ผบก.สส.ศชต. เผยความคืบหน้าคดีคาร์บอมบ์เบตง โดยขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบได้มีกลุ่มคนร้ายยิงเอ็ม 79 แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องถึง 3 เหตุการณ์ เชื่อก่อเหตุเป็นขบวนการ เบื้องต้น ส่งดำเนินคดีแล้ว 3 ราย พร้อมออกหมายจับอีก 3 ราย
วันนี้ (13 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายนำรถยนต์กระบะซุกระเบิดมาจอดที่หน้าโรงแรมฮอลิเดย์ฮิลล์ อ.เบตง จ.ยะลา ก่อนที่จะจุดชนวนระเบิดขึ้นเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 42 ราย รวมทั้งอาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.40 น. ของวันที่ 25 ก.ค.57 ที่ผ่านมา ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าคดีนี้ สืบเนื่องจากเหตุการณ์นี้มีเหตุการณ์ต่อเนื่องตั้งแต่ในช่วงเช้าที่มีการปล้นรถตู้ที่บ้านบาโจ ต.ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา และนำรถตู้คันนี้ไปรับกลุ่มผู้ก่อเหตุ และรับรถที่ประกอบระเบิดในพื้นที่ อ.ธารโต เข้าไปก่อเหตุ โดยรถตู้จะเป็นคันที่ไปจอดกันที่เอาไว้ เพื่อให้รถที่ประกอบระเบิดคือ รถกระบะ ก่อนที่จะรับคนร้ายที่ขับรถกระบะหลบหนี
ซึ่งจากการสืบสวนติดตามหลังจากช่วงเกิดเหตุก็ได้มีการนำรถตู้มาจอดทิ้งไว้ที่บริเวณ กิโลเมตร 32 ต.อัยเยอร์เวง โดยเจ้าหน้าที่ตรวจพบในช่วงเช้า ซึ่งในขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบก็ได้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซ้อน คือ คนร้ายได้ยิงเอ็ม 79 ใส่เจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจสอบ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง 3 เหตุการณ์
จากการติดตามคนร้ายจากภาพวงจรปิด และจากการตรวจสอบจากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ก็สามารถยืนยันได้ว่า รถยนต์กระบะที่ใช้ก่อเหตุเป็นรถกระบะมาสด้า สีบรอนซ์เงิน ซึ่งเป็นรถจากเหตุคนร้ายยิง นายอภิวัฒน์ จันทร์แถม เสียชีวิต แล้วคนร้ายได้นำรถกระบะคันดังกล่าวหลบหนีไป เหตุเกิดที่บริเวณบ่อกุ้งร้างในพื้นที่ ม.1 ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.57 ที่ผ่านมา ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุในครั้งนั้นก็พบว่าตรงกับที่คนร้ายก่อเหตุยิงราษฎรเสียชีวิต 3 ราย ที่บ้านตาแปด อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 57 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ก็สามารถเชื่อมโยงได้ว่าในหลายเหตุการณ์เป็นการก่อเหตุอย่างเป็นขบวนการ
ด้าน ผบก.สส.ศชต. ยังกล่าวอีกว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานก็ทราบว่า คนร้ายที่นั่งในรถยนต์กระบะที่ใช้ในการก่อเหตุระเบิดคือ นาย เพาซี กาลูแป ซึ่งได้ออกหมาย ป.วิ อาญา แล้ว ส่วนอีก 2 คน ที่เกี่ยวข้องกับการปล้นรถตู้ทราบชื่อคือ นาย สอบือรี หามะ ซึ่งได้รับสารภาพจากการซักถามว่าเป็นผู้ที่มัดมือคนขับรถตู้ และได้ส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแล้ว ส่วนอีกรายเป็นผู้ขับรถดูต้นทาง คือ นายมะรอสารี เจ๊ะบุ ซึ่งให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ขับจักรยานยนต์ นำรถตู้ และรถที่ประกอบระเบิดไปยังจุดเกิดเหตุ ส่วนชุดประสานงานอีกรายคือ นายบูดีมัน สีแล ก็รับสารภาพว่า อยู่ในกลุ่มที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ โดยสรุปได้ว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัว และดำเนินคดีทางกฎหมายกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว จำนวน 3 ราย และออกหมายจับอีก 3 ราย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น