วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สุดยอดหญิงชรา! เผชิญหน้าตะโกนประณามกลุ่มก่อการร้ายไอซิส



https://www.youtube.com/watch?v=Xewg17QMlyw

      บรรดานักท่องโลกออนไลน์ มีการแพร่คลิปวิดีโอ กรณีที่หญิงชรากล้าหาญในการเผชิญหน้าและตอบโต้คำพูดกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในซีเรีย

       หญิงชราคนหนึ่ง ได้เข้าประชิดรถคนหนึ่งของกลุ่มก่อการร้ายไอซิส พร้อมกับตะโกนประณามไอซิสคือ มารปีศาจ ที่สร้างความด่างพร้อยและเสื่อมเสียภาพลักษณ์ต่ออิสลามและมวลมุสลิม

         หญิงชราดังกล่าว ได้อ่านโองการอัลกุรอาน พร้อมกับเรียกร้องให้กลุ่มก่อการร้ายดังกล่าวกลับเนื้อกลับตัวและขอภัยโทษยังพระองค์
         นางยังได้ตำหนิกลุ่มก่อการร้ายไอซิสอย่างรุนแรง โดยบางครั้งในคำพูดของนาง เปรียบกลุ่มไอซิสเหมือน “ลา”   

         คลิปวิดีโอดังกล่าว มีผู้คนเข้าชมจำนวนมาก เนื่องจากความกล้าหาญของหญิงชราดังกล่าว ที่กล้าตอบโต้และเผชิญหน้ากับกลุ่มก่อการร้ายไอซิสอย่างซึ่ง ๆ หน้า

เยอรมนียกเลิกพาเหรดบราวน์ชไวก์เพราะถูกมุสลิมขู่ก่อการร้าย



          ตำรวจเยอรมนีเปิดเผยว่าได้ยกเลิกการเดินพาเหรดในเทศกาลคาร์นิวัลในเมืองบราวน์ชไวก์ ทางเหนือของเยอรมนี หลังได้รับคำขู่ว่าจะมีการโจมตี คำสั่งยกเลิกมีขึ้นเพียง 90 นาที ก่อนงานเริ่ม

         แหล่งข่าวด้านความมั่นคงระบุในแถลงการณ์ว่าได้รับคำขู่ว่าจะเกิดการโจมตีโดยกลุ่มอิสลาม ตำรวจได้ขอให้ประชาชนที่วางแผนจะไปร่วมงานให้อยู่ในบ้าน

          โฆษกตำรวจบอกว่าคนจำนวนมากที่แต่งกายเตรียมร่วมขบวนพาเหรดและเดินทางมาถึงสถานีรถไฟในเมืองแล้วต่างผิดหวังเมื่อรู้ว่าพาเหรดถูกยกเลิก อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ไม่ต้องการให้เกิดความเสี่ยงใด ๆ ทั้งสิ้น  ขบวนพาเหรดในเทศกาลคาร์นิวัลที่เมืองบราวน์ชไวก์ ดึงดูดผู้เข้าร่วมงานราว 250,000 คน ในแต่ละปี

วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ฟาตอนีเจ้าเล่ห์ขึ้นป้ายบอกว่าตัวเองโดนข่มเหง

        
วันนี้ฟาตอนีเจ้าเล่ห์ขึ้นป้ายบอกว่าตัวเองโดนข่มเหง และถูกละเมิดสิทธิ์ชั่งน่าไม่อายเสียจริง...
  •  ยายวัย 70 แกไปนั่งขายของในตลาดพวกฟาตอนีขี้ขลาดก็ไปกราดยิงแก
  • นักศึกษาพยาบาล 2 คนไปเดินตลาด พวกฟาตอนีขี้ขลาดก็ไปลอบยิง
  • พระบิณฑบาตร และชาวบ้านกำลังใส่บาตร ฟาตอนีขี้ขลาดก็กราดยิงเสียชีวิตมากมาย
  • พระออกบิณฑบาตรพวกฟาตอนีขี้ขลาดก็ดักยิงดักฆ่า
  • พนักงานธนาคารสาวกลับบ้านพวกเองก็ดักฆ่า ดักเผา
  • ตาวัย 80-90 พวกเอ็งก็ฆ่าไม่เลือก
  • นักเรียน ม.ต้น ม.ปลาย พวกเอ็งก็ฆ่า
แล้วยังมากล้าบอกว่าถูกข่มเหง และถูกละเมิดสิทธิ์....ถุ๋ยยยย....

          The cunning Fatoni claims that they were persecuted and suffered by Thai people. Indeed I have not much word to say about it but I will let the video tells you the truth and the real things are happing in Southernmost Thailand.

Honestly, most people all around the world know their identities, I mean all the radical muslims.

โจรใต้ดราม่าจัด! เผาเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ วางระเบิด แขวนป้ายผ้าอ้างถูกละเมิดสิทธิ์....



           เมื่อเวลา 06.30 น. วันนี้ (14 ก.พ. 58) ชป.ทลร.อโณทัย (สุไหงโก-ลก) พร้อมด้วย ร.1903 และสุนัข ทหาร ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณ เสารับส่งสัญญาณโทรศัพท์ (ทรูมูฟ) ถนน 4057 (ตากใบ-สุไหงโกลก) บ้านปูโปะ ม.4 ต.มูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยดังนี้

  • จุดที่ 1 ท่อเหล็กมีเทปดำพันรอบ ไม่พบวัตถุระเบิด
  • จุดที่ 2 เผาเสาโทรศัพท์ ไม่พบวัตถุระเบิด
  • จุดที่ 3 ป้ายผ้า ไม่พบวัตถุระเบิด
  • จุดที่ 4 เสาไฟฟ้าแรงสูง พบร่องลอยการระเบิด มีเคส ถังแก๊ส บริเวณที่เกิดเหตุ ไม่พบระบบจุด
  • จุดที่ 5 กระเป๋าสะพายหลังสีดำ ไม่พบวัตถุระเบิด
  • จุดที่ 6 พบสวิทช์แบบกด โผล่จากพื้นดินมีสายไฟ ตรวจสอบพบถังดับเพลิงน้ำหนักประมาณ 20 - 25 กก.มีสวิทช์กันยกอยู่ใต้ถังดับเพลิง ดินระเบิดหลัก ANFO สะเก็ดเหล็กเส้นตัดหนา 2 หุน ยาวประมาณ 1 นิ้ว เชื้อปะทุ แสวงเครื่อง ดินขยายการระเบิดในหลอดโลหะยาวประมาณ 4 – 5 นิ้ว

วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

อ้าว ไหนว่า มุสลิมทั่วโลกทุกคนเป็นพี่น้องกัน



          กลุ่มก่อการร้าย มุสลิมตาลีบันนิกายสุหนี่ บุกกราดยิง ระเบิด มัสยิดมุสลิมนิกายชีอะห์ในปากีฯ ตายเกลื่อน 19 ศพ  กลุ่มตาลีบันในปากีสถานสุดโหด ส่งลูกสมุน บุกขว้างระเบิดมือ ตามด้วยกราดยิงใส่ผู้คน ที่มัสยิดแห่งหนึ่งในเมืองเปชาวาร์ ของปากีสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอนาถแล้วอย่างน้อย 19 ศพ เจ็บระนาวหลายสิบคน

           เมื่อ 13ก.พ. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ กลุ่มตาลีบันในปากีสถาน ส่งลูกสมุนบุกโจมตีมัสยิด อิมาเมีย ของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ แห่งหนึ่ง ในเมืองเปชาวาร์ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน เมื่อวันที่ 13 ก.พ. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอนาถอย่างน้อย 19 ราย และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน

          ตำรวจในเมืองเปชาวาร์ เปิดเผยว่า กลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ มากันประมาณ 4-5 คน โดยเริ่มจากบุกขว้างระเบิดมือหลายลูกเข้าไปในมัสยิดแห่งนี้ จนเกิดระเบิดสนั่นหวั่นไหว ก่อนที่คนร้ายจะเปิดฉากเข้าไปกราดยิงใส่ผู้คนในมัสยิดอย่างเหี้ยมโหด ขณะที่มีชาวมุสลิมจำนวนมากกำลังทำละหมาดประจำวันศุกร์ จนทำให้ผู้คนแตกตื่นวิ่งหนีออกจากมัสยิดกันอย่างอลหม่าน

          เบื้องต้น เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มมุสลิมนิกายสุหนี่หัวรุนแรง ที่มักก่อเหตุโจมตีชาวชีอะห์ ในเมืองเปชาวาร์ อย่างไรก็ตาม ภายหลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญ กลุ่มตาลีบันปากีสถาน ได้ออกมายอมรับว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้

         สื่อท้องถิ่นใน(อินเดีย-ฮินดู) รายงานด้วยว่า เหตุการณ์โจมตีมัสยิดของชาวชีอะห์ในเมืองเปชาวาร์ เกิดขึ้นหลังจากเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เพิ่งเกิดเหตุระเบิดพลีชีพที่มัสยิดของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ แห่งหนึ่ง ในเมืองทางภาคใต้ของปากีสถาน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 61 ศพ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในปากีสถาน ในรอบเกือบ 2 ปีเลยทีเดียว

โจรป่าเผยแพร่ อุดมการณ์รัฐปัตตานี...


         ในปี 2500 ยุคจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัตน์ เป็นยุคที่การเลือกตั้งที่ภาคใต้ไม่เรียบร้อยสาเหตุเกิดมาจากพวกนักการเมืองที่สมัคร ส.ส. ได้ประกาศนโยบายออกมาตรงกันหมด ด้วยการประกาศว่าถ้าชนะการเลือกตั้ง จะแยกดินแดนออกมาเป็นประเทศ จะยกปัตตานีเป็นเมืองหลวง และยังได้ยกเอาศาสนาขึ้นมาเป็นเครื่องมือหาเสียง สร้างกระแสให้ประชาชนเกิดความต้องการที่จะเป็นอิสระจากประเทศไทย
โจรก่อการร้ายได้ขยายอุดมการณ์จากป่าเข้าสู่เมืองพุ่งตรงไปที่รัฐสภา โจรวางแผนเข้าไปปลุกระดม บุกถึงรัฐสภา

ในปีพ.ศ. 2500 นั้น มีเหตุการณ์ทางการเมืองที่น่ารู้มากมาย
  • 26 กุมภาพันธ์ 2500 การเลือกตั้งทั่วไปเต็มไปด้วยการทุจริตหลายรูปแบบ พรรคเสรีมนังคศิลาชนะท่วมท้น
  • 16 กันยายน 2500 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ ยึดอำนาจ ทำให้จอมพล ป. พิบูลสงคราม หนีภัยหลบออกนอกประเทศ ต่อมาได้ถึงแก่กรรมที่ประเทศญี่ปุ่น
  • 15 ธันวาคม 2500 มีการเลือกตั้งทั่วประเทศใหม่ นายพจน์ สารสิน เป็นนายกรัฐมนตรีในปีนี้เอง โจรได้ขยายฐานจากป่าเข้าสู่รัฐสภา จะพูดจะจาอะไรก็ตรงไปตรงมา พวกเขาบอกว่า เขาเป็น ส.ส. ของรัฐปัตตานี มีหน้าที่ต่อสู้เพื่อการปลดปล่อย และให้การคุ้มครองประชาชน ไม่ให้ถูกรังแก ส.ส. ในรัฐสภาพากันรู้และเห็นทุกอย่างแต่ไม่มีการใครจะสามารถคลี่คลายปัญหาได้ แต่ยังโชคดีอยู่ที่สภาอยู่ได้ไม่นาน ส.ส. ทั้งหลายต่างพากันแยกย้ายกลับบ้าน การเผยแพร่อุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนในรัฐสภา จึงหยุดไปด้วย 
         ทว่า...ณ หมู่บ้านต่าง ๆ ใน 3 จังหวัดชายแดน กลับเต็มไปด้วยความเข้มข้น มีการปลุกระดมตลอดทั้งปี  มีการจัดตั้งกลุ่มยุวอิสลาม ยุวแนวหน้า และมวลชนอิสลามกู้ชาติ ตลอดทั้งกลุ่มแนวร่วมรวมแล้วมากกว่า 25 กลุ่ม แต่ละกลุ่มจะมีธงหรือสัญลักษณ์เป็นของตนเอง โดยมีธงปัตตานีเป็นแกนหลักให้ทุกกลุ่มยึดถือเป็นโองการเดียวกัน

          โจรได้สอดแทรกศาสนาอิสลามเอาเข้ามาใช้เป็นแก่นทฤษฏีทำให้นักการเมืองทุกคน กลายเป็นนักการเมืองของนักรบ โดยมีเจตน์จำนงรบเพี่อชนเผ่าตนเอง ถ้านักการเมืองคนไหนแสดงออกไม่ตรงตามอุดมการณ์ จะมีการปล่อยข่าวประณาม ให้รู้กันไปในหมู่ประชาชน รวมทั้งถ้า "อิสลาม" คนไหนได้เป็นใหญ่เป็นโตในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งอะไรก็ตาม ถ้าไม่ช่วยรบก็จะต้องไม่รังแกพวกเดียวกัน...

          กระบวนการ "พูโล" ได้ปลูกฝังความเชื่อและความแน่วแน่ยากที่จะอธิบายนี้คือ เรื่องราวส่วนหนึ่งที่เป็นเรื่องจริง นับแต่ยุคของ "อับดุลกาเดร์" ผ่านไป มาจนถึงนักการเมืองนักการค้านักการเคลื่อนไหวต่างๆ ตลอดทั้งหัวหน้าองค์กรคนใหม่ ได้เข้ามาทำงานบัญชาการรบ แทนหัวหน้าคนเก่าที่ล้มหายตายจาก ทำให้เราได้เห็นปูมหลังที่เด่นชัดขึ้น

         ฉากความวุ่นวายได้เกาะเกี่ยวเป็นลูกโซ่ร้อยกันเป็นพวงต่อเนื่องกัน อย่างไม่ขาดสาย โดยมีตัวละครที่สืบทราบได้ ไม่ได้มีความลี้ลับอะไรเลย แต่ที่มันลี้ลับก็เพราะ ประเทศไทยติดอยู่กับทางตันแก้ไม่ตก จะขยับไปข้างหน้าก็เจอเข้ากับการก่อวินาศกรรม การเข่นฆ่ารายวัน จะถอยหลังก็จะถูกเขาเฉือนดินแดน และยังถูกไส้ศึกแอบเล่นงานอยู่ข้างใน

วันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

นโยบายบิดเบือนความจริงของขบวนการ BRN


‘อิมรอน’

หากใครเล่นเฟสบุ๊ค และได้ติดตามเรื่องราวข่าวสารในพื้นที่ จชต. ในระยะนี้จะพบว่ามีการเคลื่อนไหวของ “เพจผี” ซึ่งเป็นสื่อแนวร่วมโจรใต้ฟาตอนีไม่เว้นแต่ละวัน ล่าสุดเว็บเพจ Patani Jurnal ได้เผยแพร่ข้อความการเสียชีวิตของคนไทยพุทธที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อ 6 ก.พ.58 อ้างว่า “ทหารไทยไม่สามารถปกป้องประชาชนของตนเองได้ นับตั้งแต่เกิดเหตุความไม่สงบ” มีประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมากเสียชีวิตและบาดเจ็บ สมควรหรือไม่ที่จะให้ทหารอยู่ในพื้นที่ต่อไป ปัญหาความรุนแรงในปาตานีจะไม่ยุติจนกว่าจะได้รัฐปาตานีคืนมา และการที่คนไทยมุสลิมยอมเป็นอาสาสมัครให้กับรัฐไทย อาสาสมัครดังกล่าวก็จะตกเป็นเหยื่อเหตุรุนแรง ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐไทย ที่ต้องการให้คนมุสลิมฆ่ากันเอง นี่เป็นวิธีการของรัฐไทย”

ปีนี้เป็นปีที่ 2 ที่แนวร่วมโจรใต้ฟาตอนียังคงเดินหน้านโยบาย “รัฐสยามเฟลเสต็ด (fale state)” โดยบิดเบือนข้อเท็จจริง โจมตีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ลดทอนความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่ออำนาจรัฐ และโจมตีนโยบายในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ จชต. พร้อมกับชี้นำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

Propaganda หรือ “โฆษณาชวนเชื่อ” ซึ่งเป็นภาคหนึ่งของการชิงความได้เปรียบในสงคราม เวลามีการสู้รบปรบมือกับใคร แทนที่จะสู้กันซึ่งๆ หน้าเพียงอย่างเดียว ก็ต้องมีการต่อสู้กันในเชิงข้อมูลข่าวสารเพื่อปลุกขวัญกำลังใจ ตีแผ่ความดีและความสำเร็จของฝ่ายตน ในขณะเดียวกันก็ตอกย้ำความเลวร้ายหรือความไม่ถูกต้องของฝ่ายตรงข้ามไปด้วย

การโฆษณาชวนเชื่อ ในยุคหลังๆ พัฒนาไปตามเครื่องมือสื่อสารและเทคโนโลยี ในยุคปัจจุบันอินเทอร์เน็ตและสื่อ Social Media ได้เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะ “เฟซบุ๊ค” เป็นช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลฝ่ายตน ซึ่งขยายเขตงานเข้าไปในโลกออนไลน์เพิ่มมากขึ้น สังเกตได้จากระยะหลัง มีการบิดเบือนข้อมูล

ด้วยการโยนความผิดให้กับเจ้าหน้าที่รัฐถี่ขึ้น และการปฏิบัติการเริ่มออกสู่สาธารณะ ทั้งนี้เพื่อสนองนโยบายขบวนการ BRN ในการบิดเบือนความจริงตั้งแต่ปี 47 เป็นต้นมาอย่างชัดเจน
ขอบอกว่า...การโฆษณาชวนเชื่อไม่ใช่วิธีการแย่งชิงมวลชนที่แท้จริง แต่ในการต่อสู้ด้วยความดี ความจริง (ใจ) และความถูกต้อง เคารพกฎหมาย ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนต่างหาก ที่จะครองใจประชาชนอย่างยั่งยืน!

สงครามมวลชน ( ปือรังมาซา ) ของขบวนการฯ กำลังจะเสื่อมถอย

คนนอกพื้นที่ต่างมองคนมลายูปาตานีในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าสุดโต่ง ส่งผลให้ความเชื่อมั่น ในคุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรมหมดสิ้นไปด้วยฝีมือของโจรใต้เอง กลายเป็นปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นในสังคมมลายูปาตานี ซึ่งมิใช่ปัญหาทางเศรษฐกิจแต่เพียงอย่างเดียว หากเป็นปัญหาทางด้านจิตใจและจิตวิญญาณ สังคมมลายูปาตานีกลายเป็นสังคมที่ขาดความสงบสุขไปในที่สุด

กระแสความเสื่อมทางศาสนา, เศรษฐกิจ และสังคมด่ำดิ่งลึกลงสู่ก้นเหว มีผลกระทบต่อผู้คนในระดับรากหญ้า เป็นความล่มสลายที่เกิดขึ้นจากระบบผลประโยชน์ของขบวนการฯ อันเป็นสาเหตุให้ประชาชนมลายูปาตานีมีฐานะที่จนลง และอ่อนแอจนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้

ปัจจุบันโครงสร้างองค์กรของขบวนการฯ ที่ทำการต่อสู้ในปาตานีได้เริ่มเสื่อมลง เพราะขาดมวลชนสนับสนุนไปเป็นจำนวนมาก ประชาชนมลายูปาตานีส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง จึงเริ่มมีความเสื่อมศรัทธาต่อนักรบ โดยเฉพาะโครงสร้างฝ่ายมวลชน, ฝ่ายการเมือง, ฝ่ายเศรษฐกิจ, ฝ่ายสตรี และหมู่บ้านจัดตั้งก็ไม่มีใครให้ความสำคัญ ยกเว้นฝ่ายทหารที่คงยังมีกำลังอยู่ แต่ก็ไม่ได้วิเศษวิโสและไม่ได้มีพลังตามที่เราเข้าใจกัน เพราะเจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตามจับกุมผู้กระทำผิด บ้างก็ถูกวิสามัญ และมีบางส่วนได้หลบหนีออกนอกประเทศไปกบดานยังประเทศเพื่อนบ้าน และในปัจจุบันมีผู้หลงผิดจำนวนมากที่ได้กลับตัวกลับใจเป็นคนดีในการเข้ามารายงานตัวแสดงตนต่อทางการเพื่อเข้ามาช่วยเหลือสังคม ช่วยกันพัฒนาถิ่นเกิด

ฉะนั้นแนวร่วมที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ ก็ขอให้กลับตัวกลับใจหันหน้ามาทำประโยชน์ต่อบ้านเมือง เพราะตอนนี้มวลชนมลายูปาตานีเองไม่มีใครที่จะให้ความร่วมมือต่อขบวนการฯ ร่วมมือไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร 10 ปีที่ผ่านมาไม่มีอะไรดีขึ้นเลย นอกจากได้รับความเดือดร้อนในการทำมาหากิน แต่ประชาชนมลายูปาตานีต้องการให้ผู้ที่อยู่ในขบวนการฯ สำนึกผิดกลับตัวกลับใจเป็นคนดีสู่สังคม และรอเวลานั้น ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่วิกฤติอันตรายกลายสภาพเป็น...นักรบฟาตอนีเป็นผู้ก่อการร้ายสากล (ไม่ใช่วีรบุรุษตามที่เราเข้าใจ)
ความเคลื่อนไหวล่าสุดเว็บเพจ Patani Darussalam News อ้างเหตุยิงคนไทยมุสลิมในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา และ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อ 10ก.พ.58 เป็นการกระทำของทหารที่ต้องการคงงบประมาณในพื้นที่ จชต. ปาตานีจะไม่เกิดสันติสุขหากทหารยังสามารถดำเนินการใดๆ ได้ตามอำเภอใจ
ส่วนเว็บเพจ Patani jurnal ระบุคนมุสลิมปาตานีที่ถูกยิงเป็นเหยื่อการเมืองในการสร้างสันติสุขของรัฐบาลไทย

ไม่แปลกใจหรอก!! ที่สื่อโจรใต้ฟาตอนีเหล่านี้ได้ออกมาแก้ตัวอย่างหน้าด้านๆ เมื่อโจรใต้ RKK ได้ปฏิบัติการก่อเหตุในพื้นที่ด้วยการลอบทำร้ายต่อเป้าหมายอ่อนแอ รวมทั้งการลอบยิงชาวไทยมุสลิมด้วยกันเองในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา และ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อ 10 ก.พ.58 ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้ยังมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง เพื่อสร้างความหวาดกลัว ความหวาดระแวงให้เกิดขึ้นระหว่างพี่น้องชาวไทยพุทธ-ไทยมุสลิม และต้องการให้ประชาชนเกิดความไม่ไว้วางใจต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ

ที่กล่าวมาคือเป้าหมายแรกที่ขบวนการเหล่านี้ต้องการจะสื่อ ประการต่อมาเป็นการกล่าวหาว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่เพื่อต้องการคงงบประมาณดับไฟใต้ พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงการเสียชีวิตของประชาชนเป็นเหยื่อทางการเมืองในกระบวนการสร้างสันติสุข

ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมบุคคลเหล่านี้ถึงได้กลัวนักหนากับการเดินหน้าสร้างสันติสุขของรัฐบาลไทยกับกลุ่มผู้คิดต่างจากรัฐ แน่นอนหากสันติสุขเกิดขึ้นการวางแผนที่ได้มีการตั้งธงไว้แล้วล่วงหน้าในการต่อสู้ของระดับแกนนำเป็นอันต้องพังพาบลง ก่อนหน้านั้นได้มีการใช้ปีกการเมืองอย่าง PerMAS ในการรณรงค์ ปลุกกระแสความรักชาติปาตานี ชี้นำให้มีการลงประชามติเพื่อกำหนดใจตนเอง แยกตัวเป็นอิสระนำไปสู่เอกราชจะต้องเป็นหมัน

นี่คือพฤติกรรมความชั่วร้ายของกลุ่มขบวนการ และองค์กรแนวร่วมที่ได้มีการบูรณาการในการแยกกันเดิน รุมกันตี..เพื่อทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาล มุ่งไปสู่เป้าหมายอันเดียวกัน คือ “เอกราช” เพียงอย่างเดียวเท่านั้น….โดยยังคงนโยบายในการบิดเบือนความจริง แหกตาประชาชนมลายูปาตานีต่อไป...ตราบใดที่พื้นที่แห่งนี้ยังไม่เกิดสันติสุขอย่างแท้จริง...

-------------------------
Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม