แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ peace.chaotainews แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ peace.chaotainews แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554


โจรใต้ป่วนวางระเบิดรางรถไฟ 2 จุด 4 ลูกรางขาดรถไฟ 14 ขบวนหยุดวิ่ง
คำเตือน: ภาพถ่ายนี้เป็นลิขสิทธิ์ของช่างภาพ ห้ามทำซ้ำหรือนำไปเผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของภาพ
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 27 ก.คง 54 พ.ต.ท.เฉลิม ยิ่งคง สารวัตรเวร สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งจากนายอาดือนัน อับดุลรอมัน ผู้ใหญ่บ้านสะโลตราแดะ หมู่ 6 ต.เฉลิม อ.ระแงะ ว่ามีเหตุคนร้ายวางระเบิดรางรถไฟ 2 จุด ระหว่างสถานีรถไฟสะโลตราแดะกับสถานีรถไฟมะรือโบตก ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 1092 หมู่ 6 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จึงพร้อมด้วยนายศุภวริศ เพชรกาฬ นายอำเภอระแงะ ร.ต.ต.พลวัฒน์ เทพษร รอง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

โดยเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าไปตามรางรถไฟประมาณ 2 ก.ม. กว่าจะถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นป่ารกทึบทั้งสองข้างทาง พบรางรถไฟด้านขวาถูกแรงอัดระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 5 ก.ก.จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ที่ลากสายไฟยาวเข้าไปในป่ารกทึบข้างทาง จนฉีดขาดยาวกว่า 1 ฟุต และใกล้กันเจ้าหน้าที่พบระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในท่อ พี.วี.ซี. หนัก 1 ก.ก.อีก 1 ลูก ที่ฝังไว้ใต้ผิวถนนดินแดง ซึ่งห่างจากหลุมระเบิดประมาณ 3 เมตร ที่คนร้ายฝังไว้เพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ขณะเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ปืนแรงดันพลังน้ำยิงทำลาย

ส่วนจุดเกิดเหตุที่ 2 ซึ่งห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร พบรางรถไฟด้านซ้ายถูกแรงอะดของระเบิดแสวงเครื่องชนิดและขนาดเดียวกัน ฉีดขาดยาวประมาณ 1 ฟุต เช่นกัน และนอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบระเบิดแสวงเครื่องแบบเท้าเหยียบอีก 1 ลูกที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในท่อ พี.วี.ซี. หนัก 1 ก.ก ซึ่งคนร้ายได้ฝังไว้ริมทางรถไฟเพื่อจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่เหมือนกับจุดแรกห่างจากจุดระเบิดประมาณ 1 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ปืนแรงดันพลังน้ำยิงทำลายไป

จากการสอบสวนนายอาดือนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทราบว่าในช่วงใกล้รุ่งชาวบ้านพบเห็นชายฉกรรจ์ จำนวน 5-6 คน ได้แยกออกเป็น 2 กลุ่ม เดินผ่านหมู่บ้านไป จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น.ของวันเดียวกันนี้ ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว จำนวน 2 ครั้งซ้อน กระทั่งสว่างชาวบ้านจึงได้ชวนกันเดินไปตรวจสอบที่มาของเสียงดังกล่าว ก่อนจะพบว่าคนร้ายลอบวางระเบิดรางรถไฟจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

และจากเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ส่งผลทำให้ขบวนรถไฟ จำนวน 14 ขบวนที่วิ่งล่องจากสถานีต้นทางสุไหงโก-ลก จรดปลายทางสถานีรถไฟต่าง ๆ ต้องหยุดวิ่งโดยไม่มีกำหนดจนกว่าเจ้าหน้าที่ รฟท.จะซ่อมบำรุงทางรถไฟแล้วเสร็จ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนผู้ใช้รถไฟในพื้นที่ จ.นราธิวาส เป็นอย่างมาก

- -
- -
- -
- -
- -
http://narater2010.blogspot.com/

หน่วยความมั่นคงอำเภอเบตงสนธิกำลังปิดล้อมเทือกเขา
ติดตามตัวกลุ่ม RKK ชุดลอบวางระเบิดชุด รปภ.ครู
คำเตือน: ภาพถ่ายนี้เป็นลิขสิทธิ์ของช่างภาพ ห้ามทำซ้ำหรือนำไปเผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของภาพ
จากการจับกุม 2 หัวหน้าระดับปฎิบัติการของขบวนการ RKK ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่อำเภอเบตงและอำเภอธารโต และมีหมายจับตาม พ.ร.ก ฉุกเฉิน ได้เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา และจากการขยายผลทำให้ทราบว่ายังมีแนวร่วมที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดชุด รปภ.ครู กำลังหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่หลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ตำบลอัยเยอร์เวง บนเทือกเขารอยต่ออำเภอเบตงและอำเภอธารโต วันนี้(8 สิงหาคม 2554 )ร้อยเอกสุขุม เนตรทับทิม ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 4107 เบตง, ร้อยโทสุชิน วังชื้น ผู้บังคับกองร้อยทหารม้าที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจยะลา ที่ 16  และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อัยเยอร์เวง ได้สนธิกำลังกว่า 60 นาย เข้าปิดล้อมเทือกเขาและตรวจค้นขนำที่สร้างอยู่ในป่าทึบพร้อมกัน 2 จุด จากตรวจค้นบริเวณขนำเจ้าหน้าที่พบปืนลูกซอง 5 นัดจำนวน 1 กระบอก ใส่กระสอบถุงปุ๋ยฝังดินอยู่ใต้โพลงไม้ จำนวน 1 กระบอก
พร้อมกระสุนปืนลูกซอง 3 นัด นอกจากนี้ยังพบเสบียงอาหาร เวชภัณฑ์ยาต่างๆ ใส่ถังน้ำยาง 20 ลิตร ฝังดินอยู่ใกล้บริเวณขนำเช่นกัน ส่วนในที่เหตุไม่พบกลุ่มคนร้ายแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบภายในขนำเชื่อว่าน่าจะมีคนกลุ่มคนร้ายเข้ามาพักอาศัย แต่ไหวตัวทันจึงหลบหนีออกจากขนำดังกล่าวไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง

ร้อยเอกสุขุม เนตรทับทิม ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 4107 เบตง กล่าวว่า การวางแผนเข้าจับกุมขบวนการ RKK ในครั้งนี้ ถึงจะไม่ได้ตัวแต่ก็สามารถตรวจยึดอาวุธปืน อุปกรณ์และเวชภัณฑ์ต่างๆได้อีกเป็นจำนวนมาก และจากการขยายผลแกนนำที่ถูกจับได้ ทำให้ทางเราทราบความเคลื่อนไหว เครือข่ายการเชื่อมโยง และแหล่งกบดานของกลุ่มขบวนการ RKK ในอำเภอเบตงและอำเภอธารโตได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้การวางแผน รับมือกับสถานการณ์ต่างๆ เพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการ รปภ.ครู
- -
http://narater2010.blogspot.com

วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554

แผ่นดินสูงขึ้นอีกหน่อย


จนท.ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 14 อำเภอยะหา ปะทะโจรใต้

ขณะเข้าปิดล้อมตรวจค้น ผลโจรเสียชีวิต 1 รา




เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ ( 18 มี.ค. 54)  พ.ต.อ.สุริยา   ไชยโยธา  รอง ผบก.ภจว.ยะลา  พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูมิเพชร พิพัฒน์เพชรภูมิ  รอง ผบก.ภจว.ยะลา ทั้งสองนาย ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ จนท.ทหารหน่วยพาะกิจที่ 14 อำเภอยะหา เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ หลังได้รับแจ้งว่ามีเหตุปะทะกับคนร้ายที่บริเวณบ้านกือยา ม.3 ต.ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบศพคนร้ายสภาพนุ่งผ้าโสร่งผืนเดียว นอนเสียชีวิตอยู่ในคูน้ำหลังบ้านพักของตนเอง และในมือยังกำอาวุธปืนพกขนาด 11 มม.จำนวน 1 กระบอก  เจ้าหน้าที่จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้ระเบิดได้เข้าเครียร์พื้นที่ ก่อนที่จะอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา เข้าพิสูจน์ศพ 
จากการตรวจสอบทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายมะรูดิง เปาะแต อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/4 ม.4 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา และพบว่าผู้เสียชีวิตมีหมายจับในคดีความมั่นคงหลายคดีในพื้นที่ สภ.ยะหา และ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา นอกจากนั้นแล้ว ยังพบว่าผู้ตายเป็นมือผลิตระเบิดและมือวางระเบิดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังต้องการตัว  โดยก่อนเกิดเหตุขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 14 ประจำอำเภอยะหา ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ามีคนร้ายในคดีความมั่นคงเข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ทหารจึงนำกำลังเข้าปิดล้อมบ้านผู้ต้องสงสัย เมื่อคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่ได้กระโดดหลบหนีไปทางหลังบ้านและใช้อาวุธปืนประจำกายยิงเพื่อเปิดทางหนี แต่ก็ไปไม่รอดถูกยิงเสียชีวิตกระสุนถูกบริเวณศีรษะจำนวน 1 นัด และลำตัวอีก 2 นัด ส่งผลให้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ


ชาวบ้านรวมพลัง ช่วยตนเอง


ชาวบ้านรวมพลัง ช่วยตนเอง

ชาวนราฯรวมพลังต่อต้านโจรใต้หลังยิงถล่มไทยพุทธตาย 1 เจ็บ 2


เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 16 เม.ย.54 ที่สนามกีฬา หมู่บ้านฮูแตทูวอ หมู่ 4 ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส นายเดชรัฐ สิมศิริ รอง ผวจ.นราธิวาส เป็นประธานในการรวมพลังของกลุ่มชาวบ้านทั้งไทยพุทธและมุสลิมในพื้นที่ ต.โคกเคียน รวม 13 หมู่บ้าน โดยมี น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย.ภาคใต้ น.ท.วิรัตน์ ตะโจปะรัง ผบ.ฉก.นราธิวาส 33 เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ โดยการรวมพลังในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุกลุ่มคนร้าย 6 คน ขี่รถ จยย. 3 คัน เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกสั้น 9 มม.และเอ็ม 16 ยิงถล่มเข้าใส่ราษฎรไทยพุทธ บริเวณที่ทำการสหกรณ์ หมู่ 1 ต.โคกเคียน อ.เมือง ช่วงค่ำของวันที่ 15 เม.ย.54 ที่ผ่านมา ส่งผลให้นางชุม แดงเผนิน อายุ 70 ปี เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย 


โดยชาวบ้านต่างถือป้ายผ้าที่เขียนข้อความ อาทิ เราชาว ต.โคกเคียน ไม่เห็นด้วยกับการก่อเหตุรุนแรง เราอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขตลอดมา เราไม่เอาด้วยกับเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น ขณะที่ชาวบ้านไทยพุทธต่างสวมใส่เสื้อผ้าชุดดำไว้ทุกข์ให้กับนางชุม ผู้เสียชีวิตอีกด้วย

ทางด้านนายเดชรัฐ รอง ผวจ.นราธิวาส กล่าวกับชาวบ้านว่า ขอให้ทุกคนซึ่งแม้จะนับถือศาสนาที่แตกต่างกัน แต่ที่ผ่านมาเคยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขเป็นเวลาหลายปี ไม่เคยมีเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนขวัญในพื้นที่นี้มาก่อน ขอให้ทุกคนรักกันและช่วยกันปกป้องรักษาแผ่นดินเกิดของตนเอง อย่าให้ใครเข้ามาแทรกแซงทำร้ายได้

ด้าน น.อ.สมเกียรติ ผบ.ฉก.นย.ภาคใต้ กล่าวในฐานะตัวแทนทหารว่า ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายครั้งแต่เจ้าหน้าที่ก็ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ จนสามารถบุกจับกุมผู้ก่อเหตุและตรวจยึดของกลางได้เป็นจำนวนมากและหลายครั้งเช่นกัน สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นนั้นไม่ว่าจะเป็นไทยพุทธหรือมุสลิมก็มีค่าเท่าเทียมกัน การแสดงพลังของทุกคนไม่จำเป็นต้องมีคนมามากแต่ขอให้ทุกคนมาด้วยใจ ขอให้ทุกคนลุกขึ้นสู้ ตนเองอยากฝากถึงผู้ไม่หวังดีว่าต่อไปพวกคุณจะไม่มีที่อยู่บนแผ่นดินนี้เพราะทุกคนไม่ต้อนรับพวกคุณ

ส่วนความคืบหน้าทางคดีล่าสุด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนได้เบาะแสของกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุอย่างอุกอาจในครั้งนี้แล้ว พบว่าทั้ง 6 คนเป็นสมาชิกแนวร่วมระดับปฏิบัติการกลุ่มของนายมะดารี วาหลง ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคงนับสิบคดี ที่รับผิดชอบเคลื่อนไหวก่อเหตุในพื้นที่ อ.ยี่งอ และ อ.บาเจาะ โดยกลุ่มที่ลงมือก่อเหตุนี้เคยก่อเหตุยิงถล่มจุดตรวจปลักปลา อ.เมืองนราธิวาส เมื่อช่วงกลางปี 53 ที่ผ่านมาทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายรายเช่นกัน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังส่งชุดติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายในพื้นที่เขตรอยต่ออย่างต่อเนื่องแล้ว

ผบ.ทบ.ครับ ผู้ก่อการร้ายอยู่ภาคใต้ครับ


โจรใต้ยิงทหารพรานสาหัส 1 นายที่ อ.เมืองนราฯ

มื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 16 เม.ย. 54 พ.ต.ท.เปลี่ยน ชูสุวรรณ สารวัตรเวร สภ.ตันหยง อ.เมือง จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามตามประกบยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัด ร้อย ทพ.4616 กรมทหารพรานที่ 46 ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้านโคกสยา หมู่ 8 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จึงสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเพียงรถ จยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนล้มตะแคงอยู่ริมถนน พร้อมด้วยกองเลือดจำนวนหนึ่งตกอยู่ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บพลเมืองดีได้นำตัวส่งรักษา รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ ไปก่อนหน้าแล้วทราบชื่อคือ อส.ทพ.มูหาหมัดยากี อามะ อายุ 26 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ที่บริเวณต้นคอหลังทะลุปาก และแขนขวา รวม 3 นัด อาการสาหัส

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ อส.ทพ.มูหาหมัดยากี ได้ขี่รถ จยย.ออกจากฐานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.รือเสาะ ตามลำพังเพื่อเดินทางกลับบ้านพักที่ อ.เมืองนราฯ ในช่วงวันลาพักผ่อน เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ขี่รถ จยย.ตามประกบไล่หลัง เมื่อสบโอกาสคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดออกมายิงใส่ จำนวน 3 นัดซ้อน จนรถเสียหลักล้มคว่ำ แล้วคนร้ายได้รีบขี่รถ จยย.หลบหนีไป ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน

วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2554

สรุปข่าวประจำสัปดาห์

ทหารยึดกล่องเหล็กผลิตระบิด 6 อัน
ปืน 2 กระบอกที่ อ.บาเจาะ


http://peace.chaotainews.com/index.php?option=com_content&view=article&id=2086:-6--2--&catid=10:2008-07-22-05-57-22&Itemid=10

วันที่ 4 เม.ย. 54 น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย.ภาคใต้ และ น.ท.รัฐโรจน์ อภิรัชช์รัศมี ผบ.ฉก.นราธิวาส 32 นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจำนวน 50 นาย เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 102/1 บ้านบูเก๊ะบากง ต.ตะปอเ ยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ากลุ่มคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนสงครามดักซุ่มโจมตีขบวนรถบัสทหาร เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้านยามูแรแน หมู่ 4 ต.บาเร๊ะเหนือ อ.บาเจาะเ มื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา ได้หลบซ่อนอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว

เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ ผลจากการตรวจค้นในบ้านหลังดังกล่าว สามารถยึดของกลางเป็นปืนลูกซองยาว 5 นัด 1 กระบอก , ปืนพกสั้นขนาด 9 มม. 1 กระบอก , กระสุนปืนเอ็ม 79 จำนวน 5 ลูก ,แม็กกาซีนปืนกลมืออูซี่ 1 อัน , โทรศัพท์ มือถือ 7 เครื่อง , เสื้อผ้าชุดลายพรางทหาร และอุปกรณ์เดินป่า เช่น เปลสนาม , มีดสะปาต้า อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบกล่องเหล็กที่ใช้บรรจุระเบิดแสวงเครื่องจำนวน 6 ใบ และสายไฟฟ้าอีก 1 ม้วนใหญ่ จึงยึดของกลางและคุมตัวบุคคลจำนวน 2 คน ที่อยู่ในบ้านหลังดังกล่าวไปสอบสวนขยายผลที่ฐานปฏิบัติการ ฉก.นราธิวาส 32




โจรใต้แต่งชุดทหารตั้งด่านจี้ชาวบ้าน
ใช้ปืนทุบจนน่วมก่อนปล้นรถยนต์และเงินหนีที่ อ.รือเสาะ


http://peace.chaotainews.com/index.php?option=com_content&view=article&id=2084:2011-04-02-03-05-21&catid=10:2008-07-22-05-57-22&Itemid=10
คำเตือน: ภาพถ่ายนี้เป็นลิขสิทธิ์ของช่างภาพ ห้ามทำซ้ำหรือนำไปเผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของภาพ
เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 1 เม.ย. 54 ร.ต.ท.ศรีธนนท์ สำลี ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตั้งด่านลอยปล้นและทำร้ายชาวบ้านบนถนนสายรือเสาะ-จะกว๊ะ บ้านสาวอ หมู่ 1 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สภ.รือเสาะ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบนางจินตนา ตินสั้น อายุ 42 ปี ชาวบ้าน อ.รือเสาะ อยู่ในสภาพถูกทุบตีจนใบหน้าบวมปูดและเขียวช้ำ โดยมีเจ้าหน้าที่ อบต.สาวอ กำลังปลอบโยนเพื่อให้หายความหวาดกลัว พร้อมทั้งแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยหาสามีที่ถูกคนร้ายรุมทำร้ายและได้พาตัวหายไปกับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนส์ ทะเบียน ผข-3510 สงขลา ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวนางจินตนา ส่งรักษาที่ รพ.รือเสาะ
ต่อมา พ.ต.อ.สะท้านฟ้า ได้วิทยุประสานไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสกัดจับรถยนต์กระบะคันดังกล่าว พร้อมทั้งนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตามหาตัวสามีของนางจินตนา โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่พบร่างของนายพิชัย ตินสั้น อายุ 54 ปี สามีของนางจินตนา นอนสลบอยู่ภายในป่ารกทึบซึ่งห่างจากโรงไม้แปรรูปนราพาราวู๊ด หมู่ 3 ต.สาวอ อ.รือเสาะ ประมาณ 50 เมตร ซึ่งอยู่ในสภาพศรีษะ ใบหน้า ถูกทุบตีจนบวมปูดและมีเลือดไหล เจ้าหน้าที่จึงได้รีบนำตัวส่งรักษา รพ.รือเสาะ ซึ่งทั้งคู่อาการสาหัส แพทย์ต้องส่งตัวรักษาต่อยัง รพ.นราธิวาสราชนครินทร์


จากการสอบสวนนางจินตนา ทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้นั่งรถยนต์กระบะออกจากบ้าน โดยมีสามีเป็นคนขับและพกเงินสดประมาณ 1 แสนบาท เพื่อเดินทางไปซื้ออาหารสดที่ตลาดสดเทศบาลนครยะลา จ.ยะลา มาจำหน่ายที่ตลาดสดเทศบาลตำบลรือเสาะ โดยมักจะเดินทางไปซื้อของมาจำหน่ายเป็นประจำทุกวัน และในขณะที่สามีขับรถยนต์กระบะถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีคนร้ายประมาณ 10 คน แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหารถืออาวุธปืนสงครามครบมือ ตั้งจุดตรวจจุดสกัดลอยและได้เรียกสามีให้จอดรถเพื่อขอตรวจค้น เมื่อสามีจอดรถยนต์กระบะ กลุ่มคนร้ายได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ แต่ใช้วาจาที่หยาบคายพร้อมทั้งเรียกให้สามีและตนลงจากรถ จากนั้นคนร้ายได้ใช้บั้นท้ายอาวุธปืนสงครามทุบไปที่ศรีษะและใบหน้าของสามีและตน จนล้มทั้งยืนไปนอนกองอยู่ที่พื้นถนน แล้วคนร้ายได้พยุงร่างของสามีและตนไปไว้ที่กระบะหลัง แล้วคนร้ายทั้งหมดได้เก็บอุปกรณ์ในการตั้งด่านลอยขึ้นรถยนต์ของสามี ขับไปตามถนนมุ่งสู่พื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา ก่อนที่จะจอดรถทิ้งร่างของตนไว้ริมถนน และนำร่างของสามีไปทิ้งไว้อีกที่หนึ่ง แล้วขับรถยนต์กระบะหลบหนีไปพร้อมกับเงินสดจำนวน 1 แสนบาทที่เก็บไว้ในลิ้นชักหน้าคอนโทรลรถ

Warning:ภาพถ่ายนี้เป็นลิขสิทธิ์ของช่างภาพ ห้ามทำซ้ำหรือนำไปเผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของภาพWarning:ภาพถ่ายนี้เป็นลิขสิทธิ์ของช่างภาพ ห้ามทำซ้ำหรือนำไปเผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของภาพ

โจรใต้ยิงทหารก่อนวางระเบิดซ้ำสาหัส 2 นาย 
ก่อนหนีทำปืนเอ็ม.79 พร้อมกระสุนหล่นที่ อ.สุไหงโก-ลก



http://peace.chaotainews.com/index.php?option=com_content&view=article&id=2083:-2--79---&catid=10:2008-07-22-05-57-22&Itemid=10

เมื่อเวลา 13.15 น.วันที่ 1 เม.ย. 54 พ.ต.ท.มาตาฮา มูหนะ สวญ.สภ.มูโน๊ะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายวางระเบิดก่อนใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มใส่ขบวนรถยนต์ของทหาร สังกัด ร้อย ร.1232 ฉก.นราธิวาส 35 บนถนนสายสุไหงโก-ลก-ตากใบ บ้านปูโป๊ะ หมู่ 4 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จึงสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ตชด.447 รวมทั้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.นราธิวาส

เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุและรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิซิไททัน จอดเสียหลักอยู่ริมถนนในสภาพตัวถังของรถทั้ง 2 คันถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย และมีกองเลือดจำนวนหนึ่งตกอยู่ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดจำนวน 2 หลุมอยู่ห่างจากรถยนต์กระบะประมาณ 5 เมตร โดยหลุมแรกลึก 50 ซ.ม. กว้าง 100 ซ.ม. ส่วนหลุมที่สองอยู่บริเวณเกาะกลางถนนเจ้าหน้าที่พบหลุมลึก 80 ซ.ม. กว้าง 1 เมตร และมีซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิคหนัก 20 ก.ก.จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ทหารจำนวน 2 นาย ถูกนำตัวส่ง รพ.สุไหงโก-ลก ไปก่อหน้าแล้วทราบชื่อคือ 1.ส.อ.พิทักษ์ มาตา อายุ 26 ปี 2.พลฯสุพัฒน์ เห่มเงิน อายุ 23 ปี ซึ่งทั้ง 2 นาย ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณแขน ลำตัว อาการสาหัส แพทย์ต้องนำตัวส่งรักษา รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ และนอกจากนี้ยังมีคนงานของกรมชลประทานที่ขับรถตามหลังมาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 6 ราย

และในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุอยู่นั้น เจ้าหน้าที่พบระเบิดแสวงเครื่องอีกจำนวน 2 ลูกซึ่งเป็นชนิดและขนาดเดียวกันกับที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้เครื่องพลังน้ำแรงดันสูงในการยิงทำลายระเบิดทั้ง 2 ลูกทิ้ง และนอกจากนี้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดอาวุธปืนเอ็ม.79 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 5 นัด ของคนร้ายที่ทำตกหล่นไว้ห่างจากที่เกิดเหตุ 100 เมตร จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน              

จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่ขบวนรถยนต์บัสของเจ้าหน้าที่ทหารชุด ฉก.นราธิวาส 35 รวม 2 คัน และรถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งปฏิบัติหน้าที่ รปภ.ขบวนรถบัส อยู่ต้นขบวนและท้ายขบวน แล่นไปตามถนนเพื่อนำกำลังจากฐานที่ตั้งอยู่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ไปส่งที่ฐานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายจำนวน 4 คน ใช้รถ จยย. 2 คันเป็นพาหนะ โดยคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายถืออาวุธปืนสงคราม เอ็ม.16 และอาวุธปืนเครื่องยิงลูกระเบิดแบบ เอ็ม.79 ตามประกบไล่หลัง เมื่อสบโอกาสคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายรถ จยย.ทั้ง 2 คัน ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุที่มี ส.อ.พิทักษ์ เป็นพลขับ และมี พลฯสุพัฒน์ นั่งเบาะหน้าคู่กันมา ทำหน้าที่ปิดท้ายขบวน จำนวน 5-6 นัด เพื่อให้เจ้าหน้าที่รีบขับรถยนต์กระบะหลบหนี จากนั้นคนร้ายอีกกลุ่มหนึ่งที่ดักซุ่มอยู่บริเวณป่ารกทึบริมถนน ได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดที่นำไปแขวนไว้บริเวณเสาไฟฟ้าริมถนนจนเกิดระเบิดขึ้น ส.อ.พิทักษ์ จึงได้หักพวงมาลัยหลบไปที่บริเวณเกาะกลางถนน จากนั้นคนร้ายจึงจุดชนวนระเบิดลูกที่ 2 ที่นำไปฝังไว้บริเวณเกาะกลางถนน จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ ส.อ.พิทักษ์และพลฯสุพัฒน์ ถูกสะเก็ดระเบิดของคนร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส และคนงานของชลประทานที่นั่งรถยนต์กระบะตามหลังมาถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 6 คน และก่อนที่คนร้ายชุดแรกจะขี่รถ จยย.หลบหนีไป ได้ทำอาวุธปืนเอ็ม.79 พร้อมกระสุนหล่นไว้บนถนนดังกล่าว           

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน โดยอาศัยช่องโหว่ในระหว่างเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายกำลังพลในการก่อเหตุ แต่โชคดีที่ระเบิดอีก 2 ลูกไม่ทำงาน จึงทำให้ทหารทั้ง 2 นายรอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด

โจรใต้ยิงถล่มรถนายอำเภอรือเสาะรถพรุนหวิดดับ
ก่อนยิงสวนโจรหนีกระเจิงที่ อ.รือเสาะ


เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 31 มี.ค.54 พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายดักซุ่มยิงรถของนายวัชรศักดิ์ จุลาญานนท์ นายอำเภอรือเสาะ ขณะนั่งรถยนต์กระบะเพื่อเดินทางกลับที่ว่าการ อ.รือเสาะ หลังจากไปร่วมงานเมาลิด เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้านบูเก๊ะนากอ หมู่ 2 ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ จึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับ พ.ท.มานิตย์ เผ่าพงษ์จันทร์ ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 พ.ต.ท.พชรพล ณ นคร รอง ผกก.ปป.สภ.รือเสาะ

พบรถยนต์กระบะ 4 ประตูยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ฌข-1470 กทม. ซึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งของนายอำเภอรือเสาะ จอดเสียหลักอยู่ริมถนน อยู่ในสภาพกระจกหน้า กระจกข้างและประตูด้านคนขับมีร่องรอยถูกกระสุนปืนได้รับความเสียหายและเป็นรูพรุน ส่วนในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนสงครามเอ็ม.16 และ อา.ก้า.ตกอยู่ริมป่ารกทึบจำนวน 2 จุดใหญ่ รวมกว่า 40 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนนายวัชรศักดิ์ นายอำเภอรือเสาะ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้นั่งรถยนต์ประจำตำแหน่งออกจากบ้านพัก โดยมีนายหฤษฎ์ มาหามะ ปลัดอาวุโส และ อส.รวมอีก 4 นาย เพื่อเดินทางไปร่วมงานเมาลิดและงานเข้าสุนัตที่หมู่บ้านพงยือติ หมู่ 9 ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ เมื่อแล้วเสร็จได้นั่งรถยนต์เพื่อเดินทางกลับที่ว่าการอำเภอรือเสาะ จนกระทั่งถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนที่ดักซุ่มอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ใช้อาวุธปืนสงคราม เอ็ม.16 และ อา.ก้า.ยิงถล่มใส่รถยนต์ที่ตนนั่งมา จึงได้ตะโกนให้พลขับหยุดรถ และวิ่งออกจากรถเพื่อหาที่กำบัง พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนประจำกายยิงตอบโต้ใส่กลุ่มคนร้าย จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากเป็นละลอก ๆ หลังจากนั้นจึงได้วิทยุประสานไปยัง พ.ต.อ.สะท้านฟ้า ผกก.สภ.รือเสาะ เพื่อขอสนับสนุนกำลังเข้าเสริม และเมื่อกลุ่มคนร้ายเห็นกำลังสนับสนุนจึงได้ล่าถอยไป

ล่าสุด พ.ต.อ.สะท้านฟ้า ผกก.สภ.รือเสาะ ได้จัดชุดกำลังไล่ล่าติดตามกลุ่มคนร้ายที่หลบหนีไปยังเทือกเขาเมาะแต หลังหมู่บ้านจุดเกิดเหตุและได้เกิดปะทะกับกลุ่มคนร้ายเป็นละลอก ๆ และล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้จำนวน 2 คน ที่อยู่ในละแวกดังกล่าวไปสอบสวนขยายผลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่

โจรใต้ยิงรถบัสทหารสับเปลี่ยนกำลังพลเจ็บ 7 นาย ที่ อ.บาเจาะ
http://peace.chaotainews.com/index.php?option=com_content&view=article&id=2081:-7-&catid=10:2008-07-22-05-57-22&Itemid=10
คำเตือน: ภาพถ่ายนี้เป็นลิขสิทธิ์ของช่างภาพ ห้ามทำซ้ำหรือนำไปเผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของภาพ
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 29 มี.ค. 54 พ.ต.อ.ภักดี ปรีชาชน ผกก.สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีคนร้ายจำนวนกว่า 10 คน ใช้รถยนต์กระบะจำนวน 2 คันเป็นพาหนะ ก่อนใช้อาวุธปืนสงครามยิงรถบัสของเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 บนถนนเพชรเกษม สายปัตตานี-นราธิวาส บ้านจำปากอ หมู่ 1 ต. บาเร๊ะเหนือ อ.บาเจาะ ทำให้รถยนต์บัสได้รับความเสียหายและมีเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายนาย จึงพร้อมด้วย น.ท.รัฐโรจน์ อภิรัชช์รัศมี ผบ.ฉก.นราธิวาส 32 และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์บัสจำนวน 10 คัน จอดอยู่ริมถนน และมีเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนหนึ่งยืนอยู่ที่รถบัสคันหนึ่งซึ่งอยู่ในสภาพกระจกด้านตัวถังด้านซ้ายของคนขับ มีร่องรอยถูกกระสุนปืนเป็นรูพรุน เจ้าหน้าที่จึงได้ขึ้นไปตรวจสอบพบคราบเลือดเป็นจำนวนมากตกกระจายอยู่บนเบาะนั่งและที่บริเวณพื้นทางเดิน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษา รพ.บาเจาะ ไปก่อนหน้าแล้ว
ประกอบด้วย 1.เรือโทชำนาญ แสวงธรรม 2.พ.จ.อ.สิงหา แก้วคำชาติ 3.พ.จ.อ.เฉลิมพล ปันยารชุน 4.จ.อ.รุ่งนิรันดร์ มหาโภค 5.พลฯกิตติพงศ์ เข็มอุทา 6.พลฯมนตรี นามลีหาญ และ 7.พลฯอดิเรก หอมหวน ซึ่งทั้ง 7 นายถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณขาซ้ายและบั่นเอวอาการสาหัส แพทย์ต้องนำส่งตัวรักษาต่อยัง รพ.นราธิวาสราชนครินทร์

จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่ทหารชุด ฉก.นราธิวาส 32 จำนวน 400 นาย นั่งรถยนต์บัสจำนวน 10 คัน เดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ตามวาระที่ อ.บาเจาะ และในระหว่างที่รถบัสทหารกำลังขับตามกันมาโดยมีรถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.นราธิวาส 32 วิ่งนำหน้าขบวนและปิดท้ายขบวน เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายจำนวนกว่า 10 คน แยกย้ายกันนั่งรถยนต์กระบะสีแดงและสีขาวพยายามขับแซงขบวน เมื่อสบโอกาสคนร้ายที่นั่งกระบะหลังทั้ง 2 คัน ได้ใช้อาวุธปืนสงครามอ็ม.16 และ อา.ก้า. ใส่รถยนต์บัสทหารคันที่ 2 จำนวนกว่า 30 นัด แล้วรีบขับรถยนต์หลบหนี จนทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 7 นาย
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เนื่องจากจุดเกิดเหตุดังกล่าวกลุ่มคนร้ายมักลอบก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้งทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บไปจำนวนหลายนาย
- -

บุกรังโจรมุสลิม


กำลังผสมบุกค้นรังโจรใต้ยึดของกลางเพียบ
พร้อมรวบผู้ต้องสงสัย 6 คน สอบเอี่ยวยิงรถบัสทหารที่ อ.บาเจาะ


http://peace.chaotainews.com/index.php?option=com_content&view=article&id=2087:-6---&catid=10:2008-07-22-05-57-22&Itemid=10
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 31 มี.ค.54ร น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย.ภาคใต้ ได้สั่งการให้ น.ท.รัฐโรจน์ อภิรัชช์รัศมี ผบ.ฉก.นราธิวาส 32 ร่วมสนธิกำลังกับ พ.ต.อ.ภักดี ปรีชาชน ผกก.สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส นำกำลังทหารตำรวจจำนวน 100 นาย พร้อมอาวุธปืนครบมือ ใช้กฎอัยการศึกบุกจู่โจมตรวจค้นเป้าหมายต้องสงสัยในพื้นที่บ้านดูกู หมู่ 3 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ภายหลังสืบทราบว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์ต้องสงสัยประมาณ 5-6 คน แฝงตัวกบดานในพื้นที่ดังกล่าว และคาดว่าจะเป็นกลุ่มคนร้ายที่ลงมือปฏิบัติการยิงถล่มรถบัสของเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.นราธิวาส 32 ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บรวมกว่า 26 นาย เหตุเกิดในพื้นที่บ้านจำปากอ อ.บาเจาะ เมื่อวันที่ 29 มี.ค.54 ที่ผ่านมา


โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการตรวจค้นเป้าหมายต้องสงสัยอย่างละเอียดเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง จนพบบาราเซาะหลังหมู่บ้านดูกู โดยมีชายฉกรรจ์จำนวน 6 คน อยู่ภายในบาราเซาะ เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังกันปิดล้อม แต่กลุ่มชายฉกรรจ์ไหวตัวทันจึงพากันวิ่งหลบหนีออกจากบาราเซาะพร้อมกับอาวุธปืนสงครามเข้าภายในป่ารกทึบท้ายหมู่บ้าน โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ติดตามไล่ล่ากลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวอย่างกระชั้นชิด แต่กลุ่มชายฉกรรจ์อาศัยความชำนาญเส้นทาง สามารถหลบหนีการจับกุมไปได้ และนอกจากนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 6 ราย ซึ่งทำตัวมีพิรุธที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงกับบาราเซาะ พร้อมของกลางที่อยู่ภายในบาราเซาะ โดยเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุจำนวนมาก อาทิ กระสุนปืน เอ็ม 16 จำนวน 68 นัด แมกกาซีน 1 อัน เปลสนาม อุปกรณ์เดินป่า เครื่องแบบนักรบของประเทศอินโดนีเซีย เข็มทิศ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการก่อเหตุอีกเป็นจำนวนมาก ไปสอบสวนขยายผลที่ฐานปฏิบัติการณ์ ฉก.นราธิวาส 32 พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ชุดนิติวิทยาศาสตร์ทำการตรวจดีเอ็นเอและคราบลายนิ้วมือแฝง รวมทั้งทำประวัติของบุคคลทั้ง 6 อย่างละเอียด

ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 6 รายน่าจะมีส่วนรู้เห็นกับการก่อเหตุยิงถล่มรถบัสเจ้าหน้าที่ทหาร รวมทั้งการก่อคดีความมั่นคงในพื้นที่ เบื้องต้นผู้ต้องสงสัยทั้ง 6 รายให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการยิงถล่มรถบัสของทหารแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้ง 6 รายเข้าสู่กระบวนการซักถามที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานีต่อไป


- -
- -
- 

กวาดให้เกลี้ยง


ทหารพราน วิสามัญ โจรใต้ หน.โลจิ้สติก ดับคาบ้านที่ อ.รามั

คำเตือน: ภาพถ่ายนี้เป็นลิขสิทธิ์ของช่างภาพ ห้ามทำซ้ำหรือนำไปเผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของภาพ
เมื่อ 6 เม.ย. 54 เวลา 08.00 น.  กำลังจนท.ตร.ชุดสืบสวนคดีความมั่นคง ของ ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจ จ.ชายแดนใต้ ศชต.นำโดย พตอ.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย และ กำลังทหารพราน นำโดย พ.อ.คมกฤช  รัตนฉายา ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่104 หมู่ 1 ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน  จ.ยะลา เนื่องจากสืบทราบว่าเป็นที่กบดานของ บุคคลตามหมายจับในคดีความมั่นคง เป็นที่ต้องการตัวของ จนท.ตร.ของ สภ.อ.รามัน จ.ยะลา   


ขณะที่กำลังปิดล้อมและกำลังจนท.ได้เข้าตรวจสอบอยู่นั้น ทันทีทันใด ได้มีชายวัยรุ่น ทราบชื่อต่อมา คือนาย อัสมัน เจ๊ะเล็ง อายุ 26 ปี บุคคลตามเป้าหมาย ได้วิ่งหนีออกทางหลังบ้านพร้อมด้วยอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก ขนาด 9 มม. และยิงเปิดทางเพื่อจะหลบหนี แต่ได้ถูก จนท.ยิงสวนทำให้ นายอัสมัน ฯถูกยิงเสียชีวิตคาที่ใกล้กับห้องน้ำหลังบ้าน

หลังเกิดเหตุ พตอ.ภูมิเพชร พิพัฒน์เพชรภูมิ รอง ผบก.ภ.จว.ยะลา นำกำลัง ตร.ชุดตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ จนท.ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด ไปทำการตรวจค้นสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดโดยรอบอีกครั้ง   พร้อมด้วยนำ แพทย์ พนักงานอัยการ และ ปลัดอำเภอร่วมกันเพื่อชันสูตรพลิกศพเนื่องจากเป็นคดีวิสามัญ จากนั้นได้ส่งมอบศพให้ญาติโดยมีพ่อและแม่ของผู้ตายเดินทางเข้ามายังจุดเกิดเหตุและคอยรอรับศพผู้ตายเพื่อจะนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด นำไปดำเนินการต่อไป

สำหรับนายอัสมัน เจ๊ะเล็ง รายนี้ จากการเปิดเผยของ จนท.ตร.ระดับสูงในพื้นที่กล่าวว่า เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องของการลำเลียง การขนส่งเคลื่อนย้าย อาวุธอุปกรณ์ต่างฯในการยุทธรวมทั้งเสบียง จึงได้ฉายาว่า อัสมัน โลจิ๊สติก  แต่ก็หนีไม่พ้นการติดตามสืบสวนของ จนท.จนมาพบจุดจบดังกล่าว
- -
- -
- -

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม