หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2556

หรือว่าคุณลืมเธอกันแล้ว

จูหลิง ปงกันมูล คุณลืมเธอแล้วหรือยัง ?
        ไม่มีใครคาดคิดว่าการใช้ศาลเตี้ยจับครูสาวชาวไทยพุทธ 2 คน เป็นตัวประกันเพื่อต่อรองให้รัฐปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยฆ่านาวิกโยธินเสียชีวิต จะบานปลายถึงขั้นลงมือทุบตีครูจนได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างไม่มีเมตตาธรรม แม้จะร้องขอชีวิตจากกลุ่มชาวบ้านนับร้อยคนที่กำลังละหมาดอยู่ในมัสยิดกลับ ไม่มีใครสนใจทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 
 
       ไม่มีใครคาดคิดว่ายุทธการปิดล้อมของกองกำลังสามฝ่ายคือ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ที่เข้าปฏิบัติการปิดล้อมหมู่บ้านกูจิงลือปะ หมู่ 4 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงเช้าตรู่วันที่ 19 พฤษภาคม เพื่อจับผู้ต้องหาฆ่า 2 นาวิกโยธิน จะส่งผลทำให้ครูสาวไทยพุทธ 2 คน ตกเป็นผู้รับเคราะห์แทน ด้วยฝีมือการเปิดม็อบของนางการีมะ มะสาและ ภรรยาผู้ต้องหาเพื่อต่อรองให้ปล่อยสามี 
 
http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/191/29191/images/eieccebcggd6k5jcijbki.jpg

       “ฉันคุยกับครูจูหลิง ว่าพวกเราผิดที่เกิดมาเป็นครูไทยพุทธ ถึงถูกทำร้ายเหมือนไม่ใช่มนุษย์ ผู้ชายมุสลิมนับร้อยคนที่ละหมาดยังไม่มีน้ำใจจะช่วยผู้หญิงที่ถูกรังแกอย่าง หมดทางสู้” 
 
http://wbns.oas.psu.ac.th/files/123456.gifน.ส.ศิรินาถ ถาวรสุข ครูอัตราจ้างโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ เล่านาทีระทึกว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณเที่ยงเธอและเพื่อนครูคนอื่นๆ นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อไปรับประทานอาหารที่ร้านก๋วยเตี๋ยวไม่มีชื่อ หน้าโรงเรียน ขณะกำลังรับประทานอาหารก็สังเกตเห็นว่ามีชาวบ้านซึ่งเป็นผู้หญิงแทบทั้งหมด รวมประมาณ 50 คน ออกมารวมตัวกัน ห่างจากกลุ่มครูไปประมาณ 40 เมตร

        ในขณะนั้นไม่มีใครสนใจอะไร เพราะเข้าใจว่าชาวบ้านคงมารวมตัวเพื่อละหมาดตามปกติวันศุกร์ และมาทราบที่หลังว่าการรวมตัวของชาวบ้านเกิดจากทหารเข้าไปจับชาวบ้านผู้ต้อง สงสัยคดีความมั่นคง

       กระทั่งกินก๋วยเตี๋ยวใกล้หมดชาม เพื่อนครูที่มาด้วยกัน บอกว่า ชาวบ้านพูดเป็นภาษามลายูผ่านเสียงตามสายของมัสยิดว่าให้มาร่วมตัวกันและจะ จับครูไทยพุทธเป็นตัวประกันเพื่อแลกกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัว ระหว่างนั้นเพื่อนครูได้นำผ้าคลุมศีรษะมาให้สวมเพื่อพรางตัว แต่ก็ไม่ทันเพราะเป็นจังหวะเดียวกันกับกลุ่มชาวบ้านหญิงเดินเข้ามาที่ร้าน พร้อมทั้งกระชากผ้าคลุมศีรษะออก และได้จับแขนลากออกไปนอกร้านทันที

       น.ส.ศิรินาถ บอกอีกว่า ระหว่างที่ถูกลากตัวไปนั้นบังเอิญเธอสะดุดล้มเพื่อนครูมุสลิมที่นั่งด้วยกัน ได้ออกมาช่วยขอร้องกลุ่มชาวบ้านผู้หญิงว่า อย่าทำรุนแรงค่อยพูดค่อยจากันก็ได้ ทำให้กลุ่มชาวบ้านไม่พอใจผลักเพื่อนครูมุสลิมจนล้มไปอีกคน

        ในขณะที่ตัวเธอถูกลากและตบตีด้วยมือจากผู้หญิงจำนวนมากเพื่อนำตัวขึ้นไปบน อาคารเรียนชั้น 2 เมื่อพบกับ น.ส.จูหลิง ปงกันมูล ผู้ช่วยครูซึ่งกำลังป่วยเป็นโรคกระเพาะ แต่กลุ่มชาวบ้านผู้หญิงก็ไม่สนใจยังลากครูจูหลิง ลงมาชั้นล่างพร้อมกับเธอ

        น.ส.ศิรินาถ เล่าเหตุการณ์อีกว่า ขณะที่ถูกลากตัวไปนั้นชาวบ้านก็ลงมือทุบตีเราทั้งคู่ตลอดระยะทางไปมัสยิด ประจำหมู่บ้าน ที่มีชาวบ้านกว่า 100 คนกำลังละหมาดอยู่ เราได้ร้องขอความช่วยเหลือ แต่ชาวบ้านก็ยังคงก้มหน้าก้มตาละหมาดต่อไปตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

       หลังจากนั้นก็นำตัวเธอและครูจูหลิง มากักขังไว้ที่ห้องเก็บของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 400 เมตร ในเวลาเดียวกันกลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้ามาล็อกกุญแจขังเธอและครูจูหลิงเอาไว้

       สภาพจิตใจตอนนั้นย่ำแย่เพราะกลัวมาก ภายในห้องมืดมากไม่เห็นอะไรเลย ทำได้อย่างเดียวคือการปลอบใจซึ่งกัน

      เธอเล่าต่ออีกว่า เมื่อถูกขังประมาณ 5 นาที มีเพื่อนครูมุสลิมเข้ามางัดหน้าต่างดู แต่ชาวบ้านผู้หญิงที่คุมอยู่บอกว่าให้คุยกันได้แค่ 2 นาที เพื่อนครูคนหนึ่งถามเราว่าเป็นอย่างไรบ้าง เราตอบแต่เพียงว่าให้ช่วยชีวิตด้วย

      เวลาผ่านไป 5 นาที ก็มีชายวัยรุ่นประมาณ 10 คนงัดประตูเข้ามาในห้องโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ทั้งหมดใช้ไม้ที่ถือมาด้วยกระหน่ำตีเราทั้งคู่จนสะบักสะบอม ด้วยความเจ็บปวดครูจูหลิงจึงขัดขืนต่อสู้ จนถูกตีเข้าที่ศีรษะและตามลำตัวอย่างไม่ยั้งมือจนแขนหัก ที่ศีรษะมีเลือดอาบโชกไปหมด นอนหมดสติ ส่วนเธอเองถูกชายคนหนึ่งกระทืบจนล้มลงนอนงอตัวกองกับพื้น ด้วยความกลัวจึงคลานเข้าไปใต้เตียงเก่าภายในห้อง แต่ก็ถูกกลุ่มชายวัยรุ่นลากตัวออกมาตีซ้ำอีก

      ขณะที่ครูจูหลิงนอนสลบอยู่นั้น วัยรุ่นคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นว่า ต้องการจะจับครูเป็นตัวประกันเพื่อให้ปล่อยตัวชาวบ้านที่เจ้าหน้าที่จับกุม ไปก่อนหน้านี้ เธอเองก็บอกว่าจะช่วยเจรจากับเจ้าหน้าที่ให้ แต่กลุ่มวัยรุ่นก็ไม่ฟังเสียง ยังคงรุมตีพวกเธอต่อ ก่อนจะแยกย้ายกันวิ่งออกไปจากห้อง

