องค์กรอิสลามในมาเลเซียกำลังเข้าไปตรวจสอบกิจกรรม “สัมผัสสุนัข” ซึ่งจัดโดยกลุ่มคนที่ต้องการให้ชาวมุสลิมในแดนเสือเหลืองลดความหวาดกลัวและรังเกียจสัตว์เลี้ยงที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์
กิจกรรม “ฉันอยากสัมผัสสุนัข” ถูกจัดขึ้นที่สวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์คในเขตบันดาร์อุตามา ชานกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(19) เพื่อเป็นโอกาสให้ชาวมาเลเซียซึ่งส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามได้ใกล้ชิดกับเจ้าตูบสี่ขา แม้หลักคำสอนของอิสลามจะระบุว่าพวกมันเป็นสัตว์ที่ไม่สะอาดก็ตาม กิจกรรมนี้มีชาวมุสลิมสนใจเข้าร่วมงานหลายร้อยคน จนบรรดาผู้นำศาสนาไม่อาจนิ่งเฉยได้
หน่วยงานที่กำกับดูแลศาสนาอิสลามในมาเลเซียเตรียมตรวจสอบกิจกรรมดังกล่าว ขณะที่ นูห์ กาดุต ผู้นำมุสลิมคนหนึ่งชี้ว่า การจัดกิจกรรมเช่นนี้เท่ากับจงใจดูหมิ่นผู้รู้ในศาสนา
“อย่าพยายามสร้างวัฒนธรรมที่ขัดแย้งกับอิสลาม” สื่อมาเลย์อ้างถ้อยแถลงของ นูห์
ซายเอ็ด อัซมี อัลฮับชี ชาวมุสลิมวัย 30 ปีซึ่งเป็นผู้จัดกิจกรรมนี้ขึ้น ยืนยันว่า เขาเพียงหวังให้มุสลิมในมาเลเซียลดความเกลียดกลัวสุนัข และมีความเมตตากรุณาต่อสัตว์
ในวันนี้(21) ผู้สื่อข่าวเอเอฟพียังไม่สามารถติดต่อขอสัมภาษณ์อัลฮับชี รวมถึงองค์กรอิสลามมาเลเซีย เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ อย่างไรก็ดี ชาวมาเลเซียที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ต่างแสดงความเห็นเชิงบวกต่อกิจกรรมนี้
“รู้สึกดีจังที่ได้เห็นบ้านเกิดของเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี” ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งเขียน ส่วนอีกรายระบุว่า “ฉันมีความสุขมากที่ได้เห็นพวกสุนัขอารมณ์ดี และเจ้าของสุนัขที่พร้อมจะแบ่งปันความสุขให้ผู้อื่น และเหนือสิ่งอื่นใดคือการได้เห็นมุสลิมจำนวนมากยอมรับพวกมัน”
มุสลิมทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมสัมผัสสุนัขในวันอาทิตย์(19) ได้ชำระล้างร่างกายตามขั้นตอนที่ศาสนาอิสลามกำหนด หลังเสร็จสิ้นกิจกรรมแล้ว
แม้มุสลิมมาเลย์ส่วนใหญ่จะถือหลักอิสลามสายกลาง แต่แนวทางอนุรักษ์นิยมที่ยึดถือตัวบทอย่างเคร่งครัดก็เริ่มมีผู้ปฏิบัติตามมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ สร้างความหวั่นวิตกต่อคนกลุ่มน้อยที่นับถือศาสนาอื่นๆ ซึ่งมองว่ากระแสอภิวัฒน์ทางวัฒนธรรมอิสลาม (Islamisation) กำลังรุนแรงขึ้นทุกวัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น