ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องประเทศไทย อย่าเพิ่งเนรเทศผู้อพยพชาวโรฮิงญา 259 คนที่ถูกจับในจังหวัดระนองเมื่อวันเสาร์...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ออกมาเรียกร้องต่อประเทศไทยเมื่อวันอังคาร (11 พ.ย.) ขอให้เจ้าหน้าที่ไทยอย่าเพิ่งเนรเทศชาวมุสลิมโรฮิงญาจำนวน 259 คน ซึ่งโดยสารเรือหลบหนีออกจากรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมาร์ มายังจังหวัดระนอง เพื่อเดินทางไปต่อยังประเทศมาเลเซีย แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวเสียก่อนเมื่อวันเสาร์
ตามรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี อ้างคำพูดของ พ.ต.อ.กฤษศักดิ์ สงมูลนาค รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง เมื่อวันอังคาร ว่า เจ้าหน้าที่กำลังตัดสินใจว่าชาวโรฮิงญาที่ถูกจับกุมเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย หรือเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ "ชาวมุสลิมชาวเมียนมาร์ 259 คน ถูกจับกุมเมื่อวันเสาร์ 13 คนในจำนวนนี้เป็นเด็ก พวกเขาบอกว่าต้องการไปยังมาเลเซียเพื่อทำงานหาเงิน เรายังไม่มีแผนเนรเทศพวกเขา"
ในวันเดียวกัน นาง วิเวียน ถัง โฆษกหญิงของยูเอ็นเอชซีอาร์ กล่าวในกรุงเทพมหานครว่า พวกเขากำลังเรียกร้องข้อมูลจากรัฐบาลไทย และขอทางการไทยไม่ให้เนรเทศชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ กลับไปยังสถานที่ที่การใช้ชีวิตหรือเสรีภาพของพวกเขาอาจถูกคุกคาม และหากพบกว่าชาวโรฮิงญากลุ่มนี้หลบหนีมาเพราะถูกข่มเหงรังแก่ ยูเอ็นเอชซีอาร์ก็ขอเรียกร้องให้ไทย ให้สิทธิ์คุ้มครอง, ช่วยเหลือ และอยู่อาศัยในไทยชั่วคราวแก่พวกเขา จนกว่าจะพบวิธีแก้ปัญหาในระยะยาว
ทั้งนี้ ชาวมุสลิมโรงฮิงญา เป็นชนกลุ่มน้อยที่อพยพจากบังกลาเทศเข้าประเทศเมียนมาร์ แต่ไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นพลเมือง โดยนับตั้งแต่ปี 2012 มีชาวโรฮิงญาหลายพันคนต้องหลบหนีเหตุความไม่สงบในรัฐยะไข่ ซึ่งทำให้ชาวโรฮิงญาเสียชีวิตไปกว่า 200 คน และอีก 140,000 คนต้องอาศัยในค่ายผู้พลัดถิ่น ผู้อพยพส่วนใหญ่มีเป้าหมายมุ่งหน้าไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม
เมื่อเดือนก่อน ตำรวจไทยจับกุมชาวโรฮิงญา 53 คนในภาคใต้ของประเทศ ฐานเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย แต่หลังจากสืบสวนเพิ่มเติมพบว่าชาวโรฮิงญากลุ่มนี้เป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น