       "ฉันจับมือครูจูหลิงเพื่อปลอบ เห็นมือครูจูหลิงแสดงอาการตอบรับในขณะที่ศีรษะนั้นมีเลือดไหลออกมาเป็นลิ่มๆ ฉันจึงเอาศีรษะของครูจูหลิงมาแนบกับอกพร้อมกับพูดว่า หากผ่านวันนี้ไปอย่าลืมเหตุการณ์นี้ จงทำใจดี ๆ ไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ถึงพรุ่งนี้หรือเปล่า" น.ศ.ศิรินาถ เล่าด้วยนำเสียงสั่นเครือ

        นายมะดารี บาเยาะกาเซะ อายุ 47 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านกูจิงลือปะ อ.ระแงะ บอกว่า หลังทราบเรื่องได้แจ้งไปทางนายอำเภอและปลัดจังหวัด แต่ไม่มีใครมา มอบหมายให้ตนและนายอารงค์ ยูโซะ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเจรจาแทน แต่ตนก็ได้เจรจานานถึง 2 ชั่วโมง ขณะที่เจรจายังไม่รู้ว่าครูถูกทำร้ายจนกระทั่งได้ยินเสียงครูร้องขอความช่วย เหลือจึงได้นำกำลังชุด ชรบ.เข้าไปช่วยเหลือ

       เขาบอกอีกว่า ขณะเข้าไปเห็นคนร้ายประมาณ 5 คนสวมไหมพรมคลุมหน้าตาวิ่งสวนออกมา จึงได้รีบเข้าไปช่วยและนำครูทั้งสองคนส่งโรงพยาบาลทันที จนกระทั่งทหารและตำรวจเข้ามาในพื้นที่ชาวบ้านจึงสลายตัวไป ส่วนคนร้ายตนไม่มั่นใจว่าเป็นคนในหมู่บ้านหรือไม่ 
  

โฉมหน้าโจรใต้ ที่ฆ่าครูจูหลิง

โจรใต้      
ดือราพา เจ๊ะอูมา

 
        ปะทะเดือดกลางสวนทุเรียน จนท.เด็ดหัวแนวร่วมอาร์เคเค.ขณะบุกปิดล้อมแต่ถูกยิงถล่มปะทะเดือด พบประวัติสุดโชกโชน ส่วนกำลังทหาร-ตำรวจโรงพักระแงะล็อก 2 แกนนำป่วนใต้ มือปืนยิง จนท.รถไฟดับคาโบกี้ 4 ศพ- ฆ่าโหดครูจูหลิง ขณะแอบกบดานอยู่ในพื้นที่ โจรใต้ยังแสบวางระเบิด 2 ลูกซ้อนทหารชุดลาดตระเวนโชคดีไร้คนเจ็บ ด้านผู้การยะลาสั่งลูกน้องเตรียมรับมือ หลังรู้ข่าวกลุ่มคนร้ายจะบุกจู่โจม

        เมื่อ เวลา 06.00 น. วันที่ 28 ก.ค. พ.ท.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.ฉก.นราธิวาส 38 พ.ต.อ.นิตินัย หลังยาหน่าย ผกก.สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส นายประคอง คงแก้ว นายอำเภอระแงะ สนธิกำลัง 150 นาย ใช้กฎอัยการศึกเข้าปิด ล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหมู่บ้านบาตูบือซา หมู่ 6 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ หลังสืบทราบว่ามีกลุ่มสมาชิกแนวร่วมระดับปฏิบัติการแฝงตัวแอบกบดานอยู่ใน พื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันปิดล้อมตรวจค้นแบบปูพรมเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง

        เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นาย ดือราพา เจ๊ะอูมา อยู่บ้านเลขที่ 104/2 หมู่ 4 บ้านกูจิงรือปะ ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล จ.นราธิวาส ก่อเหตุร่วมกับพวกใช้อาวุธปืนสง ครามอาก้าบุกยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานรถไฟเสียชีวิต 4 ศพ บาดเจ็บสาหัส 1 ราย บนขบวนรถไฟที่ 454 วิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก-นครศรีธรรมราช และร่วมกับพวกสังหาร น.ส.จูหลิง ปงกันมูล เมื่อปลายเดือน ธ.ค. 49 ที่ผ่านมา

