วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

จะเป็นคนดี หรือจะเป็นแนวร่วมขบวนการ....



โดย แบมะ ฟาตอนี
จะเป็นคนดี หรือจะเป็นแนวร่วมขบวนการ....

           ค่อยมาดูกันกับกระบวนการทำความจริงให้ปรากฏ..สื่อแนวร่วมอย่าเพิ่งดาหน้าออกมาช่วยนะ เดี่ยวจะหน้าแตกเพราะหลักฐานที่ตรวจเจอน่าจะเอาตัวไม่รอด...

          เมื่อ 30 ก.ค.58 เวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับกองกำลัง 3 ฝ่าย เข้าทำการพิสูจน์ทราบกลุ่มบุคคล ในพื้นที่เป้าหมาย ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เนื่องจากได้รับรายงานจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่ามีบุคคลต้องสงสัยเข้ามาหลบ ซ่อนพักพิงในพื้นที่ บ.ปูลากาซิง ม.4 ต.กอลา อ.ยะรังฯ

        ผลการปฏิบัติสามารถควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยโดยใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกจำนวน 2 ราย
  • 1. นายฮูเซ็ง วิชา อายุ 27 ปี ที่อยู่ 23/2 ม.4 ต.กอลำ อ.ยะรังฯ จากตรวจสอบสอบความเชื่อมโยงพบว่าเกี่ยวข้องกับกรณีเหตุคนร้ายลอบวางเพลิง สำนักงาน อบต. กอลำ เมื่อวันที่ 5 พ.ค.56
  • 2. นายซุลกิฟลี เตะแต อายุ 25 ปี ที่อยู่ 14 ม.4 ต.กอลำ อ.ยะรังฯ พฤติกรรมเป็น ผกร. ในพื้น ที่ ต.กอลำ โดยการซัดทอดจากการขยายผลในการควบคุมตัว นายแวซาเฮาะห์ ดอเลาะ ซึ่งถูกควบคุมตัวก่อนหน้านี้
 

8 องค์กรอิสลามมีมติให้ทุกมัสยิดร่วมประณามคนร้ายที่ก่อเหตุกับผู้บริสุทธิ์



8 องค์กรอิสลามมีมติให้ทุกมัสยิดร่วมประณามคนร้ายที่ก่อเหตุกับผู้บริสุทธิ์


       ผู้นำทางศาสนาอิสลาม 8 องค์กร ร่วมแถลงการณ์ประณามการการก่อเหตุรุนแรงกับผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยพุทธหรือมุสลิมโดยไม่เลือกเป้าหมาย

        วันนี้ (28 ก.ค.) ที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ผู้นำทางศาสนาอิสลามทั้ง 8 องค์กร ประกอบด้วย คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สภาอูลามาปัตตานี สมาคมสถาบันการศึกษาปอเนาะ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ชมรมมุสลิมภาราดรภาพ ร่วมอ่านแถลงการณ์ ประณามการการก่อเหตุรุนแรงกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยไม่เลือกเป้าหมายทั้งพี่น้องชาวไทยพุทธและมุสลิม ไม่เลือกเปาหมายว่าว่าจะเป็นครู พระ นักเรียน เด็ก สตรี และผู้นำศาสนา

        โดยเฉพาะเหตุการณ์ล่าสุด ที่กลุ่มคนร้ายได้ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ชุดคุมครองพระ จนเป็นเหตุให้พระสงฆ์มรณภาพ 1 รูป และเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 1 นาย ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยถือว่าการก่อเหตุในครั้งนี้นอกจากจะทำผิดกฎหมายแล้ว ยังถือว่าเป็นการทำผิดหลักศาสนาอิสลามอย่างรุนแรง จึงได้ร่วมกันประณามผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ว่าเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ เพราะมุ่งโจมตีต่อพลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างไร้มนุษยธรรมโดยผิดหลักการ ของศาสนาอิสลามอย่างชัดเจน เพราะอิสลามเป็นศาสนาที่ปฏิเสธความรุนแรง ปฏิเสธการละเมิด การฆ่าชีวิตมนุษย์ และการรุกรานในทุกรูปแบบ

        นอกจากนี้ผู้นำศาสนาทั้ง 8 องค์กร ยังได้เรียกร้องให้ประชาชนร่วมตั้งเจตนารมด้วยความบริสุทธิ์ใจและมีมติให้ ชาวไทยมุสลิมได้ร่วมกันปฏิบัติดังนี้

  • 1. เชิญชวนให้พี่น้องมุสลิมและผู้นำศาสนาทุกมัสยิด ร่วมกันประณามการก่อเหตุในครั้งนี้ และแสดงบทบาทใด ๆ ที่ทำให้ผู้ก่อเหตุได้สำนึกบาป
  • 2. ขอให้พี่น้องมุสลิมทุกคน ทุกกลุ่ม ร่วมกันต่อต้านพฤติกรรมอันนำไปสู่ความรุนแรงและความบาดหมางระหว่างผู้คนใน สังคม และจงช่วยกันยับยั้งการมุ่งทำลายประชาชนผู้บริสุทธิ์ พระสงฆ์ นักบวช เด็ก สตรี และทำลายศาสนสถาน
  • 3. จงช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบทุกศาสนิก และขอให้ผู้นำศาสนาได้แสดงบทบาทหรือทำหน้าที่ในการเป็นผู้ประสานความขัดแย้ง เพื่อให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน และเกิดความสันติสุขโดยเร็ว
  • 4. ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังพี่น้องชาวไทยพุทธทุกท่าน ต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น ในฐานะผู้นำศาสนาทั้ง 8 องค์กร ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่เห็นด้วยและขอปฏิเสธกลุ่มที่สร้างความรุนแรงอย่างไร้มนุษยธรรมต่อเพื่อน มนุษย์ พวกเขาเหล่านั้นเป็นกลุ่มที่ไม่มีศาสนาใดๆในหัวใจ

โจรใต้บุกโจมตีฐาน อส.ที่ยะลา ทั้งปล้นปืนและโรยตะปูเรือใบ





       ยะลา - กองกำลังโจรใต้นับสิบก่อเหตุอุกอาจบุกยิงถล่มฐานปฏิบัติการ อส.ชุดคุ้มครองตำบลบาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน- อส.เจ็บ 18 ราย คนร้ายปล้นอาวุธปืนไปอีก 7 กระบอก แถมยังโรยตะปูเรือใบและตัดต้นไม้ขวางไม่ให้หนีหรือนำผู้บาดเจ็บส่ง รพ.ได้สะดวก

        ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ยะลาว่า เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา (31 ก.ค.) เวลา 02.15 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน พร้อมด้วยอาวุธปืนสงครามก่อเหตุบุกยิงและโจมตีฐานปฏิบัติการ อส.ชุดคุ้มครอง ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายเป็น อส., ชรบ.และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ทั้งหมดถูกนำตัวส่ง รพ.ยุพราชยะหา จ.ยะลา โดยได้มีวิทยุขอกำลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือในที่เกิดเหตุ แต่เส้นทางการให้ความช่วยเหลือเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากคนร้ายมีการโรยตะปูเรือใบและตัดต้นไม้ขวางเส้นทาง ก่อนถึงจุดเกิดเหตุ

         ล่าสุดเช้านี้เวลา 06.00 น. หลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุการณ์ พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ วังสุภา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ชุดพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ บริเวณฐานปฏิบัติการ อส.ชุดคุ้มครองตำบลบาโร๊ะ ที่หมู่ 8 บ. บาโร๊ะ ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา ทราบต่อมาว่ามีเจ้าหน้าที่ อส.และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้รับบาดเจ็บรวม 18 ราย ในจำนวนนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา 6 ราย ซึ่งมีอาการสาหัส 2 ราย

         โดยก่อนถึงจุดกเกิดเหตุบริเวณเส้นทางเข้าบ้านบาโร๊ะพบว่า คนร้ายได้ตัดต้นไม้ขวางถนน และวางระเบิดเสาไฟฟ้าจนหักโค่นเสียหาย เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดได้เข้าตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย ส่วนในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นอาคารของฐานปฏิบัติการ ถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 10 คนยิงถล่มด้วยอาวุธปืนเอ็ม 79 และอาวุธปืนสงครามจนอาคารพรุนเสียหายทั้งหลัง โดยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบปลอกกระสุนอาก้าตกอยู่ในที่เกิดเหตุเป็นจำนวน มาก นอกจากนี้คนร้ายยังได้เผาอาคารฐานปฏิบัติการจนเสียหาย และทำลายกล้องวงจรปิดรอบฐานปฏิบัติการเสียหายอีกหลายตัว







          จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่เจ้าหน้าที่ อส.อยู่ประจำป้อมจำนวน 20 คน ได้มีคนร้ายจำนวนไม่ต่ำกว่า 15 คนพร้อมอาวุธครบมือยิงถล่มป้อมดังกล่าว รวมทั้งใช้ระเบิดเพลิงขว้างและยิงเอ็ม79 เข้าใส่จำนวน 3 ลูก จากนั้นกลุ่มคนร้ายนับสิบคนได้บุกเข้าไปในฐานปฏิบัติการ อส.และผู้ที่อยู่ในฐานปฏิบัติการได้ยิงตอบโต้นานกว่าครึ่ง ชม. คนร้ายจึงหลบหนีไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มคนร้ายกลุ่มของ นายฮูไบดีล่ะห์ รอมมือลี แกนนำก่อเหตุรุนแรงที่ต้องการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่

           ทั้งนี้จากการตรวจสอบยังพบว่า คนร้ายได้ปล้นเอาอาวุธปืนประจำฐานปฏิบัติการ ซึ่งเป็นอาวุธปืนของทางราชการไปด้วย 7 กระบอก หรืออาจจะมากกว่า ซึ่งกำลังเร่งตรวจสอบว่าเป็นอาวุธปืนชนิดใดบ้าง ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว 6 คนแรกถูกนำตัวส่งต่อไปยังโนรงพยาบาลศูนย์ยะลาแล้ว ที่เหลือยังอยู่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา ทราบชื่อคือ
  • 1. นายยูรานันธ์ ยาลอ
  • 2. นายมะซอเร เจ๊ะเล๊าะ
  • 3. นายอับดุลรอแม อุเซ็ง
  • 4. นายเนรวิท นิอาแว
  • 5. นายมะซอและ ยีเร็ง
  • 6. นายอันนูวา บาฮี
  • 7. นายรอแม สาและ
  • 8. นายอับดุลรอแม อาแว
  • 9. นายอิสเฮาะ สีแต
  • 10. นายอุสมาน มะและ
  • 11. นายอับดุลอานัด ยาซิ
  • 12. นายอามัน อาบู
  • 13. นายอาดือนัน ดือราฮิง
  • 14. นายไซนูเดน มะแซ
  • 15. นายสูดิง มณีทิยา
  • 16. นายอีบอรอเน็ง สุหลง

วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

มัชปาหิต - เมลายุ - พราหมณ์ - พุทธ ........ ที่ถูกคนบางพวกฉ้อฉล


 

ตำนานโบราณของชวาเล่าขานกันมาว่า ...

เมื่อประมาณ 500 ปีก่อน ไม่นานก่อนที่อาณาจักมัชปาหิตจะถึงกาลสิ้่นสุด พระเจ้าบราวิชัย ที่ 4 หรือพระเจ้าภเร กัรตะภูมิ กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งมัชปาหิต ทรงถูกบีบคั้นจากพระโอรสให้รับศาสนาอิสลาม จนพระองค์ต้องยอมเปลี่ยนศาสนา แต่ปุโรหิตของพระองค์คือ สัปดา โปโลน กับ นายาเกิงกอง ไม่ยินยอมเปลี่ยนความเชื่อ

สัปดา โปโลน ถึงกับลั่นวาจาว่า นับแต่นี้เขากับพระเจ้าบราวิชัยหมดสิ้นไมตรีกัน และตัวเขาจะอยู่คอยรับ ใช้อนุชนของเจ้าแผ่นดินชวาที่แท้จริง ซึ่งนับถือศาสนาดั้งเดิม และยังสาปไว้ด้วยว่า อีก 500 ปีต่อจากนี้ ในวันที่ภูเขาไฟมะราปีพ้นเถ้าถ่านธารหินไฟ เขาจะกลับมาฟื้นฟูศาสนาดั้งเดิมของชาวชวา

ส่วนพระบรมวงศ์มัชปาหิตที่ไม่ยอมรับอิสลาม พากันอพยพไปเกาะบาหลี บ้างก็หลบซ่อนบนเกาะชวากลายเป็นชาวเตงเกร์ แถบภูเขาไฟโบรโม ซึ่งยังนับถือศาสนาพรามหณ์-พุทธจนถึงทุกวันนี้ บางส่วนรับอิสลามแต่ยังปฏิบัติพิธีกรรมแบบพราหมมณ์-พุทธ ส่วนใหญ่เป็นอนุชนชาวมัชปาหิต และอาศัยอยู่ในชวานั่นเอง คนเหล่านี้ถือศาสนาโบราณของชวาอย่างลับๆ


ยุคของกษัตริย์ชาวพรามหณ์-พุทธแห่งอาณาจักรมัชปาหิตคนสุดท้ายสิ้นสุดในปี ค.ศ. 1478 ชวาผ่านยุคสมัยต่างๆ 4 ยุค คือยุคอิสลาม ยุคอาณานิคมวิลันดา ยุคเอกราช ยุคซูการ์โน ซึ่งพุทธศาสนาเริ่มฟื้นคืนอีกครั้งจากความพยายามของชาวอินโดนีเซียเชื้อสาย จีน กระทั่งในปีค.ศ. 1978 รัฐบาลรองรับศาสนาพุทธอย่างเป็นทางการ ในปีเดียวกันนั้น ชาวพราหมณ์และพุทธในอินโดนีเซียจัดพิธีทางศาสนาร่วมกัน ในวันนั้นเองภูเขาไฟมะราปีประทุขึ้น


จากปี 1478 ถึงปี 1978 เป็นเวลา 500 ปีพอดี ตามที่ปุโรหิต สัปดา โปโลน ลั่นวาจาไว้
------------------------------------------------
*ภาพ จากหนังสือ Java; brahmanische, buddhistische und eigenlebige Architektur und Plastik auf Java
1. พระอมิตาภพุทธเจ้า จากพระสถูปจันดิ เมนดุต เกาะชวา
2. พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร จากพระสถูปจันดิ เมนดุต
3. พระโพธิสัตว์ศรีอาริยะเมตไตรย จากวิหารปลาวสัน เกาะชวา
4. พระปรัชญาปารมิตา จากจันดิ สิงหะส่าหรี เกาะชวา
ดูภาพเพิ่มเติมได้ที่ https://archive.org/details/javabrahmanische00withuoft
------------------------------------------------
*อ้างอิงจาก
-The Sabdopalon Prophecy, Is It Happening Soon? โดย watatita
-The revival of the theravada higher learning institutions in Indonesia โดย Eko Legowo,
-PRESENT SITUATION OF INDONESIAN BUDDHISM: IN MEMORY OF BHIKKHU ASHIN JINARAKKHIT A MAHASTHAVIRA โดย Bunki KIMURA
-Buddhism in Indonesia, Past and Present โดย Ven. Ditthisampanna

เครดิต ‪#‎Kornkit‬ Disthan
Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม