ค้นหาความจริง ฮาซัน ตอยิบ บิดเบือนผ่าน Youtube | |
การเจรจา ควรอยู่ในโต๊ะเจรจา มิใช่หรือ
อยากจะยื่นข้อเสนออะไร ก็ไปยื่นที่โต๊ะเจรจา
ฮาซัน ตอยิบ มีวัตถุประสงค์ อะไร ในการไปยื่นข้อเสนอผ่าน Youtube
บึ้มทหารรายวัน ฮาซันยังไร้น้ำยา...
ตาเฒ่าฮาซัน BRN ไร้น้ำยา ควบคุมลูกน้องโจรไม่ได้ ยังหน้าด้านเรียกร้องข้อเสนอผ่านยูทูบเป็นระลอก... เหตุการณ์ระเบิดรายวัน พรากชีวิตผู้คนมากมายของขบวนการโจรใต้ นับตั้งแต่เสร็จสิ้นการเจรจารอบ 3 เหตุการณ์ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้นแต่อย่างใด เป็นสิ่งชี้ชัดว่า ตาเฒ่าเจ้าเลห์หมดมนต์ขลัง หรือไม่เคยมีเลยตั้งแต่ต้น... ที่จริงก็น่าจะมองออกตั้งนานแล้วนะครับท่านผู้มีอำนาจ... "ผู้ใหญ่" ที่ไหนเขาจะเรียกร้องข้อเสนอผ่านยูทูบกัน นี่มันเรื่องชีวิต เรื่องความมั่นคง เรื่องชาติ... เมื่อเวลา 14.45 น. วานนี้ (26 มิ.ย.56) โจรใต้ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าทีทหารชุดพัฒนาเคลื่อนที่ เป็นเหตุให้ทหารได้รับบาดเจ็บหลายราย และเสียชีวิต 1 นาย เหตุเกิดที่สะพานบ้านปากู บ.น้ำดำ ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี | |
http://narater2010.blogspot.com/
|
วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2556
ฮาซัน ตอยิบ เจรจากับรัฐบาลไทย แล้วใยไปยื่นข้อเสนอผ่าน Youtube
ความหวังของคนขาย ‘มะตะบะปูยุด’ กับการหยุดความรุนแรงในเดือนรอมฎอน
ความหวังของคนขาย ‘มะตะบะปูยุด’ กับการหยุดความรุนแรงในเดือนรอมฎอน | |
ความหวังของคนขาย ‘มะตะบะปูยุด’ กับการหยุดความรุนแรงในเดือนรอมฎอน
เรื่อง: รอฮิมะห์ เหะหมัด และ ซูเรดา หะยีมะสาและ
โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้ (DSJ)
รูป: มาดีหะห์ วายูโซ๊ะ
เยือนถิ่นมะตะบะเลื่องชื่อในปัตตานี ความหวังของพ่อค้าแม่ค้ากับการหยุดความรุนแรงในเดือนรอมฎอน มองเป็นเรื่องน่ายินดี ทั้งคนขายและคนซื้อจะสบายใจ ไม่กังวลกับเหตุรุนแรง ปฏิบัติศาสนกิจได้เต็มที่ เผยเคยเกิดเหตุร้ายในเดือนถือศีลอด ลูกค้าหายแค่ 2-3วันก็กลับมาใหม่ ปีนี้แม้เหตุการณ์สงบแต่รายได้อาจไม่ได้เพิ่ม เพราะต้นทุนสินค้าแพงขึ้น
มะตะบะ - นางปารีดะห์ สะแลแม ผู้จัดการ ร้านมะตะบะ ตะเยาะห์แอปูยุด อ.เมือง จ.ปัตตานี (ขวา)
กับนางซะปีเยาะห์ มะยูโซ๊ะ เจ้าของร้านตัวจริง ที่ได้ชื่อว่าเป็นร้านมะตะบะที่อร่อยที่สุดร้านหนึ่งใน ต.ปูยุด
หากให้พูดถึงของกินในเดือนรอมฎอนว่ามีอะไรบ้าง หลายคนคงจะนึกถึงของกินหลากหลาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคงไม่พ้นมะตะบะ และหากพูดถึงมะตะบะ หลายคนก็ต้องนึกถึงมะตะบะปูยุด เพราะขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยมานาน
“ปูยุด” เป็นชุมชนเก่าแก่แห่งหนึ่งในจังหวัดปัตตานี ตั้งอยู่บนถนนสาย 410 (ปัตตานี – ยะลา) ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี
ทุกปีเมื่อถึงเดือนรอมฎอน ผู้คนมากหน้าหลายตาจากทั่วทุกสารทิศ เดินทางมาซื้อของกินที่ปูยุด โดยเฉพาะมะตะบะจนทำให้การจรจาจรติดขัด แต่ก็ทำให้คนปูยุดมีความสุขเพราะเป็นช่วงที่นำรายได้เป็นกอบเป็นกำมาให้คนปูยุด
และดูเหมือนว่าปีนี้ ทั้งคนปูยุดเองและคนที่มาจับจ่ายซื้อของอาจจะมีความสุขมากขึ้น เพราะอาจไม่ต้องเผชิญกับเหตุร้ายจากสถานการณ์ไม่สงบ เพราะผลมาจากการพูดคุยเพื่อสันติภาพระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทยกับขบวนการบีอาร์เอ็น ที่เชื่อว่าเป็นกลุ่มที่กำลังต่อสู้เพื่ออิสรภาพของฟาฏอนีย์ในขณะนี้ โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะหยุดใช้ความรุนแรงในเดือนรอมฎอนอันประเสริฐนี้
นางปารีดะห์ สะแลแม เป็นผู้จัดการร้าน ‘ตะเยาะห์แอปูยุด’ ซึ่งเปิดขายมะตะบะมากกว่า 23 ปี กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายินดีมากๆ หลังจากที่มีข้อตกลงให้หยุดการใช้ความรุนแรงในเดือนรอมฎอนนี้ เพราะคนจะไปไหนมาไหนได้โดยสวัสดิภาพและไม่ต้องเห็นการเสียเลือดเนื้ออีกแล้ว
นางปารีดะห์ เล่าว่า ในช่วงเดือนรอมฎอนทุกปีจะขายมะตะบะได้ดีมาก ทำให้ต้องเตรียมโม่แป้งสาลีไว้ถึง 3 กระสอบจากปกติใช้เพียงกระสอบเดียว โดยแป้งสาลี 1 กระสอบมีน้ำหนัก 25 กิโลกรัม ซึ่งยแป้งสาลี 1 กิโลกรัมจะทำมะตะบะได้ประมาณ 30 ลูก
นางปารีดะห์ เล่าด้วยว่า ที่ผ่านมา ทางร้านเคยได้แชมป์จากการแข่งขันมะตะบะใน ต.ปูยุด มาแล้วในเรื่องความอร่อย ส่วนการแข่งขันในระดับจังหวัดเคยได้อันดับที่ 2 จึงทำให้ร้านมีชื่อเสียงมากขึ้น แต่การแข่งขันกินมะตะบะก็ได้หยุดไป 3 – 4 ปีแล้ว ซึ่งไม่ทราบว่าเพราะอะไร
ลูกค้าของร้านตนมีทั้งขาจรและขาประจำ โดยเฉพาะในเดือนรอมฎอน จะมีลูกค้าจาก อ.จะนะ และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สั่งมะตะบะไปขายจำนวนมากด้วย
ปัจจุบันที่ปูยุดมีร้านขายมะตะบะในช่วงปกติประมาณ 10 กว่าร้าน แต่ถ้าในช่วงเดือนรอมฎอน จะมีประมาณ 50 กว่าร้าน ทั้งที่เป็นมือสมัครเล่นและมืออาชีพ
“ที่ผ่านมา เคยเกิดเหตุร้ายต่อหน้าต่อตาตัวเองมาแล้วในเดือนรอมฎอน ภาพความรุนแรงยังติดตาและในความทรงจำ ส่วนหูยังได้ยินเสียงปืนอยู่ ในวันนั้นผู้คนวุ่นวายไปหมด”
เหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุคนร้ายขับรถตามประกบยิงเจ้าหน้าที่รัฐคนหนึ่งเสียชีวิตบนถนนบริเวณหน้าร้านของตัวเอง เมื่อราว 4 –5 ปีก่อน
ซ้ำร้ายไปกว่านั้น นางปารีดะห์เองก็คือผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบที่เกิดขึ้นด้วย เพราะเมื่อปี 2552 สามีถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต โดยไม่ทราบสาเหตุ เพราะเป็นชาวบ้านธรรมดาที่มีอาชีพขายมะตะบะ
นางปารีดะห์ เล่าว่า หลังจากสามีเสียชีวิต ทำให้ต้องปิดร้านไปประมาณ 40 วัน ก่อจะเปิดร้านอีกครั้ง ไม่อย่างนั้นจะขาดรายได้ แต่ต้องจ้างลูกจ้างเพิ่ม 3 คนมาทำงานแทนสามี
นางปารีดะห์ กล่าวว่า โดยปกติ ในเดือนรอมฎอนจะมีคนมาจับจ่ายซื้อของที่ปูยุดจำนวนมาก ไม่ว่าก่อนเกิดเหตุไม่สงบเมื่อปี 2547 หรือหลังจากนั้นสถานการณ์ก็ไม่แตกต่างกัน ยกเว้นถ้ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นในพื้นที่ต.ปูยุด แม้ไม่ใช่เดือนรอมฎอน ลูกค้าก็จะหายไป 2-3 วัน แล้วก็กลับมาเหมือนเดิม
แต่นางปารีดะห์เองก็ไม่แน่ใจมากนักว่า ในเดือนรอมฎอนปีนี้เหตุการณ์จะสงบได้จริงหรือไม่ เพราะผ่านมาหลายปีแล้ว ก็ยังไม่มีใครสามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนี้ได้เลย
หรือหากเกิดความสงบจริง ปารีดะห์ ก็ไม่แน่ใจว่าจะขายดีกว่าที่ปีที่ผ่านหรือไม่ เพราะปีนี้วัตถุดิบในการผลิตมะตะบะเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นไปด้วย กำไรก็อาจจะลดลง เพราะยังต้องขายมะตะบะราคาเท่าเดิม
แบมะ พ่อค้าขายของสินค้าเบ็ดเตล็ดบนรถจักรยานพ่วงข้าง (โชเล่) ในตลาดปูยุด กล่าวว่า หากในเดือนรอมฎอนปีนี้เกิดความสงบจริงๆ ก็จะดีมาก เพราะจะให้คนมุสลิมทุกคนสามารถประกอบศาสนกิจได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องได้รับรู้ข่าวเหตุการณ์ที่จะทำให้รู้สึกสะเทือนใจ
แบมะ บอกว่า ที่ผ่านมาเหตุไม่สงบไม่ค่อยส่งผลกระทบกับอาชีพของตนมากนัก เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนในหมู่บ้านและเป็นลูกค้าประจำ แต่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่แพงขึ้น เช่น ผักต่างๆ ที่มีราดาสูงขึ้น ต่างกับเมื่อ 2 -3 ปีก่อนที่ของไม่ค่อยแพงมากนัก ทำให้ได้กำไรประมาณวันละ 700 - 900 บาท แต่ช่วงนี้ได้กำไรประมาณวันละ 300 บาท
“ตอนนี้ยังไม่ถึงเดือนรอมฎอนของก็แพงขึ้น แล้วอย่างนี้ชาวบ้านจะอยู่อย่างไร ชาวบ้านที่เคยซื้อปลาครั้งละ ครึ่งถึงหนึ่งกิโลกรัม แต่วันนี้ ซื้อแค่ครั้งละ 3 ตัว น้ำหนักไม่ถึงครึ่งกิโลกรัมด้วยซ้ำ” แบมะกล่าวทิ้งท้าย
| |
http://narater2010.blogspot.com/
|
ย้ายอีก 50 ผู้ต้องขังคดีไฟใต้ กลับคุกบ้านเกิดก่อนรอมฎอน
ย้ายอีก50ผู้ต้องขังคดีไฟใต้ กลับคุกบ้านเกิดก่อนรอมฎอน | |
ย้ายอีก50ผู้ต้องขังคดีไฟใต้ กลับคุกบ้านเกิดก่อนรอมฎอน
มาดีหะห์ วายูโซ๊ะ
โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้ (DSJ)
เตรียมย้ายผู้ต้องขังคดีความมั่งคงจากคุกบางขวางกว่า 50 ราย สู่เรือนจำบ้านเกิดก่อนรอมฎอน ศอ.บต.พาญาติเยี่ยมครั้งสุดท้ายที่กรุงเทพ ญาติเห็นด้วยกับบีอาร์เอ็นที่ให้ปล่อยนักโทษคดีไฟใต้ พร้อมแนะบนโต๊ะเจรจาสันติภาพต้องมีตัวแทนคนในพื้นที่
วันที่ 28 มิถุนายน 2556 ที่โรงแรมเซาเทิร์นวิว จ.ปัตตานี ญาติผู้ต้องขังคดีความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำบางขวาง กรุงเทพมหานครกว่า 200 คน ได้รวมตัวกันเพื่อเตรียมเดินทางไปเยี่ยมผู้ต้องขังที่เรือนจำบางขวางด้วยรถทัวร์จำนวน 5 คัน ตามโครงการสานสายใจจากครอบครัวสู่ผู้ต้องขังในเรือนจำนอกพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต)
ทั้งนี้มีผู้ต้องขังในเรือนจำบางขวางที่ญาติจะไปเยี่ยมในครั้งนี้จำนวน 57 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องขังคดีความมั่นคง โดยก่อนเดินทางได้มีเจ้าหน้าที่ของศอ.บต.มาอธิบายถึงขั้นตอนและระเบียบในการเข้าเยี่ยมผู้ต้องขัง โดยมีกำหนดเข้าเยี่ยมในวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 โดยมีกลุ่มเพื่อน จ. เป็นอาสาสมัครร่วมเดินทางไปด้วย
ก่อนออกเดินทางในเวลาประมาณ 15.00 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต.ได้มาพบปะให้กำลังใจญาติผู้ต้องขังทั้งหมด และกลุ่มผู้หญิงจากเครือข่ายผู้หญิงภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพชายแดนใต้มาร่วมพบปะและขอข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
พ.ต.อ.ทวี กล่าวระหว่างพบปะว่า การให้ญาติเดินทางไปเยี่ยมผู้ต้องขังในครั้งนี้ ถือเป็นการไปรับผู้ต้องขังกลับบ้าน หมายถึงการย้ายผู้ต้องขังจากเรือนจำบางขวาง กรุงเทพมหานครมาอยู่ที่เรือนจำในจังหวัดบ้านเกิดของผู้ต้องขังเอง เพื่อความสะดวกและลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของญาติ เนื่องจากมีข้อจำกัดหลายๆอย่าง
พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อไปว่า จะพยายามย้ายผู้ต้องขังดังกล่าวให้ได้ก่อนวันที่ 9 กรกฎาคม 2556 หรือก่อนเดือนรอมฎอนซึ่งเป็นเดือนถือศีลอดของชาวมุสลิม
พ.ต.อ.ทวี กล่าวด้วยว่า ส่วนผู้ต้องขังที่ศาลตัดสินลงโทษประหารชีวิตและคดีถึงที่สุดแล้ว ซึ่งไม่สามารถย้ายได้ เนื่องจากเป็นกระบวนการศาลและขั้งตอนตามกฎหมายนั้น มีอยู่ 2 คน แต่ก็จะพยายามให้ทุกคนได้กลับมา
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องขังคดีความมั่นคงที่คดีสิ้นสุดแล้ว มี 6 รายที่ไม่สามารถย้ายเรือนจำได้ แต่ตนจะพยายามขอให้ได้กลับมาอยู่ที่เรือนจำกลางสงขลาให้ได้
“หลังจากการเดินทางไปเยี่ยมผู้ต้องขังในครั้งนี้แล้ว ผมจะขออนุญาตนำตัวผู้ต้องขังกลับมาอยู่ในภูมิลำเนาของตัวเอง เช่น ถ้าผู้ต้องขังเป็นคนจังหวัดนราธิวาส ก็จะขอย้ายมาอยู่ที่เรือนจำนราธิวาส แต่ถ้าเป็นผู้ต้องขังที่มีโทษหนักๆ ก็จะให้ย้ายมาอยู่ที่เรือนจำกลางสงขลา” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
พ.ต.อ.ทวี กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีนโยบายที่จะบรรเทาความเดือนร้อนของญาติผู้ต้องขัง เพื่อเป็นการเยียวยาจิตใจ คลายความคิดถึงที่มีต่อผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำที่กรุงเทพมหานคร โดยจะเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมประกาศขยายอำนาจการคุมขังของเรือนจำกลางนราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา รวมทั้งเบตง จ.ยะลา ให้ครอบคลุมอัตราการลงโทษของผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำที่กรุงเทพมหานคร เพื่อให้สามารถนำกลับมาอยู่ใกล้ชิดกับญาติพี่น้องได้มากที่สุด
นางสีตีนอร์ เจ๊ะเลาะ ชาวบ้านควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ภรรยาผู้ต้องขังคดีความมั่นคงในคดีโจมตีเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 หรือวันเดียวกับเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ ซึ่งศาลพิพากษาลงโทษประหารชีวิต แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตได้ร่วมเดินทางไปเยี่ยมในครั้งนี้ด้วย
นางสีตีนอร์ กล่าวว่า ตนยังไม่แน่ใจว่าสามีจะได้ย้ายกลับมาอยู่ในเรือนจำที่จังหวัดปัตตานีหรือไม่ เช่นเดียวกับญาติคนอื่นๆบางคนด้วย เพราะยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่า ผู้ต้องขัง 6 คนที่อาจจะไม่ได้ย้ายนั้นเป็นใครบ้าง
นางสีตีนอร์ กล่าวด้วยว่า กรณีที่กลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็น (BRN) มีข้อเรียกร้อง 5 ข้อ หนึ่งในนั้นคือ ให้ปล่อยตัวนักโทษคดีความมั่นคงทุกคนนั้น อยากให้รัฐบาลรับพิจารณาด้วย แต่ก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้ปล่อยทุกคน ต้องพิจารณาดูเป็นรายบุคคลว่า ใครบ้างที่สมควรปล่อยตัวไป แต่หากคนนั้นทำผิดจริงก็ไม่สมควรปล่อย
นางสีตีนอร์ ให้ความเห็นเกี่ยวกับกระบวนการสันติภาพที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ด้วยว่า ถ้าจะให้เกิดสันติภาพขึ้นในพื้นที่ คงต้องใช้เวลาอีก 10 ปี เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก จะต้องเรียกหลายฝ่ายมาแก้ปัญหาร่วมกัน มาเจรจากัน ต้องพยายามเจรจา ต้องประนีประนอมกัน
นางสีตีนอร์ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมา การเจรจายังไม่ได้ผล จึงควรปรับเปลี่ยนตัวหรือคณะตัวแทนเจรจาด้วย เพราะชุดเก่าที่ไปเจรจานั้น ไม่มีความน่าเชื่อถือแล้ว ที่สำคัญต้องมีตัวแทนของประชาชนด้วย เพราะย่อมรู้ดีว่าประชาชนต้องการอะไร อีกอย่างสถานการณ์ก็เกิดขึ้นเรื่อยๆ ไม่หยุด และการเจรจาไม่ใช่ไปเจาะจงที่กลุ่มBRN อย่างเดียว
นางสีตีนอร์ กล่าวด้วยว่า ในการเจรจานั้น อยากให้มีการเปิดเผยแพร่ต่อสาธารณะมากกว่าเป็นการเจรจาลับ และบนโต๊ะเจรจานั้น อยากให้มีแกนนำชาวบ้านในพื้นที่ ผู้นำศาสนาและประชาชนมีส่วนร่วมด้วย และเมื่อการเจรจาเสร็จสิ้นลง ก็ให้แถลงให้ประชาชนรับทราบด้วย เพราะที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เคยทราบว่า การเจราเป็นอย่างไร โดยเฉพาะทางฝ่ายรัฐไทยที่ไม่เคยออกมาแถลง มีแต่ฝ่าย BRN เท่านั้นที่ออกมาแถลงข้อเรียกร้องต่อฝ่ายรัฐ
| |
http://narater2010.blogspot.com/
|
วางระเบิดร้านน้ำชาวังโต้ เสียชีวิต 2 รายบาดเจ็บ 5 ราย ที่นาทวี
วางระเบิดร้านน้ำชาวังโต้ เสียชีวิต 2 รายบาดเจ็บ 5 ราย ที่นาทวี | ||||
| ||||
http://narater2010.blogspot.com/
|
วางระเ้บิดรถทหารพราน ทพ.41 เจ็บ 3 ชาวบ้านบาดเจ็บ 3
วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556
วางระเบิดรถ ทหารพราน 41 บาดเจ็บ 3 นาย ประชาชนมุสลิมบาดเจ็บ 3
วางระเบิดรถ ทหารพราน 41 บาดเจ็บ 3 นาย ประชาชนมุสลิมบาดเจ็บ 3 | |
วันนี้ 23 มิ.ย. เวลาประมาณ 06.20 น.เกิดเหตุระเบิดบนถนนสายยะลา – โต๊ะปาแกะ บริเวณเยื้องโรงน้ำแข็งเจริญสิน ทางไปบ้านสวนส้ม หมู่ที่ 7 ต.สะเตงนอก เขตเทศบาลเมืองสะเตงนอก ที่เกิดเหตุพบบริเวณเกาะกลางถนน มีร่องรอยของแรงระเบิด ทำให้ต้นไม้และหญ้า เศษชิ้นส่วนอีเล็กโทรนิคส์กระจัดกระจาย มี หลุมลึกกว้าง 1 x 1.5 และ ห่างกันพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าไฮลักซ์ วีโก้ สีบรอนซ์หมายเลขทะเบียน บต 4944 ปัตตานี จอดอยู่ข้างถนน สภาพรถด้านซ้ายยุบ กระจกหน้า ยางล้อหน้าแตกเสียหาย ส่วนผู้บาดเจ็บทางชุดกู้ภัยมูลนิธิแม่กอเหนี่ยวยะลานำส่ง รพ.ศูนย์ยะลา ทราบชื่อ
|
|
http://narater2010.blogspot.com/
|
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)