นอก จากนี้ยังจับกุม นายรูซี บือซา ผู้ต้องหาตามหมายจับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในคดียิงชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เสียชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปทำการสอบสวนที่ฐานปฏิบัติการชุดเฉพาะกิจ นราธิวาส 38 เพื่อขยายผลตามขั้นตอนต่อไป
โจรใต้

         ต่อมากำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง จำนวนกว่า 70 นาย ได้นำเครื่องสูบน้ำไปทำการสูบบ่อปลาร้าง จำนวน 2 บ่อ ซึ่งมีขนาดกว้าง 10 เมตร ยาว 20 เมตร และลึก 3 เมตร บริเวณหลังโรงเรียนปอเนาะยือนือเร๊ะ หมู่ 1 ต.เฉลิม อ.ระแงะ ภายหลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า มีกองกำลังติดอาวุธนำ อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานรถไฟเสียชีวิตคาโบกี้ ของขบวนรถสาย สุไหงโก-ลก-นครศรีธรรมราช มาทิ้ง ซึ่งจากการ ตรวจสอบพบกระเป๋าคาดเอวสีดำ จำนวน 1 ใบ เมื่อเปิดตรวจสอบภายในมีอาวุธปืนพกสั้นขนาด .357 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวน 23 นัด เครื่องรางของขลัง และอุปกรณ์อาบน้ำจำนวนหนึ่ง จึงทำการยึดไว้เพื่อนำไปตรวจสอบทางหลักนิติวิทยาศาสตร์ เบื้องต้นคาดว่าเป็นอาวุธปืนกระบอกเดียวกับที่ใช้ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานรถไฟเสียชีวิต รวมทั้งนำไปเปรียบเทียบกับคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป ว่าคนร้ายนำไปใช้ก่อเหตุที่ใดบ้าง

        ห่างกันเพียง 1 ชั่วโมง พ.ต.ต.เรืองศักดิ์ บัวแดง สารวัตรเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารชุด ลาดตระเวนเส้นทาง สังกัดร้อย ร.3122 ฉก.นราธิวาส 30 บนถนนในหมู่บ้านลาโละ หมู่ 5 ต.ลาโละ อ.รือเสาะ จึงรีบประสานกำลังเดินทางไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ วังสุภา ผกก.สภ.รือเสาะ พ.ท.ทรงพล ศาสตร์ เสาร์เงิน ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดชุดเหยี่ยวดง รวมทั้งเจ้าหน้าที่กองวิทยาการ จ.นราธิวาส เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบหลุมระเบิดบริเวณ โคนเสาป้ายบอกเส้นทาง ลึก 6 นิ้ว กว้าง 20 นิ้ว โดยมีเศษชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 10 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุอยู่นั้น ได้ตรวจสอบพบวัตถุระเบิดแสวง เครื่องแบบเคโม อีก 1 ลูก ซึ่งคนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 10 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ซุกซ่อนอยู่ริมถนนฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการเก็บกู้เอาไว้ได้ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน คือ นายลาดีละห์ เจ๊ะซอ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/1 หมู่ 9 ต.ลาโละ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ามีสารปนเปื้อนวัตถุระเบิดตาม ร่างกาย เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไปทำการสอบสวนขยายผลในเบื้องต้นที่ฐานปฏิบัติการ ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดสวนธรรม อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส

        จาก การสอบสวน จ.ส.อ.ชาติชาย แสวงวิเศษ หัวหน้าชุด ร้อย ร.3122 ฉก.นราธิวาส 30 ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้นำกำลัง 5 นาย เดินเท้าออกจากฐานซึ่งตั้งอยู่ ต.ลาโละ เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางให้กับชุด รปภ. ครู เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายซึ่งแฝงตัวอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดที่แอบวางไว้ใต้โคนเสาป้าย บอกเส้นทาง แต่ระเบิดทำงานไม่ครบวงจร จึงทำให้ไม่มีผู้ใดเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องมาทำการตรวจสอบและพิสูจน์ทราบ จนกระทั่งพบวัตถุระเบิดอีก 1 ลูก ที่คนร้ายวางไว้ฝั่งตรงข้ามถนน และสามารถเก็บกู้เอาไว้ได้ดังกล่าว

       จากนั้นเวลา 09.10 น. พ.ต.อ.จรัญ ทองสุข ผกก.สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พ.ท.รุ่งโรจน์ อนันตโท ผบ.ฉก.นราธิวาส 31 ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เจาะไอร้อง กว่า 100 นาย หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายข่าวในพื้นที่ว่า พบกลุ่มต้องสงสัยคาดเป็นกลุ่มผู้ไม่หวังดีไม่น้อยกว่า 3 คน เคลื่อนไหวบริเวณกระท่อมในสวนยางหลังหมู่บ้านกือรง หมู่ 3 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง โดยเมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ไปถึงได้กระจายกำลังเพื่อโอบล้อมแต่คนร้ายไหวตัว ทัน เปิดฉากยิงถล่มกลุ่มเจ้าหน้าที่ จนเกิดการปะทะกันนานกว่า 10 นาที เมื่อสิ้นเสียงปืน พบศพนายยามิง มูดอ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลข ที่ 69/2 บ้านลูโบะลาเซาะ หมู่ 1 ต.ร่มไทร อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ถูกยิงเสียชีวิต นอนจมกองเลือดอยู่บริเวณสวนทุเรียน ห่างจากกระท่อมประมาณ 200 เมตร โดยข้างศพพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 มม. ตกอยู่ 1 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวนหนึ่ง จากการตรวจสอบประวัติทราบว่านายยามิงเป็นสมาชิกขบวนการ อาร์เคเค ระดับ ปฏิบัติการ มีประวัติโชกโชน ส่วนคนร้าย ที่เหลือเจ้าหน้าที่ได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วกว่า 60 นาย พร้อมสุนัขดมกลิ่นจำนวน 2 ตัว ออกไล่ล่าและประสานไปยังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองที่อยู่ในเขตพื้นที่รอยต่อเพื่อสกัดกั้นเส้นทางในส่วนคนร้ายที่เหลือต่อไปแล้ว

        ด้าน พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสแสน ผบก.ภ.จว.ยะลา ได้วิทยุด่วนถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สภ.ในพื้นที่ จ.ยะลา เพื่อแจ้งเตือนให้เพิ่มความระมัดระวัง และพร้อมตอบโต้อย่างเด็ดขาด หลังมีข่าวว่ากลุ่มก่อความไม่สงบจะใช้รถยนต์ รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะเข้าจู่โจมเจ้าหน้าที่ที่ประจำตู้ยาม จุดตรวจ และจุดสกัด เช่นเดียวกับที่ได้ปฏิบัติที่ สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี

        ส่วนที่วัดปงสนุก ต.ปงน้อย อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย นางคำมี ปงกันมูล มารดา ครูจูหลิง พร้อมด้วยชาวบ้านได้พากันมาทำบุญถวายสังฆทาน เทียนพรรษา ผ้าอาบน้ำฝนแด่พระสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับครูจูหลิง หลังจากชาวบ้านทราบข่าวว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุสังหารโหดครูจูหลิงได้ ทั้งนี้นางคำมีกล่าวว่า เชื่อว่าวิญญาณลูกสาวคงจะรับรู้ว่ามีการจับกุมคนร้ายได้แล้วและคงจะสบายใจ และจะได้ไปสู่สุคติ อย่างไรก็ตามตนมองว่า เป็นเรื่องของเวรกรรม ที่คนทำผิดย่อมหนีไม่พ้น

        ขณะเดียวกันนาวาเอกเทอดเกียรติ จิตต์แก้ว รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นายอนุสรณ์ นรเอี่ยม อายุ 54 ปี นางเล็ก นรเอี่ยม อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 172/3 หมู่ที่ 13 ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ได้ร่วมกันประกอบพิธีลอยอังคาร เรือตรีอาภรณ์ นรเอี่ยม บริเวณหน้าเกาะยอ อ่าวสัตหีบ โดยมีเพื่อนทหารและข้าราชการทุกหมู่เหล่าเข้าร่วม.
 
 
http://narater2010.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น