรองความปลอดภัย ซึ่งเชื่อว่ากระแสข่าวดังกล่าว ก็เป็นเพียงการข่มขู่เท่านั้น เพราะเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ก็ได้วางมาตรการเข้มในการดูแลความปลอดภัยให้กับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่ ออกมาจับจ่ายซื้อของกันอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีผู้ประกอบการบางรายที่ได้ปิดกิจการในวันศุกร์อยู่จำนวนหลายราย เพราะยังไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัย โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่อยู่นอกเมืองในพื้นที่ ตามตำบล หรืออำเภอต่าง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงผู้ประกอบการส่วนใหญ่ก็ได้ปิดทำการ เช่น ร้านสะดวกซื้อหรือ ร้านเซเว่นฯ ในพื้นที่อำเภอรามัน ก็ได้ปิดหยุดขายของในวันนี้ด้วยเช่นกัน ด้านนายพิพัฒน์ หวั่นดิน พ่อค้าขายโรตีตลาดสดรถไฟยะลา กล่าวว่า ตนเองไม่ได้สนใจหรือเชื่อข่าวลือมากนัก เพราะเป็นการพูดคุยกันในร้านน้ำชาเท่านั้น และก็ยังมีแม่ค้าบางคนที่ได้มาบอกตนว่า มีหญิงมุสลิมแต่งกายแบบฮิญาบ ออกมาบอกกับผู้ที่ขายของในวันศุกร์ว่า ไม่กลัวหรือขายของวันศุกร์ หากไม่เชื่อก็จะไม่รับรองความปลอดภัย หลังจากนั้นก็เดินหายไป แต่ตนเองก็ยังไม่ปักใจเชื่อเพราะที่ร้านของตนเองยังไม่มีใครมาบอกหรือข่มขู่ แต่ตนเองก็คิดว่าจากวิกฤติทำให้เป็นโอกาส เพราะปรากฏว่าวันนี้ตนเองขายดีเป็นพิเศษ เพราะคนอื่นเขาหยุดขายแต่ตนเองเปิดขาย ทำให้ขายดีมาก จนโรตีที่ทำไว้ขายหมดเร็วขึ้น พลโทอุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงการที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ร่อนใบปลิว และปล่อยข่าวข่มขู่ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ว่าห้ามเปิดร้านขายของในวันศุกร์ ว่าเป็นการสร้างความหวาดกลัวแก่ประชาชนในพื้นที่ ที่ทำมาหากินเลี้ยงชีพโดยสุจริต แต่ต้องมาปฏิบัติตามความต้องการของกลุ่มคนที่ไม่ทำประโยชน์ให้แก่สังคม จึงขอให้ประชาชนอย่าหวดหวั่น และหลงกลต่อแผนการของผู้ไม่หวังดี โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะปกป้องดูแลความปลอดภัยให้อย่างเต็มที่ ขณะที่ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ไปตรวจเยี่ยมร้านค้าในตลาดเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังเปิดเผยว่า ข่าวการข่มขู่ที่เกิดขึ้น เป็นเพียงข่าวโคมลอย ยังหาที่มาไม่ได้ ประชาชนอย่าหวั่นวิตก นอกจากนี้ยังให้ผู้ว่าราชการทั้ง 3 จังหวัด ขอความร่วมมือกับผู้นำศาสนา เพื่อทำความเข้าใจกับชาวบ้านให้กลับมาค้าขายตามปกติ จากการตรวจสอบตลาด ร้านค้า และร้านอาหาร กว่าร้อยละ 70 ในย่านชุมชน และเขตเมืองของจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ต่างปิดร้านไม่ขายของจากที่เคยคึกคักไปด้วยผู้คน กลับไม่มีพ่อค้าแม่ค้าเปิดร้านเลย ทำให้บรรยากาศเงียบเหงาไปถนัดตา ยิ่งในอำเภอรอบนอกร้านค้าปิดกันเกือบหมด เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยกับคำขู่ดังกล่าว หลังจากได้เกิดเหตุยิงร้านทองและระเบิดคาร์บอมบ์ ในอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เมื่อสัปดาห์ก่อน ร้านค้าชายแดนใต้ปิดเงียบ หวาดคำขู่ห้ามขายของวันศุกร์ นราธิวาส-ยะลา-สงขลา 28 ก.ย.- ร้านค้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ปิดเงียบจนแทบจะกลายเป็นเมืองร้าง หลังถูกขู่จากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ หลังมีกระแสข่าวแพร่สะพัดในพื้นที่ว่า กองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค ได้ประกาศข่มขู่เจ้าของกิจการและผู้ประกอบการทุกชนิด ให้หยุดกิจการทุกวันศุกร์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่งผลให้เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส และอำเภอรอบนอกเงียบเหงาไปถนัดตา เนื่องจากร้านค้า ปั๊มน้ำมัน และตลาดสด เกิดความหวาดกลัวต้องหยุดกิจการชั่วคราว นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่ารถตู้โดยสารกว่า 150 คัน ได้หยุดวิ่งให้บริการเกือบทั้งหมด เช่นเดียวกับที่จังหวัดยะลา รองผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารได้ตรวจสอบร้านค้าในตลาดสดพิมลชัยพบว่า กว่าร้อยละ 90 ต่างปิดร้านหยุดจำหน่ายสินค้า ทำให้บรรยากาศเงียบเหงากว่าทุกวัน อย่างไรก็ตาม ทางทหารได้ประสานแผนงานกับฝ่ายตำรวจและฝ่ายปกครอง เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้น และหลังจากมีข่าวได้ออกลาดตระเวนตามที่จอดรถ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ส่วนที่จังหวัดสงขลา ได้จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ และเจ้าหน้าที่เดินเท้าลาดตระเวนบริเวณย่านการค้ากลางเมืองหาดใหญ่ เพื่อป้องกันเหตุร้ายตามคำข่มขู่ เน้นการตรวจติดตามภาพจากกล้องวงจรปิด และตรวจสอบรถยนต์ รถจักรยานยนต์ต้องส่งสัย พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า การออกใบปลิวข่มขู่เป็นการกระทำที่กลุ่มก่อความไม่สงบเคยใช้สร้างสถานการณ์และก่อให้เกิดความหวาดกลัว ดังนั้น ประชาชนไม่ควรให้การสนับสนุนความเชื่อที่ไม่ถูกต้องตามหลักการศาสนา พร้อมสั่งการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเต็มที่ เพื่อสร้างความมั่นใจกับประชาชน ยังคงเกิดสถานการณ์เหตุร้ายอย่างต่อเนื่อง โดยเกิดเหตุยิงกันในสวนยางพาราอำเภอรามัน จังหวัดยะลา มีผู้เสียชีวิต 2 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเรียบวุธไปยังที่เกิดเหตุ พบ 2 สามี-ภรรยา ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ในขนำ คือนายมูดอ มะลี อายุ 61 ปี และนางสะมะ โต๊ะชู อายุ 61 ปีมีอาชีพรับจ้างกรีดยาง จากการสอบสวนทราบว่า คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงจนเสียชีวิต และกำลังตรวจสอบว่าเป็นเหตุการณ์ความไม่สงบ หรือเรื่องส่วนตัว เนื่องจากผู้ตายเป็นครูสอนศาสนาภายในหมู่บ้าน สำหรับความคืบหน้าคนร้ายวางระเบิดพลาดเป้า ถูกรถรับส่งนักเรียนของโรงเรียนร่มเกล้า อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส พบว่าโรงเรียนยังปิดการเรียนการสอน และจะเปิดอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม ส่วนอาการบาดเจ็บของนักเรียนทั้งสองคนอาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแทพย์อย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย | |
http://narater2010.blogspot.com/
|
ชลิต โผล่อีกแล้ว หลังจากหนีลงรูไำปนาน
นายชลิต ยังคง โกหกต่อเนื่องอยู่
| |
หลังจากที่ นาย ชลิต ได้โกหกมุสลิมทั้งโลกเพื่อสร้างภาพอันยิ่งใหญ่ของตนเอง และได้ถูกเปิดโปงมาแล้วว่า เขาโกหก ตัวนายชลิตเองได้หายหน้าไปจากสังคมมุสลิม นานพอสมควร แต่ล่าสุด ก็โผล่ออกมาทาง Face Book อีกแล้ว โดยอ้างแบบเดิม ๆ ว่า ตัวเองเคยเป็นพระในพุทธศาสนา ท่านที่ยังไม่ได้อ่านเรื่องเดิม ไปดูได้ที่นี้ http://narater2010.blogspot.com/2011/06/httpnewweb.html ส่วนเรื่องปัจจุบัน ที่นายชลิตโผล่ออกมาอีกรอบอยู่ที่นี้่ http://www.facebook.com/muslimthai/posts/212148205474399 และจำอ้างว่า ไม่รู้ไม่ได้หรอกครับ เพราะเรื่องนี้ เจ้าของ Face Book คือคนที่เรียกตัวเองว่า muslimthai | |
http://narater2010.blogspot.com/
|
มุสลิมอย่าปล่อยให้ใครหลอก
คนที่หลงเขื่อพวกชอบอ้าง ศาสดา สนองตัณหาตัวเองให้เป็นใหญ่จงฟัง
| |
มุสลิมทั้งหลาย เคยคิดไหมว่า ความแตกต่างในข้อปลีกย่อยของมุสลิมแต่ละกลุ่มเกิดขึ้นได้อย่างไรในประชาชาติอิสลาม ในโลกปัจจุบันนี้
ก็ถ้าในเมื่อมีพระองค์อัลลอฮ์เป็นพระเจ้าองค์เดียวกัน
ก็ถ้าในเมือมีคัมภีร์อัลกุรอานเล่มเดียวกัน
ก็ในเมื่อมีศาสดาท่านสุดท้ายคือ มุฮัมมัด
บุตรของอับดุลลอฮ์คนเดียวกัน
ก็ในเมื่อมุสลิมผินหน้าในช่วงนมาซไปยังนครมักกะฮ์เหมือนกันทุกกลุ่ม
พี่น้องมุสลิมเคยคิดบ้างไหมว่า แล้วมันเกิดอะไรขึ้น
มันเกิดอะไรในโลกมุสลิม ที่ทำให้เกิดความแตกต่างในหมู่ประชาชาติมุสลิม ณ วันนี้????
แท้ที่จริงแล้ว มีมุสลิมบางคน หรือมุสลิมบางกลุ่ม ได้ทำการบิดเบือนหลักการอิสลามที่แท้จริงในยุคแรกเริ่มภายหลังจากท่านศาสดา มุฮัมมัด (ศ.) บุรุษผู้ยิ่งใหญ่ได้จากโลกนี้ไป แม้ในปัจจุบันก็ยังคงมีกลุ่มโจร มากมายหลายกลุ่้ม ที่ทำความเลวระยำบนโลกใบนี้ โดยอ้างว่าเป็นหลักการของอิสลาม
เพราะแน่นอนในยุคที่ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) ยังมีชีวิตอยู่นั้น การปฏิบัติ
การสั่งสอนของท่านคงเป็นไปในระบอบเดียวเท่านั้น
คงเป็นไปไม่ได้ที่ในวันหนึ่งท่านจะนมาซกอดอก
แต่อีกวันท่านจะนมาซปล่อยมือ
หรือในวันหนึ่งท่านได้ไปซิยารัตกุโบร์
แต่อีกวันท่านสอนสั่งว่าการซิยารัตกุโบร์ นั้นเป็นการกระทำชิริก
(ตั้งภาคีกับพระองค์) ฯลฯ
พระองค์อัลลอฮ์ทรง รู้ว่า หากมุฮัมมัดศาสดาของพระองค์หวนกลับคืนสู่พระองค์เมื่อใด ประชาชาติของมุฮัมมัดจะแตกแยกกันออกเป็นกลุ่มๆ พระองค์จึงทรงมีบัญชาว่า "สูเจ้าจงอย่าแตกแยกกัน"
จากข้อสงสัยข้างต้นที่
ว่า
ความแตกต่างในข้อปลีกย่อยของประชาชาติมุสลิมในยุคนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
จากข้อสันนิษฐานที่อยู่บนพื้นฐานของประวัติศาสตร์ที่ได้ถูกบันทึกไว้ก็คือ บรรดาศัตรูของอิสลามซึ่งมีมาตั้งแต่วันที่ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.)
ประกาศศาสนาอิสลามให้เป็นศาสนาของมนุษยชาติ
ได้เริ่มแผนการทำลายอิสลามทันทีเมื่อท่านศาสดาจากไป
บรรดาโจรกบฏแบ่งแยกดินแดนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ บรรดาอิหม่ามที่เป็นสมุนโจรใต้ พวกที่ต้องการอำนาจ พวกที่ต้องการประโยชน์ส่วนตน คนเหล่านี้อ้างว่า ตนเองคือมุสลิม แต่คนเหล่านี้ คือมะเร็งร้ายของอิสลาม ก็เนื่องมากจากคนพวกนี้แหละ ที่ปลุกระดมประชาชน และสร้างหลักการ กฏเกณฑ์ต่าง ๆ โดยอ้างว่าเป็นหลักการของอิสลาม เช่นอ้างว่า ห้ามขายของในวันศุกร์ มิฉนั้น จะไม่รับรองความปลอดภัย แถมขู่อีกว่า เป็นเรื่องที่ระบุไว้ในคัมภีร์ หรืออีกหลาย ๆ ข้ออ้างที่คนกลุ่มนี้ สร้างขึ้น เพื่อทำให้เห็นความแปลกแยก แตกต่าง จากคนที่อยู่ในผืนแผ่นดินเดียวกันคือประเทศไทยนี้ โดยที่ประชาชนทั่ว ๆ ไป ไม่รู้อัลกุลอาน ถูกหลอกลวงว่าเป็นหลักการของอิสลาม โดยเนื้อแท้คือการทำให้ประชาชนตกอยู่ในอำนาจครอบงำ ของบรรดาโจร และ อิหม่ามสมุนโจร
เป้าหมายของพวกมันก็คือ
จะต้องทำให้ประชาชาติมุสลิมแตกแยกกันเป็นกลุ่ม ๆ
เพื่อง่ายต่อการบิดเบือนและทำลายล้างอิสลาม แต่ปากของพวกมันก็พล่ามแต่ว่า มุสลิมทุกคนเป็นพี่นี้องกัน แต่ถ้าพวกเองไม่ทำตามที่กูสั่ง โดยอ้างศาสดา กูก็จะยิงเอ็งทิ้งซะ
ทำไมจริงเป็นเช่นนั้น ความจริงก็คือ เพราะในวันนี้พวกมันสรุปได้ว่า
หากประชาชาติมุสลิมมีความเป็นปึกแผ่นอยู่ภายใต้คำสอนเดียวกันที่มีแบบอย่าง
จากมุฮัมมัด (ศ.) ในไม่ช้ามุสลิมก็จะครองโลก
ดังนั้นรายงานปลอม แบบอย่างที่ผิดเพี้ยนในนามของสุนนะฮ์รอซูลุลลอฮ์ (ศ.) จึงถูกอุปโลกขึ้นในยุคนั้น และประทับตราว่าคือรายงาน และเป็นแบบอย่างของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) และแม้ในปัจจุบัน ก็มีคำสอนปลอม ๆ ที่ออกจากปากของบรรดาอิหม่ามสมุนโจรเหล่านั้น บรรดาโรงเรียนที่อ้างว่าสอนศาสนา แต่แท้จริงคือ ใส่ยาพิษลงในหัวสมองของลูกหลานมาลายู เพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้องของพวกมัน
เราจึงเห็นได้ว่าวันนี้ในหมู่ประชาชาติมุสลิม
กำลังปฏิบัติในสิ่งที่ตัวเองต่างก็แอบอ้างว่าเป็นสุนนะฮ์จากท่านศาสดามุฮัม
มัด (ศ.) ทั้งสิ้น
ไม่ว่ากลุ่มใด นิกายใด
ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจอีกต่อไปว่า
ด้วยเหตุใดวันนี้ความแตกต่างในข้อปลีกย่อยในหมู่ประชาชาติอิสลามจึงมีอยู่
อย่างมากมาย พึงรู้ไว้โอ้ประชาชาติอิสลาม
พวกท่านกำลังตกเป็นเหยื่อของศัตรูอิสลามเสียแล้ว
ในมุสลิม ไม่มีนักบวช เพราะมุสลิมทุกคือนักบวช แล้วเหตุใดเล่า ประชาชนมุสลิม จึงต้องเชื่อฟังคำสอนปลอม ๆ ของอิหม่ามปลอม ๆ สมุนโจรใต้ อ้างว่าเป็นคำสอนของศาสดามุฮัม มัด (ศ.)
เมื่อมุสลิมทุกคนคือนักบวช พวกท่านจงศึกษา อัลกุลอาน ด้วยตนเอง อย่าปล่อยให้ใครมาแอบอ้างว่าเป็นคำสอน แล้วปฏิบัติตามคำสั่งบรรดาโจรที่ปากคาบคัมภีร์อีกต่อไป
| |
http://narater2010.blogspot.com/
|
มะเร็งร้ายของอิสลาม
มะเร็งร้ายของอิสลาม
| |
A ban on wearing the all covering burka in France would stem the spread of what French minister Fadela Amara called the "cancer" of radical Islam, a report quoted her as saying Saturday. The Muslim minister for urban regeneration told the Financial Times newspaper that the head-to-toe body covering and veil represented the "oppression of women, their enslavement, their humiliation." Amara, who is of Algerian descent, said France was a beacon for an enlightened Islam at ease with modernity, so it was necessary to fight the "gangrene, the cancer of radical Islam which completely distorts the message of Islam."
ฟาดิลา อะมารา รัฐมนตรีมุสลิมหญิงของฝรั่งเศส
การคลุมผ้าแบบ burka ที่รัฐมนตรีอ้างถึง
โดยเธอได้กล่าวกับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ ว่า การแต่งกายดังกล่าวเป็นตัวแทนของการกดขี่ผู้หญิง การแสดงความเป็นทาส และความอัปยศอดสู
อะ
มาร่า ซึ่งมีเชื้อสายอัลจีเรีย กล่าวว่า
ฝรั่งเศสยอมรับอิสลามที่มีแนวคิดทันสมัย
ซึ่งสามารถดำเนินคู่ไปกับชีวิตแบบชาวฝรั่งเศสได้ง่ายดาย ดังนั้น
จึงมีความจำเป็นต้องต่อสู้ เพื่อกำจัดเนื้อร้ายของอิสลามแบบสุดขีด
ซึ่งบิดเบือนอุดมการณ์อิสลามที่แท้จริง
เธอ ยังกล่าวว่า มุสลิมทั่วไปก็ไม่เห็นด้วยกับการสวมชุดคลุมมิดชิดเช่นนี้ และกล่าวถึงกลุ่มสิทธิสตรีที่ต่อสู้อยู่ในประเทศมุสลิม โดยเฉพาะในอัลจีเรีย ว่ามีเบื้องหลังเกี่ยวพันกับการเมืองและต้องการยึดเสรีภาพพื้นฐานจากประชาชน สำนักข่าวมุสลิมไทย | |
http://narater2010.blogspot.com/
|
วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2555
ต้นกำเนิดมุสลิมในประเทศไทย
ต้นกำเนิดมุสลิมในประเทศไทย
| |
ประเทศไทยหรือสยามประเทศสมัยก่อน มีการค้าขายติดต่อประเทศโลกอิสลามมาเป็นเวลาช้านานแล้ว อาจจะก่อนสมัยสุโขทัยด้วยซ้ำแต่ในช่วงนั้นยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่เมื่อสมัยสุโขทัย หลักฐานได้บันทึกว่ามีชนชาติที่เก่งกาจทางด้านการเดินเรือเข้ามาบรรทุก สินค้าจากประเทศไทยไปยังประเทศตนและในขณะนั้นก็ไม่ได้มีรายงานว่าเป็นชาว ยุโรป เพราะฉะนั้นเราจึงได้คาดกันว่าเป็นชาวมุสลิม
ซึ่งเป็นพ่อค้าจากเปอร์เซียนี่ เองที่เข้ามาติดต่อซื้อขาย
ในสมัยกรุงสุโขทัย สยามก็ได้แผ่ขยายอิทธิพลไปจนถึงใต้แหลมมลายู มีรายงานว่าผู้คนในสมัยนั้นมีผู้นับถือศาสนาอิสลามอยู่แล้ว? ทั้งผู้เป็นใหญ่และขุนนางในกรุงสุโขทัยก็ไม่ถือเป็นข้อแตกต่าง และได้อยู่รวมกันอย่างสันติสุขเป็นเวลาหลายร้อยปี ไม่เคยมีข้อบาดหมางระหว่างศาสนาพุทธและศาสนาอิสลามเลย เป็นความร่วมมือร่วมใจซึ่งกันและกันระหว่างไทยพุทธและไทยมุสลิมในการบริหาร บ้านเมือง ต่อต้านอริราชศัตรูมาด้วยกัน ก็นับเป็นความอัศจรรย์อย่างหนึ่งภายใต้พระบารมีของพระมหากษัตริย์ไทยทุก พระองค์ ทุกราชวงศ์ที่ได้ทรงอุปถัมภ์ ค้ำชูแก่ศาสนาอิสลามมาโดยตลอด
ส่วนทางตอนใต้ของประเทศไทยคาดกันว่า มีผู้นับถือศาสนาอิสลามมาตั้งแต่ก่อนสมัยสุโขทัย ส่วนเมืองปัตตานีก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจของสยามประเทศ ตั้งแต่สมัยสุโขทัย เมืองเอกทางตอนใต้ของสยามคือ นครศรีธรรมราชโดยเขตปกครองของนครศรีธรรมราชก็กินพื้นที่ไปจนสุดปลายแหลม มลายู สิงคโปร์ มะละกา เป็นเมืองประเทศราชของไทยทั้งหมด วีธีการปกครองในสมัยนั้น ส่วนมากก็ไม่ได้ส่งคนเข้าไปปกครองมีแต่ให้เมืองประเทศราชเหล่านี้ส่งดอกไม้ เงินดอกไม้ทอง 3 ปีต่อครั้งเป็นการสวามิภักดิ์ต่อกรุงศรีอยุธยานั่นเอง
ด้วยเหตุนี้จึงนับว่าเมืองปัตตานีขึ้นอยู่กับประเทศไทย อยู่ในความดูแลของนครศรีธรรมราช ในฐานะเมืองประเทศราชต้องส่งเครื่องราชบรรณาการเหมือนประเทศอื่นๆ เช่น เขมร เป็นต้น
มุสลิมในประเทศไทยมี6กลุ่ม
นอกจากนี้ทางภาคใต้ของประเทศไทยเคยค้าขายกับนักเดินเรือช่าวจีน(เจิ้งเหอ)ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม ก็มีจำนวนไม่น้อย จะเห็นได้ว่า ชาวไทยมุสลิมชาติพันธุ์ต่างๆในแผ่นดินไทย มีมิติที่กว้างขวางทั้งด้านชาติพันธุ์ ประวัติศาสตร์ สังคม อารยธรรม ศิลปวัฒนธรรมและภาษา ชาวมุสลิมก็คือคนไทยส่วนหนึ่งที่หล่อหลอมเป็นเนื้อเดียวกับสังคมไทยมาช้านาน มีบูรณาการร่วมกัน ที่เรียกว่า ความเป็นไทยอย่างกลมกลืนจนกระทั่งไม่สามารถแยกความเป็นมุสลิมออกไปได้ในสังคมไทย
| |
http://narater2010.blogspot.com/
|
อัตลักษณ์มาลายู ไม่ใช่อัตลักษณ์อิสลาม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)