หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2556

ความเกี่ยวพันของโรงเรียนปอเนาะกับขบวนการโจรก่อการร้าย

ความเกี่ยวพันของโรงเรียนปอเนาะกับขบวนการโจรก่อการร้าย
http://img80.imageshack.us/img80/3569/pondok03wz1.jpg
รายการ การศึกษาเฉพาะกรณีเรื่อง "ความเกี่ยวพันของโรงเรียนปอเนาะกับขบวนการโจรก่อการร้าย" ที่จัดทำขึ้นโดยหน่วยข่าวกรอง เมื่อเดือนมกราคม 2547 ซึ่งวิเคราะห์ถึงแผน 7 ขั้นตอนอย่างละเอียด
วิเคราะห์เอกสารที่ยึดจากโรงเรียนสัมพันธ์วิทยา 

หน่วย ข่าวกรองได้ดำเนินกรรมวิธีแปลและวิเคราะห์เอกสารที่ จนท.ฉก.ร่วมยึดได้จากบ้านพักเลขที่ 33/1 ม.1 บ.เจาะเกาะ/ลูโบ๊ะแจเกาะ ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส และโต๊ะทำงานที่โรงเรียนสัมพันธ์วิทยา อ.เจาะไอร้อง เมื่อ 1 พ.ค. 46 มีรายการเอกสารที่สำคัญดังนี้

         1.เอกสาร บันทึกโครงสร้างสภาองค์การนำหรือ DPP(กลุ่มโจร BRN Co-ordinate) และโครงสร้างขั้นตอนสู่ความสำเร็จ(แผนการต่อสู้เพื่อแบ่งแยกดินแดน) ระบุสภาพปี พ.ศ.2540(ค.ศ.1997 หรือ ฮ.ศ.1417) จำนวน 1 แผ่น

         2.เอกสาร เกี่ยวกับสภาองค์การนำ(DPP : Dewan Pimpinan Pusat หรือ Dewan Pimpinan Parti) เขียนด้วยลายมือเป็นภาษามลายู อักษรยาวี เป็นแผนผังเกี่ยวกับโครงสร้างขององค์การนำ(DPP) ซึ่งจากฐานข่าวพอที่จะระบุได้ว่าเป็นส่วนของโครงสร้างกลุ่มโจร BRN Co-ordinate หรือ BRN(ดั้งเดิม) ประกอบด้วย ส่วนแรกเป็นสภาองค์กรนำ ส่วนที่สองเป็นประธานสภา/รองประธานสภา และส่วนที่สามเป็นฝ่ายต่างๆ ประกอบด้วย ฝ่ายการต่างประเทศ/การทูต ฝ่ายการทหาร ฝ่ายเยาวชน ฝ่ายเศรษฐกิจ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ/ผู้เชี่ยวชาญทางด้านศาสนา(อูลามา/อูลามอ) และสภาเขต

          3.เอกสาร ขั้นตอนสู่ความสำเร็จ เป็นแผนผังลักษณะขั้นบันได 7 ขั้น ซึ่งมีเนื้อหาเป็นแผนงานต่อสู้เพื่อแบ่งแยกดินแดน(มีลักษณะเป็นข้อความเขียน ด้วยลายมือเป็นภาษามลายู อักษรยาวี และนำมาโรเนียวเพื่อทำสำเนาเอกสารสำหรับแจกจ่าย) และมีบันทึกเพิ่มเติมเขียนด้วยลายมือ คล้ายกับเป็นการอธิบายขยายความ
http://farm8.staticflickr.com/7276/8158391769_769df011be_o.jpg

  • ขั้นที่ 1 สร้างจิตสำนึกมวลชน ได้แก่ อิสลาม(ศาสนา) มลายู(เชื้อชาติ) ปัตตานี(แผ่นดินมาตุภูมิ) การถูกรุกราน/ยึดครอง และการต่อสู้

  • ขั้นที่ 2 จัดตั้งมวลชน ได้แก่ โรงเรียนสอนศาสนา โรงเรียนตาดีกา ปอเนาะ คณะกรรมการ(น่าจะหมายถึงคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด) สหกรณ์/บริษัท/ห้างหุ่นส่วน สมาคม การกีฬา

  • ขั้นที่ 3 จัดตั้งองค์การ(มีบันทึกเขียนเพิ่มเติมว่า "อยู่เบื้องหลัง")

  • ขั้นที่ 4 จัดตั้งกองกำลัง ได้แก่ การโฆษณาชวนเชื่อ/ชักชวนเยาวชนให้เป็นสมาชิกเพื่อปฏิบัติการทางทหารจำนวน 3,000 คน ซึ่งเยาวชนเหล่านี้จะต้องเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญ/ชำนาญการ ผ่านการฝึก และมีจริยธรรม

  • ขั้นที่ 5 สร้างอุดมการณ์ชาตินิยม ผ่านการปฏิบัติการ/การดำเนินการด้านต่างๆ การต่อสู้ ข้าราชการ(น่าจะหมายถึงข้าราชการไทยมุสลิม) และมาเลเซีย(น่าจะหมายถึงประชาชนไทยมุสลิมที่ประกอบอาชีพหรือพำนักอยู่ใน มาเลเซีย)

  • ขั้นที่ 6 เตรียมพร้อม(จุดดอกไม้ไฟแห่งการปฏิวัติ น่าจะมีความหมายเดียวกับคำว่า "วันเสียงปืนแตก")

  • ขั้นที่ 7 จัดตั้งการปฏิวัติ(ก่อการปฏิวัติ) โดยอาศัยพลังของการปฏิวัติ พลังทางการเมือง พลังมวลชน พลังทางเศรษฐกิจ(พึ่งพาตนเอง) และพลังทางการทหาร(กล้าตาย)


       นอกจากนี้ยังมีข้ออื่นๆ ที่เขียนเพิ่มเติมเพื่อขยายความ เช่น การปฏิบัติการแยกเป็น เยาวชนทหาร 3,000 คน เยาวชนคอมมานโด กองกำลังประชาชน/ทหารบ้าน และวิธีการปฏิบัติ เช่น ซ่อนเร้นอำพราง วางระเบิด/ทำลาย เป็นต้น

       พิจารณา จากรูปแบบเอกสารและการบันทึก น่าจะเป็นเอกสารที่ได้มีการแจกจ่ายให้แนวร่วม/เครือข่ายโจรก่อการร้าย สำหรับใช้ประกอบการอบรม/แนะแนวทางการต่อสู้เพื่อแบ่งแยกดินแดน และจากบันทึกสภาพวันเดือนปีที่มีการบันทึก จะเห็นได้ว่า มีการดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2540

       บัญชีรายชื่อ ที่อยู่ของบุคคล(คาดว่าเป็น จนท./สายข่าว) จำนวน 2 แผ่น พิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ดีด ภาษาอังกฤษ และไทย มีรายชื่อบุคคล จำนวน 29 คน (ลำดับ 17-45) ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่า เป็นเอกสารที่ผู้ไม่หวังดีได้นำมาเผยแพร่สู่สาธารณชนโดยการทิ้งแผ่นปลิว เอกสารดังกล่าว ในพื้นที่ จ.นราธิวาส เมื่อประมาณปี 2537 เพื่อหวังผลในการคุกคาม จนท./สายข่าวของไทย

       บัญชีรายชื่อ-ที่อยู่แกนนำของ ส.ส.(สงวนชื่อ) จำนวน 3 แผ่น รวมรายชื่อ 78 คน แบ่งตามพื้นที่ ดังนี้

          1.อะระแงะ 33 คน 
          2.อ.สุคิริน 11 คน 
          3.อ.เจาะไอร้อง 17 คน 
          4.อ.จะแนะ 17 คน


ข้อพิจารณา

1) จากการแปลและวิเคราะห์เอกสารดังกล่าว สามารถชี้ชัดได้ว่านายมะแซ อุเซ็ง เป็นผู้ที่มีอุดมการณ์/พฤติกรรมที่ฝักใฝ่การต่อสู้เพื่อแบ่งแยกดินแดนตามแนว ทางของกลุ่มโจร BRN Co-ordinate โดยน่าเชื่อว่าเป็นแกนนำคนหนึ่งที่ทำงานด้านมวลชน/จัดหาสมาชิก/อยู่เบื้อง หลังการก่อเหตุร้าย 
 https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEghsDT8gpOqWF54lp9Qp22_H7xN7fTLAanrz13ZqB42nsJ_exkl-fY7aTuVcKfuENFx79cEXUiu9NYFOiJAXa1H3sZj5qrE-y8TEjjtAFzfeQqooitujOJ_KIYXN7d6r9t1FFHYZA63xHLs/s1600/Slide2.JPG
โดยอาศัยบทบาท/ตำแหน่ง/หน้าที่ของตนเองในฐานะครูสอนศาสนา(มีลูกศิษย์มากมาย) ประธานชมรมตาดีกาสัมพันธ์วิทยา และเลขานุการของมูลนิธิศูนย์ตาดีกานราธิวาส(PUSAKA) เอื้อประโยชน์ต่อการดำเนินงานใต้ดิน และอาศัยความสัมพันธ์กับนักการเมือง เป็นเกราะกำบัง/อำพรางสถานะของตนเอง


2) จากเอกสารตามข้อ 1 เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงสถานภาพของกลุ่มโจร BRN Co-ordinate ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดีว่า โจรกลุ่มนี้ยังมีการเคลื่อนไหวและดำเนินงานด้านการเมืองมาอย่างเงียบๆ และต่อเนื่อง สามารถสร้างเครือข่ายมวลชนกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ใน 3 จชต. ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้สถาบันปอเนาะ มูลนิธิ ชมรม หรือองค์กรด้านศาสนาเป็นศูนย์กลางในการสร้างเครือข่ายการดำเนินงานด้านการ เมือง / ปลูกฝังแนวความคิดให้กับเยาวชนกรณีของ นายมะแซ มีพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกับนายอับดุลกอเดร์ สาหะ ครูสอนศาสนา ร.ร.บ้านใหม่วิทยา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งถูกจับกุมเมื่อ 3 พ.ย. 45 เชื่อว่ายังมีบุคคลที่มีพฤติกรรมเช่นเดียวกันนี้ อำพรางตัว/แฝงตัวในคราบโต๊ะครู/ครูสอนศาสนาอยู่อีกเป็นจำนวนมาก


วิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ 3 ประการ (ชาติ ศาสนา มาตุภูมิ) 

  • 1.การกรรโชกทรัพย์(อ้างว่าผู้ประกอบกิจการต่างๆ อาศัยมาตุภูมิในรัฐปัตตานี เพราะฉะนั้นจึงต้องจ่ายเงินค่าคุ้มครอง)
  • 2.การ เผา/ทำลายป้ายชื่อหมู่บ้าน/ขโมยป้ายที่เป็นภาษาไทย ผู้มีอุดมการณ์มีความมุ่งหมายเพื่อให้รัฐบาลเปลี่ยนป้ายชื่อเป็นภาษามลายู และมีเป้าหมายเพื่อจะถ่ายภาพนำไปประกอบการเรียกร้องในองค์กรมุสลิมโลก และสหประชาชาติ ในการเรียกร้องเพื่อรัฐปัตตานี
  • 3.การ เรียกร้องให้เปลี่ยนสัญชาติและเชื้อชาติในบัตรประจำตัวประชาชนโดยขอเปลี่ยน จากเชื้อชาติไทย สัญชาติไทย เป็นเชื้อชาติมลายู สัญชาติปัตตานี
  • 4.การโฆษณาชวนเชื่อ ปลุกระดมบิดเบือนประวัติศาสตร์ และ ปลุก กระแสรัฐลังกาสุกะ(ปัตตานีในอดีต) โดยปัจจุบันปรากฏการณ์จัดตั้งป้ายชื่อร้านมุสลิม ใช้ชื่อลังกาสุกะและสติกเกอร์ปิดรถยนต์จำนวนมาก (ล่าสุด พ.ศ.กลางปี2548 มีการเคลื่อนไหวโดยการเชิญสื่อมวลชนหลายแขนงเยี่ยมชม พิธีเปิดคลีนิคทันตกรรมที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “คลีนิคทันตกรรมแห่งลังกาสุกะ” เพื่อใช้สื่อมวลชนไทยเป็นเครื่องมือปลุกกระแสรัฐลังกาสุกะ) และ ยัง รวมทั้งการสอนประวัติศาสตร์ปัตตานีในลักษระบิดเบือนภายในโรงเรียนเอกชนสอน ศาสนาอิสลาม หรือโรงเรียนปอเนาะ เพื่อให้เยาวชนมุสลิมมีความเกลียดชังชาวไทยพุทธ
  • 5.การเผาโรงเรียนของรัฐบาล ความมุ่งหมายเพื่อไม่ต้องการให้เยาวชนมุสลิมเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนดังกล่าว แต่มีเป้าหมายให้เข้าเรียนในโรงเรียนปอเนาะ
  • 6.เมื่อ ใดก็ตามที่ จนท.ของรัฐ หรือชาวไทยพุทธ เข้าไปแตะต้องสิ่งดังกล่าวคือ ชาติ ศาสนา มาตุภูมิ รวมทั้งประเพณี วัฒนธรรมแล้ว กลุ่มโจร รวมทั้งแนวร่วมจะมีการตอบโต้อย่างรุนแรงทุกครั้ง เช่น
  • -การสังหาร จนท./ผู้นำท้องถิ่นมุสลิมที่ทรยศต่อขบวนการ หรือ องค์กรการต่อสู้ปัตตานี
  • -การลอบวางระเบิดสถานที่ราชการ(อ.ส.ม.ท.ยะลา) เมื่อปี 39 เนื่องจากผู้จัดรายการได้พูดจาในลักษณะดูหมิ่นกลุ่มโจรและแนวร่วม
  • -การเผาโรงเรียนและสถานที่ราชการที่ต่อต้านการแต่งกายแบบฮีญาบของสตรีมุสลิม
  • -การชุมนุมเรียกร้องสิทธิต่างๆ
  • -การทำลายวัด และสิ่งศักดิ์ของชาวพุทธและชาวจีน กรณี เช่นเมื่อ 21 ต.ต.45 ชาวไทยพุทธในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้จัดงานเทศกาลงานชักพระ(ประเพณีชาวปักษ์ใต้ในเดือน 11) ขณะที่ขบวนแห่พระพุทธรูปและพระสงฆ์ แห่ผ่าน โรงเรียนอาซิสถาน(ปอเนาะอาซิสถาน) ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี กลุ่มโต๊ะครูและนักเรียนปอเนาะโรงเรียนดังกล่าว ได้ใช้ก้อนหินขว้างปาพระพุทธรูปและพระสงฆ์ จนทำให้เกือบเกิดการจลาจลขึ้น

http://narater2010.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น