สร้างความอัีปรีย์ แต่ผลสุดท้าย ตัวเองโดนซะเอง
| |
http://narater2010.blogspot.com/
|
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ มุสลิมป่าเถื่อน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ มุสลิมป่าเถื่อน แสดงบทความทั้งหมด
วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2555
ป้ายกำกับ:
ความชั่วรายวัน,
มุสลิมป่าเถื่อน,
ลัทธิบ้า ศาสดาบ๊องส์,
โอลันล้่า
วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2554
ป่วนไปทั่ว สมุนลัทธิบ้าคลั่ง
![]() |
ยิงทหารพราน เจ็บสาหัส 1 นาย 16 เมษา. 2554 16:56 น. กลุ่มก่อความไม่สงบก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน บาดเจ็บสาหัส 1 นายในพื้นที่ จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.ท.เปลี่ยน ชูสุวรรณ สารวัตรเวร สภ.ตันหยง อ.เมือง จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามตามประกบยิง อส.ทพ.มูหาหมัดยากี อามะ อายุ 26 ปี เป็นอาสาสมัครทหารพรานกองร้อยที่ 4616 กรมทหารพรานที่ 46 ซึ่งตั้งฐานอยู่บ้านนาดา ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้านโคกสยา ม. 8 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง ที่เกิดเหตุพบเพียงรถ จยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนล้มตะแคงอยู่ริมถนน พร้อมด้วยกองเลือดจำนวนหนึ่งตกอยู่ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บพลเมืองดีได้นำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ไปก่อนหน้าแล้ว โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบพบหลักฐานใดๆของคนร้าย ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปดูอาการ อส.ทพ.มูหาหมัดยากี ที่โรงพยาบาล ซึ่งมีบาดแผลถูกกระสุนปืนไม่ทราบชนิดและขนาดของคนร้ายที่บริเวณต้นคอหลังทะลุปาก และบริเวณแขนขวา รวม 3 นัด แพทย์ต้องช่วยเหลือชีวิตอย่างเร่งด่วน จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ อส.ทพ.มูหาหมัดยากี ได้ขี่รถ จยย.ออกจากฐานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.รือเสาะตามลำพัง เพื่อเดินทางกลับบ้านพักในช่วงวันลาพักผ่อน เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ขี่รถ จยย.ตามประกบไล่หลัง เมื่อสบโอกาสคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดออกมายิงใส่ จำนวน 3 นัดซ้อน จนรถเสียหลักล้มคว่ำ แล้วคนร้ายได้รีบขี่รถ จยย.หลบหนีไป ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน ************************************ อินโดฯยกระดับรปภ.ทั่วประเทศ16 เมษา. 2554 16:39 น. |
![]() |
ป้ายกำกับ:
การก่อการร้าย,
มุสลิมป่าเถื่อน,
ลัทธิบ้า ศาสดาบ๊องส์
วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2554
ยิงสารวัตรกำนัน
![]() |
คนร้ายถล่มยิงสารวัตรกำนันตายพร้อมเพื่อน 3 ศพอีกชุดยิงจุดตรวจห่างเพียง 100 เมตรhttp://peace.chaotainews.com/index.php?option=com_content&view=article&id=2069:-3-100-&catid=3:2008-07-20-06-16-02&Itemid=7 เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 15 มีค. พ.ต.อ.ชาญเดช ศรีสังข์ ผกก. สภ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกัน ที่บ้านเลขที่ 139 ม.5 ต.น้ำดำ อยู่ห่างจุดตรวจยุทธศาสตร์น้ำดำ ประมาณ 150 เมตรและอยู่บริเวณสามแยกตลาดนัดน้ำดำ หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก. และชุดพิสูจน์หลักฐาน เมื่อไปถึงพบว่าจุดเกิดเหตุเปิดเป็นอู่ซ่อมรถยนต์เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตนอนตายจมกองเลือด จำนวน 3 ราย ทราบชื่อนายตูแวเลาะ โอ๊ะ อายุ 42 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุและเป็นสารวัตรกำนัน นายยูโซ๊ะ อีสอ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 ม.1ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง และ นายเจ๊ะโก๊ะ ดาโอ๊ะ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่113 ม.5 ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง ทั้งสามคนถูกยิงด้วยอาวุธสงครามหลายนัด นอกจากนี้ตัวบ้านยังมีรูกระสุนหลายแห่ง ในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกรสุนเอชเค เอ็ม 16 และ 9 มม. ตกเกลื่อนบนถนนนอกจากนี้ยังพบว่าคนร้ายยัง ได้ใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่จุดตรวจยุทธศาสตร์น้ำดำซึ่งอยู่ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 150 เมตร ทำให้ตัวป้อมและรถยนต์กระบะสายตรวจถูกยิงได้รับความเสียหายไปด้วยแต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ สอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า ขณะที่ผู้ตายทั้งสามและเพื่อนรวม 6คนกำลังนั่งดื่มน้ำชาพูดคุยกันภายในอู่ซ่อมรถ ปรากฏว่าได้มีคนร้ายคาดว่า 5 - 7 คนใช้รถยนต์กระบะสีดำขับมาจอดหน้าอู่แล้วใช้อาวุธสงครามกราดยิงใส่กลุ่มผู้ตายจนเสียงดังสนั่นกระสุนถูกทั้งสามคนจนฟุบกองกับพื้น ส่วนอีกสามคนหนีไปได้คนร้ายยังกระโดดลงจากรถเข้าไปยิงซ้ำอีกหลายนัดจนเสียชีวิตทันทีกระทั่งเจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ภายในป้อมเห็นเหตุการณ์จึงใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่เนื่องจากที่เกิดเหตุมีประชาชนจำนวนมากแต่ปรากฏว่าคนร้ายอีกชุดซึ่งซุ่มอยู่ข้างมัสยิดห่างประมาณ 50เมตรใช้อาวุธสงครามกราดยิงใส่จุดตรวจจนเจ้าหน้าที่ต้องกระโดดหลบกระสุนและยังมีคนร้ายอีกชุดอยู่บริเวณเดียวกันยิงซ้ำอีกจนเสียงดังสนั่นจนเกิดการยิงปะทะกันขึ้นเจ้าหน้าที่ได้วิทยุขอกำลังเสริมคนร้ายจึงได้ทิ้งตะปูเรือใบก่อนกระจายกันหลบหนีไป หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ 3ฝ่ายกระจายกำลังไล่ล่าคนร้ายและปิดเส้นทางทุกสาย แต่ก็ไร้วี่แววสาเหตุเชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์ |
![]() |
ป้ายกำกับ:
การก่อการร้าย,
โจรใต้ตัวจริง,
มุสลิมป่าเถื่อน,
อ้างอัลเลาะห์
หมาลอบกัดผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
![]() |
คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบพร้อม ชรบ.เสียชีวิต 2 ศพ ที่ยะลา ในที่เกิดเหตุพบศพชายสองคนอยู่ห่างกันประมาณ 3 เมตร และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิสีแดง หมายเลขทะเบียน กรษ.34 ปัตตานี ของผู้ตายจอดอยู่บนถนน จากการตรวจสอบภายในตัวผู้ตายทั้งสองคน ทราบชื่อคือ นายประกอบ หมวกทอง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 ม.1 ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ดังกล่าว และ นายมะรอลี เจะอาแว อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 197/2 ม.5 ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และเป็นชุดรักษาความสงบภายในหมู่บ้าน (ชรบ.) จากการตรวจสอบพบว่าทั้งสองคนมีรอยกระสุนปืนเจาะเข้าที่ศีรษะทั้ง 2 คน และ ที่บนพื้นที่ถนนพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม.16 จำนวน 3 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐานส่วนทรัพย์สินของนายประกอบสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก ได้หายไปด้วย จากการสอบสวนญาติผู้ตายทราบว่า คนร้ายคงจะรู้จักผู้ตายดี จึงทราบว่าผู้ตายทั้งสองคนเดินทางไปพื้นที่ ต.ลำพะยา อยู่บ่อยครั้งเป็นประจำ และเมื่อคนร้ายมีโอกาสจึงได้มาดักซุ่มอยู่ที่ริมถนนป่าสวนยาง เมื่อผู้ตายทั้งสองผ่านมา คนร้ายจึงเรียกให้หยุดและมีการพูดคุยกันเนื่องจากพบว่ารถจยย.ของผู้ตายจอดอยู่ในสภาพเรียบร้อย ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่ได้ตั้งประเด็นไว้สองประเด็นด้วยกันคือเรื่องส่วนตัวและการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ |
![]() |
ป้ายกำกับ:
เข้าใจเข้าถึง,
มุสลิมจอมกะล่อน,
มุสลิมป่าเถื่อน
ฉลองปีใหม่ ด้วยความชั่วของมุสลิม
![]() |
01-01-2011 นรา-วางระเบิดรับปีใหม่ 2011/ 2554ตำรวจตาย 2 เจ็บอีก 9 รายคลิ๊ปจากเวปไซท์โจรใต้ |
![]() |
ป้ายกำกับ:
บึ้มรายวัน,
มุสลิมป่าเถื่อน,
อ้างอัลเลาะห์
หมาลอบกัด
![]() |
คลิ๊ปหมาลอบกัด ชุดคุ้มครองพระ จากเวปไซท์ผู้ก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน |
![]() |
ป้ายกำกับ:
ความชั่วรายวัน,
โจรใต้ตัวจริง,
มุสลิมป่าเถื่อน,
อ้างอัลเลาะห์
วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554
90 วันเราทำได้
นราธิวาส - คนร้าย 10 คนสวมหมวกไหมพรมเป็นไอ้โม่งอำพรางใบหน้า ใช้อาวุธสงครามบุกยิง ชรบ.พร้อมภรรยาและเพื่อนบ้าน รวม 3 ศพ เสียชีวิตคาบ้านพัก ในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 20.30 น.วานนี้ (22 มี.ค.) ร.ต.อ.ไพรัช เกียรติเจริญศิริ ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายจำนวน 10 คน สวมหมวกไหมพรมเป็นไอ้โม่งอำพรางใบหน้า ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และอาก้าบุกยิงชาวบ้านเสียชีวิต 3 ศพ ภายในบ้านเลขที่ 146/6 บ้านสะตอ ม.7 ต.รือเสาะ จึงพร้อมด้วย นายวัชรศักดิ์ จุลยานนท์ นายอำเภอรือเสาะ พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สภ.รือเสาะ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากยืนมุงอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านพักหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้กันออกห่างก่อนเข้าตรวจสอบ พบศพผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย นอนจมกองเลือดอยู่บริเวณห้องโถงหน้าโทรทัศน์ โดยทั้ง 3 รายถูกกระสุนปืนสงครามอาก้า และเอ็ม 16 พรุนไปทั้งร่าง จากการตรวจสอบทราบชื่อคือ 1.นายมะซาราพี กูโน อายุ 33 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านสะตอ, 2.นางโนรียะ มะแซมิง อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นภรรยานายมะซาราพี และเป็นอาสาสมัครสาธารณะสุข (อสม.), 3.นางดีเยาะ เจ๊ะอาแซ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน อยู่บ้านเลขที่ 143 ม.7 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนสงครามอาก้า และเอ็ม 16 ตกอยู่ภายในห้องโถง จำนวน 16 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะนำศพผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ส่งให้แพทย์โรงพยาบาลรือเสาะ เพื่อทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา สอบสวนทราบว่า ในระหว่างที่สองสามีภรรยาและเพื่อนบ้านอีก 1 คนกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ภายในบ้าน ได้มีคนร้ายจำนวน 10 คนสวมหมวกไหมพรมอำพรางใบหน้า ในมือถืออาวุธปืนสงคราม และอาวุธปืนพกสั้นคนละกระบอก บุกเข้าไปใช้เท้าถีบประตูบ้านพักจนพัง แล้ววิ่งกรูเข้าไปในบ้าน 2 ใน 10 คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และอาก้ากราดยิงใส่ผู้ตายทั้ง 3 คนจำนวน 16 นัดซ้อนจนเสียชีวิต แล้วคนร้ายอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไป ส่วนสาเหตุในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อลอบดักสังหารคนของเจ้าหน้าที่รัฐ เนื่องจากนายมะซาราพี ซึ่งเป็น ชรบ.ได้ทำหน้าที่แอบเป็นสายข่าวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รือเสาะ ในการแจ้งเบาะแสความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายที่แฝงตัวเคลื่อนไหวในหมู่บ้าน จนเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้จำนวนหลายคนในช่วงที่ผ่านมา |
ป้ายกำกับ:
แด่แม่ทัพสันหลังยาว,
ผบ.ทบ.เฮงซวย,
มุสลิมจอมกะล่อน,
มุสลิมป่าเถื่อน
ความเสียหายภายในฐานทหารที่ระแงะ
เหิมไม่หยุด! โจรใต้วางบึม จยย. บอมบ์ทหารเจ็บ 2 นายที่ อ.บาเจาะ นราธิวาส ขณะออกฐาน ไปพบปะชาวบ้านในพื้นที่ ต.บาเร๊ะใต้ พบซากระเบิดประกอบใส่ท่อเหล็กหนัก 10 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร...
เมื่อ เวลา 09.20 น.วันที่ 20 ม.ค. พ.ต.ท.ประทีป สุขสาร สารวัตรเวร สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายวางระเบิด จยย.ดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารชุดสันติสุขที่ 405 บนถนนสายบ้านทอน-บาเจาะ บ้านบือเร๊ะ หมู่ 1 ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จึงพร้อมด้วย น.ท.รัฐโรจน์ อภิรัชช์รัศมี ผบ.ฉก.นราธิวาส 32 พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบซากรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเมท สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คนร้ายนำระเบิดไปผูกไว้ที่บริเวณตะแกรงด้านบนของตัวเครื่องตกกระจายเกลื่อน ทั่วบริเวณ และพบซากชิ้นส่วนของระเบิดที่คนร้ายนำไปประกอบใส่ไว้ในท่อเหล็กทรงกลมหนัก 10 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกบริเวณถนนและพงหญ้าริมทางอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 นายเพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษา รพ.บาเจาะ ทราบชื่อ คือ 1.จ.ส.อ.ประยูร ขุนสวัสดิ์ อายุ 55 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณแขนซ้าย 2.จ.ส.อ.จำลอง ภิรมย์สุข อายุ 49 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณลำตัว
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ร.ต.พงศธร เฟื่องปาง หน.ชุดได้นำกำลังจำนวน 5 นาย นั่งรถยนต์กระบะ และรถ จยย.รวม 2 คัน ออกจากฐาน เพื่อเดินทางไปพบปะชาวบ้านในพื้นที่ ต.บาเร๊ะใต้ เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายซึ่งแฝงตัวอยู่ริมทางใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวน ระเบิด ที่นำไปผูกไว้บริเวณตะแกรงด้านบนของตัวเครื่องรถ จยย. ซึ่งคนร้ายนำไปจอดไว้ริมถนน และเกิดระเบิดขึ้นขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารขับและขี่รถ จยย.ผ่าน ส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บดังกล่าว.
เมื่อ เวลา 09.20 น.วันที่ 20 ม.ค. พ.ต.ท.ประทีป สุขสาร สารวัตรเวร สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายวางระเบิด จยย.ดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารชุดสันติสุขที่ 405 บนถนนสายบ้านทอน-บาเจาะ บ้านบือเร๊ะ หมู่ 1 ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จึงพร้อมด้วย น.ท.รัฐโรจน์ อภิรัชช์รัศมี ผบ.ฉก.นราธิวาส 32 พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบซากรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเมท สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คนร้ายนำระเบิดไปผูกไว้ที่บริเวณตะแกรงด้านบนของตัวเครื่องตกกระจายเกลื่อน ทั่วบริเวณ และพบซากชิ้นส่วนของระเบิดที่คนร้ายนำไปประกอบใส่ไว้ในท่อเหล็กทรงกลมหนัก 10 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกบริเวณถนนและพงหญ้าริมทางอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 นายเพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษา รพ.บาเจาะ ทราบชื่อ คือ 1.จ.ส.อ.ประยูร ขุนสวัสดิ์ อายุ 55 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณแขนซ้าย 2.จ.ส.อ.จำลอง ภิรมย์สุข อายุ 49 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณลำตัว
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ร.ต.พงศธร เฟื่องปาง หน.ชุดได้นำกำลังจำนวน 5 นาย นั่งรถยนต์กระบะ และรถ จยย.รวม 2 คัน ออกจากฐาน เพื่อเดินทางไปพบปะชาวบ้านในพื้นที่ ต.บาเร๊ะใต้ เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายซึ่งแฝงตัวอยู่ริมทางใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวน ระเบิด ที่นำไปผูกไว้บริเวณตะแกรงด้านบนของตัวเครื่องรถ จยย. ซึ่งคนร้ายนำไปจอดไว้ริมถนน และเกิดระเบิดขึ้นขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารขับและขี่รถ จยย.ผ่าน ส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บดังกล่าว.
ชี้โจรใต้ถล่มฐาน ปล้นอาวุธ เอ็ม16หายเพียบ
แฉโจรใต้ถล่มฐานทหารที่นราฯ หวังปล้นอาวุธ พบอาคารน็อคดาวน์ ที่ใช้เป็นสถานที่เก็บอาวุธประจำฐานถูกงัด ปืนเอ็ม.16, ปืนพกสั้นหายไปกว่า50กระบอก กระสุนอีก 4 พันนัด คาดเตรียมก่อเหตุใหญ่ ด้านมทภ.4ลงพื้นที่เยี่ยมอาการ และให้กำลังใจ...
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 20 ม.ค.ที่ตึกศัลยกรรมชาย รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย นายเดชรัตน์ สิมศิริ รอง ผวจ.นราธิวาส เข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ทหาร สังกัด ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 จำนวน 6 นาย ซึ่งถูกกลุ่มคนร้ายบุกยิงถล่มภายในฐานปฏิบัติการ ร้อย ร.15121 โดยทำให้ ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ผบ.ร้อย ร.15121 เสียชีวิตในที่เกิดเหตุพร้อมลูกน้องอีก 3 นายประกอบด้วย ส.อ.เทวรัตน์ เทวา ส.อ.อับดุลเลาะห์ ตาหยี และพลฯประวิทย์ ชูกลิ่น
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 20 ม.ค.ที่ตึกศัลยกรรมชาย รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย นายเดชรัตน์ สิมศิริ รอง ผวจ.นราธิวาส เข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ทหาร สังกัด ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 จำนวน 6 นาย ซึ่งถูกกลุ่มคนร้ายบุกยิงถล่มภายในฐานปฏิบัติการ ร้อย ร.15121 โดยทำให้ ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ผบ.ร้อย ร.15121 เสียชีวิตในที่เกิดเหตุพร้อมลูกน้องอีก 3 นายประกอบด้วย ส.อ.เทวรัตน์ เทวา ส.อ.อับดุลเลาะห์ ตาหยี และพลฯประวิทย์ ชูกลิ่น
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เยี่ยมพร้อมซักถามถึงอาการบาดเจ็บจากแพทย์ของ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งผู้บาดเจ็บทั้ง 6 นาย มีอาการสาหัส 2 นาย โดยนอนรักษาตัวอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดที่ห้องไอซียู คือ ส.อ.สุคน ชูศรี อายุ 28 ปี ที่ถูกกระสุนเข้าที่บริเวณก้นและขา และ พลฯธันวา ยอดแก้ว อายุ 22 ปี ซึ่งถูกกระสุนเข้าที่ปอดเฉี่ยวขั้วหัวใจ โดยแม่ทัพภาคที่ 4ได้มอบเงินเยียวยาสภาพจิตใจของทหารทั้ง 6 นาย โดยสรุปยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 นาย และผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดรวม 13นาย นอกพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ จำนวน 6 นาย และพักรักษาตัวอยู่ที่ฐานปฏิบัติการจำนวน 7 นาย
พล.ท.อุดมชัย กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้มีการเตรียมความพร้อมและเฝ้าระวังในหลายพื้นที่โดย เฉพาะพื้นที่เสี่ยง แต่ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งกลุ่มคนร้ายลงมือปฏิบัติการอย่างอุก อาจในช่วงเวลา 19.30 น.นั้น เกิดข้อผิดพลาดที่กองกำลัง ทำให้เกิดช่องโหว่ ซึ่งจะต้องมีการประเมินและหาแนวทางเพื่อแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่น นี้อีกต่อไป อย่างไรก็ตามถึงแม้จะเกิดการสูญเสียกำลังพลอีกครั้งหนึ่ง แต่เท่าที่ทราบทุกนายก็พยายามเต็มที่แล้ว โดยมีการยิงปะทะกันประมาณ 30 นาที อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่ปฏิบัติงานของกองกำลังทุกหน่วยเชื่อว่า ประชาชนทุกคนเข้าใจในการทำงานของภาครัฐมากขึ้น โดยเหตุการณ์ที่ผ่าน ๆ มาซึ่งเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดีจะเป็นตัวช่วยทำให้ประชาชนรู้ซึ้งถึง พฤติกรรมความมุ่งร้ายของฝ่ายตรงข้ามได้ชัดเจนมากขึ้นเช่นกัน
ต่อมา เวลา 08.30 น. วันเดียวกัน นายเดชรัฐ สิมศิริ รอง ผวจ.นราธิวาส พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ชุดคลี่คลายคดีความมั่นคง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมเดินทางไปยังฐานปฏิบัติการพระองค์ดำ สังกัด ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 ริมถนนสายมะรือโบตก-รือเสาะ บ้านมะรือโบตก หมู่ 1 ต.มะรือโบ ตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งถูกกลุ่มคนร้ายยิงถล่มฐานทำให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการตรวจสอบความเสียหายพบว่ามีอาคารน็อคดาวและเพิงพักของทหารถูก คนร้ายวาง เพลิง ได้รับความเสียหาย 4 หลัง รถ จยย.ถูกวางเพลิง 1 คัน โดยเฉพาะที่บริเวณอาคารน็อคดาวที่ใช้เป็นสถานที่เก็บคลังอาวุธประจำฐาน ถูกกลุ่มคนร้ายงัดประตูและขโมยอาวุธปืนสงคราม เอ็ม.16 และอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 11 ม.ม. ไปจำนวนกว่า 50 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนกว่า4,000 นัด นอกจากนี้บริเวณรั้วสนามที่ใช้ทำเป็นกำแพงด้านหลังของฐาน เจ้าหน้าที่พบกลุ่มคนร้ายได้ใช้ไม้กระดานขนาดยาวประมาณแผ่นละ 3 เมตร จำนวนกว่า 10 แผ่น วางพาดเพื่อใช้เป็นสะพานในการวิ่งกรูเข้าโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารแบบประชิดตัวและเจ้าหน้าที่สามารถเก็บรวบรวมหลักฐานและชิ้นส่วนของวัตถุระเบิด ซึ่งกลุ่มคนร้ายใช้เป็นอาวุธในการบุกโจมตีเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบพบหลุมเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม.79 และเอ็ม.203 จำนวนกว่า 20 จุด ปลอกกระสุนปืน เอ็ม.16เอ็ม.60 อา.ก้า.ลูกซอง อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 ม.ม. ขนาด 11 ม.ม. ตกอยู่เกลื่อนบริเวณฐานทหาร รวมทั้งสิ้นกว่า 700 นัด
โดย แหล่งข่าวชุดคลี่คลายคดีความมั่นคง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้าร่วมตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้นใน ครั้งนี้ได้ประเมินว่า การปฏิบัติการของกลุ่มคนร้ายในครั้งนี้มีไม่ต่ำกว่า 40 คน มีการวางแผนบุกโจมตีฐานไว้อย่างดีกว่าเหตุคนร้ายบุกปล้นปืนที่กองพันพัฒนา 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2547 ที่ผ่านมา ซึ่งคาดกลุ่มคนร้ายน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวกำลังพลและความเคลื่อนไหวภายในฐาน จึงหาช่องว่างบุกโจมตีในช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งกำลังที่ปฏิบัติการในครั้ง นี้เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเคยร่วมบุกปล้น ปืนด้วย โยมีนายมะแซ อุเซ็ง เป็นผู้บงการในการรวบรวมอาวุธเพื่อเตรียมนำมาใช้ก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ใน พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ราวประมาณเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมที่จะถึงนี้
ส่วนการติดตามไล่ ล่ากลุ่มคนร้ายนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจและฝ่ายปกครองที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ อำเภอระแงะ ได้ร่วมสนธิกำลังประมาณ 300 นาย พร้อมสุนัขสงครามดมกลิ่นกระจายกำลังกันโอบล้อมเทือกเขาซึ่งตั้งอยู่หลังฐาน และเป็นเส้นทางหลบหนีของกลุ่มคนร้ายหลังจากปฏิบัติการถล่มฐานทหารแล้ว เสร็จ ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบรอยเลือดของกลุ่มคนร้ายหยดตามเส้นทางที่มุ่ง หน้าขึ้นสู่เทือกเขา ซึ่งห่างจากฐานประมาณ 500 เมตร และคาดว่ากลุ่มคนร้ายถูกเจ้าหน้าที่ยิงได้รับบาดเจ็บไปจำนวนหลายคน.
ป้ายกำกับ:
แด่แม่ทัพสันหลังยาว,
บึ้มรายวัน,
ผบ.ทบ.เฮงซวย,
มุสลิมป่าเถื่อน
เมื่ออัลเลาะห์ไม่ปลื้ม OKE
ระเบิดคาร์บอมบ์หน้าร้านคาราโอเก๊ะเจ็บกว่า10ราย
เขียนโดย clip 2011 ที่
คืบหน้าคาร์บอมยะลา เจ็บรวม 18 ราย ร้านค้าวอด 12 หลัง13 02 54
คืบหน้าคาร์บอมยะลา เจ็บรวม 18 ราย ร้านค้าวอด 12 หลัง เสียหายกว่า 10 ล้านบาท ในขณะที่วงจรปิดพบคนร้ายนำรถมาจอด ส่วน ผวจ.ยะลา สั่งดูแลผู้ได้รับผลกระทบเต็มที่
จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายนำรถยนต์ซุกซ่อนวัตถุระเบิด มาจอดที่หน้าร้านเฮนเบเกอรี่ ถนน ณ นคร เขตเทศบาลนครยะลา แล้วจุดชนวนระเบิดขึ้นในขณะที่มีรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ทหารวิ่งผ่านมา เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย นอกจากนั้นยังทำให้บ้านเรือนที่เป็นร้านค้าถูกเพลิงไหม้นับสิบคูหา เหตุเกิดเมื่อเวลา 09.50 น. ที่ผ่านมา ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิง สามารถควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้ร้านค้าตรงจุดเกิดเหตุเอาไว้ได้แล้ว โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง โดยในเบื้องต้นบ้านเรือนของชาวบ้านที่เปิดเป็นร้านค้าถูกเพลิงไหม้จำนวน 12 หลัง ค่าเสียหายจากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 18 ราย ทราบชื่อคือ สอ.ชานนท์ สองแก้ว พลทหารวรินรันต์ จันทร์ดี สต.ชาติชาย ประไมยะ ทหารสังกัด ฉก.ยะลา 14 นายเดชณรงค์ พันโท น.ส.อังคณาค์ ภัทรพงศ์ น.ส.ชลัยพร เรือนธรรม นายสมศักดิ์ รักพงษ์ นางศิริพร เรือนธรรม นางทักษิณา วงศ์จุมปู ด.ช.นิลพัทธ แก้วเกาะสะบ้า นายหมู แซ่เสี้ยว นายสุวัฒน์ ไตยรงค์เจริญสุข นายสมมาตร บุญรุ่ง นางปภาดา ผิวเกลี้ยง นายธนันต์ ฉั่วพานิชย์ นางเตือนใจ กลัดทอง และยังไม่ทราบชื่อ 1 ราย โดยส่วนใหญ่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ส่วนที่เหลือนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลจำนวน 7 คน
แหล่งข่าวจากชุดสืบสวน ระบุว่า กล้องวงจรปิดในบริเวณจุดเกิดเหตุ สามารถบันทึกภาพของคนร้ายที่นำรถคันดังกล่าวมาจอดได้ โดยเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. คนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะดีแมค มาจอดตรงจุดเกิดเหตุ แล้วเดินลงจากรถข้ามฝั่งไปยังด้านหน้าของธนาคารนครหลวงไทย สาขายะลา จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.50 น.ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 14 ขับรถยนต์กระบะอีซูซุ หมายเลขทะเบียน บต.6817 ปัตตานี ผ่านมา คนร้ายจึงกดระเบิดขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารและชาวบ้านบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพของคนร้าย เอาไว้ได้ มาเทียบกับกลุ่มคนร้ายเป้าหมายแล้ว
“สำหรับระเบิดที่คนร้ายนำมาซุกซ่อนอยู่ในรถคันดังกล่าว ในเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สปิกนิกจำนวน 3 ลูก น้ำหนักรวมไม่ต่ำกว่า 20 กก. เนื่องจากยังมีถังแก๊สปิกนิกบรรจุระเบิด กระเด็นออกจากตัวรถอีก 1 ถัง และไม่ได้เกิดระเบิดขึ้น ส่วนการจุดชนวนเชื่อว่าเป็นระบบรีโมทคอนโทรล หรือระบบมือถือ แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุอีกครั้ง”
ด้านนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายไม่ต่ำ กว่า 11 คูหา ซึ่งการช่วยเหลือเบื้องต้น นั้น ทางจังหวัดยะลาจะร่วมกับเทศบาลนครยะลา นำตั้งเต้นท์มารับแจ้งมูลค่าความเสียหาย โดยที่บ้านเสียหายทั้งหลังทางจังหวัดจะจ่ายให้ 25 เปอร์เซ็นต์ก่อน หลังจากนั้นก็จะให้ทางเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลนครยะลา กับศูนย์เยียวยาจังหวัดประเมินมูลค่าความเสียหาย ซึ่งทางจังหวัดจะจ่ายตามความเป็นจริง โดยจะนำเงินเยียวยาที่ทางจังหวัดมีอยู่มาช่วยเหลือในทันที ซึ่งการเยียวยาในครั้งนี้ไม่ได้เยียวยาเฉพาะความเสียหายบ้านเรือนเท่านั้น แต่จะเยียวยามูลค่า สินค้า ที่ได้รับความเสียหายด้วยซึ่งหากร้านค้าใดมีใบสั่งของ มีและหลักฐาน ก็สามารถที่จะนำมาขอรับการเยียวยาได้ ในส่วนของการเกิดเหตุนั้น ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวแจ้งเตือนมาโดยตลอด ตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ เทศกาลตรุษจีน และทางจังหวัดก็ได้ดูแลระมัดระวัง
“ซึ่งในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 45 ที่ผ่านมา ก็เป็นสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ก็มีข่าวแจ้งเตือนจากหน่วยงานความมั่นคงว่า จะมีเหตุ แต่ในวันนี้คนร้ายใช้วิธีการแบบการหาเหยื่อ เอารถมาจอดไว้ เมื่อมีรถเจ้าหน้าที่ขับผ่านจึงได้กดระเบิดขึ้น แต่เผอิญว่า มีเศษไฟจากวัตถุระเบิดเข้าไปในบ้านราษฎร ซึ่งเป็นบ้านเรือนหลังเก่า และก็มีเชื้อเพลิงอยู่แล้ว ก็เลยทำให้เกิดความเสียหายมาก ตนเองขอแสดงความเสียใจ และขอโทษประชาชนชาวยะลา แต่ว่า การแก้ไขปัญหานั้นทางจังหวัดจะเยียวยาให้เร็ว และให้มากที่สุด” ผวจ.ยะลา กล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวอีกว่า ในเรื่องของมาตรการในการรักษาความปลอดภัยนั้น นอกจากจะตั้งด่านจุดตรวจ จุดสกัดแล้ว ก็จะทีกำลังเจ้าหน้าที่ที่เป็น รถจักรยานยนต์เคลื่อนที่มารักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ซึ่งทางจังหวัดได้กำหนดพื้นที่ ที่เป็นย่านชุมชน ย่านการค้า ย่านธุรกิจของชาวจีนกับชาวไทยพุทธเป็นกรณีพิเศษ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนร้ายมุ่งให้เกิดความแตกแยก โดยมุ่งมาทำร้ายชุมชนชาวไทยพุทธกับชุมชนคนจีน เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่จึงต้องดูแลคนไทยพุทธ และคนจีนเป็นกรณีพิเศษไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก
จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายนำรถยนต์ซุกซ่อนวัตถุระเบิด มาจอดที่หน้าร้านเฮนเบเกอรี่ ถนน ณ นคร เขตเทศบาลนครยะลา แล้วจุดชนวนระเบิดขึ้นในขณะที่มีรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ทหารวิ่งผ่านมา เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย นอกจากนั้นยังทำให้บ้านเรือนที่เป็นร้านค้าถูกเพลิงไหม้นับสิบคูหา เหตุเกิดเมื่อเวลา 09.50 น. ที่ผ่านมา ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิง สามารถควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้ร้านค้าตรงจุดเกิดเหตุเอาไว้ได้แล้ว โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง โดยในเบื้องต้นบ้านเรือนของชาวบ้านที่เปิดเป็นร้านค้าถูกเพลิงไหม้จำนวน 12 หลัง ค่าเสียหายจากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 18 ราย ทราบชื่อคือ สอ.ชานนท์ สองแก้ว พลทหารวรินรันต์ จันทร์ดี สต.ชาติชาย ประไมยะ ทหารสังกัด ฉก.ยะลา 14 นายเดชณรงค์ พันโท น.ส.อังคณาค์ ภัทรพงศ์ น.ส.ชลัยพร เรือนธรรม นายสมศักดิ์ รักพงษ์ นางศิริพร เรือนธรรม นางทักษิณา วงศ์จุมปู ด.ช.นิลพัทธ แก้วเกาะสะบ้า นายหมู แซ่เสี้ยว นายสุวัฒน์ ไตยรงค์เจริญสุข นายสมมาตร บุญรุ่ง นางปภาดา ผิวเกลี้ยง นายธนันต์ ฉั่วพานิชย์ นางเตือนใจ กลัดทอง และยังไม่ทราบชื่อ 1 ราย โดยส่วนใหญ่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ส่วนที่เหลือนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลจำนวน 7 คน
แหล่งข่าวจากชุดสืบสวน ระบุว่า กล้องวงจรปิดในบริเวณจุดเกิดเหตุ สามารถบันทึกภาพของคนร้ายที่นำรถคันดังกล่าวมาจอดได้ โดยเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. คนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะดีแมค มาจอดตรงจุดเกิดเหตุ แล้วเดินลงจากรถข้ามฝั่งไปยังด้านหน้าของธนาคารนครหลวงไทย สาขายะลา จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.50 น.ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 14 ขับรถยนต์กระบะอีซูซุ หมายเลขทะเบียน บต.6817 ปัตตานี ผ่านมา คนร้ายจึงกดระเบิดขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารและชาวบ้านบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพของคนร้าย เอาไว้ได้ มาเทียบกับกลุ่มคนร้ายเป้าหมายแล้ว
“สำหรับระเบิดที่คนร้ายนำมาซุกซ่อนอยู่ในรถคันดังกล่าว ในเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สปิกนิกจำนวน 3 ลูก น้ำหนักรวมไม่ต่ำกว่า 20 กก. เนื่องจากยังมีถังแก๊สปิกนิกบรรจุระเบิด กระเด็นออกจากตัวรถอีก 1 ถัง และไม่ได้เกิดระเบิดขึ้น ส่วนการจุดชนวนเชื่อว่าเป็นระบบรีโมทคอนโทรล หรือระบบมือถือ แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุอีกครั้ง”
ด้านนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายไม่ต่ำ กว่า 11 คูหา ซึ่งการช่วยเหลือเบื้องต้น นั้น ทางจังหวัดยะลาจะร่วมกับเทศบาลนครยะลา นำตั้งเต้นท์มารับแจ้งมูลค่าความเสียหาย โดยที่บ้านเสียหายทั้งหลังทางจังหวัดจะจ่ายให้ 25 เปอร์เซ็นต์ก่อน หลังจากนั้นก็จะให้ทางเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลนครยะลา กับศูนย์เยียวยาจังหวัดประเมินมูลค่าความเสียหาย ซึ่งทางจังหวัดจะจ่ายตามความเป็นจริง โดยจะนำเงินเยียวยาที่ทางจังหวัดมีอยู่มาช่วยเหลือในทันที ซึ่งการเยียวยาในครั้งนี้ไม่ได้เยียวยาเฉพาะความเสียหายบ้านเรือนเท่านั้น แต่จะเยียวยามูลค่า สินค้า ที่ได้รับความเสียหายด้วยซึ่งหากร้านค้าใดมีใบสั่งของ มีและหลักฐาน ก็สามารถที่จะนำมาขอรับการเยียวยาได้ ในส่วนของการเกิดเหตุนั้น ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวแจ้งเตือนมาโดยตลอด ตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ เทศกาลตรุษจีน และทางจังหวัดก็ได้ดูแลระมัดระวัง
“ซึ่งในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 45 ที่ผ่านมา ก็เป็นสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ก็มีข่าวแจ้งเตือนจากหน่วยงานความมั่นคงว่า จะมีเหตุ แต่ในวันนี้คนร้ายใช้วิธีการแบบการหาเหยื่อ เอารถมาจอดไว้ เมื่อมีรถเจ้าหน้าที่ขับผ่านจึงได้กดระเบิดขึ้น แต่เผอิญว่า มีเศษไฟจากวัตถุระเบิดเข้าไปในบ้านราษฎร ซึ่งเป็นบ้านเรือนหลังเก่า และก็มีเชื้อเพลิงอยู่แล้ว ก็เลยทำให้เกิดความเสียหายมาก ตนเองขอแสดงความเสียใจ และขอโทษประชาชนชาวยะลา แต่ว่า การแก้ไขปัญหานั้นทางจังหวัดจะเยียวยาให้เร็ว และให้มากที่สุด” ผวจ.ยะลา กล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวอีกว่า ในเรื่องของมาตรการในการรักษาความปลอดภัยนั้น นอกจากจะตั้งด่านจุดตรวจ จุดสกัดแล้ว ก็จะทีกำลังเจ้าหน้าที่ที่เป็น รถจักรยานยนต์เคลื่อนที่มารักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ซึ่งทางจังหวัดได้กำหนดพื้นที่ ที่เป็นย่านชุมชน ย่านการค้า ย่านธุรกิจของชาวจีนกับชาวไทยพุทธเป็นกรณีพิเศษ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนร้ายมุ่งให้เกิดความแตกแยก โดยมุ่งมาทำร้ายชุมชนชาวไทยพุทธกับชุมชนคนจีน เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่จึงต้องดูแลคนไทยพุทธ และคนจีนเป็นกรณีพิเศษไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก
ป้ายกำกับ:
ความชั่วรายวัน,
บึ้มรายวัน,
มุสลิมป่าเถื่อน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)