วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เหตุนาประดู่-เบตง-สายบุรี ผกร.มุ่งทำลายความเชื่อมั่นยกระดับสู่เวทีสากล

แบมะ ฟาตอนี

             สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนรอมฎอน หรือเดือนแห่งการถือศีลอดของพี่น้องมุสลิม ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของหลายฝ่าย แต่ไม่สามารถหยุดยั้งการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ เบื้องลึกผู้ทำการก่อเหตุได้รับใบสั่งจากแกนนำระดับสั่งการให้มุ่งทำการก่อเหตุเพื่อทำลายเป้าหมายอ่อนแอ เด็กและสตรีเพื่อยกระดับปัญหาสู่เวทีสากล
เหตุคาร์บอมบ์นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี



             เมื่อวันพุธที่ 23 ก.ค.57 เวลา 16.40 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ซุกไว้ในรถกระบะ (คาร์บอมบ์) ซึ่งจอดไว้ใกล้กับบ่อนไก่ชน ซึ่งเป็นของนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ ตั้งอยู่ในท้องที่บ้านห้วยเปรียะ หมู่ 3 ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 2ราย คือ นางกฤษณา ขวัญเพชร อายุ 39 ปี และนางพินอม แซ่สิม อายุ74 ปี และได้รับบาดเจ็บ 8 ราย รวม ด.ญ.เยาวดี ขวัญเพชร อายุ 12 ปี

เหตุคาร์บอมบ์หน้าโรงแรมฮอลิเดย์ฮิลล์ อ.เบตง จ.ยะลา



          เย็นวันศุกร์ที่ 25 ก.ค.57 เกิดเหตุคาร์บอมบ์หน้าโรงแรมฮอลิเดย์ฮิลล์ กลางเมืองเบตง จ.ยะลา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย บาดเจ็บเกือบ 40 คน ได้สร้างความตื่นตระหนกของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เหตุการณ์ในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย คือ 
  • น.ส.เพ็ญนภา ตุ่นห่อ อายุ 23 ปี 
  • นายเดโช ดารีเยาะ อายุ 29 ปี 
           ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายสิบคน มีทั้งเด็ก สตรี และคนชรา ในส่วนของเด็กที่บาดเจ็บ และได้รับผลกระทบด้านจิตใจนำไปสู่ฝันร้ายชั่วชีวิตที่โดนกระทำจากกลุ่มผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ จำนวน 2 ราย คือ ด.ญ.อัสมะ ดูบี และ ด.ญ.บัสริส ดูบี



เหตุลอบวางระเบิด อ.สายบุรี จ.ปัตตานี



           เมื่อเวลา 21.15 น. วันที่ 27 ก.ค.57 กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ลอบวางระเบิดเพื่อสังหารเจ้าหน้าที่ทหารพรานในพื้นที่หมู่ 5ต.กะดุนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานร้อย.ทพ.4413 ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 นาย ส่วนประชาชนได้รับบาดเจ็บ 4 คน รายชื่อดังนี้

เจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ
  • 1. ส.อ.พิทักษ์ บุญช่วย
  • 2. อส.ทพ.ไซ บุญทิสา
ส่วนชาวบ้านและเด็กที่เสียชีวิต
  • 1. ด.ญ.อิติมา สะเจะ อายุ 10 ขวบ (เสียชีวิต)
  • 2. นางรุสนารี กามา อายุ 34 ปี (บาดเจ็บ)
  • 3. ด.ญ.นูฟาราช์ มะแซ อายุ 7 ขวบ (บาดเจ็บ)
  • 4. ด.ญ.ไนฟา มะแซ อายุ 18 เดือน (บาดเจ็บ)
กลุ่มขบวนการยังคงมุ่งก่อเหตุร้ายเดือนรอมฎอน 

          จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 3 เหตุ ในระยะเวลาไล่เลี่ยกันของวันที่ 23, 25 และ 27 ก.ค.57 พื้นที่เกิดเหตุนาประดู่-เบตง-สายบุรี ต่างแค่เวลาและผู้ได้รับผลกระทบ แต่ผู้ลงมือทำการก่อเหตุยังคงเป็นกลุ่มเดิมที่เดินสายสร้างสถานการณ์ โดยได้รับใบสั่งจากแกนนำระดับสั่งการ เพื่อมุ่งทำลายความเชื่อมั่น ทำลายระบบเศรษฐกิจของการค้าการลงทุน อีกทั้งทำลายความเชื่อถือของประชาชนที่มีต่อเจ้าหน้าที่รัฐในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

            จะเห็นได้ว่าความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่ผ่านมาและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ที่เกิดในเดือนรอมฎอน กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมุ่งหมายหมายเอาชีวิตต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นหลัก โดยพุ่งเป้าไปยังเป้าหมายเด็กและผู้หญิงเป็นหลัก

           เป้าหมายผู้ก่อเหตุรุนแรงต้องการลดความน่าเชื่อถือ เพื่อนำปัญหาความขัดแย้งไปสู่เวทีสากล
ระดับแกนนำสั่งการต้องการอะไรจึงได้หันมาเล่นงานประชาชน ต้องการยกระดับปัญหาเพื่อนำไปสู่เวทีสากลใช่หรือไม่?..มุ่งทำลายล้างชีวิตเด็กและผู้หญิงให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวสาร พาดหัวข่าวใหญ่โตให้เป็นที่สนใจของผู้คนทั้งประเทศ และต้องการสื่อไปยังต่างประเทศ โดยไม่สนใจใยดีต่อการกระทำที่ขาดความยั้งคิด ไม่มีศีลธรรม รับผิดชอบชั่วดี ไม่เกรงกลัวต่อบาปที่ได้กระทำลงไปต่อพี่น้องปาตานีด้วยกัน เพียงมุ่งหวังให้เป็นที่สนใจขององค์กรระหว่างประเทศ

            การก่อเหตุของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง หากพิจารณาอย่างถ่องแท้แล้วมีการเตรียมการวางแผนอย่างรัดกุมหากไม่ได้เปรียบจะไม่ลงมือปฏิบัติการโดยเด็ดขาด กลุ่มผู้ก่อเหตุต้องการอะไรหรือ? นอกจากยกระดับปัญหาไปสู่เวทีสากลแล้ว ยังส่งผลลบต่อประชาชนในด้านสังคมจิตวิทยาที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เนื่องจากการแสดงศักยภาพในการใช้กำลังในการก่อเหตุ ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยหน่วยงานความมั่นคงไม่สามารถคุ้มครองความปลอดภัยได้ ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นต่อเจ้าหน้าที่รัฐไม่กล้าให้ความร่วมมือ เป็นไปตามแผนที่ต้องการแย่งชิงมวลชน

ผู้ก่อเหตุรุนแรงมุ่งทำลายระบบเศรษฐกิจ


            การลงมือก่อเหตุที่ อำเภอเบตง ทุกคนต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีโอกาสเกิดขึ้นสภาพโดยทั่วไปของอำเภอเบตง มีประชากร 56,471 คน ประกอบด้วยคนไทยหลากหลายเชื้อชาติ อยู่ร่วมกันอย่างพหุวัฒนธรรม เป็นคนไทยมลายูมุสลิมเกือบร้อยละ 50 คนไทยเชื้อสายจีน (เช่น ฮกเกี้ยน แต้จิ๋ว จีนแคะ กวางไส) ร้อยละ 30 และคนไทยพุทธราวร้อยละ 20 อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข เกิดการผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมที่หลากหลายได้อย่างลงตัว

            ความชะล่าใจที่ต่างคิดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุไม่กล้าที่จะลงมือทำลายเมืองเศรษฐกิจ วันนี้เห็นได้แล้วว่าตราบใดที่ขบวนการโจรใต้เหล่านี้ยังเคลื่อนไหวอยู่มีแต่สร้างความเดือดร้อนมุ่งทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า ทำลายระบบเศรษฐกิจ ทำลายวิถีชีวิตการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ก่อนหน้านี้ สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจ ก็โดนเช่นเดียวกับอำเภอเบตงในวันนี้ แล้วเราจะให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่มีทีท่าจะสงบลงสักทีหรือ? อย่าให้วัวหายแล้วล้อมคอก ค่อยคิดแก้ปัญหา ถึงเวลาแล้วที่ประชาชน องค์กรทุกภาคส่วนหาวิธี หาทางออกของปัญหาร่วมกัน เพื่อยุติปัญหาความขัดแย้ง ไม่เอาความรุนแรงทุกรูปแบบ หากเป็นเช่นนั้นจริงขบวนการโจรใต้เหล่านี้ขาดท่อน้ำเลี้ยง ขาดแรงสนับสนุนค่อยๆ เหี่ยวเฉาอ่อนแรงไปเอง เมื่อนั้นความผาสุกจะกลับคืนมา ณ ดินแดนด้ามขวานทองแห่งนี้

***********************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม