วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556

จับตัวได้แล้ว พยัฆร้าย มุสลิมถึบ

จับตัวได้แล้ว พยัฆร้าย มุสลิมถึบ











***********************





          จากกรณี มีกลุ่มวัยรุ่น 5- 6 คน ขับขี่จักรยานยนต์ทำร้ายพระลูกวัดตรีมิตร ขณะออกเดินบิณฑบาตจนทำให้บาตรตกและพระภิกษุได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ที่บริเวณถนนหน้าวัดตรีมิตร ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 ก.ย.56 ที่ผ่านมา

          ความคืบหน้าเมื่อ เวลา 11.00 น. (30 ก.ย.) ที่ห้องประชุม สภ.เมืองยะลา พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผบก.ภ.จว.ยะลา พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.เมืองยะลา ได้นำตัว
  • นายซอบรี ดาราแม อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/1 หมู่ 5 ต.ลุโบะยิไร อ.มายอ จ.ปัตตานี 
  • นายฮัมดี ดือราแม อายุ 19 ปี พร้อมเพื่อนเยาวชนรวม 5 คน 
       ผู้ต้องหาร่วมกันใช้เท้าถีบพระภิกษุอภิชาต ค้าหนองคู อายุ 36 ปี พระลูกวัดวัดตรีมิตร หมู่ 9 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา ขณะออกบิณฑบาตที่บริเวณหน้าวัดตามลำพัง

       ด้าน พล.ต.ต.พีระ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากความคึกคะนอง ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และในส่วนของพระอภิชาต ไม่ติดใจจะดำเนินการเอาเรื่องราวแต่อย่างใด จึงต้องฝากถึงผู้ปกครองกลับไปดูแลอบรมลูกหลานอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจปัสสาวะวัยรุ่ที่ร่วมกระทำความผิดทั้ง 5 ราย เพื่อหาสารเสพติด และถ้าหากพบสารเสพติดในร่างกาย จะส่งต่อไปบำบัดรักษา เพื่อให้กลับมาเป็นคนดีของสังคมต่อไป.
http://narater2010.blogspot.com/

เคยรู้ไหม หมา ไม่เคยเกลียดมุสลิม แต่มุสลิม...เกลียดหมา


เคยรู้ไหม หมา ไม่เคยเกลียดมุสลิม แต่มุสลิม...เกลียดหมา  

          จะมีอะโรที่ร้ายเท่าความเกียจชังในใจคนได้ คนมุสลิมเกียดหมา

องค์กรพิทักษ์สัตว์ แฉ เรื่องจริงการจับสุนัขในมาเลเซีย


     
          ภาพที่เห็นเป็นสุนัขตัวหนึ่งที่ถูกจับโดย MPKJ โปรดหยุดและมองไปที่เธอ นี่คือวิธีที่สุนัขได้รับความทรมานที่นี่ในประเทศมาเลเซีย เมื่อสุนัขและลูกสุนัขทั้งหลายถูกจับได้ ช่างโหดร้ายเกินไป

          MIAR องค์กรพิทักษ์สัตว์มาเลเซีย (Malaysia Independent Animal Rescue) บันทึกวิดีโอนี้เพื่อแสดงให้ทุกคนจริงๆ ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ในประเทศนี้และทำแบบนี้นานหลายปีแล้ว พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่ามีสุนัขกี่ตัวถูกฆ่าด้วยไร้ความปราณี

ปล. โปรดอย่าหยุดแบ่งปันวิดีโอนี้ เราเป็นความหวังเดียวของสุนัข เราต้องการความยุติธรรมให้สุนัข เรื่องรุนแรงนี้ต้องหยุด

MPKJ เป็นทีมของเทศบาลท้องถิ่น มาเลเซีย พวกเขากล่าวว่า รัฐบาลจ่ายเงินให้พวกเขาทำเช่นนั้น หมายถึงวิธีการทรมานสุนัข พวกมันต้องทนทุกข์ทรมานด้วยท่อนเหล็กทั้งถูก ... บีบคอและลากพวกมันจนกว่าเลือดออกจากอุ้งเท้า สำลักเลือด และถูกนำไปสู่ความตาย

ถ้ามีใครมาลากลูกของคุณแบบนี้ หากไม่ไปก็โดนทุบตีอย่างรุนแรง คุณจะทำอย่างไร ?



        วะอะลัยกุมุสสลามครับ ก่อนอื่นต้องเข้าใจใหม่นะครับว่า อิสลามมิได้สอนให้มุสลิมเกลียดชังสุนัข เพียงแต่ การทำความสะอาดอันเนื่องจากน้ำลายของสุนัขนั้นเกิดความยากลำบากเท่านั้นเอง อาทิเช่น หากน้ำลายของสุนัขเลียภาชนะของมุสลิม จำเป็นจะต้องล้างน้ำ 7 ครั้ง,
  • ครั้งแรกให้ล้างน้ำดิน 
  • ที่เหลืออีกหกให้ล้างน้ำเปล่า 
      ฉะนั้นหากมุสลิมเลี้ยงสุนัขภายในบ้าน ก็ลองคิดดูเล่นๆ ก็ได้ครับว่าจะต้องตามล้างด้วยน้ำดินกันไม่รู้จักจับสิ้นนั่นเอง
  • อีกประการหนึ่ง อิสลามไม่อนุญาตให้เลี้ยงสุนัขในภายบ้านก็เพราะ มลาอิกะฮฺเราะหฺมะฮฺ (มลาอิกะฮฺแห่งความเมตตา) จะไม่เข้าบ้านหลังที่มีสุนัขถูกเลี้ยงอยู่ในบ้านหลังนั้น (บันทึกโดยมุสลิม) 
  • แต่ทว่า อิสลามอนุญาตให้เลี้ยงสุนัขไว้เฝ้าสวนได้
  • เลี้ยงเพื่อให้มันดูแลฝูงสัตว์ได้, 
  • เลี้ยงเพื่อล่าสัตว์อื่นเป็นอาหารได้ 

         ฉะนั้นหากจะบอกว่ามุสลิมเกลียดสุนัขก็คงไม่ถูกแล้วละครับ 

อนึ่ง ท่านนบีเคยเล่าให้ฟังว่า มีสตรีโสเภณีคนหนึ่งตักน้ำให้สุนัข

ตัวหนึ่งดื่ม อันเนื่องจากสุนัขตัวนั้นหิวแต่ไม่สามารถดื่มน้ำในบ่อน้ำนั้นได้ นางจึงให้รองเท้าของนางตักน้ำให้มันดื่ม ท่านนบีจึงกล่าวว่า การกระทำข้างต้นนางได้รับสวรรค์เป็นสิ่งตอบแทน, 

        ฉะนั้นเราจะต้องอธิบายให้คนต่างศาสนิกฟังใหม่ว่า มุสลิมไม่ได้เกลียดสุนัข แต่มุสลิมจะทำอะไรนั้นต้องมีขอบเขตที่ศาสนากำหนดไว้เท่านั้นเอง (วัลลอฮุอะอฺลัมบิศเศาะวาบ) วัสสลาม
บุญหายเพราะเลี้ยงหมา        ท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺเล่าว่า ท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวว่า " บุคคลใดที่เลี้ยงสุนัข โดยไม่ใช่สุนัข (เลี้ยงไว้เพื่อ) เฝ้าปศุสัตว์, สุนัขล่าสัตว์ หรือสุนัขเฝ้าสวน เช่นนั้นผลบุญของเขาจะถูกบั่นทอนลงทุกวันๆ ละหนึ่งกีรอน " บันทึกโดยบุคอรีย์ หะดีษที่ 3077, มุสลิม หะดีษที่ 2948 และติรมิซีย์ หะดีษที่ 1409


        "บ้าน (มุสลิม) ใดที่ผูกสุนัขไว้ในบ้านของพวกเขา แน่นอนยิ่งการงาน (อะมัล) ของพวกเขาจะถูกบั่นทอนลงทุกวันๆ ละหนึ่งกีรอน ยกเว้น (มุสลิมที่เลี้ยงสุนัขไว้นอกบ้านเพื่อ) ล่าสัตว์, สุนัขเฝ้าสวน หรือสุนัขเฝ้าแกะ(แพะ) " บันทึกโดยติรมิซีย์ หะดีษที่ 1410, นะสาอีย์ หะดีษที่ 4206

          ไม่เลี้ยงแล้วไปทำลายสิ่งมีชีวิต อิสลามก็ไม่อนุมัติเช่นกันในการสร้างความเสียหายบนหน้าแผ่นดิน คราวหลังเจอใครทำเช่นนี้ ลองแกล้งย้อนถามนะคะว่าศาสนาสอนเช่นไร ให้ยกหลักฐานทางศาสนามาด้วย....        เมื่อไม่เลี้ยงก็ยังส่งเสริมให้เมตตาต่อสัตว์ค่ะ "มีสตรีโสเภณีคนหนึ่งตักน้ำให้สุนัขตัวหนึ่งดื่ม อันเนื่องจากสุนัขตัวนั้นหิวแต่ไม่สามารถดื่มน้ำในบ่อน้ำนั้นได้ นางจึงให้รองเท้าของนางตักน้ำให้มันดื่ม ท่านนบี(ขอความสันติจงมีแด่ท่าน)จึงกล่าวว่า การกระทำข้างต้นนางได้รับสวรรค์เป็นสิ่งตอบแทน"
         จากหะดีษข้างต้นระบุไว้นั้น แสดงให้เห็นว่าอิสลามต้องมีความเมตตาต่อสัตว์ ใครไปเบื่อยาฆ่าน้องหมาอันนี้เลว ขอประนามมัน เกลียดถึงขั้นฆ่ากันได้ แสดงถึงจิตใจภายในของเขาแล้วค่ะ ว่าน่ากลัว.....อิสลามไม่ส่งเสริมเลยสักนิด...แถมยังให้เมตตากรุณาสัตว์


อยากจะรู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด ต้องทำเช่นนี้







หมา โดนวางยาเบื่อในอียิปต์

File:Tesem2.jpg
ภาพที่บอกว่า ในประวัติศาสตร์ หมาก็อยู่ข้าง ๆ คนอียิปต์มานานแสนนาน

File:Black Figured Olpe depicting the return of a hunter and his dog.jpg
ภาพบนภาชนะดินเผา ก็เห็นว่า มุสลิมในประวัติศาสตร์ ก็มีหมาเคียงข้างกาย

File:Riders Leagros Group Louvre CA4716 n2.jpg
ในสมัยโรมัน ก็หมาอีกนั่นแหละอยู่ข้าง ๆ กาย

แม้แต่ในยุคต้นกำเนิดอิสลาม หมาก็อยู่ข้าง ๆ กายของมุสลิม

File:Livre de Chasse 40v.jpg

แล้ววัน ทำไมมุสลิมพวกนี้ ถึงได้ทำกับหมาได้ปานนี้



แล้วอะไรกัน ที่สั่งสอนให้คนพวกนี้ ทำหมา ๆ กับ หมา
(WARNING TO DOG LOVERS GRAPHIC CONTENT) IRANIAN YOUTH PUBLICLY KILLING DOG WITH STICKS AND STONES & OTHER STORIES ON TREATMENT OF DOGS IN ISLAMIC WORLD



แต่หญิงมุสลิมรายนี้ เธอทำแบบที่มนุษย์ พึงปฏิบัติต่อสัตว์โลก



มุสลิม ตุรกี กับหมาตัวโปรด



ตำรวจสุนัขมุสลิม อาบูดาบี ฝึกสุนัขใช้งาน


































Yay, more pictures of Muslims not hating dogs, not hating dogs at all. Here are Muslims who love dogs, and not just Salukis.




Okay, I don’t know what this one says. My guess is this guy rescued the dog, but I don’t know.

















What's the difference between a woman and a dog in Muslim countries? 
Posted on February 21, 2013 


































http://narater2010.blogspot.com/

วิสามัญโจรใต้คดีลอบบึ้มขบวนรถไฟตกรางที่ อ.รือเสาะ

วิสามัญโจรใต้คดีลอบบึ้มขบวนรถไฟตกรางที่ อ.รือเสาะ

Photo: ปะทะโจรใต้ปลิดชีพ 1 ศพ เจ้าหน้าปลอดภัย....

เมื่อเวลา 00.25 วันนี้ (30 ก.ย.)  คณะทำงานพิเศษ/ชป.สลาตัน ร่วมกับ ฉก.ทพ. 45 , ฉก.น.ธ. 30 ได้เข้าทำการปิดล้อม ที่ บ.บือเจาะบองอ ม.7 ต.สาวอ อ.รือเสาะ จว.นธ. ผลการปฏิบัติ มีการปะทะกันทำให้ ผกร. ตาย 1 คน ชื่อ

นายอ้บดุลเลาะ  บือราเฮง (ผกร.พื้นที่ อ.รือเสาะ) ที่ข้างศพพบ ปืนพก ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก ส่วนเจ้าหน้าที่ปลอดภัยทุกนาย...

นายอ้บดุลเลาะ  บือราเฮง อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 4 หมาย ได้แก่ ยิงถล่มฐานทหารที่ บ้านท่าเรือ เขตเทศบาลตำบลรือเสาะ ยิงถล่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รือเสาะ เสียชีวิต 4 นาย และยิงถล่มชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 นาย


          นราธิวาส -
เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.นราธิวาส 30 และทหารพรานที่ 49 สนธิกำลัง จำนวน 3 ชุดปฏิบัติการเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านต้องสงสัย และเกิดการปะทะกับคนร้ายก่อนที่จะวิสามัญคนร้ายเสียชีวิต 1 ราย พบเป็นมือวางระเบิดขบวนรถไฟยะลา-สุไหงโก-ลก เมื่อปี 55

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 01.25 น. วันที่ 30 กันยายน พ.อ.ธนิต แสงจันทร์ หน.ชุดปฏิบัติการพิเศษ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมด้วย พ.ท.สฐิรพงศ์ อาจหาญ ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 และ พ.อ.กรกฏ ภู่โชติ ผบ.กรมทหารพรานที่ 49 ได้ร่วมสนธิกำลังจำนวน 3 ชุดปฏิบัติการ ใช้กฎอัยการศึกบุกจู่โจมตรวจค้นบ้านเลขที่ 1 บ้านบือเจาะบองอ ต.สาวอ อ.รือเสาะ หลังสืบทราบว่า นายอับดุลเลาะ บือราเฮง อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาวางระเบิดขบวนรถไฟที่ 453 วิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟ จ.ยะลา ปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 1075 ซึ่งห่างจากสถานีรถไฟสโลว์บูกิตยือแร หมู่ 9 ต.รือเสาะ ประมาณ 1 กิโลเมตร ทำให้รถไฟตกรางและมีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ อส.พนากร ชุ่นแก้ว สังกัดกองร้อยบังคับการและบริการส่วนหน้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้รับบาดเจ็บสาหัส 16 ราย เหตุเกิดเวลา 07.20 น. ของวันที่ 18 พฤษภาคม 2555 ได้แฝงตัวมากบดานที่บ้านของภรรยา


          เมื่อถึงเป้าหมายเจ้าหน้าที่ได้กระจายกันโอบล้อม พร้อมแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่นายอับดุลเลาะได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ จำนวน 2-3 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้ประกาศให้มอบตัวแต่นายอับดุลเลาะกลับใช้อาวุธปืนยิงซ้ำ เจ้าหน้าที่จึงได้ตัดสินใจบุกจู่โจมและเกิดยิงปะทะกับนายอับดุลเลาะที่แอบอยู่ในห้องนอนของภรรยาอีกครั้ง เมื่อเสียงปืนสงบลงเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าเคลียร์ พบว่านายอับดุลเลาะถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิต โดยถูกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่บริเวณลำคอ ลำตัว และแผ่นหลัง รวม 4 นัด และมีอาวุธปืนพกขนาด 9 มม. ตกอยู่ข้างศพ 1 กระบอก พร้อมปลอกกระสุนปืน 8 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะนำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลรือเสาะ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา

          คดีลอบวางระเบิดขบวนรถไฟในครั้งนั้น ร.ต.ต.ภิสิทธิ์ ชาติวัฒนธาดา รอง สว.สส.สภ.รือเสาะ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนสอบสวน จนรู้กลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุมีจำนวนทั้งสิ้น 18 คน และเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับไปแล้ว จำนวน 4 คน คือ 

นายมาหามะ แมเร๊าะ 
นายมะยูดิง หะยีสะนิ นายมะรอนิง บือราเฮง และนายอับดุลเลาะ บือราเฮง ซึ่งเป็นน้องชายของนายมะรอนิง และถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิตดังกล่าว

http://narater2010.blogspot.com/

ภาคประชาสังคมใน จชต. “ด้วยจิตอาสาหรือเพื่อสิ่งใด”

ภาคประชาสังคมใน จชต. “ด้วยจิตอาสาหรือเพื่อสิ่งใด”

ภาคประชาสังคมใน จชต. “ด้วยจิตอาสาหรือเพื่อสิ่งใด”

           ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย นับตั้งแต่ปี 47 จนถึงปัจจุบัน นอกจากสร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่แล้วยังส่งผลเสียหายต่อสังคม เศรษฐกิจและภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นอย่างมาก เป็นเหตุให้องค์กรภาคประชาสังคมทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจ รวมทั้งกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรงกลุ่มต่างๆ ได้รวมตัวเคลื่อนไหวหาทางเป็นตัวกลางระหว่างรัฐและประชาชนเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบตามลักษณะองค์กร ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการให้ความช่วยเหลือนี้เกิดจากจิตอันเป็นกุศลเพื่อประโยชน์สาธารณะเป็นสำคัญ


         หากสืบสาวถึงประสบการณ์ของกระบวนการสร้างสันติภาพในโลกแล้วเราไม่อาจปฏิเสธได้ว่า บทบาทของประชาชนเป็นเครื่องชี้วัดความสำเร็จของการสร้างสันติภาพที่ไม่อาจมองข้ามได้ และเป็นหัวใจสำคัญของการฟื้นฟูความไว้วางใจระหว่างฝ่ายต่าง ๆ ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ขยายตัวสืบเนื่องมาเป็นเวลากว่า 8 ปี
          ท่ามกลางปัญหาวิกฤติ ประชาชนได้รวมตัวกันเพื่อตอบสนองต่อปัญหาตั้งแต่การมีปฏิกิริยาต่อต้านความรุนแรง การพิทักษ์สิทธิมนุษยชน การช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหาย การพัฒนาท้องถิ่น รวมไปถึงการติดตามตรวจสอบนโยบายตลอดจนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และรณรงค์สื่อสารเพื่อสร้างสรรค์สันติภาพในสังคมส่วนใหญ่

         นั้นเป็นบทบาทที่ควรจะเป็นและสมควรได้รับการยกย่องสำหรับองค์กรที่มีความมุ่งมั่น และมีเป้าหมายที่ดีงามตามแรงผลักดันในการจัดตั้งของแต่ละองค์กร 

          คำกล่าวที่ว่าทุกสังคมย่อมมีทั้งคนดีและคนไม่ดีนั้นเป็นจริงเสมอ ในท่ามกลางความเอื้อเฟื้ออารี ในพื้นที่ที่ดูจะมีแต่ความเห็นอกเห็นใจกันระหว่างผู้ได้รับผลกระทบ ในทางกลับกันพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แห่งนี้ยังเป็นพื้นที่แห่งการแสวงหาผลประโยชน์ของบางกลุ่มบางองค์กรที่ฉวยโอกาสกอบโกยเงินทองบนความเดือดร้อนของประชาชน หรือบางองค์กรก็ขยายความขัดแย้งให้มากขึ้นเพื่อให้พื้นที่นี้ยังเป็นแหล่งทำมาหากินต่อไป

         ที่น่ากลัวกว่านั้นคือการเคลื่อนไหวขององค์กรภาคประชาสังคมที่มีความเชื่อมโยงและมีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ที่พยายามสร้างผลงานด้วยการสร้างภาพการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกันก็หาช่องว่างแม้เพียงน้อยนิดนำเสนอผ่านการรายงานแบบให้ข่าวสารด้านเดียวหรือเรียกง่ายๆ ว่า “บิดเบือน” ไปยังแหล่งทุนเพื่อให้ได้รับเงินบริจาคหรือสนับสนุนจากต่างประเทศ ซึ่งเหล่านี้นับเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ และในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นี้ก็มีองค์กรที่มีบทบาทนำในเรื่องสิทธิมนุษยชนและมีพฤติกรรมเช่นนี้อยู่ 2-3 องค์กร โดยที่ภาครัฐไม่สามารถแตะต้องได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเอ่ยนามและในแวดวงองค์กรภาคประชาสังคมด้วยกันจะทราบกันดี 

        วิธีการนี่ดูคล้ายๆ กับวิธีของขบวนการก่อเหตุรุนแรงที่ใช้วิธีการเดียวกัน แต่ใช้การก่อเหตุร้ายเพื่อขอเงินสนับสนุนจากประเทศที่นิยมความรุนแรง เพื่อจุดประสงค์เดียวกันบนเส้นทางที่แตกต่าง

          ตัวแปรสำคัญซึ่งเรียกว่า “อิทธิพลของแหล่งทุน” นั้นมีผลต่อความเป็นไปของสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่แหล่งทุนมักจะ เป็นผู้กําหนดรายละเอียดการทํางาน การตรวจสอบด้วยการรายงานและเป็นผู้กําหนดวัตถุประสงค์ที่ต้องการ โดยเฉพาะแหล่งเงินทุนที่มาจากต่างประเทศมักจะมีความมุ่ง หมายที่ไม่เป็นผลดีต่อประเทศที่เกิดปัญหา หรือที่เรียกว่า “การบ่อนทำลาย” ซี่งแน่นอนว่าหากองค์กรภาคประชาสังคมใด ๆ ที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อผลประโยชน์และได้รับทุนมาดำเนินการก็ต้องปฏิบัติไปตามแนวทางนั้น และหากวัตถุประสงค์คือการบ่อนทำลาย ภาพของสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็จะมีแต่ความเลวร้ายไม่จบสิ้น และยังจะคงต่อเนื่องไปอีกยาวนานตราบใดที่ยังมีผู้หวังผลประโยชน์บนความทุกข์ยากของ ประชาชนอยู่เช่นนี้

         วันนี้ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีองค์กรภาคประชาสังคมอยู่เกือบ ๆ 300 กลุ่มองค์กรและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้น ด้วยเพราะเม็ดเงินสนับสนุนจำนวนมหาศาลจากแหล่งต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศกำลังแพร่สะพัดรอให้ผู้ที่หวังดีนำมาช่วยเหลือสังคม และรอให้ผู้ไม่หวังดีมาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ นอกเหนือจากการดำเนินการของภาครัฐโดย ศอ.บต. และฝ่ายความมั่นคงที่มุ่งกระทำเพื่อสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่โดยใช้ความพยายามทุกทางแล้ว จึงมีคำถามว่าองค์กรภาคประชาสังคมในจังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถให้การช่วยเหลือ ยับยั้งหรือลดระดับความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มากน้อยแค่ไหนในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพราะนอกจากข้อเท็จจริงเรื่องการแอบแฝงข้างต้นแล้ว ยังสามารถมองเห็นความขัดแย้งทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจขององค์กรภาคประชาสังคมกับองค์กรภาครัฐอยู่เนืองๆ 

          ถึงเวลานี้หนทางหนึ่งที่ดูจะเป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่การสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นได้อย่างแท้จริงนั้นคือ “การสร้างโอกาสในการทำงานร่วมกัน” แต่การนำเครือขยายองค์กรภาคประชาสังคมให้มาร่วมคิดร่วมทำกับฝ่ายความมั่นคงนั้นถึงแม้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากได้มีการพยายามสร้างและพัฒนาให้เป็นเครือข่ายทํางานร่วมกันได้สำเร็จ จะช่วยทำให้การแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ง่ายขึ้น ด้วยการพบปะพัฒนาสัมพันธ์เพื่อให้มีโอกาสได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน จะนํามาซึ่งความเข้าใจ การช่วยเหลือเกื้อกูล โดยมุ่งสู่ประชาชนเป็นสำคัญ ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายการส่งเสริมให้ภาคประชาสังคมมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล เพื่อนําความสงบสุขมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน

         นี่น่าจะเป็นแนวทางที่สามารถกระทำได้หากสองฝ่ายเปิดใจให้กว้างและคำนึงถึงชาติบ้านเมือง 

         ส่วนขององค์กรที่แอบอ้างว่าทำเพื่อประชาชน เพื่อส่วนรวม ที่ยังไม่ยอมเลิกพฤติกรรมของยุงที่ชอบดูดกินเลือดมนุษย์ด้วยกัน ก็อยากจะเข้าใจว่าเป็นอาชีพที่จำเป็นต้องทำเพื่อเลี้ยงปากท้องตัวเองและพวกพ้อง แต่หากยังต้องอาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินที่ตนเองเรียกว่า “บ้านเกิดเมืองนอน” แล้วก็ควรต้องมีจิตสำนึก อย่าหากินบนความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชนเลย..... กรรมมันจะตามทัน

         และก่อนที่จะจบบทความจากความรู้สึกที่พวกเราเฝ้ามองติดตาม NGO อยู่ในส่วนที่เป็นจุดลบ จุดด้อย หรือจุดไม่ดี เราก็ขอให้พวกท่านได้ไปทบทวนวิพากษ์ แก้ไขกันเอง แต่จุดที่ดีนั้นเราอยากจะบอกท่านว่า ท่านยังเป็นความหวังของประชาชน ความหวังของทุกฝ่ายที่ได้รับการปฏิบัติอย่างขาดความเป็นธรรม ท่านสามารถนำอุดมการณ์ความมุ่งมั่นมาใช้แก้ปัญหาทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม จิตวิทยา ได้อย่างมากมาย โดยเฉพาะมาร่วมกันแก้ปัญหาความ ไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ ของพวกเราให้สงบลงเสียทีเถิด ประชาชนเฝ้ารอปรบมือให้แก่ท่านอยู่แล้ว

ซอเก๊าะ นิรนาม
http://narater2010.blogspot.com/

วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556

คุมตัวผู้ต้องสงสัยป่วนใต้ สอบเครียด

คุมตัวผู้ต้องสงสัยป่วนใต้ สอบเครียด
คุมตัวผู้ต้องสงสัยป่วนใต้ สอบเครียด
วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ.2556 12:07น.


          ทหารพรานที่ 41 ยะลา คุมตัวผู้ต้องสงสัยป่วนใต้ซักถาม หลังถูกจับกุมได้พร้อมอาวุธหลายรายการ

         จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 41 ยะลา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ได้เข้าตรวจค้นในพื้นที่ ม.4 ต.กอตอตือระ อ.รามัน จ.ยะลา และได้ควบคุมตัว นายลูกมัน ลงบิน ราษฎรบ้านกือแล ต.กอตอตือระ อ.รามัน จ.ยะลา พร้อมตรวจยึดอาวุธปืน M16A1 จำนวน 1 กระบอก ปืนลูกซอง2 กระบอก กระสุนปืน M16 จำนวน 69 นัด และอื่นๆ อีกหลายรายการนั้น ในเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 41 ซึ่งได้ควบคุมตัว นายลูกมัน ได้นำเข้าสู่การซักถามขยายผล ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในพื้นที่หรือไม่ พร้อมกันนี้จ ะได้ตรวจดีเอ็นเอต่อไป




********************




รวบผู้ต้องสงสัยพัวพันป่วนใต้
เจ้าหน้าที่รวบ ผู้ต้องสงสัยของกลางซองกระสุนปืนเอ็ม16 และอุปกรณ์ในการตอกหมายเลขปืน

           วันที่ 14 ก.ย.56 เมื่อเวลา 14.30 น. ขณะที่ ส.ต.อ.มานะ พิพิธทอง หัวหน้าชุดคุ้มครองตำบลมะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 45 ตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บริเวณบ้านกูแบบาเดาะ ม.7 ต.มะรือโบตก พบรถยนต์มิตซูบิซิ รุ่นแลนด์เซอร์ สีเขียว ทะเบียน กค 5474 ยะลา ภายในรถมีชายฉกรรจ์ จำนวน 3 คน นั่งอยู่ เมื่อเห็นด่านตรวจทางคนขับจึงรีบเลี้ยวกลับรถแล้วขับหลบหนีอย่างรวดเร็ว

          ส.ต.อ.มานะ จึงนำกำลังไล่ติดตาม จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 2 กิโลเมตร รถคันดังกล่าวได้จนมุมเจ้าหน้าที่ ระหว่างนั้นเองชายฉกรรจ์ 2 คนที่นั่งอยู่เบาะหลัง ได้เปิดประตูรถวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ารกทึบข้างทางอย่างรวดเร็ว ส่วนคนขับทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมเอาไว้ได้ ทราบชื่อคือ นายรุส ดัน มะหะมะ อายุ 27 ปี

          ตรวจค้นภายในรถยนต์คันดังกล่าว ปรากฎว่าพบถุงพลาสติกขนาดใหญ่สีดำวางอยู่บนเบาะ ภายในถุงมีซองกระสุนปืนเอ็ม16 ขนาดบรรจุกระสุน 30 นัด จำนวน 7 ซอง และอุปกรณ์ในการตอกหมายเลขปืน ซึ่งแยกออกเป็น 2 ชุด คือ ชุดที่ใช้สำหรับตอกตัวอักษรภาษาอังกฤษ A-Z และตัวอักษรหมายเลข 0-9 เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.ระแงะ

         นายรุสดัน ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ชายฉกรรจ์ 2 คน ที่วิ่งหลบหนีไปได้นั้น ตนเองไม่รู้จัก ส่วนของกลางที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ ก็เป็นของชายทั้งสองคนที่หลบหนี ตนเป็นแค่เพียงผู้ได้รับการว่าจ้างให้ขับรถมารับตัวชายทั้งสองในพื้นที่ ต.สุวารี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพื่อไปส่งในพื้นที่ ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ แต่ระหว่างทางพบเจ้าหน้าที่ตั้งด่านจุดตรวจ และชายฉกรรจ์ทั้งสองคนได้สั่งให้ตนเองขับรถยนต์หลบหนี เพราะกลัวว่าจะถูกจับกุม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อในคำให้การของนายรุสดัน จึงได้ใช้กฎอัยการศึกควบคุมตัวนายรุสดัน มาสอบสวนขยายผลที่กองบังคับการกรมทหารพรานที่ 45 อ.ระแงะ ต่อไป เพราะเชื่อว่าน่าจะมีความเชื่อมโยงและพัวพันเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

http://narater2010.blogspot.com/

"บิ๊กตู่" กร้าว ไม่รับข้อเสนอ "ตอยิบ" ตั้งเขตปกครองพิเศษใน 3 จว.ใต้

"บิ๊กตู่" กร้าว ไม่รับข้อเสนอ "ตอยิบ" ตั้งเขตปกครองพิเศษใน 3 จว.ใต้ 


            "บิ๊กตู่" กร้าว ไม่รับข้อเสนอ "ตอยิบ" ตั้งเขตปกครองพิเศษใน 3 จว.ใต้ เนื่องจากยังพึ่งงบประมาณรัฐ ยันกฎหมายไม่เอื้ออำนวยให้ทำได้ คนในพื้นที่ไม่ต้องการ เตือน สมช.อย่าตกหลุมพรางบีอาร์เอ็น รีบหาข้อยุติ 5 ข้อเสนอโจรใต้ ยังต้องทบทวนในรายละเอียดอีกมาก จี้โจรใต้วางอาวุธ เพื่อถกสันติภาพราบรื่น ในขณะที่โจรใต้ยะลาลอบบึ้ม ยิงซ้ำ ตร.ชุด รปภ.ครู เจ็บ 2 นาย ชาวบ้านโดนลูกหลงเจ็บ 1 ราย


           เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงการพิจารณา 5 ข้อเสนอของกลุ่มบีอาร์เอ็น หลังทาง บีอาร์เอ็นส่งรายละเอียดมาให้ทางการไทย ว่า ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. ได้นำทั้ง 5 ข้อมาพิจารณาแล้ว แต่ยังจะต้องมีการพูดคุยกันทุกเรื่องอีก ส่วนผลจะออกมาอย่างไรขึ้นอยู่กับเหตุผลของแต่ละฝ่าย การพูดคุยถือเป็นช่องทางหนึ่ง เมื่อคนไม่รู้จักกัน เปิดประตูหน้าต่างมาคุยกันเป็นเรื่องดี แต่ต้องอยู่ภายใต้ รัฐธรรมนูญ และต้องอธิบายข้อเสนอที่บีอาร์เอ็นเสนอมาว่า ใช่หรือไม่ใช่ เพราะทุกอย่างมีความเป็นมาทั้งหมด ขึ้นอยู่กับเหตุและผล ถ้าเรายืนยันไปว่า สิ่งที่บีอาร์เอ็นขอมายังต้องทบทวน และหาข้อมูลเพิ่มเติมในการพูดคุยกันต่อไป อย่าเพิ่งหาข้อยุติในตอนนี้ ครั้งนี้คุยไม่ได้ก็คุยกันครั้งต่อไป ถ้าแต่ละฝ่ายยื่นข้อเสนอ แล้วรับกันไม่ได้ ก็คงจะพูดคุยกันไม่ได้ ทั้งนี้หน่วยงานด้านความมั่นคง จะดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายยังคงมีอยู่ 100 เปอร์เซ็นต์ เราไม่สามารถละเว้นอะไรได้ หากยังมีการถืออาวุธมาต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ ตนไม่เคยสั่งให้ลดการปฏิบัติการลง โดยจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายทุกพื้นที่เช่นกัน ส่วนผู้หลงผิดมารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่รัฐแล้วกว่า 900 คน โดยเราดูแลให้เขามีอาชีพและความปลอดภัยด้วย

          เมื่อถามถึงข้อเสนอ ข้อ 4 ที่บีอาร์เอ็นต้องการให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตปกครองพิเศษ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่มองถึงตรงนั้น ตนมองย้อนกลับไปว่า ประเทศไทยปกครองในระบบส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่นสมบูรณ์อยู่แล้ว แล้วในวันนี้มีอยู่ 2 พื้นที่ คือ พัทยา และ กทม. ซึ่งเหตุผลคือในเรื่องการท่องเที่ยว แต่เขตปกครองพิเศษจะต้องมีการบริหารจัดการใหม่ รวมถึงงบประมาณ คิดว่างบประมาณในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่เพียงพอ เนื่องจากขณะนี้ยังต้องใช้งบประมาณส่วนกลางเข้าไปช่วยเหลืออยู่ ทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้านก็มีเงินเดือน แต่หากเป็นเขตปกครองพิเศษ สิ่งเหล่านี้จะหายไป จากการสอบถามคนในพื้นที่ส่วนใหญ่ก็ไม่ต้องการเขตปกครองพิเศษ ส่วนใหญ่มีแต่คนภายนอกคิดให้ ถ้าทำไปแล้วเกิดอะไรขึ้นมาจะรับผิดชอบหรือไม่

          สำหรับเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จว.ใต้ วันเดียวกันนี้ ศูนย์วิทยุ สภ.ยะหา จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่ามีเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่ริมถนนสายยะหา-กาบัง บริเวณบ้านอาเส็น หมู่ 6 ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา ห่างจากโรงเรียนบ้านอาเส็นประมาณ 500 เมตร เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด รปภ.ครู ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อคือ ส.ต.ต.นิติกร ตาแหลม อายุ 24 ปี, ส.ต.ต.เกียรติศักดิ์ ผลิผล อายุ 26 ปี และชาวบ้าน นายมะสาบูดิน มูซอ อายุ 26 ปี เหตุเกิดขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่จำนวน 8 นาย ออกลาดตระเวนเส้นทาง รปภ.ครูโรงเรียนบ้านอาเส็น เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง 2 ลูก ซึ่งวางไว้ที่เสาบอกทางโค้ง จุดชนวนระเบิดด้วยแบตเตอรี่ลากสายกดชนวน และยิงซ้ำ ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
http://narater2010.blogspot.com/

กดระเบิดถล่มชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส ก่อนเปิดฉากยิงซ้ำบนถนนกลางหุบเขา

กดระเบิดถล่มชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส ก่อนเปิดฉากยิงซ้ำบนถนนกลางหุบเขา

          กดระเบิดถล่มชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส ก่อนเปิดฉากยิงซ้ำบนถนนกลางหุบเขา ชาวบ้านถูกลูกหลงตาย 1 เจ็บ 1 ส่วนเจ้าหน้าที่สาหัส 3 ขณะเดียวกัน ตำรวจ สภ.บาเจาะ นำกำลังเข้าสนับสนุน รถพลิกคว่ำเสียชีวิต 4 นาย เจ็บอีก 7

           เมื่อเวลา 12.10 น. วันนี้ (27 ก.ย.) หลังจากที่ ร.ต.อ.ประจวบ นิ่มเรือง หน.ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส แล้วเสร็จจากภารกิจในการตรวจสอบเหตุระเบิดในพื้นที่ อ.รือเสาะ และร่วมกับพวก จำนวน 16 นาย นั่งรถยนต์ จำนวน 4 คัน เพื่อกลับฐานที่ตั้ง โดยวิ่งมาสายทางลัดบนเทือกเขายือราแป เมื่อถึงบริเวณเขตรอยต่อระหว่าง อ.รือเสาะ กับ อ.ยี่งอ ช่วงบริเวณบ้านบลูกาสนอ ม.4 ต.ตะปอเยาะ ได้ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนจุดชนวนระเบิดซึ่งนำไปวางไว้บนโขดหินริมไหล่ทางกลางหุบเขา จนหินได้ร่วงลงมาบนถนน ในขณะที่รถยนต์คันแรก ซึ่งมี ร.ต.ต.พลวัฒน์ เทพษร รอง หน.ชุดเก็บวัตุระเบิด และพวกรวม 4 นาย แล่นผ่าน

         จากนั้นกลุ่มคนร้ายไม่ต่ำกว่า 20 คน ซึ่งแฝงตัวอยู่บนภูเขาได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มใส่รถยนต์ทั้ง 4 คันที่แล่นผ่านตามกันมา เป็นระยะทางยาวประมาณ 500 เมตร พร้อมทั้งได้มีการโปรยตะปูเรือใบเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่หลบหนี

          เมื่อรถของเจ้าหน้าที่ทั้ง 4 คัน ถูกตะปูเรือใบของคนร้าย จึงได้พากันจอดริมถนน และใช้รถยนต์เป็นที่กำบังยิงต่อสู้กับกลุ่มคนร้ายเป็นระลอกๆ นานกว่า 1 ชั่วโมง ร.ต.อ.ประจวบ นิ่มเรือง หน.ชุดได้วิทยุของสนับสนุนกำลังไปยัง สภ.ยี่งอ และ สภ.บาเจาะ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารชุด ฉก.นราธิวาส 32 เพื่อเดินทางเข้าช่วยเหลือ ซึ่งในขณะนั้นเจ้าหน้าที่ถูกกระสุนปืนของคนร้ายได้รับบาดเจ็บ 3 นาย คือ


  • 1.ส.ต.อ.เมธี ดีพาส ถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณคางจนหายไปทั้งแถบ
  • 2.ส.ต.อ.ชัชวาลย์ เจริญบุตร ถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่แขนขวา
  • 3.ส.ต.ท.มนตรี แก้วประสิทธิ์ ถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณไหล่ขวา


ร.ต.อ.ประจวบ หน.ชุดจึงได้ประสานของเฮลิคอปเตอร์ นำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งรักษาที่โรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน

        และในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ปะทะกับกลุ่มคนร้ายนั้น ได้มีชาวบ้าน จำนวน 2 คน ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ขับและนั่งรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูมิซิ สีบรอนซ์ ทะเบียน กข 4913 ยะลา ผ่านมา ทำให้คนขับซึ่งยังไม่ทราบชื่อได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนที่นั่งคู่กันมาเสียชีวิตคที่ และมาจอดขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ทหารชุด ฉก.นราธิวาส 32 ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาล

          ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บาเจาะ ภายใต้การนำของ ร.ต.ท.อาคม อินทรสมบูรณ์ รอง สวป.ที่ถูกร้องขอเข้าสนับสนุนจุดเกิดเหตุ รถยนต์ได้เกิดเหยียบตะปูเรือใบที่คนร้ายโปรยทิ้งไว้บนถนนทำให้ล้อหน้ายางแตก รถเสียหลัก และได้เกิดพลิกคว่ำบนถนนหน้า อบต.ตะปอเยาะ ม.1 ต.ตะปอเยาะ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 4 นาย คือ

  • 1.ร.ต.ท.อาคม อินทรสมบูรณ์ รอง สวป.สภ.บาเจาะ 
  • 2.ส.ต.ต.นพนัย คีรีธาร 
  • 3.ส.ต.ต.อภิชัย จุลเรือง 
  • และ 4.ส.ต.ต.วุฒิพงศ์ ภู่ปาน 

          นอกจากนี้ มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บอีก 7 นาย ซึ่งล่าสุดได้ส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์แล้ว ทราบชื่อคือ

  • 1.ส.ต.อ.ปิยะพงศ์ ช่วยชูวงศ์
  • 2.ส.ต.ต.พรประสิทธิ์ ขวัญขาว
  • 3.ส.ต.ต.จีระวุฒิ พรหมชู
  • 4.ส.ต.ต.ปุริม ธีระกุล
  • 5.ส.ต.ต.อุทร เวชสิทธิ์
  • 6.ส.ต.ต.ชาญวิทย์ อินมณเฑียร
  • และ 7.ส.ต.ต.มูฮำหมัด สะแลแม

            ต่อมา พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ ผกก.สภ.ยี่งอ พร้อมพนักงานสอบสวน และพวกได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าที่เกิดเหตุ ได้ถูกคนร้ายจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 10 กก. จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ โดยนำไปวางไว้บริเวณเหล็กกันขอบทางโค้ง ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม. แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

          หลังจากนั้น ได้ช่วยกันเดินเก็บกวาดตะปูเรือใบของคนร้ายที่โปรยไว้บนถนน ซึ่งต้องเสียเวลานานกว่า 30 นาที จึงจะเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดถูกกระสุนปืนของคนร้ายเป็นรูพรุน และถูกตะปูเรือใบได้รับความเสียหายทั้ง 4 คัน จนต้องประสานรถกู้ภัยมาทำการยกลากไปซ่อมบำรุง

http://narater2010.blogspot.com/

เหยื่อเหตุบึ้มชุด EOD ทั้ง 10 รายอาการปลอดภัยแล้ว รวมยอดผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 6 ศพ

เหยื่อเหตุบึ้มชุด EOD ทั้ง 10 รายอาการปลอดภัยแล้ว 
รวมยอดผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 6 ศพ


        เจ้าหน้าที่ และชาวบ้านที่บาดเจ็บจากเหตุระเบิด และยิงถล่มชุด EOD ที่ อ.ยี่งอ ทั้ง 10 ราย อาการปลอดภัยแล้ว ส่วนศพ ส.ต.ต.อุทร เวชสิทธิ์ ญาติได้นำกลับไปทำพิธีทางศาสนาอิสลามที่ จ.ตรัง ในขณะที่เพื่อนตำรวจอีก 4 ศพ จะมีพิธีรดน้ำศพในวันนี้ ก่อนส่งศพกลับภูมิเนาต่อไป ยอดผู้เสียชีวิตทั้งเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านรวม 6 ศพ

        จากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดหน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ. จ.นราธิวาส แล้วซุ่มโจมตีซ้ำ เหตุเกิดบนถนนหุบเขายือราแป ม.4 บ้านบลูกาสนอ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ (27 ก.ย.) ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ชาวบ้านถูกลูกหลงเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บอีก1 คน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บาเจาะ ซึ่งนำกำลังเข้าสนับสนุนถูกตะปูเรือใบของคนร้ายจนรถพลิกคว่ำ เสียชีวิต 5 นาย ได้รับบาดเจ็บอีก 6 นายนั้น

              ล่าสุด ในช่วงคืนที่ผ่านมา (27 ก.ย.) นายสาคร และนางละม่อม เวชสิทธิ์ ซึ่งเป็นบิดาและมารดาของ ส.ต.ต.อุทร เวชสิทธิ์ ผบ.หมู่หน่วยปฏิบัติการพิเศษนราธิวาสที่ 13 ประจำ สภ.บาเจาะ ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุรถคว่ำ ได้เดินทางมารับศพเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่กูโบร์ซูโสะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง โดยมี พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส และเพื่อนข้าราชการตำรวจเป็นจำนวนมากมาร่วมส่งศพอย่างสมเกียรติด้วยความอาลัย


                ส่วนศพเพื่อนข้าราชการตำรวจอีก 4 นาย ประกอบด้วย ร.ต.ท.อาคม อินทสมบูรณ์ ผบ.หมวดหน่วยปฏิบัติการพิเศษนราธิวาสที่ 13 ส.ต.ต.นพชัย ศรีธาร ส.ต.ต.วุฒิพงษ์ ภู่ปาน และ ส.ต.ต.อภิชัย จุลเรือง ทางผู้บังคับบัญชาจะกระทำพิธีรดน้ำศพที่วัดบางนรา อ.เมือง จ.นราธิวาส ในเวลา 12.00 น. ของวันนี้ (28 ก.ย.) ก่อนที่จะเคลื่อนศพมอบให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 9 นาย ซึ่งแยกเป็นถูกกระสุนปืนของคนร้าย 3 นาย และได้รับบาดเจ็บจากเหตุรถคว่ำ 6 นายนั้น อาการปลอดภัยแล้ว และนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ โดย ส.ต.ต.พรประสิทธิ์ ขวัญขาว ซึ่งมีอาการหนักสุดจากเหตุรถคว่ำ นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ไอซียู ส่วน ส.ต.อ.เมธี ดีพาส ซึ่งถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณคางหายไปทั้งแถบนั้น แพทย์ได้ส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาล ม.อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

            ส่วนชาวบ้านที่ขับรถยนต์เก๋งตามขบวนของชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายอับดุลรอแม ตาเยาะ อยู่บ้านเลขที่ 15 ม.1 ต.ตะโล๊ะแมะนา อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี นั้น อาการปลอดภัยแล้วเช่นกัน และนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
http://narater2010.blogspot.com/

ศราวุฒิ แท่นทอง

ศราวุฒิ แท่นทอง


นกพิราบสีขาว จงกลับคืนมา
ปกป้องดูแลรักษา ประชาได้ไหม
นกพิราบสีขาว ตรงนี้ลุกเป็นไฟ
กลับมาปกป้องโพยภัย ให้พวกฉันที

ผู้คนไม่เข้าใจกัน ต่างเข้าใจกันคนล่ะทาง
ไม่สามัคคีเหมือนอย่าง ที่เคยเป็น
*… ไม่อยากเห็น คนมาฆ่ากัน
จับปืน ถือมีด ไล่ฟันกันอีกเลย

อยากจะเห็น เหมือนดั่งเคย
จับมือกอดคอกันเลย ที่เคยผ่านมา……….


 
http://narater2010.blogspot.com/

คณะอุลามะห์ประเทศอินโดนีเซีย เยือนจังหวัดชายแดนภาคใต้

คณะอุลามะห์ประเทศอินโดนีเซีย เยือนจังหวัดชายแดนภาคใต้

          คณะอุลามะห์ นักปราชญ์ประเทศอินโดนีเซีย เยือนจังหวัดชายแดนภาคใต้และ ศอ.บต. แลกเปลี่ยนเรียนรู้วิถีมุสลิม


         คณะอุลามะห์ นักปราชญ์ประเทศอินโดนีเซีย เยือนจังหวัดชายแดนภาคใต้และ ศอ.บต. แลกเปลี่ยนเรียนรู้วิถีมุสลิม
          เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2556 ที่ห้องประชุม 1 อาคารอเนกประสงค์ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะอุลามะห์จากประเทศอินโดนีเซีย จำนวนทั้งสิ้น 40 คน นำโดย อัล-ฮาบิบ อับดุลลอฮ บากิร อัล-อัตตาส ได้เข้าเยี่ยมคารวะ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยคณะมีกำหนดการเดินทางมาเยี่ยมพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในระหว่างวันที่ 18-27 กันยายน 2556
           พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการศอ.บต. กล่าวว่า ทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต้อนรับคณะอุละมะห์จากประเทศอินโดนีเซีย ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีพี่น้องที่นับถือศาสนาอิสลามมากกว่า 85% พี่น้องที่นับถือศาสนาอิสลามกับพี่น้องต่างศาสนิกมีความผูกพัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีความรักกับประเทศอินโดนีเซีย เพราะมีท่าเรือหรืออ่าวปัตตานี นราธิวาสและสงขลา ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพประมงและจะหาเลี้ยงชีพโดยการจับปลาที่น่านน้ำอินโดนีเซีย ในวันนี้ทางรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ทหาร ตำรวจ ศอ.บต. รวมถึงประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ แม้จะต่างศาสนาต่างชาติพันธุ์ แต่เราให้ความสำคัญในการอยู่ร่วมกันอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราจะให้ความสำคัญเรื่องการบริหารและการปกครองโดยจะส่งเสริมให้เป็นการปกครองของประชาชนโดยประชาชน และเพื่อประชาชน ซึ่งต้องยอมรับว่าประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ที่เป็นพี่น้องมุสลิมก็คือประชาธิปไตยแบบอิสลาม ทาง ศอ.บต. ต้องขอบพระคุณทุกท่านที่ได้เดินทางมา อย่างน้อยที่สุดก็ได้มาช่วยเหลือหรือแลกเปลี่ยนในเรื่องความรู้ทางด้านศาสนาและที่สำคัญในการมาของท่านก็ยังจะเป็นเสียงสะท้อนหนึ่งว่าพี่น้องมุสลิมที่อยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความเป็นอยู่อย่างไร ถ้ามีอะไรยังบกพร่องหรือมีอะไรที่จะต้องพัฒนาที่คนในพื้นที่ยังต้องพัฒนาเรื่องศาสนา อยากให้ท่านให้คำแนะนำและทาง ศอ.บต. เองก็พร้อมที่จะสนับสนุนเพราะมีความแปลกใจเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศอินโดนีเซียมีอยู่ด้วยกันหลากหลายชาติพันธุ์ มีภาษาเจ็ดร้อยกว่าภาษามีศาสนามากมายแต่อยู่กันได้ด้วยความสันติสุข
         อัล-ฮาบิบ อับดุลลอฮ บากิร อัล-อัตตาส ผู้นำคณะอุละมะห์จากประเทศอินโดนีเซีย กล่าวว่า รู้สึกปลาบปลื้มและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมเยียนพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้มีโอกาสมาพบเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อได้มาสัมผัสบรรยากาศที่นี่ ทำให้เกิดคำพูดคำหนึ่ง คือ ทุกหนึ่งชั่วโมงที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้แห่งนี้ มันคือทุกหนึ่งชั่วโมงที่ได้เพิ่มความรู้สึกใหม่ เพิ่มองค์ความรู้ใหม่ ความรู้สึกเช่นนี้หาได้ไม่ง่ายเลย และเป็นการสะท้อนถึงการให้ความสำคัญของทางรัฐที่มีต่อพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ อิสลามเป็นศาสนาแห่งสันติสุข ถ้าหากมุสลิมทุกคนซาบซึ้งและเข้าถึงความเป็นอิสลามอย่างถ่องแท้ ก็จะไม่มีใครคนใดคนหนึ่งในโลกเกรงกลัวอิสลาม และเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แล้ว เพราะท่านได้ให้ในสิ่งที่คนในพื้นที่ต้องการ ซึ่งแตกต่างจากประเทศอินโดนีเซียที่ไม่สามารถทำได้
********************************
http://narater2010.blogspot.com/
Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม