วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เมื่อสมุนโอลันล้าทะเลาะกับตู้โทรศัพท์

เมื่อสมุนโอลันล้าทะเลาะกับตู้โทรศัพท์
       
       วันที่ 23 ก.พ. เวลา 00.45น.คนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวนได้นำระเบิดชนิดแสวงเครื่อง นำไปวางไว้ภายในตู้โทรศัพท์ แล้วเกิดระเบิดขึ้น แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ที่เกิดเหตุภายในตู้โทรศัพท์ของบริษัททีโอที จำกัด ตั้งอยู่ริมถนนสาย410 ยะลา-เบตง บริเวณด้านหน้าที่ทำการไปรษณีย์ เขตเทศบาลตำบลบันนังสตา อ.บันนังสตา พบเศษชิ้นส่วนตู้โทรศัพท์กระจัดกระจายเต็มพื้นที่ บางส่วนตกไปไกลกว่า 20 เมตร ส่วนภายในตู้โทรศัพท์พบเศษรองเท้าแตะ ชิ้นส่วนท่อพีวีซี และไฟแชค ส่วนระเบิดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 3 กก. บรรจุไว้ในท่อพีวีซี จุดชนวนด้วยความร้อน โดยใช้ธูปหรือยากันยุง









  
http://narater2010.blogspot.com/

ป่วนปัตตานี ตอบแทนคุณ มะรอโซ

ป่วนปัตตานี ตอบแทนคุณ มะรอโซ

          เมื่อเวลา 19.30 น. เมืองปัตตานี รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ว่า มีกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์นำวัตถุต้องสงสัยเป็นถุงขยะสีดำ มาวางไว้บริเวณถังขยะใกล้กับธนาคารอิสลาม ถ.นาเกลือ ซอย 2 ต.บานา อ.เมือง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี กำลังเข้าตรวจสอบได้เกิดเหตุระเบิดขึ้น แต่ไม่มีใครบาดเจ็บ พบว่า เป็นระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยการตั้งเวลา 
ต่อมา เวลา 19.40 น. เกิดเหตุเผายางรถยนต์ จำนวน 4 จุด คือ

      1.บนถนนสาย 42 ห่างจากสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดปัตตานี (บขส.ใหม่) ประมาณ 500 เมตร ม.9 บ.ปูโบะ ต.ตะลุโบะ 

       2.เผายางรถยนต์บนถนนสาย 410 ทางเข้าสถานีอนามัยตะลุโบะ บ.แบรอสะนิง ม.1 ต.บาราเฮาะ 

      3.เผายางรถยนต์บริเวณริมถนนสาย 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) ใกล้กับปากทางเข้าถนนพูลสวัสดิ์ ต.ตะลุโบะ 

       4.เผายางรถยนต์ ริมถนนสาย 42 บริเวณหัวสะพาน บ.ปาเระ ม.2 ต.บาราโหม 
เมื่อเวลา 21.00 น. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณจุดกลับรถใกล้สะพานสูงตะลุโบะ ต.ตะลุโบะ ทำให้เจ้าหน้าที่ อส.เมืองปัตตานี ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเผายางรถยนต์โดยรถยนต์หุ้มเกราะ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย อาการหูอื้อ จำนวน 7 นาย และรถยนต์ของทางราชการได้รับความเสียหาย

       เมื่อเวลา 20.30 น. เกิดเหตุเผาเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ (ดีแทค) จำนวน 1 จุด บริเวณหน้าโรงเรียน บ.ปาเระ ม.2 ต.บาราโหม ทำให้เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ได้รับความเสียหาย และมีการวางวัตถุต้องสงสัยในบริเวณเดียวกัน และพบวัตถุต้องสงสัย หน้าร้านแบเซ็ง ถนนรามโกมุท

       พื้นที่ อ.ยะหริ่ง จำนวน 7 จุด คือ เผาอาคารสถานที่ 3 แห่ง เผายางรถยนต์ 3 จุด หม้อแปลง 1 แห่ง ดังนี้

       1.คนร้ายไม่ทราบกลุ่ม และจำนวน ลอบวางเพลิงบ้านร้างชาวไทยพุทธ ซึ่งปกติบ้านดังกล่าวร้างมาแล้วประมาณ 3 ปี ไม่ผู้พักอาศัย ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงเรียนบ้านท่าด่าน ม.3 ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง ได้รับความเสียหายทั้งหลัง 

      2.คนร้ายไม่ทราบกลุ่ม และจำนวน ลอบวางเพลิงโรงเรียนบ้านท่าด่าน ม.3ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง ทำให้อาคารเรียนซึ่งเป็นอาคารปูน 2 ชั้น โดยคนร้ายโยนเพลิงเข้าไปในห้องเก็บของ จึงทำให้อาคารเรียนเสียหาย 

      มีการเผายางรถยนต์ จำนวน 2 จุด บริเวณถนนหมายเลข 42 บ.บางปู ม.3 ต.บางปู อ.ยะหริ่ง

      มีการยิงหม้อแปลงไฟฟ้าบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านตาแกะ ม.2 ต.ตาแกะ อ.ยะหริ่ง ทำให้กระแสไฟฟ้าดับในพื้นที่ ต.ตาแกะ

      มีการเผายางรถยนต์หน้าโรงเรียนส่งเสริมศาสน์ ม.5 ต.ตันหยงดาลอ มีการเผาอาคาร อบต.ตันหยงดาลอ และรถดับเพลิง ซึ่งจอดอยู่ภายใน อบต. ม.5 ต.ตันหยงดาลอ อ.ยะหริ่ง ได้รับความเสียหาย

       ที่เกิดเหตุ กำลังพล ร้อย ทพ.4416 ได้ร่วมกับ นายมะดาโอ๊ะ มะสะ กำนัน ต.ตันหยงดาลอ และชาวบ้านช่วยกันดับไฟไว้ได้ พบบริเวณกระจกประตูรถดับเพลิง ถูกทุบเพื่อเผาภายในตัวรถ มีคราบเลือด และแกลลอนน้ำมันขนาด 5 ลิตร จำนวน 2 แกลลอน คาดว่าใส่เชื้อเพลิงที่คนร้ายนำมาเผา

       พื้นที่ อ.หนองจิก เกิดเหตุคนร้ายเผายางรถยนต์ จำนวน 4 จุด คือ
  • 1.เผายางรถยนต์ บนถนนสาย 42 ม.1 ต.ดอนรัก 1 จุด 
  • 2.เผายางรถยนต์ บริเวณยูเทิร์น ปั๊ม ปตท.ดอนยาง ม.8 ต.บ่อทอง 
  • 3.เผายางรถยนต์ บริเวณถนนสาย 42 ม.3 ต.ตุยง 
  • 4.เผายางรถยนต์ ถนนสาย 43 ยูเทิร์นโรงยางไทเท็ก ม.2 ต.ท่ากำชำ 
        พื้นที่ อ.ยะรัง จำนวน 8 จุด
  • 1.เผาถังขยะ บ.พงสตา ม.5 ต.ยะรัง 
  • 2.เผาถังขยะ บ้านแนบาแด ม.3 ต.ยะรัง 
  • 3.เผาถังขยะ บ้านบาซาเวาะเซ็ง ม.2 ต.ปิตูมุดี 
  • 4.กล่องต้องสงสัย จำนวน 2 กล่อง มีไฟกะพริบทั้ง 2 กล่อง บริเวณ ม.9 ต.ประจัน 
  • 5.เผายางรถยนต์ หน้าโรงพยาบาลยะรัง ม.2 ต.ปิตูมุดี 
  • 6.เผายางรถยนต์ หน้าบ้านปอซัน ม.3 ต.ปิตูมุดี 
  • 7.เผายางรถยนต์ บ้านต้นไพร ม.1 ต.เมาะมาวี 
  • 8.เผายางรถยนต์ บ้านต้นมะขาม ม.4 ต.เมาะวาวี 
      พื้นที่ อ.สายบุรี เผายางรถยนต์ ถนนสาย 42 จำนวน 2 จุด ที่ ม.10 ต.ลุโบ๊ะสุหลง ต.เตราะบอน และ ม.11 หน้าสุหลงการยาง ต.เตราะบอน

      พื้นที่ อ.โคกโพธิ์ เผายางรถยนต์หน้าโรงไม้ยางพารา ม.3 ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์







http://narater2010.blogspot.com/

ถุยส์ สื่้อมวลชน ยกย่องอัปรีย์เป็นวีรบุรุษ

สื่อโจร ยกย่องคนอัปรีย์เป็นวีรบุรุษ 
• ไทยเป็นผู้ให้มาตลอด ตลอดเวลาที่ให้ ก็ยังถูกประณามว่าเลว
• แผ่นดินนี้จะอยู่รอดหรือไม่?
• ชาวไทยวางเฉย!
• สื่อไทยไม่สนใจ สื่อมุสลิมกระทืบซ้ำ ...ไทยอยู่ได้ฤา
• หรือว่าแผ่นดินนี้ถึงกาลวิบัติเสียแล้ว
        http://202.129.16.69/~surafile/VDO/maroso.wmv

 
• เลวเหมือนไม่ใช่มนุษย์อย่างนี้นี่แหละคือ วีรบุรุษของสื่อฯมุสลิมกับ PNYS.

• ชัดแล้วยัง? ใครคือไซตอน ใครคือแนวร่วมไซตอนที่ยกมะรอโซฯเป็นวีรบุรุษ
http://narater2010.blogspot.com/

จยย. บอมบ์ หน้าเซเว่นตันหยงมัสเจ็บ 3 ราย

จยย. บอมบ์ หน้าเซเว่นตันหยงมัสเจ็บ 3 ราย
      เมื่อเวลา 16.20 น. วันที่ 23 ก.พ.เกิดเหตุระเบิด บริเวณถังขยะหน้าร้าน สะดวกซื้อ ตรงข้ามกองบังคับการกรมทหารพรานที่ 45 เขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส ที่เกิดเหตุ ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นอีกครั้ง โดยคนร้ายได้นำรถ จยย. ฮอนด้า คลิก สีแดง ที่คาดว่าน่าจะถูกโจรกรรมมาประกอบเป็นระเบิดจยย. บอมบ์ นำมาจอดไว้ที่บริเวณประตูทางเข้าร้านสะดวกซื้อดังกล่าว ก่อนจะจุดระเบิดถังขยะเพื่อลวงให้เจ้าหน้าที่ เข้ามามาตรวจสอบ จากนั้นจึงกดชนวนระเบิด จนเกิดระเบิด ดังสนั่นหวั่นไหว ส่งผลให้กระจกและสินค้าภายในร้านเสียหาย รวมทั้งรถกระบะ อีซูซุ สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน บห-4126 สงขลา และรถ จยย.อีก 4 คัน ที่จอดอยู่ในที่เกิดเหตุได้รับความเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3ราย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนที่ว่าการ อ.ระแงะ คือ
  • 1.อส.มูหามัดซอบรี มะรง อายุ 34 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขาขวา 
  • 2.อาสาสมัครทหารพรานธนุทาน มาเร๊ะ อายุ 27 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่คิ้วขวา 
  • 3.ด.ช.อัฟฮาล เจ๊ะแน อายุ 3 ปี ถูกแรงอัดของระเบิดที่บริเวณหน้าอกและหู 
       จุดเกิดเหตุ ภายในถังขยะพบชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 5 ก.ก. จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอล ส่วน รถ จยย.บอมบ์นั้นพบว่าคนร้ายได้ใช้ระเบิดแสวงเครื่องประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 10 ก.ก.จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ที่นำไปใส่ไว้ในช่องลับใต้เบาะนั่ง ซึ่งระเบิดลูกดังกล่าวคนร้ายได้จุดชนวนเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ขณะเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ แต่เนื่องจากที่เกิดเหตุ มีรถจยย.ของลูกค้าจอดซ้อนอยู่หลายรายทำให้ รัศมีการทำลายล้างไม่รุนแรงเท่าที่ควร ทำให้พ.ต.อ.จิระเดช ผกก.สภ.ระแงะ และ พ.ต.ต.สุชาติ สวป.สภ.ระแงะ รอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด











http://narater2010.blogspot.com/

วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

โจรใต้อหังการโดนวิสามัญ 16 ศพ หรือความเบื่อหน่ายจะถึงจุดแตกหัก

ความเบื่อหน่ายจะถึงจุดแตกหัก

โจรใต้อหังการโดนวิสามัญ 16 ศพ หรือความเบื่อหน่ายจะถึงจุดแตกหัก


       

        การไล่ล่าโจรใต้ที่อหังการใช้กำลังกว่า 50 คนเข้าโจมตีฐานทหารนาวิกโยธินที่บ้านยือลอ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาสเมื่อวันที่ 13 ก.พ.56 ที่ผ่านมาซึ่งผลการตอบโต้ของฝ่ายเจ้าหน้าที่ทำให้คนร้ายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 16 คนจนถึงขณะนี้นั้นฝ่ายความมั่นคงยังคงพยายามไล่ติดตามส่วนที่เหลือที่กำลังหลบหนีอย่างไม่ลดละ  และคาดว่าจะมีส่วนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บ  ขณะที่ฝ่ายขบวนการก็โปรยใบปลิวทั่วพื้นที่ว่าจะตอบโต้เพื่อเป็นการแก้แค้นให้กับผู้ที่เสียชีวิต  ซึ่งกำลังเป็นที่จับตาว่าฝ่ายความมั่นคงจะเตรียมรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร  แต่ที่แน่ๆ  ความเดือดร้อนจากการแก้แค้นที่จะเกิดขึ้นครั้งนี้คงหนีไม่พ้นพี่น้องประชาชนในพื้นที่อีกเช่นเคย
          และในขณะที่กำลังเขียนอยู่นี้  ปฏิบัติการจองเวรแบบไม่เลือกหน้าไม่เว้นแม้แต่เด็กและสตรีของบรรดานักรบขี้ยาฟาตอนีก็เริ่มขึ้นแล้วที่ปัตตานีตั้งแต่คืนวันที่ 16 ต่อเนื่องถึงวันที่ 17 ก.พ.56  ในลักษณะระเบิดและวางเพลิงป่วนเมืองจนทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บไปหลายราย
          ย้อนกลับไปดูเหตุโจมตีฐานทหารของกลุ่ม RKK แบบพิจารณารายละเอียดกันซักนิดจะพบว่าความสูญเสียของฝ่ายขบวนการในครั้งนี้นั้นเพราะเจ้าหน้าที่ได้รับเบาะแสข่าวสารจากประชาชนในพื้นที่แจ้งเตือนถึงการปฏิบัติการครั้งใหญ่ทำให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่มีเวลาวางแผนเตรียมการตอบโต้เป็นอย่างดี 
          ประเด็นหลักที่ฟันธงได้คือความเบื่อหน่ายกับการก่อเหตุร้ายแบบไร้ทิศทางของขบวนการที่ส่งผลกระทบกับประชาชนในทุกด้าน  และที่ประชาชนโดยเฉพาะพี่น้องมุสลิมรับไม่ได้คือการสังหารครูชลธี  เจริญชล ครูมุสลิมที่เป็นที่รักของเด็กนักเรียน  ผู้ปกครองและชาวบ้าน  ซึ่งเป็นที่รู้กันในพื้นที่ว่ากลุ่มคนร้ายที่สังหารครูนั้นคือกลุ่มของนาย  มะรอโซ  จันทรวดี  แกนนำในพื้นที่ซึ่งมีหมายจับยาวเหยียด   นี่อาจเป็นชนวนเหตุประการหนึ่งที่นำไปสู่การให้ข่าวสารกับเจ้าหน้าที่จนนายมะรอโซ ฯ  ถูกวิสามัญพร้อมกับพวกในครั้งนี้
          อีกประเด็นที่น่าจะตอบข้อสงสัยและความเข้าใจที่อาจจะคลาดเคลื่อนของชาวบ้านได้คือ กลุ่มชายฉกรรณ์ที่แต่งชุดลายพรางหรือแต่งชุดดำแบบทหารพราน แล้วออกก่อกรรมทำเข็ญกับประชาชนด้วยการวางระเบิดตรงโน่น   ยิงชาวบ้านตรงนี้แล้วหายเข้ากลีบเมฆพร้อมโยนความผิดให้กับฝ่ายความมั่นคงนั้นเป็นใครกันแน่  ที่เลวร้ายโดดเด่นที่สุดและไม่เหมือนกลุ่มก่อการร้ายใดๆ ในโลกนี้คือ  กลุ่มขบวนการในประเทศไทยไม่เคยออกมาประกาศความรับผิดชอบต่อการกระทำใดๆ เหมือนในต่างประเทศ  นั่นยิ่งสร้างความสับสนให้ประชาชนอีกยกใหญ่
แต่วันนี้ปรากฏชัดว่ากลุ่ม RKK ที่เข้าปฏิบัติการและเสียชีวิตในคืนวันนั้น  แต่งกายด้วยเครื่องแบบเหมือนเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยเสื้อเกราะและอาวุธครบมือ  และจากผลการตรวจพิสูจน์ทั้งอาวุธและเสื้อเกราะก็ล้วนเป็นยุทโธปกรณ์ที่แย่งยึดไปจากเจ้าหน้าที่  รวมทั้งเคยใช้ในการก่อเหตุสังหารทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ในหลายกรรมหลายวาระ ซึ่งคงเป็นข้อยืนยันได้ว่าหลายเหตุการณ์ที่ขบวนการใช้วิธีป้ายสีว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่นั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่า แท้จริงแล้วก็เป็นฝ่ายขบวนการนั้นเอง 
          ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นที่รู้กันของคนในพื้นที่ส่วนใหญ่ว่าอะไรเป็นอะไร  คงมีเพียงแกนนำแนวร่วมในพื้นที่เท่านั้นที่ใช้การโฆษณาชวนเชื่อหลอกลวง ข่มขู่ชาวบ้านไปแบบข้างๆ คูๆ แต่กลับได้ผลอย่างน่าประหลาด
          การอาละวาดฟาดหัวฟาดหางของขบวนการด้วยการก่อเหตุต่างๆ นาๆ จนทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นทุกวันในขณะนี้นั้น  จึงไม่ส่งผลดีต่อขบวนการแบ่งแยกดินแดนแต่อย่างใด  และรังแต่จะทำให้สถานการณ์ด้านมวลชนของฝ่ายขบวนการเลวร้ายลง  เพราะผู้ที่รับกรรมนอกเหนือจากประชาชนที่นับถือศาสนาพุทธแล้วอีกส่วนมิใช่ใครที่ไหนก็เป็นพี่น้องมุสลิมที่ฝ่ายขบวนการบอกว่าจะปกป้องนั่นเอง
          แต่ไม่ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะเกิดผลดีหรือไม่ดีต่อฝ่ายไหนอย่างไร  ผลที่เกิดขึ้นแล้วคือการสูญเสียชีวิตเลือดเนื้อที่ทุกฝ่ายไม่อยากให้เกิดขึ้นเพราะทุกคนล้วนเป็นคนไทย  และในวันที่เรากำลังต้องการความรักความสามัคคีเพื่อช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบร่มเย็น  การใช้โอกาสในการพูดคุยจึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีเพื่อลดการสูญเสียย่อมมีประโยชน์เกื้อกูลในการสร้างสันติภาพและความมั่นคงของประเทศมากกว่าการหยิบอาวุธมาเผชิญหน้ากันมิใช่หรือ
                             
          ซอเก๊าะ   นิรนาม
http://narater2010.blogspot.com/

วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

สมุนโอลันล้าป่วน ระเบิดปัตตานีพร้อมกัน 7 จุด

สมุนโอลันล้าป่วน ระเบิดปัตตานีพร้อมกัน 7 จุด
       วันที่ 17 ก.พ. เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระเบิดที่ซอยเอสโซ่ ซอย 2 ข้างร้านคาราโอเกะคลาสสิก ถนนรามโกมุท ต.อาเนาะรู อ.เมือง จ.ปัตตานี มีผู้บาดเจ็บ 1 คน ทราบชื่อว่า นายปอล ชุมพล อายุ 41 ปี มีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดที่ตาทั้งสองข้าง ถูกนำส่งโรงพยาบาลปัตตานี จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด พร้อมด้วยกำลังตำรวจ ทหาร รุดไปตรวจสอบพบว่ายังมีระเบิดอีก 1 ลูก วางไว้อยู่จึงประกาศให้ทุกคนออกนอกบริเวณ ทันที ตรวจสอบพบว่าเป็นระเบิดบรรจุในถังแก็ส น้ำหนัก 30 กก.ตั้งไว้ภายในรถ จยย.พ่วงข้าง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง ทะเบียน กธล 546 ปัตตานี ดัดแปลงเป็นรถขายของเร่ พร้อมทั้งมีน้ำมันเบนซินบรรจุในแกลลอน 5 ลิตร รวม 8 ถัง วางอยู่ด้วย ก่อนที่จะเข้าเก็บกู้อย่างระมัดระวัง จนสามารถเก็บกู้ไว้ได้ ก่อนเกิดเหตุทราบว่า ได้มีคนร้าย 2 คน สวมชุดคล้ายนักศึกษา ขี่รถ จยย.ไม่ทราบชนิด นำระเบิดมาวางไว้ในถังขยะ ข้างร้านคาราโอเกะ และหลบหนีไป จากนั้นเกิดระเบิดขึ้นทำให้บาดเจ็บ 1 คน

       ซึ่งก่อนหน้านั้นคนร้ายได้นำรถ จยย.พ่วงข้างที่ติดตั้งระเบิดมาวางไว้ด้วยแล้ว คล้ายเป็นการลวงเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบและจะกดชนวนระเบิดซ้ำอีก แต่โชคดีที่ประชาชนเห็นก่อนจึงแจ้งให้ จนท.ทราบ ซึ่งถ้าระเบิดจริงจะมีอานุภาพรุนแรงหลายกิโลเมตร ขณะเดียวกัน พบวัตถุต้องสงสัย อยู่ในร้านขายของเบ็ดเตล็ดและอาหารสัตว์ชื่อ ไพศาล ตั้งอยู่ที่บริเวณตลาดโต้รุ่ง ถนนพิพิธ ใจกลางเมืองปัตตานี เขตเทศบาลเมืองปัตตานี ซึ่งเป็นย่านที่มีคนพลุกพล่าน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งไปเก็บกู้จนสำเร็จ ตรวจสอบภายในพบว่ามี นาฬิกา 1 เรือน เชื้อปะทุ ก้านไม้ขีด 100 ก้าน น้ำมันเบนซิน ต่อมา เวลาไล่เลี่ยกัน ก็เกิดมีเหตุระเบิดขึ้นอีกที่สวนสาธารณะหน้า สภ.เมืองปัตตานี แต่ไม่เสียหายมากนัก สอบสวนทราบว่า คนร้ายได้นำระเบิดมาวางไว้ ภายในร้าน ออน ที่จำหน่ายเกี่ยวกับสมุด ดินสอ และเครื่องเขียนต่างๆ ตั้งอยู่บนถนนปัตตานีภิรมย์ เขตเทศบาลเมืองปัตตานี แต่เจ้าของเห็นก่อน จึงหยิบมาทิ้งไว้ที่สวนสาธารณะหน้า สภ.เมือง จ.ปัตตานี จนเกิดระเบิดขึ้น และยังมีรายงานอีกว่า คนร้ายอีกชุดได้ลอบนำระเบิดไปซุกไว้ที่ร้านค้าอีกแห่งหนึ่งในเขตเทศบาล แต่โชคดีที่ระเบิดไม่ทำงาน จากนั้นไม่นาน ก็มีเหตุระเบิด ภายในห้างไดอาน่าซูเปอร์มาร์เก็ต ถนนอุดม เขตเทศบาลเมืองปัตตานีเช่นกัน ทำให้รถดับเพลิงต้องเข้าสกัดกั้น กระทั่งพบว่ามีเด็กและคนชราติดอยู่ภายใน นักผจญเพลิงจึงพังประตู และเร่งช่วยเหลือ ก่อนจะฉีดน้ำให้เพลิงเบาบางลง จนผ่านไป 1 ชม.ก็ควบคุมไว้ได้ พบสินค้าทั้งหมดถูกเผาวอด เข้าไปดับเพลงภายใน แต่เนื่องจาก สิ่งของติดไฟง่ายทำให้ไฟไหม้อย่างรวดเร็ว แต่ดับเพลิงประมาณ 1 ชั่วโมงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ปรากฏว่าสินค้าภายในเสียหายหมด และมีผู้สำลักควันหลายราย

      ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังวุ่นอยู่กับเหตุเพลิงไหม้ ก็มีวิทยุรายงานแทรกมาอีกว่า เกิดเหตุระเบิดจนเกิดเพลิงไหม้อีกแล้ว คราวนี้เป็นร้านชื่อเมืองไทย ที่จำหน่ายเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง อยู่บริเวณสี่แยกอุดมวิถี เขตเทศบาลเมืองปัตตานี ห่างจากจุดก่อนหน้า 100 เมตร เป็นอาคาร 4 ชั้น รวม 8 คูหา พบว่ามีกลุ่มควันพวยพุ่งจากชั้นล่าง จึงต่อสายพยายามฉีดน้ำระงับ กระทั่งได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากชั้นที่ 4 ของบ้าน จึงเร่งเข้านำตัวออกมาได้ พบว่าเป็นคนชรา 2 คน ที่สำลักควันจนหน้ามืด ก่อนนำส่งโรงพยาบาล เวลาไล่เลี่ยกันก็มีเสียงระเบิดและเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นเป็นระยะทั่วทั้งเทศบาลปัตตานี จนแทบจะกลายเป็นเหตุจลาจลที่ประชาชนและหน่วยงานช่วยเหลือ ต้องวิ่งวุ่นกันทั้งเมืองอย่างอลหม่าน ไม่ได้หลับไม่ได้นอน

















 



http://narater2010.blogspot.com/

วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ถล่มฐานทหารบาเจาะ RKK ถูกวิสามัญดับ 16 ศพ

ถล่มฐานทหารบาเจาะ RKK ถูกวิสามัญดับ 16 ศพ

http://www.pataniforum.com/admin/jquery/ckfinder/userfiles/images/report/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%8B2.jpg 
       เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 13 ก.พ. เกิดเหตุคนร้ายประมาณ 80 คน แต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมอาวุธปืนครบมือบุกโจมตีฐานปฏิบัติการทหารร้อยปืนเล็กที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณบ้านยือลอ หมู่ 3 ต.บาเร๊ะเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และเกิดการปะทะกันเป็นเหตุให้คนร้ายเสียชีวิตจำนวนมาก ที่เกิดเหตุ ระหว่างทางคนร้ายได้ตัดต้นไม้ขวางถนน และโปรยตะปูเรือใบ โดยเฉพาะที่บริเวณหัวสะพานบ้านบือแนปีแย หมู่ 1 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ คนร้ายได้วางระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สหุงต้มหนัก 50 กก.จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ที่ลากสายไฟยาวไปในป่ารกทึบริมทาง เพื่อสกัดกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าสนับสนุนจุดเกิดเหตุ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการเคลียร์จุดต่างๆ นานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถเข้าไปยังฐานปฏิบัติการได้อย่างปลอดภัย เมื่อถึงที่เกิดเหตุบริเวณหน้าฐานปฏิบัติการทหารร้อยปืนเล็กที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ซึ่งเป็นสวนยางพารา พบศพคนร้ายที่แต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ทหารนอนเสียชีวิตอยู่ จำนวน 16 ศพ ซึ่งแต่ละศพสวมหมวกไหมพรม มีอาวุธปืนอาก้า และเอ็ม 16 พร้อมสวมเสื้อเกราะ โดยถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิตจนพรุนไปทั้งร่าง และพบผู้เสียชีวิตเป็นระดับแกนนำกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเคที่เคลื่อนไหวก่อ เหตุร้ายในพื้นที่ อ.บาเจาะ อ.รือเสาะ ของ จ.นราธิวาส และ อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี คือ 

http://www.matichon.co.th/online/2013/02/13608156751360815847l.jpg


  • 1.นายมะรอโซ จันทราวดี
  • 2.นายซาอูดี อาลี
  • 3.นายซาบีรี โลตาเซะ 
 
          ส่วนศพที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบ ห่างจากถนนทางเข้าฐานปฏิบัติการประมาณ 50 เมตร พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน บค 7968 ยะลา ซึ่งเป็นของคนร้าย จอดอยู่ในสภาพถูกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่พรุนไปทั้งคัน และในกระบะหลังเจ้าหน้าที่พบเป้สนาม จำนวน 8 ใบ ภายในบรรจุอาวุธปืนพกสั้น ระเบิดแสวงเครื่องชนิดขว้าง โทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้า และเครื่องยังชีพในป่าของคนร้าย ก่อนเกิดเหตุทราบว่า กลุ่มคนร้ายได้วางแผนบุกโจมตีฐานทั้งทางด้านหน้าและด้านหลังพร้อมๆ กัน เจ้าหน้าที่ซึ่งได้วางกำลังพร้อมรับมืออยู่แล้วได้ใช้อาวุธปืนยิงปะทะกับ กลุ่มคนร้ายเป็นระลอกๆ นานกว่า 1 ชั่วโมง ในขณะเดียวกัน กลุ่มคนร้ายอีกชุดหนึ่งได้ทำหน้าที่ตัดต้นไม้ขวางถนน โปรยตะปูเรือใบ และวางระเบิดแสวงเครื่องสกัดกั้นเจ้าหน้าที่ หลังการปะทะพบว่า คนร้ายถูกทหารยิงเสียชีวิตรวม 16 ศพ ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 30 คน นั่งรถยนต์กระบะหลบหนีไปได้ ซึ่งในจำนวนนั้นถูกยิงได้รับบาดเจ็บด้วย 










 
 


http://narater2010.blogspot.com/

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม