วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557

ผกร.ระเบิดรางรถไฟ ใคร? เดือดร้อน


ผกร.ระเบิดรางรถไฟ ใคร? เดือดร้อน
แบมะ ฟาตอนี

            เมื่อวันที่ 12 กันยายน 57 เวลาประมาณ 06.25 น. ได้เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายระเบิดเส้นทางรถไฟ ก่อนถึงสะพานคลองไอแดง ประมาณ 50 เมตร ในพื้นที่ ม.7 บ.ตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้รางรถไฟได้รับความเสียหายไม่สามารถใช้การได้ในการก่อเหตุครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตแต่อย่างใด 

              จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พบว่าลักษณะของระเบิดเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุอยู่ในถังแก๊สหุงต้มสีส้ม ขนาด 25 กก. จุดชนวนระเบิดด้วยวิทยุสื่อสาร สะเก็ดระเบิดเป็นเหล็กเส้นตัดท่อน ขนาด 3 หุน ความยาวประมาณ 2 – 3 ซม. แรงระเบิดทำให้รางรถไฟได้รับความเสียหาย ซีเมนต์ที่ใช้เป็นหมอนรองรางรถไฟ ได้รับความเสียหายจำนวน 4 หมอน ไม่สามารถใช้งานได้ และ แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมกว้างประมาณ 1.2 เมตรลึกประมาณ 90 ซม. ห่างจากสะพานคลองไอแดง ประมาณ 48 เมตร เจ้าหน้าที่รถไฟ แขวงบำรุงทางตันหยงมัส ได้เปิดเผยว่าอาจใช้เวลาในการซ่อมแซมประมาณ 1 สัปดาห์ จึงจะสามารถใช้การได้ตามปกติ

         ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้จำนวน 4 คน ดังนี้


1. นายต่วนปา ต่วนสุหลง อายุ 29 ปี ที่อยู่ 61 ม.7 บ.ตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส


2. นายต่วนซูไฮมี ลอเซง อายุ 20 ปี ที่อยู่ 45 ม.7 บ.ตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส

          สองรายแรกชาวบ้านแจ้งว่าเป็นคนดูต้นทาง บุคคลสองคนนี้ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีพฤติกรรมขับขี่รถจักรยานยนต์มาซุ่มดูการปฏิบัติของ เจ้าหน้าที่ที่ลาดตระเวนเส้นทางรถไฟตั้งแต่ตอนเช้าซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยปฏิบัติแต่อย่างใด อีกทั้งนายต่วนปาฯ เป็นน้องชายของ นายตูแวรอมะยี ต่วนสุหลง ซึ่งเสียชีวิตจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 56 ที่ผ่านมา


3.นายอารซู ดะเซะ อายุ 27 ปีที่อยู่ 41/1 ม.7 บ.ตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส


4.นายมูฮำหมัด ดือราเซะ อายุ 47 ปี ที่อยู่ 42 ม.7 บ.ตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะจ.นราธิวาส

           บุคคลที่ 3 และ 4 ชุดติดตามจับกุมตรวจพบเสื้อยืดสีขาว กางเกงวอร์มสีดำ ซึ่งตรงกับลักษณะเสื้อผ้าของบุคคลต้องสงสัยในการจุดระเบิดที่สวมใส่ตามที่ชาวบ้านแจ้ง ซึ่งชุดดังกล่าวถูกถอดทิ้งไว้ในบ้านพร้อมทั้งวิทยุสื่อสาร

         เจ้าหน้าที่จึงอาศัยอำนาจตาม พรบ.กฎอัยการศึกควบคุมตัวบุคคลดังกล่าวเป็นเวลา ๗ วันเพื่อซักถาม ณ กรมทหารพรานที่ 46 ต.กะลุวอ อ.เมือง จ.นราธิวาส

         ผลกระทบจากกลุ่มผู้ก่อเหตุระเบิดรางรถไฟในครั้งนี้ได้ขยายเป็นวงกว้างของผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากการรถไฟไม่สามารถให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารได้ นักเรียน นักศึกษาที่ต้องใช้บริการรถไฟเป็นพาหนะในการเดินทางไปโรงเรียนทุกวันได้รับความลำบากในการเดินทาง ส่วนในเรื่องเศรษฐกิจ และวิถีชีวิตของประชาชนโดยรวมในพื้นที่ ที่มีการขนส่งพืชผลทางการเกษตรได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีการขนส่งผลผลิตลองกองเพื่อนำไปจำหน่ายยังนอกพื้นที่ของพี่น้องชาวมลายูปาตานี จนถึงแหล่งเศรษฐกิจ อ.สุไหงโกลก ก็พลอยได้รับผลกระทบไม่สามารถขนส่งสินค้าทางรถไฟได้โดยสะดวก จึงเป็นเรื่องที่พวกเราสมควรประณามต่อการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้ ที่ไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของของประชาชนชาวปาตานีด้วยกัน


             การกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงแทบทุกครั้งมุ่งหวังทำร้ายหมายเอาชีวิตเจ้าหน้าที่ที่ลาดตระเวนเส้นทางรถไฟ เพื่อดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีรายได้น้อย แต่โจรใต้กลับไม่คิดถึงผลกระทบที่ตามมา พี่น้องประชาชนที่ต้องใช้รถไฟในการเดินทางเข้าเมือง และขนส่งสินค้าทางการเกษตรเพื่อนำเงินรายได้มาเลี้ยงดูครอบครัวก็ได้รับความยากลำบาก รวมทั้งลูกหลานของเราเองที่ต้องใช้รถไฟในการเดินทางไปศึกษาเล่าเรียนพลอยได้รับความเดือดร้อนจนกว่าการรถไฟจะซ่อมบำรุงเสร็จ เราทุกคนควรภาคภูมิใจที่เกิดมาในผืนแผ่นดินไทย มีเส้นทางรถไฟที่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้โดยสะดวกทั่วประเทศ ใครก็ตามที่คิดทำลายทางรถไฟถือว่าเป็นคนไม่ดี และมีความผิดจะต้องถูกจับมาดำเนินคดีในที่สุด

*****************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม