แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แด่แม่ทัพสันหลังยาว แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แด่แม่ทัพสันหลังยาว แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554

บึ้มทหารเจ็บไฟหลายหมู่บ้านดับ


บึ้มทหารเจ็บไฟหลายหมู่บ้านดับ


เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 17 เม.ย. 
พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ ผกก.สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส 
รับรายงานจาก ร.ต.ต.กวีพัฒน์ ไกรเพิ่ม ร้อยเวร พนักงานสอบสวนว่าเมื่อช่วงเวลา 21.30 น. วันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา มีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ ทำให้ทหารบาดเจ็บ 1 นาย บนถนนสายยานิง-เจาะไอร้อง บ้านยานิง หมู่ 2 ต.จวบ รุดไปตรวจสอบพบเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องหนัก 5 กก. โทรศัพท์มือถือกระจายเกลื่อน บนถนนมีหลุมลึก 2 ฟุต กว้าง 4 ฟุต ส่วนคนเจ็บนำส่ง รพ.ทราบชื่อพลทหารจักรพงศ์ ทองฤทธิ์ อายุ 21 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุคนเจ็บพร้อมเพื่อนทหารรวม 7 นาย ขี่รถ จยย. ออกตระเวนมาตามเส้นทาง โดยพลทหารจักรพงศ์ขี่รถนำหน้ามาคนเดียว ส่วนเพื่อน ๆ ขี่ตามมาทางด้านหลัง พอมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายที่แอบซุ่มข้างทาง ได้กดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ทำให้ระเบิดที่ฝังอยู่ใต้โคนเสาคอนกรีตกั้นทางโค้งริมถนน ระเบิดใส่พลทหารจักรพงศ์บาดเจ็บดังกล่าว

อีกราย พ.ต.ท.กรกช พันธรักษ์ สวส.สภ.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา รับแจ้งมีคนร้ายวางระเบิดเสาไฟฟ้าจนพังหักหลายต้น บนถนนบ้านตาสา-จันเรียน บ้านตาสา หมู่ 3 ต.พร่อน ทำให้ไฟดับไปหลายหมู่บ้าน รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบหม้อแปลงไฟฟ้าเสียหาย สายไฟกระเด็นขาดตกลงมาเกลื่อน เบื้องต้นเชื่อว่าผู้ก่อความไม่สงบ ได้แอบมาวางระเบิดทำลายหม้อแปลงไฟฟ้า เพื่อหวังให้ไฟดับหลายหมู่ บ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาซ่อมแซมต่อไป.

90 วันเราทำได้


โจรใต้กราดยิงถล่มสหกรณ์ชาวบ้านสาหัส 3 ราย ที่ อ.เมืองนรา


เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 15 เม.ย. 54 พ.ต.ท.ดุลยมาน แยนา สวญ. สภ.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงคราม เอ็ม.16 และอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 ม.ม. ยิงถล่มใส่ที่ทำการสหกรณ์ ต.โคกเคียน เหตุเกิดบริเวณใกล้วัดโคกเคียน หมู่ 1 ต.โคกเคียน อ.เมือง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย

จึงสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าที่บริเวณฝาผนังที่ทำการสหกรณ์มีร่องรอยถูกกระสุนปืนเป็นรูพรุน พร้อมด้วยกองเลือดจำนวนหนึ่ง และนอกจากนี้เจ้าหน้าที่พบบ้านพักเลขที่ 30/1 ซึ่งอยู่ติดกัน มีร่องรอยถูกกระสุนปืนที่ฝาผนังเป็นรูพรุนเช่นกัน และที่บนถนนเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม.16 และปลอกกระสุนปืนพกสั้นขนาด 9 ม.ม.ตกอยู่จำนวน 8 ปลอก จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บพลเมืองดีได้นำตัวส่งรักษา รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ ไปก่อนหน้าแล้ว

ทราบชื่อคือ 1.นางชุม แดงเผนิน 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/1 หมู่ 1 ต.โคกเคียน มีบาดแผลถูกกระสุนปืนเอ็ม.16และอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 ม.ม. ที่บริเวณหัวไหล่และแผ่นหลัง 2 นัด 2.นายคะนึง เพชรพันธุ์ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/2 หมู่ 1 ต.โคกเคียน ถูกกระสุนปืนชนิดและขนาดเดียวกันที่บริเวณขาซ้าย 2 นัด และ 3.ด.ช.ณรงค์ศักดิ์ หน่อจันทร์หอม อายุ 14 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 หมู่ 1 ต.โคกเคียน มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนพกสั้นที่บริเวณหัวเข่าขวา 1 นัด ทั้ง 3 รายอาการสาหัสแพทย์ต้องทำการปฐมพยาบาลอย่างเร่งด่วน

จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้ายจำนวน 6 คน ขี่และซ้อนท้ายรถ จยย.จำนวน 3 คันมาจอดบนถนนหน้าที่ทำการสหกรณ์ จากนั้นคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายจำนวน 2 คน ได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม.16 และอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 ม.ม.
ออกมากราดยิงใส่ที่ทำการสหกรณ์ในระหว่างที่นายคะนึง และ ด.ช.ณรงค์ศักดิ์ กำลังนั่งคุยกันอยู่ภายในสหกรณ์ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนร้ายอีก 1 คนได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 ม.ม.ยิงใส่นางชุม ที่กำลังเก็บของอยู่หน้าบ้านพักทำให้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน ก่อนที่คนร้ายจะรีบขี่รถ จยย.หลบหนีไป ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อข่มขู่และขับไล่ชาวไทยพุทธออกนอกพื้นที่
 

วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554

ได้ธงชาติคลุมศพแล้วก็จบกันไป

ยิงทหาร แล้วเดี๋ยวมันก็มอบตัว
แล้วกลายเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย
ส่วนทหารไทย ได้ธงชาติ หนึ่งผืนคลุมศพ
แล้วก็จบกันไป


http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=500729
21 มีค. 2554 12:33 น. 




เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 21 มี.ค. พ.ต.อ.ปัตตะ มะอาวา ผกก.สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ทหารชุดลาดตระเวนเส้นทางสังกัด ร้อย ร.9011 ฉก.นราธิวาส 34 ปะทะกับคนร้ายบริเวณเนินดินบ้านไอร์ซือระ ม.3 ต.ช้างเผือก ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นาย จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ 
พบศพเจ้าหน้าที่ทหาร 2 นาย ถูกกระสุนปืนของคนร้ายพรุนไปทั้งร่าง ทราบชื่อ คือ 1.ส.อ.ชเนรินทร์ กันทะ อายุ 25 ปี หัวหน้าชุด 2.พลทหารนเรศ เพชรรัตน์ ส่วนในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนสงคราม เอ็ม16 และอาก้าของคนร้ายตกอยู่ที่บริเวณพงหญ้ารกทึบตรงข้ามศพของเจ้าหน้าที่ทหาร จำนวน 2 จุดใหญ่ จำนวนกว่า 60 ปลอก 
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.อ.ชเนรินทร์ หัวหน้าชุด ได้นำกำลัง รวม 8 นาย ขี่รถจักรยานยนต์ 4 คัน เป็นพาหนะออกจากฐาน ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย ถึงที่เกิดเหตุซึ่ง 2 ฟากถนนเป็นเนินดิน ส.อ.ชเนรินทร์ จึงได้สั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาจอดรถจักรยานยนต์แล้วแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด ชุดละ 4 นาย เพื่อขึ้นไปตรวจสอบที่บริเวณเนินดิน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา กลุ่มคนร้ายมักแฝงตัวใช้อาวุธปืนสงครามดักซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหารเป็นประจำ 
ทั้งนี้ ขณะที่ ส.อ.ชเนรินทร์ และเจ้าหน้าที่ทหารกำลังเดินขึ้นไปตรวจสอบบนเนินดินอยู่นั้น ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซึ่งแฝงตัวอยู่บนเนินดิน ได้ใช้อาวุธปืนสงคราม อาก้าและเอ็ม16 ยิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ทหาร จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกันเป็นระลอกนานกว่า 10 นาที และเมื่อเสียงปืนสงบลงพบว่า ส.อ.ชเนรินทร์และพลทหารนเรศ เสียชีวิต ส่วนกลุ่มคนร้ายได้ล่าถอยไป


21 มีค. 2554 14:15 น. 
เจ้าหน้าที่ทหารชุดลาดตระเวนเส้นทางสังกัด ร้อย ร.9011 ฉก.นราธิวาส 34 ปะทะกับคนร้ายบริเวณเนินดินบ้านไอร์ซือระ ม.3 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นาย จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพเจ้าหน้าที่ทหาร 2 นาย ถูกกระสุนปืนของคนร้ายพรุนไปทั้งร่าง ทราบชื่อ คือ 1. ส.อ.ชเนรินทร์ กันทะ อายุ 25 ปี หัวหน้าชุด 2. พลทหารรเรศ เพชรรัตน์ ส่วนในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนสงคราม เอ็ม.16 และอาก้า.ของคนร้ายตกอยู่ที่บริเวณพงหญ้ารกทึบตรงข้ามศพของเจ้าหน้าที่ทหาร จำนวน 2 จุดใหญ่ จำนวนกว่า 60 ปลอก 
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.อ.ชเนรินทร์ หัวหน้าชุด ได้นำกำลัง รวม 8 นาย ขี่รถจักรยานยนต์ 4 คัน เป็นพาหนะออกจากฐาน ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย ถึงที่เกิดเหตุซึ่ง 2 ฟากถนนเป็นเนินดิน ส.อ.ชเนรินทร์ จึงได้สั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาจอดรถจักรยานยนต์แล้วแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด ชุดละ 4 นาย เพื่อขึ้นไปตรวจสอบที่บริเวณเนินดิน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา กลุ่มคนร้ายมักแฝงตัวใช้อาวุธปืนสงครามดักซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหารเป็นประจำ 
ทั้งนี้ ขณะที่ ส.อ.ชเนรินทร์ และเจ้าหน้าที่ทหารกำลังเดินขึ้นไปตรวจสอบบนเนินดินอยู่นั้น ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซึ่งแฝงตัวอยู่บนเนินดิน ได้ใช้อาวุธปืนสงคราม อา.ก้า.และเอ็ม.16 ยิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ทหาร จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกันเป็นละลอกๆนานกว่า 10 นาที และเมื่อเสียงปืนสงบลงพบว่า ส.อ.ชเนรินทร์และพลทหารนเรศ เสียชีวิต ส่วนกลุ่มคนร้ายได้ล่าถอยไป


90 วันเราทำได้

นราธิวาส - คนร้าย 10 คนสวมหมวกไหมพรมเป็นไอ้โม่งอำพรางใบหน้า ใช้อาวุธสงครามบุกยิง ชรบ.พร้อมภรรยาและเพื่อนบ้าน รวม 3 ศพ เสียชีวิตคาบ้านพัก ในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
    
       เมื่อเวลา 20.30 น.วานนี้ (22 มี.ค.) ร.ต.อ.ไพรัช เกียรติเจริญศิริ ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายจำนวน 10 คน สวมหมวกไหมพรมเป็นไอ้โม่งอำพรางใบหน้า ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และอาก้าบุกยิงชาวบ้านเสียชีวิต 3 ศพ ภายในบ้านเลขที่ 146/6 บ้านสะตอ ม.7 ต.รือเสาะ จึงพร้อมด้วย นายวัชรศักดิ์ จุลยานนท์ นายอำเภอรือเสาะ พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สภ.รือเสาะ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
    
       เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากยืนมุงอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านพักหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้กันออกห่างก่อนเข้าตรวจสอบ พบศพผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย นอนจมกองเลือดอยู่บริเวณห้องโถงหน้าโทรทัศน์ โดยทั้ง 3 รายถูกกระสุนปืนสงครามอาก้า และเอ็ม 16 พรุนไปทั้งร่าง จากการตรวจสอบทราบชื่อคือ 1.นายมะซาราพี กูโน อายุ 33 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านสะตอ, 2.นางโนรียะ มะแซมิง อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นภรรยานายมะซาราพี และเป็นอาสาสมัครสาธารณะสุข (อสม.), 3.นางดีเยาะ เจ๊ะอาแซ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน อยู่บ้านเลขที่ 143 ม.7 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
    
       จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนสงครามอาก้า และเอ็ม 16 ตกอยู่ภายในห้องโถง จำนวน 16 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะนำศพผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ส่งให้แพทย์โรงพยาบาลรือเสาะ เพื่อทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา
    
       สอบสวนทราบว่า ในระหว่างที่สองสามีภรรยาและเพื่อนบ้านอีก 1 คนกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ภายในบ้าน ได้มีคนร้ายจำนวน 10 คนสวมหมวกไหมพรมอำพรางใบหน้า ในมือถืออาวุธปืนสงคราม และอาวุธปืนพกสั้นคนละกระบอก บุกเข้าไปใช้เท้าถีบประตูบ้านพักจนพัง แล้ววิ่งกรูเข้าไปในบ้าน 2 ใน 10 คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และอาก้ากราดยิงใส่ผู้ตายทั้ง 3 คนจำนวน 16 นัดซ้อนจนเสียชีวิต แล้วคนร้ายอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไป
    
       ส่วนสาเหตุในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อลอบดักสังหารคนของเจ้าหน้าที่รัฐ เนื่องจากนายมะซาราพี ซึ่งเป็น ชรบ.ได้ทำหน้าที่แอบเป็นสายข่าวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รือเสาะ ในการแจ้งเบาะแสความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายที่แฝงตัวเคลื่อนไหวในหมู่บ้าน จนเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้จำนวนหลายคนในช่วงที่ผ่านมา

ไปกราบส้นตีนโจรใต้ซะ 1




ล่าไปเป๋ศิษย์อัลเลาะห์


นราธิวาสออกหมายจับโจรใต้ขาเป๋ยิง อส.ดับ 2 ศพ-พบก่อเหตุอีก 6 คดี
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์26 มีนาคม 2554 21:09 น.

       นราธิวาส - ตำรวจรือเสาะออกหมายจับนายมะไซดี ยะกูมอ อายุ 24 ปี ซึ่งเพิ่งก่อเหตุยิง อส.ตาย 2 ศพ เนื่องจากพยานชี้ตัวได้เหมือนกันเพราะมีลักษณะขาเป๋ ตรวจประวัติพบก่อเหตุโชกโชนมีหมายจับ 6 คดี เช่นเดียวกับพี่น้องอีก 2 คนที่เข้าร่วมกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบที่ทางการกำลังต้องการตัว
     
       วันนี้ (26 มี.ค.) เวลา 14.00 น. ที่ สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สภ.รือเสาะ ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีเหตุคนร้าย จำนวน 2 คน ใช้อาวุธปืนเอ็ม16และอาก้าบุกยิงถล่มบ้านเลขที่ 54/2 ม.2 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 16 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ อส.อารมณ์ โยธาทิพย์ ซึ่งเป็น อส.ประจำที่ว่าการ อ.รือเสาะ และนายพบ ทองแก้ว อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นอดีตทหารพราน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 รายนั้น
     
       ล่าสุด จากการเชิญพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน จำนวน 5 ราย ต่างยืนยันว่าจดจำใบหน้าและรูปพรรณสัณฐาน 1 ใน 2 คนร้ายได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำภาพถ่ายบุคคลในแฟ้มประวัติคดีความมั่นคง มาให้พยานทั้ง 5 ชี้ ซึ่งทุกคนต่างมั่นใจว่า 1 ใน 2 คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนั้น คือ นายมะไซดี ยะกูมอ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/1 ม.5 ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา
     
       อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังได้ให้พยานทั้ง 5 คน ดูภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดที่ติดไว้บนเสาไฟฟ้าจุดเกิดเหตุ พยานทุกคนต่างยืนยันว่าเป็นนายมะไซดี เนื่องจากมีลักษณะขาเป๋ ซึ่งเป็นบุคลิกที่พยานทุกคนจำได้แม่นยำ เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมหลักฐานส่งศาลจังหวัดนราธิวาสออกหมายจับแล้วในวันนี้
     
       ส่วนประวัติ นายมะไซดี มีหมายจับก่อคดีความมั่นคง จำนวน 6 หมายจับ ทั้งยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยิงอาสาสมัครทหารพราน ยิงชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และยิงผู้ใหญ่บ้านเสียชีวิตทั้งในพื้นที่ จ.ยะลาและนราธิวาส โดยนายมะไซดี มีพี่น้องรวม 3 คน เข้าร่วมเป็นสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ RKK เมื่อประมาณ 7 ปี ที่ผ่านมา ส่วนพี่ชายอีก 2 คน คือ นายมะสุการือนอ และนายมะสุเพียน ต่างก็เป็นสมาชิกแนวร่วมที่มีหมายจับพอๆกันทั้ง 3 พี่น้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าทั้ง 3 คนต่างหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปด้วยกันและแอบแฝงตัวกบดานอยู่ที่บ้านของสมาชิกแนวร่วมพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งในจ.ยะลาและนราธิวาส

พระคุ้มครอง หรืออัลเลาะห์ไม่เอามึง อิอิ


โจรใต้วางระเบิดหวังดักสังหาร รอง สว.สส. โชคดีรถเสียหายเล็กน้อย ที่ อ.รือเสาะ

http://peace.chaotainews.com/index.php?option=com_content&view=article&id=2075:2011-03-24-08-03-08&catid=10:2008-07-22-05-57-22&Itemid=10



คำเตือน: ภาพถ่ายนี้เป็นลิขสิทธิ์ของช่างภาพ ห้ามทำซ้ำหรือนำไปเผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของภาพ
เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 23 มี.ค. 54 ร.ต.ท.อุกฤษฏ์ สังฆะมณี ร้อยเวร สภ.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหาร ร.ต.อ.ครรชิตพล กึนอ รอง สว.สส. สภ.รือเสาะ  บริเวณซุ้มประตูทางเข้ามัสยิดตันตันหยง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนในหมู่บ้านสโส ว์ หมู่ 7 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จึงพร้อมด้วย ร.ต.ท.นัฐวิทย์ วันเพ็ญศรี รอง สว.กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.ภ.จ.นราธิวาส พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พบมีหลุดระเบิดลึก 1 ฟุต กว้าง 3 ฟุต และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็กหนัก 5 ก.ก. ตกกระจายเกลื่อนบนถนนและพงหญ้ารก ทึบริมทาง และห่างออกไปประมาณ 50 เมตร พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมาสด้า สีเขียว หมายเลขทะเบียน กง-8975 ปัตตานี ซึ่งมีสภาพถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณตัวถังด้านซ้ายได้รับความเสียหาย รวมถึงกระจังหน้าที่ถูกสะเก็ดระเบิดแตกหัก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

จากการสอบสวน ร.ต.อ.ครรชิตพล กึนอ รอง สว.สส. สภ.รือเสาะ ทราบว่า ก่อนเกิดได้ระดมกำลังจำนวน 7 นาย พร้อมอาวุธปืนครบมือนั่งรถยนต์กระบะออกไปสืบสวนหาข่าวเหตุคนร้ายจำนวน 10 คน สวมหมวกไหมพรหมอำพรางใบหน้า พร้อมอาวุธปืนเอ็ม.16 และ อา.ก้า บุกยิงสายข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 3 ร้าย เหตุเกิดเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมาที่ บ้านสะตอ หมู่ 7 ต.รือเสาะ เมื่อแล้วเสร็จได้นั่งรถยนต์กลับ สภ.รือเสาะ จนกระทั่งถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนที่แฝงตัวอยู่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดที่ลอบไปฝังไว้จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ แต่รถยนต์กระบะได้รับความเสียหายที่บริเวณตัวถังด้านซ้าย

- 
-
-

คุ้มครองพระ ?

คลิ๊ปจากเวปไซท์ ไอ้พวกแบ่งแยกดินแดน

เข้าใจ เข้าถึง ป๊าตตานานานานานา 1


ยิงทหารตาย1เจ็บสาหัส1ที่ปัตตานี


นรา-วางระเบิดรับปีใหม่ 2011/ 2554 ตำรวจตาย 2 เจ็บอีก 9 ราย





วางระเบิดทหารที่เจาะไอร้องเจ็บ 3 นาย วันที่ 3 ม.ค. 54


วางระเบิดทหารที่เจาะไอร้องเจ็บ 3 นาย

      เมื่อเวลา 06.55 น. วันที่ 3 ม.ค. 54 พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ ผกก.สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดแล้วยิงถล่มซ้ำเจ้าหน้าที่ทหารดักสังกัด ร้อย ร.15114 ฉก.นราธิวาส 31 บนถนนสายเจาะไอร้อง-ป่าไผ่ ช่วงบริเวณบ้านลูโบ๊ะเยาะ ม.7 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 3 นาย จึงสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครอง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับ พ.ต.อ.อภิรัฐ สังข์ขาว รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส

      เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบรถ จยย. สีบรอนส์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนล้มตะแคงอยู่ริมถนน โดยเฉพาะป่ารกทึบฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นต้นสาเกขนาดใหญ่ใต้โคนมีหลุมลึก 2 ฟุต กว้าง 4 ฟุต และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 5 ก.ก. จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนและพงหญ้ารกทึบริมทาง

      ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลเจาะ ไอร้องไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อ คือ 1. ส.ท.วัชรศักดิ์ คงศิลป์ อายุ 27 ปี หัวหน้าชุด ถูกกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณลำคอ 2. พลทหารสการียา แดเมาะ อายุ 22 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณแขนและข้อเท้าขวา 3. พลทหารซำรี บือราเฮง อายุ 23 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณแขนขวา เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักในที่เกิดเหตุ

      จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.ท.วัชรศักดิ์ หัวหน้าชุดได้นำกำลัง 6 นาย ขี่รถ จยย.3 คัน ออกจากฐานเพื่อเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ รปภ.สถานีรถไฟเจาะไอร้อง เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ได้ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดที่นำไปวางไว้ใต้โคนต้นสาเก จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ แล้วกลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสงคราม อา.ก้า.และเอ็ม.16 ยิงถล่มซ้ำใส่เจ้าหน้าที่ จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกันเป็นละลอกๆนาน 5 นาที เมื่อกลุ่มคนร้ายเห็นเจข้าหน้าที่เข้าสนับสนุน จึงได้อาศัยความชำนาญล่าถอยไป

นรา-ยิงผญบ.ตันหยงลิมอคนสนิทขิง ผช.ผบ.ทบ.ตาย


ผู้ใหญ่บ้านตันหยงลิมอ คนสนิทผู้ช่วย ผบ.ทบ.ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ก่อนหนีคนร้ายได้หยิบอาวุธปืนพกสั้น 9 ม.ม.พร้อมกระสุน 60 นัดไปด้วย
       เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 7 ม.ค. 54 พ.ต.ท.เฉลิม ยิ่งคง สว.เวร สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนตามประกบยิงผู้ใหญ่บ้านตันหยงลิมอ ม.7 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ เสียชีวิตใกล้กับคอสะพานไอ้แดง จึงพร้อมด้วย นายศุภวริศ เพชรกาฬ นายอำเภอระแงะ พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ
       พบชาวบ้านเป็นจำนวนมากยืนมุงดูศพผู้เสียชีวิตที่นอนจมกองเลือดอยู่ริมถนน ข้างรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีมสีดำ ทะเบียน กมว-734 นราธิวาส จากการตรวจสอบทราบชื่อต่อมาคือ นายสิงห์ชัย สาและ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153/1 ม.7 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านตันหยงลิมอ และเป็นคนสนิทของ พล.อ.พิเชษฐ์ วิสัญจร ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ที่ร่วมกันก่อตั้งและดำเนินการโครงการเศรษฐกิจพอเพียง จนเป็นสถานที่ต้นแบบแห่งการเรียนรู้ขยายสู่หมู่บ้านต่างๆในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยถูกกระสุนปืน อา.ก้า.และกระสุนปืนพกสั้น ขนาด .38 ซุปเปอร์ ของคนร้ายที่บริเวณแผ่นหลัง หน้าอก และศรีษะ
       และจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน อา.ก้า.และกระสุนปืนพกสั้น ขนาด .38 ซุปเปอร์ ตกอยู่ที่บริเวณริมถนนและข้างศพผู้เสียชีวิต รวม 10 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะนำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลระแงะ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง
       จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขี่รถ จยย.ออกจากบ้านตามลำพัง โดยพกอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 ม.ม. พร้อมแม็กกาซีนอีก 4 อัน ซึ่งบรรจุกระสุน จำนวน 60 นัด ที่ใส่ไว้ในเข็มขัดพกอาวุธปืนนำไปคาดเอวเพื่อเดินทางไปร่วมกินน้ำชาในหมู่ บ้านกับชาวบ้าน ถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้าย จำนวน 2 คน ขี่รถ จยย.เป็นพาหนะตามไล่หลัง เมื่อสบโอกาสคนร้ายได้ขี่รถ จยย.เข้าประชิด ให้คนร้ายที่นั่งซ้อนท้เยใช้อาวุธปืน อา.ก้า.ยิงใส่ผู้ตาย จำนวน 5 นัดซ้อน เมื่อถูกกระสุนปืนรถ จยย.ผู้ตายได้เสียหลักล้มคว่ำริมถนน แล้วคนร้ายได้จอดรถ จยย. ทั้ง 2 คน ได้เดินถืออาวุธปืน อา.ก้า.และอาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38 ซุปเปอร์ ออกมาจ่อยิงซ้ำใส่ผู้ตายเพื่อให้มั่นใจว่าเสียชีวิต แล้วคนร้ายได้ปลดเข็มขัดอาวุธปืนของผู้ตายที่คาดเอวไว้ วิ่งหลบหนีขึ้นรถ จยย.ขี่หลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
       ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ ไม่หวังดี ที่ต้องการสังหารคนของทางการรายวัน ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยถูกกลุ่มคนร้ายลอบดักสังหารมาแล้ว 2 ครั้ง แต่สามารถรอดชีวิตมาได้ และมาพบจุดจบในครั้งที่ 3


ยิงถล่มฐานปฎิบัติการร้อย ร.15121ฉก.นราธิวาสที่ 38


ยิงถล่มฐานปฏิบัติการทหาร ฉก.นราธิวาส 38 ทหารสังเวยชีวิต 6 ศพ เจ็บอีก 6 นาย...
เมื่อ เวลา 20.30 น. 19 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานด่วน เหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มเข้าใส่ฐานปฏิบัติการทหาร ฉก.นราธิวาส 38 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทำให้ทหารเสียชีวิต 6 นาย บาดเจ็บอีก 6 นาย ส่วนที่ อ.บาเจาะ คนร้ายลอบวางเพลิงเผาศาลาที่พักริมทางวอดอีก 1 หลัง

รายงาน ข่าวแจ้งว่า กำลังทหารที่เข้ามาเสริม ได้เร่งเข้าไปช่วยเหลือนำคนเจ็บออกจากจุดปะทะ ก่อนนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ส่งรพ.ระแงะ 4 นาย และรพ.อีกแห่งหนึ่ง 2 นาย ซึ่งมีอาการสาหัส ซึ่งระหว่างลำเลียงคนเจ็บอยู่นั้น โจรใต้ยังยิงปะทะกับกองกำลังทหารอยู่ตลอดเวลา

สำหรับรายชื่อ ทหารที่ เสียชีวิตคือ 1. ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ผบ.ร้อย ร. 15121 ถูกกระสุนยิงเข้าที่หน้าอกเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2.ส.ท.อับดุลเลาะห์ กาหยี ที่เหลืออีก 4 ราย ยังไม่ทราบรายชื่อ ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 6 นาย คือ 1.พลทหารธันวา ยอดแก้ว 2.พลทหารอาริต บูดิง สารี 3.ส.อ.ณัฐกิจ โพธิ์จันทร์ 4.จ.ส.อ.จิตนะ นุตะมะ 5.พลทหารสุคน สามาบุตร และ 6.ส.อ.สุพล ชูศรี

ความเสียหายภายในฐานทหารที่ระแงะ



โจรใต้วางระเบิด จยย บอมบ์ดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารที่บาเจาะ ...
เหิมไม่หยุด! โจรใต้วางบึม จยย. บอมบ์ทหารเจ็บ 2 นายที่ อ.บาเจาะ  นราธิวาส ขณะออกฐาน ไปพบปะชาวบ้านในพื้นที่ ต.บาเร๊ะใต้ พบซากระเบิดประกอบใส่ท่อเหล็กหนัก 10 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร...

เมื่อ เวลา 09.20 น.วันที่ 20 ม.ค. พ.ต.ท.ประทีป สุขสาร สารวัตรเวร สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายวางระเบิด จยย.ดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารชุดสันติสุขที่ 405 บนถนนสายบ้านทอน-บาเจาะ บ้านบือเร๊ะ หมู่ 1 ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จึงพร้อมด้วย น.ท.รัฐโรจน์ อภิรัชช์รัศมี ผบ.ฉก.นราธิวาส 32 พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบซากรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเมท สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คนร้ายนำระเบิดไปผูกไว้ที่บริเวณตะแกรงด้านบนของตัวเครื่องตกกระจายเกลื่อน ทั่วบริเวณ และพบซากชิ้นส่วนของระเบิดที่คนร้ายนำไปประกอบใส่ไว้ในท่อเหล็กทรงกลมหนัก 10 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกบริเวณถนนและพงหญ้าริมทางอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 นายเพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษา รพ.บาเจาะ ทราบชื่อ คือ 1.จ.ส.อ.ประยูร ขุนสวัสดิ์ อายุ 55 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณแขนซ้าย 2.จ.ส.อ.จำลอง ภิรมย์สุข อายุ 49 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณลำตัว

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ร.ต.พงศธร เฟื่องปาง หน.ชุดได้นำกำลังจำนวน 5 นาย นั่งรถยนต์กระบะ และรถ จยย.รวม 2 คัน ออกจากฐาน เพื่อเดินทางไปพบปะชาวบ้านในพื้นที่ ต.บาเร๊ะใต้ เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายซึ่งแฝงตัวอยู่ริมทางใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวน ระเบิด ที่นำไปผูกไว้บริเวณตะแกรงด้านบนของตัวเครื่องรถ จยย. ซึ่งคนร้ายนำไปจอดไว้ริมถนน และเกิดระเบิดขึ้นขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารขับและขี่รถ จยย.ผ่าน ส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บดังกล่าว.


ชี้โจรใต้ถล่มฐาน ปล้นอาวุธ เอ็ม16หายเพียบ
แฉโจรใต้ถล่มฐานทหารที่นราฯ หวังปล้นอาวุธ พบอาคารน็อคดาวน์ ที่ใช้เป็นสถานที่เก็บอาวุธประจำฐานถูกงัด ปืนเอ็ม.16, ปืนพกสั้นหายไปกว่า50กระบอก กระสุนอีก พันนัด คาดเตรียมก่อเหตุใหญ่ ด้านมทภ.4ลงพื้นที่เยี่ยมอาการ และให้กำลังใจ...
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 20 ม.ค.ที่ตึกศัลยกรรมชาย รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ พร้อมด้วย นายเดชรัตน์ สิมศิริ รอง ผวจ.นราธิวาส เข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ทหาร สังกัด ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 จำนวน นาย ซึ่งถูกกลุ่มคนร้ายบุกยิงถล่มภายในฐานปฏิบัติการ ร้อย ร.15121 โดยทำให้ ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ผบ.ร้อย ร.15121 เสียชีวิตในที่เกิดเหตุพร้อมลูกน้องอีก นายประกอบด้วย ส.อ.เทวรัตน์ เทวา ส.อ.อับดุลเลาะห์ ตาหยี และพลฯประวิทย์ ชูกลิ่น


ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ ได้เยี่ยมพร้อมซักถามถึงอาการบาดเจ็บจากแพทย์ของ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งผู้บาดเจ็บทั้ง นาย มีอาการสาหัส นาย โดยนอนรักษาตัวอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดที่ห้องไอซียู คือ ส.อ.สุคน ชูศรี อายุ 28 ปี ที่ถูกกระสุนเข้าที่บริเวณก้นและขา และ พลฯธันวา ยอดแก้ว อายุ 22 ปี ซึ่งถูกกระสุนเข้าที่ปอดเฉี่ยวขั้วหัวใจ โดยแม่ทัพภาคที่ 4ได้มอบเงินเยียวยาสภาพจิตใจของทหารทั้ง นาย โดยสรุปยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด นาย และผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดรวม 13นาย นอกพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ จำนวน นาย และพักรักษาตัวอยู่ที่ฐานปฏิบัติการจำนวน นาย
พล.ท.อุดมชัย กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้มีการเตรียมความพร้อมและเฝ้าระวังในหลายพื้นที่โดย เฉพาะพื้นที่เสี่ยง แต่ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งกลุ่มคนร้ายลงมือปฏิบัติการอย่างอุก อาจในช่วงเวลา 19.30 น.นั้น เกิดข้อผิดพลาดที่กองกำลัง ทำให้เกิดช่องโหว่ ซึ่งจะต้องมีการประเมินและหาแนวทางเพื่อแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่น นี้อีกต่อไป อย่างไรก็ตามถึงแม้จะเกิดการสูญเสียกำลังพลอีกครั้งหนึ่ง แต่เท่าที่ทราบทุกนายก็พยายามเต็มที่แล้ว โดยมีการยิงปะทะกันประมาณ 30 นาที อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่ปฏิบัติงานของกองกำลังทุกหน่วยเชื่อว่า ประชาชนทุกคนเข้าใจในการทำงานของภาครัฐมากขึ้น โดยเหตุการณ์ที่ผ่าน ๆ มาซึ่งเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดีจะเป็นตัวช่วยทำให้ประชาชนรู้ซึ้งถึง พฤติกรรมความมุ่งร้ายของฝ่ายตรงข้ามได้ชัดเจนมากขึ้นเช่นกัน
ต่อมา เวลา 08.30 น. วันเดียวกัน นายเดชรัฐ สิมศิริ รอง ผวจ.นราธิวาส พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ชุดคลี่คลายคดีความมั่นคง จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมเดินทางไปยังฐานปฏิบัติการพระองค์ดำ สังกัด ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 ริมถนนสายมะรือโบตก-รือเสาะ บ้านมะรือโบตก หมู่ ต.มะรือโบ ตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งถูกกลุ่มคนร้ายยิงถล่มฐานทำให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากการตรวจสอบความเสียหายพบว่ามีอาคารน็อคดาวและเพิงพักของทหารถูก คนร้ายวาง เพลิง ได้รับความเสียหาย หลัง รถ จยย.ถูกวางเพลิง คัน โดยเฉพาะที่บริเวณอาคารน็อคดาวที่ใช้เป็นสถานที่เก็บคลังอาวุธประจำฐาน ถูกกลุ่มคนร้ายงัดประตูและขโมยอาวุธปืนสงคราม เอ็ม.16 และอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 11 ม.ม. ไปจำนวนกว่า 50 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนกว่า4,000 นัด นอกจากนี้บริเวณรั้วสนามที่ใช้ทำเป็นกำแพงด้านหลังของฐาน เจ้าหน้าที่พบกลุ่มคนร้ายได้ใช้ไม้กระดานขนาดยาวประมาณแผ่นละ เมตร จำนวนกว่า 10 แผ่น วางพาดเพื่อใช้เป็นสะพานในการวิ่งกรูเข้าโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารแบบประชิดตัวและเจ้าหน้าที่สามารถเก็บรวบรวมหลักฐานและชิ้นส่วนของวัตถุระเบิด ซึ่งกลุ่มคนร้ายใช้เป็นอาวุธในการบุกโจมตีเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบพบหลุมเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม.79 และเอ็ม.203 จำนวนกว่า 20 จุด ปลอกกระสุนปืน เอ็ม.16เอ็ม.60 อา.ก้า.ลูกซอง อาวุธปืนพกสั้น ขนาด ม.ม. ขนาด 11 ม.ม. ตกอยู่เกลื่อนบริเวณฐานทหาร รวมทั้งสิ้นกว่า 700 นัด
โดย แหล่งข่าวชุดคลี่คลายคดีความมั่นคง จังหวัดชายแดนภาคใต้และเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้าร่วมตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้นใน ครั้งนี้ได้ประเมินว่า การปฏิบัติการของกลุ่มคนร้ายในครั้งนี้มีไม่ต่ำกว่า 40 คน มีการวางแผนบุกโจมตีฐานไว้อย่างดีกว่าเหตุคนร้ายบุกปล้นปืนที่กองพันพัฒนา ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ ม.ค. 2547 ที่ผ่านมา ซึ่งคาดกลุ่มคนร้ายน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวกำลังพลและความเคลื่อนไหวภายในฐาน จึงหาช่องว่างบุกโจมตีในช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งกำลังที่ปฏิบัติการในครั้ง นี้เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเคยร่วมบุกปล้น ปืนด้วย โยมีนายมะแซ อุเซ็ง เป็นผู้บงการในการรวบรวมอาวุธเพื่อเตรียมนำมาใช้ก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ใน พื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ราวประมาณเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมที่จะถึงนี้
ส่วนการติดตามไล่ ล่ากลุ่มคนร้ายนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจและฝ่ายปกครองที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ อำเภอระแงะ ได้ร่วมสนธิกำลังประมาณ 300 นาย พร้อมสุนัขสงครามดมกลิ่นกระจายกำลังกันโอบล้อมเทือกเขาซึ่งตั้งอยู่หลังฐาน และเป็นเส้นทางหลบหนีของกลุ่มคนร้ายหลังจากปฏิบัติการถล่มฐานทหารแล้ว เสร็จ ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบรอยเลือดของกลุ่มคนร้ายหยดตามเส้นทางที่มุ่ง หน้าขึ้นสู่เทือกเขา ซึ่งห่างจากฐานประมาณ 500 เมตร และคาดว่ากลุ่มคนร้ายถูกเจ้าหน้าที่ยิงได้รับบาดเจ็บไปจำนวนหลายคน.

ชั่วรายวันอีกแล้ว


อส.ชุด รปภ.ครูยะลา” เจ็บ 5 นาย


กดบึ้ม “อส.ชุด รปภ.ครูยะลา” เจ็บ 5 นาย ขณะเดินทางกลับที่ตั้ง

       เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2554 เวลา 08.05 น. ศูนย์รวมข่าว สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน สภ.เมืองยะลา ว่า ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บนถนนสายท่าสาป-สนามบิน หมู่ 1 บ.ท่าสาป ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 นาย จึงได้แจ้ง พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผกก.สภ.เมืองยะลา พร้อมประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา เดินทางเข้าตรวจสอบทันที

       เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุโดยรอบ พร้อมให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา เข้าตรวจสอบ พบรถยนต์กระบะโตโยต้าสีน้ำเงิน หมายเลข ปพ 5079 กทม. ซึ่งเป็นรถยนต์ของทางราชการ จอดอยู่โดยที่ด้านข้างตัวรถด้านซ้าย ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันลำเลียงส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา จำนวน 5 ราย ทราบชื่อคือ นายวิเชียร สายดวง หัวหน้าชุด นายอับดุลรอแม มะเซ็งบางี นาย มะหาดี ดือรานิง นาย ณัฐศักดิ์ นวลจันทร์ นาย รัดกมล แซ่ว่อง

      นอกจากนั้นในจุดเกิดเหตุพบเสาไฟฟ้าถูกแรงระเบิดได้รับความเสีย หายหัก 1 ต้น อยู่ริมถนนข้างรถ นอกจากนั้นยังพบเศษสะเก็ดระเบิด เศษกล่องเหล็กที่คาดว่าใช้บรรจุระเบิด และเศษวงจรอีเลคทรอนิค ตกอยู่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 3-5 กก.บรรจุในกล่องเหล็กผูกติดอยู่กับเสาไฟฟ้าริมถนน ส่วนการจุดชนวนอยู่ในระหว่างตรวจสอบว่า เป็นระบบรีโมทหรือระบบมือถือ

      จากการสอบสวนทราบว่าในขณะที่อาสาสมัครรักษาดินแดน ทั้ง 5 นาย เดินทางด้วยรถยนต์กระบะคันดังกล่าว กลับจากการรักษาความปลอดภัยครูโรงเรียนบ้านท่าสาป เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ คนร้ายซึ่งได้นำระเบิดมาผูกติดไว้กับเสาไฟฟ้าริมถนน ได้จุดชนวนระเบิดขึ้นทันที ทำให้เสาไฟฟ้าหัก และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ที่ต้องการสร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

“บึ้ม” คนหาของป่ายะลา ดับ 9 เจ็บ 2 ที่ อ ยะหา จ ยะลา


“บึ้ม” คนหาของป่ายะลา ดับ 9 เจ็บ 2 ที่ อ.ยะหา จ.ยะลา
      เมื่อวันที่ 25 ม.ค 54 เวลา 17.35 น.ศูนย์วิทยุ สภ.ยะหา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ถนนภายในหมู่บ้าน บ้านปะแดรู หมู่ที่ 1 อ.ยะหา จ.ยะลา มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จึงได้แจ้ง พ.ต.อ.สวัสดิ์ เตียวิวัฒน์ ผกก.สภ.ยะหา พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง พร้อมมูลนิธิกู้ภัย เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
      เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะอีซูซุแคป ดีแม็กซ์ สีบรอนด์เงิน หมายเลขทะเบียน บว.3488 สงขลา ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดพังยับเยิน พร้อมกับพบร่างผู้เสียชีวิตภายในรถยนต์ และอยู่ข้างทาง ริมถนนรวม 7 ราย นอกจากนั้นยังพบซากหมูป่า สุนัข และอาวุธปืนตกอยู่เกลื่อนถนน นอกจากนั้นยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา จำนวน 4 ราย และได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา 2 ราย ขณะนี้ยังไม่ทราบชื่อ
      โดยห่างจากรถยนต์เล็กน้อย เจ้าหน้าที่พบหลุมที่เกิดจากแรงระเบิดกว้างประมาณ 2 เมตร รวมทั้งเศษถังดับเพลิง และสายไฟ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องบรรจุในถังดับเพลิง น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 10 กก. ที่คนร้ายนำมาฝังใต้ผิวถนน
      จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่ ชาวบ้านทั้ง 11 ราย ซึ่งเป็นคนพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ได้ขับรถยนต์กลับจากหาของป่าในพื้นที่ เพื่อเดินทางกลับ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนร้าย ซึ่งได้ซุ่มอยู่ในบริเวณจุดเกิดเหตุ ได้จุดชนวนระเบิดขึ้นทันที เป็นเหตุให้ชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวเสียชีวิตรวม 9 ราย และบาดเจ็บ 2 รายดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือของกลุ่มคนร้ายที่ต้องการสร้างสถานการณ์ ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

คาร์บอมบ์แฟลตตำรวจ


วางระเบิดคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจศรีสาครรถพัง 18 คัน เจ็บ 5 ราย

วางระเบิดคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจศรีสาครรถพัง 18 คัน เจ็บ 5 ราย

       เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 7 มี.ค. 54 ร.ต.ท.วีระทัย ศรีหมั่น ร้อยเวร สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณใต้ถุงแฟลต 5 ชั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ศีสาคร ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนบ้านฆอรอกาเว หมู่1 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.บรรลือ ชูเวทย์ รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พ.ต.อ.วุฒิพงศ์ เย็นจิตร ผกก.สภ.ศีสาคร นายไพโรจน์ จริตงาม นายอำเภอศรีสาคร ร.ต.ท.นัฐวิทย์ วันเพ็ญศรี รอง สว.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารชุด ฉก.นราธิวาสที่ 37 จำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

       พบใต้ถุนอาคารแฟลต 5 ชั้น เพลิงกำลังโหมลุกลามและกำลังลามกินพื้นที่อาคารชั้น 2 เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานไปยังหน่วยบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลตำบลศรีสาคร เพื่อขอสนับสนุนรถดับเพลิงมาทำการฉีดน้ำดับไฟ จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 10 นาที เพลิงจึงได้สงบลง และเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่ารถยนต์เก๋งและรถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จอดอยู่ จำนวน 18 คัน ถูกไฟไหม้จากแรงระเบิด14คันและกระจกแตกได้รับความเสียหายอีก 4 คัน โดยเฉพาะรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ สีบรอนส์-เงิน ทะเบียน บฉ-2400 ยะลา ซึ่งเป็นป้ายทะเบียนปลอมที่เขียนขึ้นมาเอง คนร้ายใช้เป็นพาหนะในการซุกซ่อนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ใน ถังแก๊สหุ้งต้มปิกนิก สีแดง หนัก 15 ก.ก. จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ อยู่ในสภาพพังยับเยิน แถมชิ้นส่วนของรถยนต์ยังกระเด็นไปถูกกระจกหน้าต่างบ้านพักของชาวบ้านที่อยู่ ฝั่งตรงข้าม ได้รับความเสียหายไป จำนวน 3 หลัง

       นอกจากนี้แล้วที่บริเวณฝาผนังปูนใต้ถุนอาคารยังถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสีย หาย ส่วนระบบน้ำประปาและระบบไฟฟ้าของแฟลตตำรวจได้รับความเสียหายจนใช้งานไม่ได้ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 5 ราย แยกเป็นตำรวจ 4 รายชาวบ้าน 1 ราย นำส่ง รพ.ศรีสาคร เพียง1ราย คือ จ.ส.ต.สานิตย์ ขวัญสุข ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.ศรีสาคร

       จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีชายวัยรุ่น จำนวน 1 คน แฝงตัวขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนส์-เงิน ขับไปจอดไว้ที่บริเวณใต้ถุนอาคารของแฟลตตำรวจ แล้วชายดังกล่าวได้วิ่งมาซ้อนท้ายรถ จยย.ของเพื่อนที่มารอรับ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเห็นท่าทีมีพิรุธ จึงได้วิทยุให้เพื่อนตำรวจช่วยกันสกัด เมื่อคนร้ายขี่รถ จยย.ถึงบริเวณหน้าบ้านพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งห่างจากแฟลตจุดเกิดเหตุ ประมาณ 50 เมตร คนร้ายได้เบี่ยงความสนใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้วยการใช้ระเบิดขว้างชนิดเอ็ม.26 ใส่บ้านพักตำรวจซึ่งเปิดเป็นร้านค้า จำนวน 1 ลูก จนทำให้ จ.ส.ต.สานิตย์ ขวัญสุข ยืนอยู่หน้าบ้านพักของตนเองได้รับบาดเจ็บ รวม 5 ราย หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที คนร้ายอีกชุดหนึ่งซึ่งคาดว่าแฝงตัวอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ ได้ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก็สหุ้ง ต้มหนัก 15 ก.ก. ที่นำไปซุกซ่อนใส่ไว้ในรถยนต์กระบะโตโยต้า จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ไฟลุกท่วมใต้ถุนอาคารแฟลตตำรวจ เนื่องจากคนร้ายยังได้นำน้ำมันเชื้อเพลิงบรรจุใส่แกลลอนซุกไว้ในรถระเบิด ด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อาศัยอยู่บนอาคาร ต่างได้พากันอพยพครอบครัววิ่งลงมาอยู่ชั้นล่าง อย่างโกลาหลโชคดีที่จุดนี้ไม่มีคนเจ็บ แต่รถยนต์ของเจ้าหน้าที่เสียหายทั้งหมด ....
Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม